“ขอโทษ ฉันไม่เชื่อพี่” คำพูดนี้ของเวินลั่วฉิงตรงยิ่งกว่า เด็ดขาดยิ่งกว่า!!
คำว่าขอโทษนั้นเป็นศัพท์ที่ทำให้ดูดีเท่านั้น หลักสำคัญคือความหมายของประโยคสุดท้าย
“พี่วางแผนเย่ซือเฉิน ตั้งใจให้เย่ซือเฉินตามหาฉันไม่เจอ พี่วางแผนถังหลิน ให้ถังหลินหาฉันไม่เจอ ไม่ให้ฉันกลับบ้านถัง พี่ถึงขั้นวางแผนไม่ให้เด็กทั้งสองกลับมา ทั้งหมดนี้ทำให้ฉันไม่เชื่อพี่อีกแล้ว” เวินลั่วฉิงไม่อยากฟังข้ออ้างของถังไป๋เชียน ดังนั้นเธอจึงพูดเรื่องราวให้ชัดเจนก่อนเลย “ดังนั้น เรื่องครั้งนี้ ฉันยิ่งไม่มีทางเชื่อพี่อีก”
จริงๆ แล้วการอ้างของถังไป๋เชียนในตอนนี้เขายังสามารถยอมรับได้ แต่ว่าถังไป๋เชียนกลับใช้น้ำเสียงอ้อมค้อมไม่รู้เรื่องแบบนี้ ทำให้รู้สึก……รังเกียจมากจริงๆ!!
อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์นั้น ครั้งนี้เงียบไปนานมาก อาจจะเป็นเพราะถังไป๋เชียนที่อ้างเก่งเถียงเก่งในตอนนี้ไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว
“งั้นฉิงฉิงเธอโทรหาฉันครั้งนี้จะทำอะไรเหรอ?” ถังไป๋เชียนออกเสียงอีกครั้ง ในที่สุดก็ไม่ใช้น้ำเสียงแบบอ้อมค้อมไม่ช้าไม่เร็วแบบนั้นแล้ว
“ครั้งนี้ฉันโทรหาพี่เพื่อที่จะบอกพี่ว่า ความสัมพันธ์ของเราจบลงแล้ว เรื่องราวที่เหมือนครั้งนี้ฉันไม่หวังว่าจะเกิดขึ้นอีก หากมีครั้งหน้า ฉันจะไม่เกรงใจแล้ว” เวินลั่วฉิงไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นอีก ดังนั้นคำพูดในตอนนี้ของเธอจึงค่อนข้างโหดร้าย
“ดี ดี! ดีมาก!” ถังไป๋เชียนที่อยู่อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์จู่ๆ ก็หัวเราะ เขาพูดคำว่าดีติดต่อกันสามครั้ง
หลังจากที่ถังไป๋เชียนหัวเราะแล้ว ก็พูดเสริมอีกประโยคว่า “ฉิงฉิงโตแล้วจริงๆ”
ประโยคนี้ฟังแล้วดูมีความหมายที่ลึกซึ้ง
“ฉันพูดจบแล้ว และหวังว่าเรื่องทั้งหมดจะจบลงตรงนี้” แน่นอนว่าตอนนี้เวินลั่วฉิงสามารถฟังออกถึงน้ำเสียงแปลกๆ ของเขา ทว่าเวินลั่วฉิงไม่อยากสนใจ
เมื่อก่อนเธอเชื่อใจถังไป๋เชียนขนาดนั้น แต่ว่าถังไป๋เชียนกลับปิดบังเธอและทำเรื่องที่ทำร้ายเธอมากมาย เธอคิดว่าเธอควรจะจบเรื่องทุกอย่างกับถังไป๋เชียนแล้ว
“เอาเถอะ งั้นก็เชื่อฟังฉิงฉิงละกัน” ถังไป๋เชียนพูดปีกประโยคคนหนึ่งใช้น้ำเสียงเหมือนว่าเรื่องราวทุกอย่างสามารถเจรจากันแน่ คำพูดนั้นฟังแล้วน่าฟัง แต่ว่าในน้ำเสียงของเขามีเสียงหัวเราะแฝงอยู่
แต่ว่ามีโทรศัพท์กั้นอยู่ทำให้เวินลั่วฉิงรับรู้ไม่ถึงอารมณ์ที่กำลังหัวเราะอยู่เลยสักนิด เวินลั่วฉิงรู้ว่าคำพูดนี้ของถังไป๋เชียนไม่สามารถเชื่อได้ แต่ว่าเธอพูดอย่างชัดเจนแล้ว
หากถังไป๋เชียนยังทำเรื่องที่ทำร้ายต่อเด็กทั้งสองอีก งั้นก็อย่าหาว่าเธอไม่เกรงใจแล้ว
เวินลั่วฉิงไม่อยากพูดมากกับถังไป๋เชียน อยากจะวางสายไปเลย
แต่ว่า ในตอนที่เธอกำลังจะวางสาย เสียงของถังไป๋เชียนดังขึ้นอีกครั้ง
“ฉิงฉิงจะแต่งงานกับเย่ซือเฉินแล้วเหรอ?”
เวินลั่วฉิงได้ยินคำพูดประโยคนี้ของถังไป๋เชียนแล้วไม่ได้รู้สึกแปลกใจมาก การที่แพร่ข่าวออกมาเมื่อวันก่อนก็เพื่อที่จะคัดค้านเธอจดทะเบียนสมรสกับเย่ซือเฉินไม่ใช่เหรอ?
ดังนั้นถังไป๋เชียนต้องรู้เรื่องที่เธอจะแต่งงานกับเย่ซือเฉินแล้วแน่ๆ
แต่แค่เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานก่อน ทำให้พวกเขาจดทะเบียนสมรสไม่สำเร็จ
“ใช่” เวินลั่วฉิงไม่มีการลังเลใดๆ ตอบอย่างตรงๆ และเด็ดขาด เธอเข้าใจว่าทำไมถังไป๋เชียนถึงถามแบบนี้ เธอเองก็รู้ว่าถังไป๋เชียนกำลังคิดอะไรอยู่ ดังนั้น เอถึงได้ตอบตรงขนาดนี้
ถึงแม้ว่าเรื่องจดทะเบียนสมรสของเธอกับเย่ซือเฉินจะล่าช้าไป ทว่าเรื่องนี้จะไม่มีทางล่าช้าตลอดไป
ไม่ช้าก็เร็วเธอต้องไปจดทะเบียนสมรสกับเย่ซือเฉิน
เรื่องนี้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ!!
ตอนนี้เวินลั่วฉิงอยากให้ถังไป๋เชียนเข้าใจในจุดนี้มากๆ
“เฮอะๆ ……” ถังไป๋เชียนที่อยู่อีกทางหนึ่งของโทรศัพท์หัวเราะออกเสียง เสียงหัวเราะนั้นดังเขามาในหูของเวินลั่วฉิง ทำให้เวินลั่วฉิงรู้สึกแสบหู แต่ว่าเวินลั่วฉิงไม่ได้พูดอะไร
“งั้นฉันก็ยินดีกับฉิงฉิงด้วยนะ” หลังจากที่เสียงหัวเราะของถังไป๋เชียนหยุดลง เสียก็ดังขึ้นอีกครั้ง ถึงแม้ว่าเธอจะพูดว่ายินดี แต่กลับทำให้คนฟังไม่ออกถึงความหมายของคำว่ายินดีเลย
เวินลั่วฉิงไม่อยากสนใจมากเกินไป พูดคำว่าขอบคุณไปเลย จากนั้นก็วางสาย
หลังจากที่วางสายแล้วสีหน้าของเวินลั่วฉิงไม่ค่อยดี เมื่อก่อนในตอนที่เธอรู้ว่าถังไป๋เชียนทำเรื่องพวกนั้นถึงแม้ว่าจะผิดหวัง ทว่าเธอไม่เคยไปไถ่ถามถังไป๋เชียนเลย
เวินลั่วฉิงไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแย่เกินไป ไม่ว่ายังไงแล้วถังไป๋เชียนก็เคยช่วยเธอ เธอเป็นคนที่รู้บุญคุณ ดังนั้นเธออยากเหลือหน้าไว้ให้กับถังไป๋เชียน
ทว่าเวินลั่วฉิงรู้สึกว่าเธอผิดไปแล้ว เธอผิดไปแล้วจริงๆ เธอนึกถึงความสัมพันธ์ของทั้งสอง อยากเหลือหน้าไว้ให้กับเขา แต่ว่าถังไป๋เชียนไม่เห็นความหวังดีนี้เลย ถังไป๋เชียนกลับได้คืบจะเอาศอก
น้ำเสียงเมื่อกี้ของถังไป๋เชียน สามารถยืนยันได้แล้วว่าเขาไม่ได้รู้สึกว่าตนเองทำผิดไป
เวินลั่วฉิงรู้ เป็นไปได้ที่ถังไป๋เชียนจะไม่หยุดแค่นี้ แต่ว่า หากถังไป๋เชียนทำอะไรมั่วๆ อีก เธอไม่มีทางออมมือแน่นอน!!
อีกทางหนึ่ง หลังจากที่เวินลั่วฉิงวางสายแล้ว ถังไป๋เชียนก็โยนโทรศัพท์ทิ้งไปเลย โทรศัพท์แตกเป็นชิ้นๆ สามารถเห็นได้เลยว่าเขาใช้แรงขนาดไหน
สีหน้าของถังไป๋เชียนในตอนนี้ไม่มีความอ่อนโยนเหมือนปกติแล้ว และไม่มีรอยยิ้มเหมือนปกติ ขณะนี้สีหน้าของเขาโหดร้าย ดูแล้วน่ากลัวเป็นพิเศษ
“ฉันเลี้ยงคนอกตัญญูไปแล้วจริงๆ!!” ถังไป๋เชียนหรี่ตาขึ้น แต่ละคำของเขาถูกบีบออกมาจากซอกฟังน้ำเสียงจริงจังมาก ฟังแล้วทำให้รู้สึกขนลุกไปหมด
“ฉันเลี้ยงดูเธอให้เติบโตทีละนิดๆ ปรากฏว่าเธอตอบแทนฉันกลับแบบนี้?” สีหน้าของถังไป๋เชียนเต็มไปด้วยความโหดร้าย ความโมโหครั้งนี้เขาทนไม่ได้
หากไม่ใช่เพราะตอนนั้นเขาช่วยเธอไว้ เธอถูกคนในบ้านตระกูลเวินรังแกจนตายไปนานแล้ว หากไม่ใช่เพราะเขาสอนเธอ เธอจะมีวันนี้เหรอ? เธอสามารถเพอร์เฟกต์ขนาดนี้เหรอ?
เขาทำเพื่อเธอมามากมายขนาดนั้น สุดท้ายแล้วเธอกลับทำกับเขาแบบนี้?
ถังไป๋เชียนในตอนนี้นึกถึงแต่เรื่องที่เขาทำเพื่อเวินลั่วฉิง กลับไม่ได้นึกถึงเรื่องที่เวินลั่วฉิงทำให้เขาตลอดหลายปีที่ผ่านมาเลย เขายังลืมสิ่งที่เขาทำลับหลังเพื่อทำร้ายเวินลั่วฉิงไปด้วย
“ดี ดีมาก ในเมื่อเธอไม่เกรงใจฉัน งั้นก็อย่าโทษว่าฉันไม่เกรงใจแล้ว” ถังไป๋เชียนยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห สีหน้ายิ่งอยู่ยิ่งแย่ ฟังจากน้ำเสียงของเขาแล้วเหมือนจะทำอะไรบางอย่างอีก?
ฟังจากคำพูดของเขาแล้วเหมือนถูกบีบบังคับจากเวินลั่วฉิง
ทว่าเขาลืมเรื่องก่อนหน้านี้ที่ทำร้ายเวินลั่วฉิง ทำร้ายเด็กทั้งสองไปแล้ว
อีกอย่างถึงแม้ว่าเวินลั่วฉิงจะไม่โทรมาพูดคำพูดพวกนั้น เขาก็ไม่ได้ตัดสินใจจะปล่อยมือ วางแผนเสร็จตั้งแต่แรกแล้วด้วย หลังจากเสร็จเรื่องแรกแล้วยังมีเรื่องที่สอง ถึงขั้นเรื่องที่สาม
แต่แค่ว่า หากตอนแรกเขาไม่ได้อยากลงมือเร็วขนาดนั้น เขาอยากรออีกนิด ไม่ว่ายังไงแล้วแผนการของเขาก็ควรจะใช้ในเวลาสำคัญที่สุด
แต่เป็นเพราะว่าเมื่อกี้เขาได้รับสายจากเวินลั่วฉิง เขาทนไม่ไหวแล้ว ตัดสินใจเลื่อนแผนการขึ้นมาก่อน
ถังไป๋เชียนเบ้ที่มุมปากเบาๆ เผยรอยยิ้มที่ดูถูกออกมา เขาหรี่ตาขึ้น อยากจะโทรไปดำเนินแผนของเขา ถึงจะนึกขึ้นว่าเมื่อกี้เขาโยนโทรศัพท์จนแตกเป็นชิ้นๆ แล้ว
ขณะนี้ถังไป๋เชียนมีความรุนแรงเล็กน้อย เขารอไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว ดังนั้นจึงหยิบโทรศัพท์บ้านขึ้นมาโทร
ข้างนอกห้อง เยว่หงหลิงพึ่งปฏิบัติภารกิจเสร็จกลับมา ได้ยินความเคลื่อนไหวในห้องพอดี อยากจะเข้ามาดู ในตอนที่เธอมาถึงหน้าประตู ได้ยินถังไป๋เชียนกำลังคุยโทรศัพท์พอดี
ตอนฉนวนกั้นเสียงในห้องดีมาก และปกติตอนที่พูดคุยถังไป๋เชียนจะระมัดระวังมากๆ ในเมื่ออยู่ในห้องทำงานของตนเองเสียงก็ไม่ได้ดังมาก
แต่ว่าเมื่อกี้เพราะถูกเวินลั่วฉิงกระตุ้นไป ตอนนี้น้ำเสียงจึงดังขึ้นอย่างชัดเจน
แน่นอนว่า นี่ก็เป็นเพราะถังไป๋เชียนรู้ว่าขณะนี้ชั้นสองไม่มีคน เขาไม่รู้ว่าเยว่หงหลิงกลับมาหลังทำภารกิจเสร็จพอดี
เยว่หงหลิงยืนอยู่นอกห้องได้ยินเสียงรางๆ ของถังไป๋เชียนพอดี ถึงแม้เยว่หงหลิงจะฟังไม่ค่อยชัดเจน แต่ว่าความหมายหลักๆ เยว่หงหลิงเข้าใจแล้ว
สีหน้าของเยว่หงหลิงเปลี่ยนไปเลย เธอยืนแข็งอยู่นอกห้อง นัยน์ตาคู่หนึ่งเก็บเข้าแน่น ไม่ว่ายังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าถังไป๋เชียนจะทำเรื่องแบบนี้
เรื่องที่ต่ำช้า ไร้ยางอายขนาดนี้ ถังไป๋เชียนทำออกมาได้ยังไง?
และเรื่องราวที่ต่ำช้าไร้ยางแบบนี้ยังทำกับฉิงฉิงอีกด้วย?
ข่าวที่ถูกแร่บนอินเทอร์เน็ตก่อนหน้านี้เกี่ยวกับฉิงฉิงเยว่หงหลิงเห็นแล้ว แน่นอนว่าตอนนั้นเยว่หงหลิงก็สงสัยแล้วว่าถังไป๋เชียนเป็นคนทำ
แต่ว่าเยว่หงหลิงนึกถึงว่าหลายปีมานี้ถังไป๋เชียนก็ดีกับฉิงฉิง น่าจะไม่ทำร้ายฉิงฉิงแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้นคือยังเกี่ยวโยงกับเด็กทั้งสองอีกด้วย
แต่ว่าตอนนี้เยว่หงหลิงรู้ถึงเรื่องในวันนั้นที่เกี่ยวกับฉิงฉิงว่าถังไป๋เชียนเป็นคนทำทั้งหมดอย่างชัดเจน ไม่เพียงแต่เท่านี้ ถังไป๋เชียนถึงขั้นยังไม่หยุดแค่นี้ อยากจะทำร้ายฉิงฉิงอีก
อีกอย่างยังเป็นวิธีที่ต่ำช้า ไร้ยางอายขนาดนั้น
เยว่หงหลิงคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าถังไป๋เชียนจะเป็นคนแบบนั้น เยว่หงหลิงรู้สึกว่าเธอเหมือนไม่เคยรู้จักถังไป๋เชียนตัวจริงเลย