งานเลี้ยงในค่ำคืนวันนี้เชิญเพียงคนที่เขาไว้ใจที่สุดไม่กี่คนเท่านั้น ในตอนนั้น ท่านย่าถังก็ตั้งใจถามเป็นพิเศษว่ามีใครมาร่วมงานบ้าง เมื่อท่านย่าถังได้ยินว่าไม่มีคนนอกที่ไว้ใจไม่ได้มาร่วมงานจึงรับปากที่จะมาร่วมงาน
ดังนั้นหากมีคนนอกมาร่วมงานด้วย เกรงว่าจะยากที่จะอธิบายกับท่านย่าถังได้
แต่ว่า เมื่อท่านหยวนคิดได้ว่าหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้นั้นงานยุ่งมาก หัวหน้าเขาบอกว่าบ่ายวันนี้จะมาเยี่ยม แม้ว่าเขาจะธุระอะไร แน่นอนว่าคงจะต้องรีบพูดคุยให้จบ หัวหน้าเขายุ่งขนาดนั้น เมื่อคุยธุระเสร็จก็คงต้องขอตัวกลับ เขาก็ไม่ได้มีเกียรติเพียงพอที่จะเชิญหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้มาเป็นแขกที่บ้าน
ดังนั้นการมาเยือนของหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้กับงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้ไม่ได้ทับซ้อนกัน
เดิมทีท่านหยวนอยากจะถามเวลาที่ชัดเจน แต่ว่ารู้สึกว่าเหมือนจะดูไม่ค่อยเคารพผู้ที่มีพระคุณสักเท่าไหร่ จึงไม่ได้ถามมาก
ท่านหยวนจึงตัดสินใจว่าวันนี้ช่วงบ่ายจะไม่ไปที่ไหน จะรอหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้อยู่ที่บ้าน
ผู้ดูแลจ้งพึงพอใจเป็นอย่างมาก พยักหน้าเบาๆ ยิ้ม จากนั้นก็จากไป
ธุระจัดการได้อย่างราบรื่น ขณะที่ผู้ดูแลจ้งกลับไปรายงานหัวหน้าตนเองนั้น ก็พบว่าในที่สุดหัวหน้าของตนไม่ได้เหงาตายอย่างเงียบสงัดเหมือนแต่ก่อนแล้ว
“หัวหน้าครับ ช่วงบ่ายคุณจะไปคฤหาสน์หยวนคิดไว้แล้วหรือยังครับว่าจะคุยเรื่องอะไรกับท่านหยวน?”ผู้ดูแลจ้งคิดว่าการที่หัวหน้าของตนเองไปเยี่ยมเยือนง่ายดายขนาดนี้ อีกทั้งยังต้องการยื้อเวลาให้ถึงช่วงเย็น อย่างน้อยก็ต้องพูดอะไรบ้างล่ะ แต่ว่าหัวหน้าของเขากับท่านหยวนก็ไม่ได้มีความสนิทสนมอะไรกัน จะพูดคุยเรื่องอะไรดีล่ะ?
หัวหน้าก็ควรที่จะคิดไว้ล่วงหน้า เพราะเมื่อถึงเวลานั้นก็คงจะนั่งอยู่เฉยๆไม่ได้
“ยังเลย” ซ่างกวนหงตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติประโยคหนึ่ง เรื่องๆนี้เขายังไม่ได้คิดไว้จริงๆ อีกทั้งปกติเขาก็เป็นคนพูดไม่เยอะ หลายปีมานี้ก็เช่นเดียวกัน ตอนนี้แม้แต่เรื่องขององค์กรโกสต์ซิตี้เขาก็ไม่เป็นห่วง แล้วเขาจะไปสนใจที่จะแต่งเรื่องบ้าๆพวกนั้นทำไม
อีกทั้งการที่จู่ๆเขาก็ไปที่คฤหาสน์หยวนแท้ที่จริงแล้วพูดอะไรออกไปก็ไม่สมเหตุสมผลทั้งนั้น สู้ไม่พูดอะไรเลยจะดีกว่า
“หัวหน้า ไม่ใช่ว่าคุณวางแผนไว้ว่าเมื่อไปถึงที่นั้นแล้วจะไม่พูดอะไรเลยหรอกนะครับ?” หัวหน้าของตนทำให้ผู้ดูแลจ้งตะลึงงัน หัวหน้าสมกับที่เป็นหัวหน้าของเขาจริงๆ แตกต่างไม่เหมือนใคร……อย่างที่คิดไว้!!
แต่ว่านั่งอยู่เฉยๆแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลยเหรอ?!
จู่ๆผู้ดูแลจ้งก็คิดได้ แต่ไหนแต่ไรมาหัวหน้าของพวกเขา ทำตามที่ใจต้องการ อยากทำอะไรก็ทำอย่างนั้น แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยสนใจสายตาของผู้อื่น และแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้รับอิทธิพลจากใคร ดังนั้นหากต้องนั่งเฉยๆ หัวหน้าของเขาก็ไม่ได้รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ เพียงแต่สงสารท่านหยวน ในเวลานั้นท่านหยวนก็คงกระอักกระอ่วนใจและสงสัยไม่น้อย
“หัวหน้า ถ้าอย่างนั้นพวกเราเตรียมตัวกันสักหน่อยเถอะครับ” ผู้ดูแลจ้งคิดว่าในเมื่อครั้งนี้เป็นการขอร้องคนอื่น ก็ไม่ควรที่จะทำให้ท่านหยวนต้องทุกข์ทรมานมากนัก อีกทั้งผู้ดูแลจ้งยังรู้สึกว่า ในเมื่อต้องการให้ท่านหยวนช่วยเหลือ อย่างน้อยก็ต้องตอบแทนท่านหยวนบ้าง
ซ่างกวนหงเงยหน้าขึ้นมองเขา
“หัวหน้าครับ องค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเรา เพิ่งจะประสบความสำเร็จในการวิจัยยาตัวใหม่ ซึ่งเป็นยาที่นานาประเทศต่างต้องการ งั้นเราก็ให้ท่านหยวนไปบ้างน่าจะดีนะครับ ”ผู้ดูแลจ้งตรึกตรองพลางพูดขึ้น แน่นอนว่าผู้ดูแลจ้งก็รู้ดีว่าการที่จู่ๆพวกเขาก็เข้าเยี่ยมเยือน และจู่ๆก็มอบของให้จะดูไม่ค่อยเหมาะสมนัก
แต่ว่าถึงยังไงก็ยังดีกว่าการนั่งเฉยๆ อีกทั้งการที่มอบผลประโยชน์ให้กับท่านหยวนมากขนาดนี้ เมื่อถึงเวลางานเลี้ยงท่านหยวนก็คงเกรงใจที่จะไล่พวกเขา ผู้ดูแลจ้งคิดว่าแผนการของเขาทำรวดเดียวได้ประโยชน์หลายอย่าง ไม่มีอะไรดีไปกว่านี้แล้ว
“อึม” ซ่างกวนหงไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอแนะของผู้ดูแลจ้ง หากเป็นเรื่องอื่นซ่างกวนหงคงไม่เสียเวลาที่จะไปนั่งคิด ดังนั้นเห็นได้ชัดว่าเขาให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก
แน่นอนว่าสิ่งที่ซ่างกวนหงให้ความสำคัญไม่ใช่ท่านหยวน แต่เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง
“ได้ครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ วันนี้ยาตัวใหม่ส่งมาไม่ทันอย่างแน่นอน แต่ว่าไม่ถึงห้าวันจะต้องมาถึงมือท่านหยวนอย่างแน่นอน” เมื่อผู้ดูแลจ้งเห็นว่าหัวหน้าของตนรับคำแล้ว ก็คลายความกังวลลงอย่างเห็นได้ชัด เป็นเช่นนี้ก็ดีแล้ว เพราะยังไงวันนี้ตอนบ่ายเขาก็ต้องไปเป็นเพื่อนหัวหน้าของเขา เขาไม่อยากที่จะนั่งอยู่เฉยๆแบบนั้น
ปกติแล้วหากเขานั่งอยู่เฉยๆโดยไม่พูดไม่จากับหัวหน้าของเขานั้นไม่เป็นปัญหา แต่หากมีคนนอกอยู่ด้วยนั้นสถานการณ์ก็คงไม่เหมือนกันแล้ว
ผู้ดูแลจ้งรู้สึกว่าเรื่องๆนี้พูดลอยๆไม่มีหลักฐานไม่ได้ ดังนั้นจึงควรที่จะเตรียมเอกสารจำพวกนี้สักหนึ่งฉบับ อีกทั้งผู้ดูแลจ้งก็รู้สึกว่าควรที่จะเตรียมเหตุผลดีๆสักข้อหนึ่ง
เพราะถึงยังไงยาตัวใหม่ชนิดนี้ ประเทศอื่นแม้จะอยากซื้อก็หาซื้อไม่ได้ การที่เขามอบให้กับท่านหยวน ก็เกรงว่าท่านหยวนจะสงสัยพวกเขา
ผู้ดูแลจ้งทำอะไรก็คิดอย่างรอบคอบในทุกด้าน หากผู้ดูแลจ้งเป็นคนออกโรงเองก็ไม่เคยมีเรื่องไหนที่จัดการได้ไม่ดี
หลังจากที่ท่านหยวนกลับมารับประทานอาหารกลางวัน ก็ไม่คิดที่จะออกไปข้างนอกอีก
คุณนายหยวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย:“คุณบอกว่าวันนี้มีธุระสำคัญที่ต้องหารือไม่ใช่เหรอคะ?ทำไมยังไม่ออกจากบ้านอีก?หากคุณยังไม่รีบออกจากบ้าน อาจจะส่งผลให้งานเลี้ยงค่ำคืนนี้ล่าช้าได้นะคะ”
“ผมเลื่อนนัดแล้ว” ท่านหยวนอยากจะเจอผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตเร็วๆ อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าขององค์กรโกสต์ซิตี้ เขารู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
“เลื่อนไปแล้ว?ทำไมถึงเลื่อนล่ะคะ?เป็นเพราะงานเลี้ยงคืนนี้หรือเปล่าคะ?งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้คุณไม่ต้องเป็นกังวลหรอกครับ ผมจัดการเรียบร้อยแล้ว”คุณนายหยวนยิ่งรู้สึกประหลาดใจมากยิ่งขึ้น แม้ว่าคุณนายหยวนจะไม่ทราบว่าเดิมทีเขาจะคุยธุระอะไร แต่ว่าเมื่อได้ยินเขาพูดถึงในตอนนั้น ก็รู้สึกได้ว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
“เปล่าครับ วันนี้ตอนบ่ายมีแขกสำคัญ” ท่านหยวนอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา อาจจะเป็นเพราะว่าตื่นเต้นหรือไม่ก็ตื่นตัว จึงทำให้ใบหน้าสดใสเต็มไปด้วยเลือดฝาด
“แขกสำคัญ?แขกสำคัญอะไรคะ?ที่บ้านเหรอคะ?ทำไมฉันไม่รู้เรื่องมาก่อนเลย?”คุณนายหยวนงงงวย มองไปที่เขาด้วยความประหลาดใจ
ตำแหน่งนี้ของท่านหยวน คนที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นแขกสำคัญนั้นมีไม่มาก แม้แต่คุณปู่ตระกูลถัง ก็เกรงว่าคงไม่สามารถใช้คำว่าแขกสำคัญนี้ได้
แน่นอน นั้นเป็นเพราะว่าพวกเขาและตระกูลถังมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเป็นอย่างมาก!!
ปัจจุบันนี้ในประเทศZไม่มีใครที่น่าจะถูกท่านหยวนเรียกว่าแขกสำคัญได้
อีกทั้งคุณนายหยวนก็พอมองออกว่า คำพูดของท่านหยวนเมื่อสักครู่นี้ มีความเคารพแฝงอยู่ ถึงขนาดมีความเคารพและเกรงกลัวซ่อนอยู่!!
ปัจจุบันนี้ ในประเทศZจะมีใครที่สามารถทำให้เขารู้สึกทั้งเคารพทั้งเกรงกลัวได้ล่ะ?
ในช่วงขณะนั้นคุณนายหยวนนึกถึงคนๆนั้นไม่ออกจริงๆ
แน่นอนว่าหากไม่ใช่คนของประเทศZแต่เป็นคนของประเทศอื่น ตำแหน่งของท่านหยวนในตอนนี้ คนประเทศอื่นหากต้องการที่จะมาเยี่ยมเยือน ก็จะต้องเข้าพบอย่างเป็นทางการ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำอย่างลวกๆ และเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าพบอย่างเงียบๆอยู่ในบ้าน
“คุณยังจำเรื่องเมื่อยี่สิบเจ็ดปีก่อนได้ไหม?ที่ผมเคยบอกคุณว่า ในตอนนั้นคนขององค์กรโกสต์ซิตี้มาช่วยผม วันนี้คนที่จะมาบ้านก็คือหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้” ท่านหยวนครุ่นคิด และตัดสินใจบอกกับคุณนายหยวน ในเมื่อหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้เลือกที่จะมาที่บ้าน ถ้าเป็นเช่นนั้นก็คงงจะปิดบังคนในครอบครัวของเขาไม่ได้
“หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้?” คุณนายหยวนร้องขึ้นด้วยความตกใจ:“เพราะอะไร?ทำไมเขาถึงอยากมาบ้านของพวกเรา?เขา……เขาช่วยชีวิตคุณ พวกเรารู้สึกซาบซึ้ง แต่ว่านี่มันกะทันหันเกินไป กะทันหันเกินไปจริงๆ”
คุณนายหยวนรู้สึกตกอกตกใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งเธอก็ยังคิดไม่ออกว่าทำไมจู่หัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ถึงได้ต้องการมาที่ตระกูลหยวน
“ผมก็รู้ว่ามันกะทันหันมาก แต่ว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชีวิตผม ไม่ว่าเขาจะมาด้วยเหตุผลอะไร ผมก็จำเป็นต้องต้อนรับ” ไม่ใช่ว่าท่านหยวนจะไม่เคยสงสัย แต่เป็นเพราะว่าสงสัยไป ก็จำเป็นต้องทำเช่นนี้อยู่ดี
“จะมีปัญหาอะไรไหม?พวกเขาจะมีจุดประสงค์อื่นหรือเปล่า?” เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ คุณนายหยวนก็ยิ่งเป็นกังวล
ท่านหยวนกลับยิ้มออกมา:“นั้นเป็นถึงหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ แม้ว่าผมจะอยู่ในตำแหน่งเช่นทุกวันนี้ เขาก็คงไม่มีสิ่งใดที่จะเรียกร้องจากผม ” สำหรับจุดๆนี้ท่านหยวนกระจ่างชัดเป็นอย่างมาก ในฐานะที่เป็นหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ต้องการอะไรก็ได้สิ่งนั้น เขาคงไม่มีอะไรที่องค์กรโกสต์ซิตี้ต้องการ
“สำหรับวัตถุประสงค์อื่นที่คุณพูดถึง?”น้ำเสียงของท่านหยวนหยุดชะงักเล็กน้อย:“ผมบอกคุณแบบนี้แล้วกันนะว่า เขาเป็นคนจิตใจกว้างขวาง มีจิตใจที่เปิดเผย เขาไม่ใช่คนที่จะเอาเปรียบคนอื่น”
แม้ว่าท่านหยวนเคยเห็นหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้เพียงครั้งเดียว แต่ว่าท่านหยวนก็รู้สึกว่าเขาดูคนไม่ผิดอย่างแน่นอน
“แต่ว่า ช่วงนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลถังล้วนเกี่ยวข้องกับองค์กรโกสต์ซิตี้ วิธีการที่องค์กรโกสต์ซิตี้ใช้ทำให้คนต่างรู้สึกน่าอับอายเป็นอย่างมาก เกือบจะทำลายถังหลินและถังหยุนเฉิงมาโดยตลอด” ยังไงคุณนายหยวนก็เป็นคนรอบคอบ และเป็นคนคิดค่อนข้างเยอะ
“ผมคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้” ขณะที่ท่านหยวนพูดประโยคนี้น้ำเสียงค่อนข้างหนักแน่น เขาเชื่อว่าหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้ไม่ใช่คนเช่นนั้น
“ในตอนนั้นคุณเห็นเขาแค่ครู่เดียว ต่อมาก็ไม่ได้คบหาสมาคมกับเขาอีก ทำไมคุณถึงได้มั่นใจขนาดนั้นล่ะ ” คุณนายหยวนไม่เห็นด้วยกับความคิดของท่านหยวนอย่างเห็นได้ชัด
“เขาเป็นคนช่วยชีวิตผม อีกทั้งในตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะเขา ผมเกรงว่าผมคงกลายเป็นเถ้ากระดูกแล้ว” สิ่งเหล่านี้ท่านหยวนล้วนจดจำไว้ในใจ