ซ่างกวนหงคิดอยู่ครู่หนึ่ง แต่เขาก็ไม่ได้ไปแก้ไขเรื่องนี้ เดิมซ่างกวนหงก็ไม่ได้แคร์เรื่องพวกนี้อยู่แล้ว เขาคิดว่าเด็กน้อยคนนี้อยากเรียกอะไรก็ให้เธอเรียกตามนั้นแหละ!!
เด็กคนนี้เรียกเขาว่าคุณลุงสุดสวย
ถึงแม้การใช้คำว่าสวยกับผู้ชายมันจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก แต่ว่าพอซ่างกวนหงได้ยินเด็กคนนี้เรียกเขาแบบนี้ กลับไม่ได้รู้สึกว่ามีตรงไหนที่ผิดปกติ
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม พอเห็นรอยยิ้มที่สดใสบนใบหน้าของสาวน้อยคนนี้ จู่ๆ ความคิดในด้านลบทั้งหมดของซ่างกวนหงก็หายไป รอยยิ้มของสาวน้อยคนนี้มีพลังในการรักษาที่ยอดเยี่ยมไปเลย
สถานการณ์แบบนี้ มันไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อน ซ่างกวนหงถูกเลี้ยงมาในฐานะผู้สืบทอดขององค์กรโกสต์ซิตี้ เขาต้องได้รับการฝึกฝนที่เข้มงวดมากมาตั้งแต่เด็กๆ ดังนั้น เขาเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์และความชอบของตัวเองตั้งแต่เด็กๆ
ไม่สามารถคำนึงถึงส่วนดีส่วนเสียของเรื่องหนึ่งได้มากจนเกินไป และก็ไม่สามารถชอบบางสิ่งบางอย่างได้มากเกินไปด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คืออย่าให้สิ่งภายนอกมาส่งผลกระทบตัวเองได้ง่ายๆ
เมื่อ 25 ปีก่อน เขาก็ทำมันได้ดีและยอดเยี่ยมมาโดยตลอด แต่พอเขาได้เจอกับเธอ แต่ว่านอกจากเรื่องของเธอแล้ว เรื่องอื่นๆ เขาก็ยังคงทำได้ดีเหมือนเดิม หรือเรียกได้ว่าเขาสามารถทำเรื่องพวกนั้นได้ดีกว่าเดิมซะอีก
หลายปีที่ผ่านมาเขาแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเลย ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า ดีหรือร้าย
แต่ว่าซ่างกวนหงก็ตระหนักได้ว่า หลังจากที่สาวน้อยคนนี้ปรากฏตัวขึ้น เขาก็ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสาวน้อยคนนี้ยังไม่รู้ตัว
แค่เห็นครั้งแรกก็รู้สึกชอบแล้ว อารมณ์ของเขาได้รับผลกระทบจากรอยยิ้มของเธอ นี่มันเกินกว่าเรื่องที่เคยส่งผลกระทบต่อซ่างกวนหงได้ในอดีตทั้งหมด
ซ่างกวนหงไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ แต่ว่าเขาก็ไม่ปฏิเสธความรู้สึกพวกนี้ และก็ไม่อยากจะไปควบคุมพวกมันด้วย
ตั้งแต่เด็ก พ่อของเขาจะสอนให้เขารู้จักควบคุมอารมณ์ เพื่อที่จะให้เขามีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการเป็นทายาท แต่ว่าตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรแล้ว เขาไม่สนใจแม้แต่องค์กรโกสต์ซิตี้มาตั้งหลายปีแล้วด้วยซ้ำ ถ้างั้นเขาก็ไม่อยากจะควบคุมอีก ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความเศร้า เขาไม่อยากจะควบคุมความรู้สึกของตัวเองต่อไปแล้ว
“ได้ยิน”ซ่างกวนหงคลี่ยิ้มออกมา แล้วก็ตอบคำถามของสาวน้อย เขาคิดว่าเพราะว่าเมื่อกี้เขาไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร สาวน้อยคนนี้ก็เลยคิดว่าหูหนวกสินะ
ริมฝีปากของซ่างกวนหงยกขึ้นเป็นเส้นโค้งที่สวยงาม ดูเหมือนจะเป็นรอยยิ้ม แต่ก็ไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก ตั้งแต่เด็กๆ เขาเรียนรู้ที่จะไม่แสดงออกไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือความเศร้า เขาไม่เคยแสดงอารมณ์ออกมาเลย เหมือนกับว่าเขาแทบจะไม่เคยแสดงออกมาเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น ตอนนี้เขาน่าจะอยากยิ้ม แต่เพราะว่าไม่เคยชิน มันก็เลยดูแข็งทื่อไปหน่อย
“คุณลุงได้ยินด้วย ดีจังเลย”ถังจื่อซีลงใจอย่างเห็นได้ชัด รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอสดใสขึ้นกว่าเดิม “หนูว่าแล้ว คุณลุงหน้าตาดีขนาดนี้ ไม่มีทางหูหนวกหรอกค่ะ” พอซ่างกวนหงได้ยินสิ่งที่ถังจื่อซีพูดอดที่จะอยากยิ้มไม่ได้ หน้าตาดีแล้วมันเกี่ยวอะไรกับหูหนวกล่ะ?
“คุณลุงคะ ทำไมถึงมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ?”ถังจื่อซีมองไปรอบๆ นี่มันเป็นสนามหลังบ้าน ด้านหลังของหน้าต่างถือว่าเป็นตำแหน่งที่ไกลตัวบ้านมากที่สุด ปกติน่าจะไม่มีใครมาที่นี่ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมคุณลุงคนนี้ถึงมายืนอยู่ตรงนี้
ซ่างกวนหงชะงักไป จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าคำถามนี้มันตอบยาก โดยเฉพาะตอบเด็กน้อยคนหนึ่ง
“หนูคิดว่าทำไมลุงถึงมายืนอยู่ตรงนี้ล่ะ?”ซ่างกวนหงไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง ดังนั้นก็เลยใช้วิธีถามถังจื่อซีกลับแทน เขารู้สึกว่าเด็กคนนี้แปลกมากเลย เดิมการที่เขามายืนอยู่ตรงนี้ในตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่แปลกมากแล้ว
ไม่ใช่สิ ไม่ใช่แค่แปลก เขามายืนอยู่ตรงนี้คนเดียวในเวลาแบบนี้ ความจริงแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าจะทำให้คนอื่นรู้สึกหวาดกลัว
“หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน หนูก็เลยคิดว่ามันแปลก ก็เลยอยากมาดูหน่อย”ถังจื่อซีตอบอย่างเป็นธรรมชาติมาก เพราะว่าเธอคิดแบบนี้จริงๆ
ซ่างกวนหงอึ้งไป เพราะว่าสงสัยอย่างนั้นเหรอ?
ทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงไม่กลัวล่ะ?
อยากรู้อยากเห็นจนลืมที่จะกลัวเหรอ?
แบบนี้ไม่ดีเลย สาวน้อยคนนี้ยังเด็กเกินไป แต่ความอยากรู้อยากเห็นมากมายขนาดนี้ ถ้าเกิดว่าเจอคนไม่ดีเข้าจะเป็นยังไง?
ปกติแล้วซ่างกวนหงไม่เคยใส่ใจเรื่องของคนอื่นมาก่อนเลย และก็ไม่มีทางคิดเรื่องพวกนี้อย่างแน่นอน แต่ว่าตอนนี้พอเขาได้เห็นรอยยิ้มที่สดใสของสาวน้อยคนนี้ เขาก็คิดว่าควรให้สาวน้อยได้ตระหนักรู้ถึงความอันตรายบ้าง
ถ้าเกิดว่าวันนี้ไม่ใช่เขา ดึกขนาดนี้แล้ว แล้วมายืนอยู่ตรงด้านหลังของหน้าต่าง ถ้าเกิดว่าไม่ได้มาขโมยของก็แสดงว่าต้องมีแผนการอย่างอื่น
ในสถานการณ์แบบนี้ แล้วสาวน้อยคนนี้เดินเข้ามาคนเดียว มันถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
“หนูทำแบบนี้ไม่ดีเลยนะ ถ้าเกิดว่าลุงเป็นคนไม่ดี แล้วหนูเข้ามาแบบนี้มันอันตรายมากเลยนะ”นี่เป็นครั้งแรกที่ซ่างกวนหงสั่งสอนเด็กคนหนึ่งอย่างจริงใจและหวังดีขนาดนี้ ไม่ใช่แค่เพราะว่าปกติเขาไม่มีโอกาสได้ทำแบบนี้ แต่ว่าเขาก็ยังไม่เคยมีความคิดแบบนี้มาก่อน
“แต่ว่าคุณลุงก็ไม่ใช่คนไม่ดีนี่คะ”ถังจื่อซีมองไปที่เขา ดวงตาของเธอสดใสมาก เธอตอบเขายังจริงจังและแน่วแน่
“ทำไมล่ะ?”ซ่างกวนหงชะงักไป เขารู้สึกไม่เข้าใจเล็กน้อย เขาไม่เข้าใจว่าเด็กน้อยคนนี้เพิ่งจะเคยเจอเขาเป็นครั้งแรก แถมยังเจอในสถานการณ์แบบนี้อีก ทำไมเธอถึงแน่ใจว่าเขาไม่ใช่คนเลว
และในขณะเดียวกัน ซ่างกวนหงก็พบว่าพอตัวเองได้ยินคำพูดของเด็กน้อยแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกปลาบปลื้มใจ เขาได้รับการฝึกฝนที่เข้มงวดมาตั้งแต่เด็ก ไม่ใช่แค่เป็นคนที่ไม่เปิดเผยอารมณ์ออกมาง่ายๆ แต่เขายังเป็นคนที่ไม่ปล่อยให้ตัวเองมีอารมณ์จากการที่ได้รับผลกระทบก็ตาม
แต่ว่าตอนนี้ พอเด็กน้อยคนนี้พูดแบบนี้แล้ว เขาก็อดที่จะรู้สึกดีใจไม่ได้ ซ่างกวนหงรู้สึกว่าเขาแทบจะไม่เหมือนตัวเองอีกต่อไปแล้ว
ที่ตัวเองเป็นอยู่ตอนนี้มันแปลกประหลาดมาก ในชีวิตของซ่างกวนหงที่ถูกฝึกฝนเลี้ยงดูมาในฐานะทายาทขององค์กรโกสต์ซิตี้ ตามหลักเหตุผลแล้วเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นแบบนี้ แต่ว่าซ่างกวนหงกลับรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ปฏิเสธความรู้สึกแบบนี้เลย
เขาไม่ปฏิเสธอะไรก็ตามที่มาจากเด็กน้อยคนนี้ ไม่ปฏิเสธให้เธอเข้ามาใกล้ ไม่ปฏิเสธความชอบที่มีต่อเธอ และไม่ปฏิเสธความรู้สึกแปลกประหลาดที่เธอทำให้เขารู้สึก
“ก็คุณลุงหน้าตาดีขนาดนี้ ไม่มีทางเป็นคนไม่ดีหรอกค่ะ”สิ่งที่ถังจื่อซีตอบถือว่าสมเหตุสมผลและเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่แค่สมเหตุสมผลเท่านั้น แต่มันยังมีพลังมากด้วย
ราวกับว่า ถ้าคนที่หน้าตาดีกลายเป็นคนไม่ดีล่ะก็ มันเป็นเรื่องที่พระเจ้าไม่อนุญาตเลย
เพื่อนตัวน้อยถังจื่อซีต้องเป็นสมาชิกสมาคมที่ดูแต่รูปลักษณ์ภายนอกแน่ๆ เวลาดูคนดูที่หน้าก่อน ไม่สิ จนถึงตอนนี้แล้ว เพื่อนตัวน้อยถังจื่อซียังมองแค่หน้าอย่างเดียว
ซ่างกวนหงชะงักไป หลังจากนั้นก็ยิ้มออกมา โลกของเด็กดีมันช่างแสนสะอาดจริงๆ แค่เป็นคนหน้าตาดีก็แสดงว่าไม่ใช่คนเลวนั้นเหรอ?
นี่เป็นครั้งแรกที่สาวน้อยคนนี้ชมเขาว่าหน้าตาดี ริมฝีปากของซ่างกวนหงก็อดไม่ได้ที่จะคลี่ยิ้มออกมา
แต่ว่าซ่างกวนหงก็รู้สึกว่าต้องบอกเหตุผลให้สาวน้อยได้รับรู้เอาไว้ “คนหน้าตาดีก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นคนดีเสมอไปนะ หนูจะตัดสินคนด้วยรูปลักษณ์ภายนอกไม่ได้นะ เพราะฉะนั้นต่อไปเวลาเจอคนหน้าตาดีห้ามคิดว่าเขาจะไม่มีอันตรายอะไร หนูต้องปกป้องตัวเองให้ได้ และห้ามไปสนิทสนมกับคนแปลกหน้าเด็ดขาด ต่อไปถ้าเกิดเจอสถานการณ์แบบวันนี้อีก ห้ามเข้าไปใกล้โดยตัวคนเดียวเด็ดขาด มันอันตรายมาก”
หลายปีมานี้นอกจากซ่างกวนหงจะตามหาคน เวลาอื่นๆ ของเขาก็จะเอาแต่เงียบ น้อยครั้งมากที่จะพูดยาวๆ ภายในครั้งเดียวแบบนี้ โดยเฉพาะการพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังและจริงใจแบบนี้
แต่ว่าตอนนี้ซ่างกวนหงอดไม่ได้ที่จะพูดมาก แล้วเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องด้วย
ซ่างกวนหงรู้ดีว่า ในสถานการณ์แบบวันนี้ ถ้าเกิดว่าเป็นคนอื่น มันจะเป็นเรื่องที่อันตรายมากจริงๆ ดังนั้นเขาก็เลยต้องสอนให้เด็กคนนี้เข้าใจ
เธอยังเด็กมาก ดูท่าทางเพิ่งจะอายุห้าขวบ ยังไม่เข้าใจเรื่องความอันตรายหรอก
“แต่หนูรู้ว่าคุณลุงไม่ใช่คนไม่ดี แล้วหนูก็รู้ว่าคุณลุงไม่มีทางทำร้ายหนู”ถังจื่อซีมองไปที่เขา ดวงตาที่เป็นประกายกะพริบไม่หยุด น้ำเสียงของเธอยังคงแน่วแน่ อยู่เหมือนเดิม เพราะเธอรู้ดีว่าเขาไม่มีทางทำร้ายเธออย่างแน่นอน
“สิ่งที่คุณลุงหนูพูดหนูเข้าใจค่ะ แม่ก็เคยสอนหนูเหมือนกัน ว่าห้ามคุยกับคนแปลกหน้า ห้ามรับของจากคนแปลกหน้า แล้วก็ห้ามไปไหนจากคนแปลกหน้า ถ้าเกิดว่าเจออันตรายให้ไปหาคุณตำรวจ ถ้าเกิดว่าหาคุณตำรวจไม่เจอ ให้ลองใช้ทุกวิถีทางเพื่อขอความช่วยเหลือ ถ้าเกิดว่าถูกจับตัวไปให้พยายามคิดหาวิธีทิ้งเบาะแสเอาไว้ แถมแม่ยังเคยสอนเครื่องหมายพิเศษเอาไว้ เครื่องหมายพิเศษที่แม่เคยสอนไว้นั้นมันเรียบง่ายมาก แถมมีแต่หนูกับแม่ที่รู้เท่านั้น คนอื่นดูไม่เข้าใจหรอกค่ะ”ถังจื่อซียกนิ้วขึ้นมานับทีละนิ้ว เรียบเรียงอย่างดี เรียบง่ายและชัดเจน แล้วก็มีประโยชน์มาก พิสูจน์ว่าเธอเข้าใจมัน แล้วก็เข้าใจมันไม่น้อยเลยทีเดียว
ซ่างกวนหงฟังแล้วก็ชะงักไป ดูท่าทางเด็กน้อยคนนี้จะเข้าใจอะไรทุกอย่างเลย แล้วก็ดูท่าทางจะระมัดระวังตัวน่าดู แล้วทำไมเธอในสถานการณ์แบบนี้เธอถึงเข้าใกล้เขาด้วยตัวคนเดียวล่ะ?
เพียงเพราะว่าเขาดูดีงั้นเหรอ?
เมื่อกี้ซ่างกวนหงไม่ทันสังเกต เขาเอาแต่คิดเรื่องของตัวเองอยู่ ก็เลยไม่รู้ว่าสาวน้อยคนนี้มาจากตรงไหน