ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกสาวของเขา เจอกันไปแล้วจะได้อะไรเหรอ?
เจอกันไปแล้วมันจะสามารถเปลี่ยนอะไรได้เหรอ?
จะรับเธอมาเป็นลูกบุญธรรมนั้นเหรอ?!
มีคนมากมายอยากจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับองค์กรโกสต์ซิตี้ แล้วก็มีคนมากมายอาจจะเป็นลูกบุญธรรมของเขา แต่ว่าซ่างกวนหงดูดีว่าถังฉิ้นเอ๋อมันไม่เหมือนคนอื่น
แต่ไหนแต่ไรมาเขาก็ไม่เคยไปบังคับคนอื่นอยู่แล้ว
หมายความว่า เขาเพ้อฝันมากเกินไปอีกแล้ว ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าชีวิตของตัวเองถูกกำหนดมาให้โดดเดี่ยว แล้วทำไมเขาถึงต้องดันทุรังด้วย
ทั้งๆ ที่รู้ว่าทุกครั้งที่มีความหวัง สุดท้ายเขาจะต้องผิดหวัง แล้วทำไมถึงยังไม่เลิกล้มความตั้งใจอีก?
ควรจะเลิกล้มความตั้งใจได้แล้ว
ควรจะเลิกล้มความตั้งใจตั้งนานแล้ว!!
ไม่ต้องเพ้อฝันอีก ไม่ต้องเพ้อฝันกับเรื่องอะไรเลย เพราะว่าสิ่งที่เขาเฝ้าฝันถึงมันไม่เคยมาถึงอยู่แล้ว
ทุกคนต่างก็พากันพูดว่าหัวหน้าองค์กรโกสต์ซิตี้เป็นคนที่มีอำนาจทุกอย่าง แต่เขากลับรู้สึกว่ามันช่างน่าขำสิ้นดี เพราะขนาดคนที่เขารักเขายังไม่สามารถปกป้องได้เลย มีอำนาจทุกอย่างนั้นเหรอ? ช่างหน้าขำจริงๆ
25ปี เวลา25ปีมันก็เพียงพอที่จะทำให้คนคนหนึ่งลบความหวังทั้งหมดของตัวเองไปได้ แต่ 25 ปีนี้เขาไม่เคยยอมแพ้เลยสักครั้งเดียว แต่ว่าในใจเขารู้ดีว่า คนที่เขากำลังตามหาอยู่ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไปแล้ว หลายปีมานี้ เขาเอาแต่หลอกตัวเอง
เมื่อวันหนึ่งที่เขาหลอกตัวเองไม่ได้อีกต่อไป สิ่งเดียวที่เขายังหลงเหลืออยู่ก็คงมีแต่ความท้อแท้และสิ้นหวัง
ซ่างกวนหงดูดิว่าผู้ดูแลจ้งพยายามทุ่มเทอย่างมากที่จะหาอะไรให้เขาทำ ผู้ดูแลจ้งหวังว่าชีวิตของเขานอกจากตามหาคนคนนั้นแล้วจะมีเรื่องอื่นด้วย
แต่ว่าสิ่งเดียวที่เขาอยากจะทำตลอด 25 ปีที่ผ่านมาคือตามหาเธอให้เจอ
แต่เขาก็รู้ดีว่า เขาหาไม่เจออีกแล้ว และจะหาไม่เจอตลอดไป เวลานั้นเขารู้สึกท้อแท้เป็นอย่างมาก แม้แต่คิดว่าพอแค่นี้เถอะ ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าเธอไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว แล้วทำไมเขาจะต้องหลอกตัวเองขนาดนี้ด้วย
เขาจะตามเธอไป หรือบางทีเขาอาจจะตามหาเธอจนเจอในอีกโลกหนึ่งก็ได้
และในเวลานั้นเอง จู่ๆ ผู้ดูแลจ้งก็พูดถึงเรื่องลูกขึ้นมา และในเวลานั้นก็เหมือนมีแสงสว่างอีกดวงหนึ่งสะท้อนเข้ามาในหัวใจของเขา
แต่ว่าสุดท้ายแล้ว ความจริงก็พิสูจน์ให้เห็นว่าเขาแค่เพ้อฝันไป แสงนั้นมันเป็นแค่ภาพลวงตา มันไม่มีความหวังอะไรเลย แต่ว่าเขาก็พยายามหลอกตัวเองอีกครั้ง
ในตอนนี้เองซ่างกวนหงยืนอยู่ตรงหน้าต่าง แล้วก็มีแสงสะท้อนออกมาจากห้อง แสงสะท้อนนั้นส่องมาที่ตัวเขา แต่ดูเหมือนเขาจะละลายไปในความมืด มันช่างอ้างว้างและเงียบเหงา
กลางคืนนั้นเงียบสงัด แต่ว่าตัวเขานั้นกลับเงียบสงัดซะยิ่งกว่ากลางคืนที่มืดมิดซะอีก เขายืนโดดเดี่ยวอยู่แบบนั้นคนเดียว พอมองเข้าไปแล้วก็ยิ่งทำให้คนรู้สึกเศร้าใจ
ในห้องโถงที่สวนหลังบ้าน ถังจื่อซีกำลังหาของเล่นที่สวยที่สุดและสนุกที่สุดอยู่ แล้วเธอก็ได้เห็นคนคนหนึ่งยืนอยู่ข้างนอกผ่านทางนอกหน้าต่าง
ระยะห่างค่อนข้างไกล แต่ว่าถังจื่อซีก็มองเห็น
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่พอถังจื่อซีเห็นคนคนนั้นยืนโดดเดี่ยวอยู่ในความมืดแล้วเธอก็รู้สึกปวดใจ
ถังจื่อซีไม่แน่ใจ ว่ามันเป็นเพราะว่าเธอรู้สึกได้ว่าคนคนนั้นต้องรู้สึกทุกข์ใจ หรือว่าเธอทุกข์ใจแทนคนคนนั้นแทน
ถังจื่อซีไม่อยากให้ตัวเองทุกข์ใจ แล้วก็ไม่อยากเห็นคนคนนั้นทุกข์ใจเหมือนกัน
เธอรู้สึกว่าการที่คนคนนั้นยืนอยู่คนเดียวมันน่าสงสารมากเลย ไม่มีใครอยู่กับเขาเลยเหรอ?
ถังจื่อซีกะพริบตา เธอเห็นว่าพี่ชายของตัวเองกำลังค้นคว้าสิ่งของในมือของตัวเองอยู่ คุณย่าน้อยกับคุณนายหลี่ก็กำลังพูดคุยกันอยู่
ตอนนี้ถังจื่อซีอยู่ใกล้ประตูมาก เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็ค่อยๆ เปิดประตู แล้วก็เดินออกไปคนเดียว
หลังจากถังจื่อซีออกมาแล้ว ก็วิ่งเหยาะๆ ไปหาซ่างกวนหง
ถึงแม้ว่าถังจื่อซีจะไม่รู้จักเขา และถึงแม้ว่าการที่เขายืนอยู่ตรงนี้คนเดียวมันจะค่อนข้างแปลก แต่ว่าถังจื่อซีกลับไม่รู้สึกกลัวเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ถังจื่อซีแน่ใจว่าคนคนนั้นจะไม่ทำร้ายเธออย่างแน่นอน และก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่ว่าเธออยากอยู่ใกล้ๆเขา
หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเห็นท่าทางที่เศร้าใจของเขาแล้วเธอก็เลยอยากจะมาปลอบใจเขา
ถังจื่อซีมองซ่างกวนหงจากระยะใกล้ ตอนนี้เอง เธอก็แน่ใจว่าคุณลุงคนนี้น่าจะกำลังทุกข์ใจมาก
แล้วอีกอย่าง ท่าทางของลุงคนนี้ก็ดูโดดเดี่ยวมากเลย ถังจื่อซีไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมีความรู้สึกแบบนี้
ถังจื่อซีวิ่งไปตรงหน้าของซ่างกวนหง แล้วก็ยืนอยู่ตรงหน้าเขา แต่ว่าซ่างกวนหงกลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย
ถังจื่อซีกะพริบตา เธอที่สวยและน่ารักแบบนี้มายืนอยู่ตรงหน้าเขา หรือว่าเขามองไม่เห็นเหรอ?
ไม่ถูกสิ? เมื่อกี้เธอวิ่งมา ตราบใดที่เขาไม่ได้ตาบอดหรือว่าหูหนวกเขาก็น่าจะได้ยินสิ ทำไมถึงได้ไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยล่ะ?
ถังจื่อซีนึกถึงสิ่งที่แม่เคยบอก ว่าถ้าเกิดว่าคนคนหนึ่งอยู่ในช่วงเวลาที่ปวดใจและทุกข์ใจมาก เขาจะยังตัวเองไว้ในโลกของตัวเอง จมดิ่งลึกอยู่ในโลกของตัวเอง แล้วก็ไม่รู้ปฏิกิริยาจากโลกภายนอกเลย
คุณลุงที่อยู่ตรงหน้าของเธอในตอนนี้ก็ตกอยู่ในสถานการณ์นั้นรึเปล่า?
ถ้ายังงั้นเขาต้องทุกข์ใจแค่ไหนกันเนี่ย?!
ถังจื่อซีเริ่มรู้สึกปวดใจกับคุณลุงคนนี้แล้ว อืม เธอปวดใจจริงๆ เพื่อนตัวน้อยถังจื่อซีที่แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีเรื่องให้ต้องกังวลก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจู่ๆ เธอถึงรู้สึกปวดใจเพราะคนแปลกหน้าคนหนึ่ง
แต่ว่าถังจื่อซีเป็นคนที่คิดแล้วต้องทำ เธอรู้สึกสงสารคุณลุงคนนี้ และอยากจะปลอบใจเขา
หลังจากที่ซ่างกวนหงกระโดดลงมาจากหน้าต่าง เขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะหาที่ซ่อนเพื่อซ่อนตัว ได้แต่ยืนอยู่ข้างๆ หน้าต่าง แสงที่ส่องผ่านหน้าต่างในห้องก็สะท้อนมาที่ใบหน้าของเขาพอดี ดังนั้นตอนนี้ก็สามารถเห็นหน้าตาของเขาได้อย่างชัดเจน
ถังจื่อซีก็พบว่าลุงคนนี้หน้าตาดีมากเลย อืม ดูดีจริงๆ เหมือนกับว่าจะดูดีกว่าพ่อของเธออีกซะด้วยซ้ำ!!
ถังจื่อซียิ่งรู้สึกว่าเธอควรจะปลอบใจคุณลุงที่หน้าตาดีคนนี้
ถังจื่อซีเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาสีดำที่สดใสมองไปที่ซ่างกวนหง หลังจากนั้นก็ตะโกนว่า “คุณลุงคะ……”
เดิมซ่างกวนหงกำลังจมอยู่ในโลกของตัวเอง ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังฟังชัด ปกติแล้วเวลาที่ซ่างกวนหงจมดิ่งอยู่ในโลกของตัวเองนั้น นอกจากเรื่องที่เขาแคร์ เรื่องภายนอกอื่นๆ ก็ไม่สามารถมากระทบเขาได้เลย หรือจะบอกว่า เขาจะไม่ได้ยินในเรื่องที่ไม่อยากได้ยิน
แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เสียงที่คมชัดแบบนี้มันเหมือนจะมีเวทมนตร์ เหมือนมีพลังของการทะลุทะลวง เจาะสิ่งกีดขวางที่อยู่รอบตัวเขา แล้วทะลุเข้ามาอยู่ในหูของเขาได้
ซ่างกวนหงเหลือบมองไปทางต้นเสียง หลังจากนั้นก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ตรงหน้าเขา
เด็กน้อยคนนี้ทั้งสวยและน่ารักมาก ดวงตาก็ทั้งกลมโตและเปล่งประกาย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม และรอยยิ้มของเธอก็ดูเจิดจ้ามาก เป็นรอยยิ้มที่สามารถขับไล่ความเศร้าของทั้งหมดออกไปได้ในทันที
ช่วงเวลานั้น จู่ๆ ซ่างกวนหงก็รู้สึกว่าหัวใจที่เงียบสงัดราวกับว่ากำลังจะตายหายไปของเขาก็เริ่มเต้นขึ้นมาอีกครั้ง นี่เป็นครั้งแรก ที่เขาได้เห็นเด็กน้อยที่สวยและน่ารักขนาดนี้
และสิ่งสำคัญก็คือ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ตอนที่ซ่างกวนหงเห็นเธอครั้งแรก หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความสุข เขารู้สึกว่าแค่เขาเห็นเด็กคนนี้เพียงแว๊บเดียวก็รู้สึกชอบเธอแล้ว
ความรู้สึกของการชอบ เขาไม่ได้มีมันมาหลายปีมากๆแล้ว
เมื่อตอนที่เขาเจอเธอเมื่อ25ปีก่อน ตอนนั้นเขาถูกวางยา ก็เลยไม่ค่อยรู้ตัวเท่าไหร่ ดังนั้นตอนนั้นเขาก็เลยจำไม่ค่อยได้ว่ารู้สึกอย่างไร
แต่ว่าหลังจากฟื้นขึ้นมาภายหลัง เขาก็คิดถึงแต่เธอ ในใจมีแต่การที่ต้องตามหาเธอจนเจอ
เขารักเธอ ข้อนี้มันแทบจะไม่ต้องตั้งคำถามเลย
แต่ว่าเขาไม่เคยมีความรู้สึกที่ชอบตั้งแต่แรกเห็นมาก่อนเลย
และในตอนนี้ พอเขาได้เห็นเด็กน้อยคนนี้ จู่ๆ เขาก็มีอารมณ์ความรู้สึกแบบนั้นขึ้นมา เป็นความรู้สึกแบบที่เขาไม่เคยมีมาก่อน
ตอนนี้อารมณ์ของซ่างกวนหงค่อนข้างซับซ้อน หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าเขาหวั่นไหวเกินไป ก็เลยลืมตอบเด็กน้อยถังจื่อซี
“คุณลุงคะ คุณลุงสุดสวย คุณลุงได้ยินที่หนูพูดไหมคะ? ”ถังจื่อซีเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร ก็กะพริบตา แล้วก็เพิ่มเสียงขึ้นเล็กน้อย
ถังจื่อซีคิดว่าเมื่อกี้ตอนที่เธอวิ่งมาคุณลุงยังไม่ได้ยิน หรือเป็นไปได้ไหมว่าเขาจะไม่ได้ยินจริงๆ?
คุณลุงที่หล่อเหลาขนาดนี้จะหูหนวกได้ยังไงกัน?
ในโลกของเด็กน้อยถังจื่อซี ทุกสิ่งที่ดีควรจะสมบูรณ์แบบ และคนที่หน้าตาดีก็ต้องเป็นคนที่ยอดเยี่ยมด้วย
เพราะว่าคนที่อยู่รอบตัวเด็กน้อยถังจื่อซีล้วนก็เป็นแบบนั้นทั้งนั้นเลย
คนของตระกูลถังแต่ละคนก็หน้าตาดีกันหมด แล้วแต่ละคนก็ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะแม่ของเธอ ในสายตาของเด็กน้อยถังจื่อซี แม่ของเธอคือคนที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดแล้ว
พ่อของเธอก็หน้าตาดีเหมือนกัน และก็ยอดเยี่ยมที่สุด ดังนั้น เด็กน้อยถังจื่อซีก็คิดว่า คุณลุงที่หน้าตาดีกว่าพ่อของเธอไม่มีทางหูหนวกอย่างแน่นอน
พอซ่างกวนหงได้ยินคำที่ถังจื่อซีใช้เรียกเขาก็ตะลึงไป คุณลุงยังงั้นเหรอ?
เด็กน้อยคนนี้ดูท่าทางน่าจะอายุ5-6ขวบเท่านั้นเอง ดูจากอายุของเขา ไม่น่าจะเรียกลุงแล้ว น่าจะเรียกปู่ได้แล้วนะ
ซ่างกวนหงคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้ไปแก้ไขเรื่องนี้ เดิมซ่างกวนหงก็ไม่ได้แคร์เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เขาคิดว่าเด็กน้อยคนนี้อยากเรียกอะไรก็ให้เธอเรียกตามนั้นแหละ!!