ถึงยังไงเรื่องพวกนั้นมันก็ไม่มีผลอะไรกับเธอ เธอไม่ได้ใส่ใจมันอยู่แล้ว!!
“ได้ยินอะไรมาบ้าง?” ดวงตาทั้งสองข้างของซือถูมู่หรงได้ทอดมองตรงเข้ามาที่เธอ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ในตอนนี้ดวงตาของเขาล้ำลึกเสียจนมองไปแล้วดูคาดเดาได้ยากอยู่บ้างเล็กน้อย
“ก็ได้ยินคุณหยวนคนนั้นพูดว่าพวกคุณสองตระกูลได้เตรียมการนัดบอดให้พวกคุณ ทั้งสองคนกำลังไปมาหาสู่กันอยู่ แล้วทั้งสองบ้านก็วางแผนจะเกี่ยวดองกัน ประมาณนี้ล่ะมั้ง” ถึงแม้ว่าหลิวหยิงจะไม่ได้ใส่ใจ แต่ผู้หญิงก็คงจะไวต่อเรื่องอย่างนี้กันมาตั้งแต่เกิดแล้ว อีกอย่างถึงยังไงมันก็เกี่ยวข้องกับเธออยู่บ้างนิดหน่อย ถึงยังไงเมื่อตอนนั้นความสัมพันธ์ของเธอกับซือถูมู่หรงก็ยังไม่ได้สิ้นสุดลง
“ไปได้ยินมาตอนไหน?” ดวงตาที่ล้ำลึกของซือถูมู่หรงได้หรี่ลงเล็กน้อย มือที่จากเดิมได้แนบอยู่ข้างลำตัวในตอนนี้ได้วางลงบนโต๊ะ แล้วเคาะลงไปเบา ๆ
“เมื่อหลายเดือนก่อนได้ล่ะมั้ง ฉันจำได้ไม่ค่อยแม่นเท่าไหร่” หลิวหยิงไม่ได้คิดอะไรมากมาย เพียงแค่พลั้งปากตอบกลับไปโดยไม่ได้คิดอะไร มันเป็นวันไหนเธอจำได้ไม่ชัดเจนเลยจริง ๆ เพราะว่าเธอไม่ได้ตั้งใจจะไปจดจำมันเลย
ซือถูมู่หรงมองเธอ จู่ ๆ ก็ได้ยิ้มออกมา ยิ้มออกมาด้วยความโกรธจัด เมื่อหลายเดือนก่อนเธอได้ยินคำพูดอย่างนั้นมาแต่กลับไม่ได้พูดอะไรกับเขาเลย ไม่ได้ถามอะไรเลยสักอย่าง และก็ไม่มีความผิดปกติใด ๆ เลยสักนิดเดียว เธอถึงขนาดที่แม้แต่เรื่องก็ยังจำได้ไม่ชัดเจนเลย
เธอมันไม่คิดอะไรเลยจริง ๆ
เธอนั้นเป็นผู้หญิงของเขา พวกเขาคบกันมาห้าปีแล้ว แล้วเธอได้ยินเขานัดบอดและไปมาหาสู่กับผู้หญิงคนอื่น กลับไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยสักนิดเดียว
ซือถูมู่หรงพอจะเข้าใจบ้างแล้วว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เธอเล่าเรื่องเมื่อวันนั้นมาชัดเจนมาก เขายังพอจะจำได้อยู่บ้าง เมื่อตอนนั้นแม่ของเขาได้นัดกับคุณนายหยวน เขาได้ถูกแม่ของเขาเรียกไป ตอนนั้นหยวนชิงหยุนเป็นคนลงมารับเขา
คงจะเป็นตอนนั้นที่ถูกหลิวหยิงเห็นเข้าพอดี อย่างน้อยคำพูดที่หลิวหยิงได้ยินที่ในห้องน้ำในตอนหลังคงจะมีคนจงใจพูดให้หลิวหยิงได้ยินเข้าล่ะมั้ง
สำหรับเรื่องนั้นเขาไม่รู้อะไรเลยสักนิด และเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใส่ใจเลยสักนิดเดียว
“เรื่องเมื่อหลายเดือนก่อน? หืม?” ซือถูมู่หรงบอกกับตัวเองว่าอย่าโกรธ แต่เขากลับพบว่าเขาทนไม่ไหวแล้ว ผู้หญิงคนนี้ไร้หัวใจขนาดนั้นเลย ถึงได้ไม่สนใจอะไรเลยสักนิดในตอนที่ได้ยินเขาไปมาหาสู่กับผู้หญิงคนอื่น?
“หา? อา!” หลิวหยิงมองออกว่าเขาโกรธแล้ว หรือไม่เขาก็คงจะโกรธมาก่อนแล้ว เพียงแต่เมื่อก่อนหน้านี้เขาได้ข่มกลั้นมันเอาไว้ แต่ตอนนี้กลั้นมันเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว
“อย่าเข้าใจผิดไปเลย ฉันไม่ได้ตั้งใจแอบฟังเรื่องพวกนี้จริง ๆ คุณสบายใจได้เลย ฉันรับปากว่าจะมันจะไม่ส่งผลอะไรกับพวกคุณแน่นอน อีกอย่างเมื่อตอนนั้นฉันไม่ได้พูดอะไรเลย ทำเป็นไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น รับประกันเลยว่าจะไม่ทำลายเรื่องสำคัญของคุณแน่นอน” หลิวหยิงไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดเพราะเรื่องนี้เลยจริง ๆ
เดิมทีซือถูมู่หรงยังเพียงแค่โกรธนิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้มาได้ยินคำพูดของหลิวหยิงเข้า เขาคิดว่าเขาอยากจะบีบคอผู้หญิงคนนี้ให้ตาย ๆ ไปเสียให้ได้
“ฉันรู้ว่าคุณจะต้องแต่งงานอย่างแน่นอน และฉันเองก็รู้สถานะของตัวเองดีเหมือนกัน ฉันจะไม่ทำเรื่องอะไรที่มันจะเป็นการทำลายการแต่งงานของคุณแน่ และสัญญาห้าปีของพวกเรามันก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว ตอนนี้ คุณแต่งงานของคุณไป ฉัน…” หลิวหยิงคิดว่าเธอจำเป็นจะต้องพูดไปให้ชัดเจน เธอไม่เคยมีความคิดอื่นกับเขามาก่อนเลยจริง ๆ นอกจากสัญญาห้าปีนั้นแล้ว ระหว่างเขากับเธอมันจะไม่มีอะไรอื่นอีก
“เธออะไร?” ดวงตาที่หรี่ลงของซือถูมู่หรงได้ทอดมองเธอ มันได้ประดับไปด้วยความเยือกเย็น แล้วก็ยิ่งเก็บงำความโกรธที่แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้วเอาไว้ เขารู้ว่าเธอเฝ้ารอสัญญาห้าปีสิ้นสุดลงมาโดยตลอด แล้วก็เดินจากไป
หลังจากที่เดินจากไปแล้วล่ะ? ไปหาคนที่อยู่ในใจของเธอ?
“ฉันเองก็ไปทำเรื่องของตัวเอง” หลิวหยิงลอบถอนหายใจออกมา ถึงแม้ว่าระหว่างเขากับเธอจะมีเวลาเพียงแค่ห้าปีเท่านั้น ถึงแม้ว่าห้าปีนี้มันได้ผ่านไปแล้ว แต่หลิวหยิงรู้ว่ามีเรื่องมากมายที่มันกลับไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลงมันไปได้อีกแล้ว
อันที่จริงเธอไม่เคยจะไปขบคิดให้ดีเลยว่าหลังจากที่สัญญาห้าปีของพวกเขาสิ้นสุดลงไปแล้วเธอจะไปทำอะไร บางทีก็อาจจะออกไปผ่อนคลายตามลำพังสักหน่อย ไม่ก็ไปเรียนอะไรสักหน่อย
ความรักอะไรพวกนี้อันที่จริงเธอก็ไม่ได้หวังสูงเกินไปอีกแล้ว อยู่กับซือถูมู่หรงมาห้าปีแล้ว เป็นคนรักที่ไม่อาจบอกใครได้มาห้าปี เธอจะยังมีสิทธิ์อะไรไปเรียกร้องขอความรักอีก
นึกถึงเรื่องในอนาคต หลิวหยิงถึงขนาดที่ไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไงอยู่บ้าง บางทีก็มีความคาดหวังอยู่บ้างเหมือนกัน
เพราะถึงยังไงช่วงเวลาห้าปีนี้ที่เธอได้อยู่ข้างกายของซือถูมู่หรงนั้น เธอไม่ได้มีอิสระอะไรเลย สิ่งที่เธออยากทำก็ทำไม่ได้เลย ถึงแม้ว่าเธออยากจะเดินทางไปเที่ยวสักครั้งก็ยากไปหมด
อย่างน้อยหลังจากที่ระหว่างเธอกับเขามันได้สิ้นสุดลงไปแล้ว เธอจึงมีเวลาที่เป็นอิสระแล้ว อย่างน้อยมันก็คุ้มค่าให้ตั้งตารอแล้ว
แต่ว่า สีหน้าตั้งตารอนั้นของเธอในตอนนี้กลับเสียดแทงดวงตาของซือถูมู่หรงเข้าอย่างจัง ถึงขนาดที่เสียดแทงหัวใจเขาไปเลย
เธออยู่กับเขาต้องแสดงท่าทีฝืนใจยอมคล้อยตามเพื่อรักษาหน้ากันอยู่ตลอด นึกอยากจะไปจากเขา สีหน้าก็ได้เต็มไปด้วยความตั้งตารอคอย
ตั้งตารออะไร? ตั้งตารอความรักของเธอ?
ตั้งตารอคนในดวงใจของเธอ?
หวังอยากจะรีบกระโจนเข้าไปในอ้อมกอดของคนในดวงใจของเขาให้เร็วที่สุด
“ฉันได้พูดกับเธอชัดเจนแล้ว อย่าได้คิดจะจากไปไหน” สีหน้าของซือถูมู่หรงได้นิ่งขรึมไปโดยสมบูรณ์ น้ำเสียงได้เยือกเย็นไปเลยเหมือนกัน เขาไม่มีทางปล่อยเธอไป อยากจะไปหาคนในดวงใจของเธอ? ฝันไปเถอะ
ขอเพียงแค่เขาซือถูมู่หรงยังมีชีวิตอยู่ เธออย่าแม้แต่จะคิด!
“ซือถูมู่หรง ทั้ง ๆ ที่พวกเราตกลงกันแล้ว อีกอย่างพวกเราก็ได้ทำข้อตกลงกันเอาไว้แล้ว ฉันตอบรับคุณแค่ห้าปีเท่านั้น ฉัน…” พอหลิวหยิงพูดถึงประเด็นนี้ขึ้นมาก็อดไม่ได้ที่จะโกรธขึ้นมา เสียงก็อดไม่ได้ที่จะขึ้นเสียงสูงออกไปด้วย เธอตระหนักขึ้นมาได้ว่าสถานการณ์ในตอนนี้มันไม่ถูกต้อง จึงได้กดเสียงต่ำลง “ตอนแรกก็ตกลงกันแล้ว คุณออกเงินช่วยพ่อของฉัน ฉันขายให้คุณเพียงแค่ห้าปีเท่านั้น”
นี่เป็นความจริง เวลาห้าปีหลิวหยิงได้ชินไปแล้ว ตอนนี้ก็เลยไม่มีอะไรที่ไม่สามารถปริปากพูดออกไปได้เลย
ดวงตาของซือถูมู่หรงได้หรี่ลง เขาไม่ชอบวิธีการพูดแบบนี้ของเธอเลยจริง ๆ แต่เขาก็รู้เหมือนกันว่าคำพูดอย่างนั้นล้วนเป็นสิ่งที่เขาพูดทั้งนั้น อีกอย่างเมื่อตอนนั้นเขายังพูดคำพูดที่เกินไปยิ่งกว่านี้ไปเยอะมากเลยด้วย
ตอนนี้มาลองนึก ๆ ดูแล้วเมื่อตอนนั้นเขามันเวรระยำจริง ๆ แต่สิ่งที่ได้ทำลงไปแล้วมันเก็บกลับไปไม่ได้ ตอนนี้เขาอยากเก็บเธอเอาไว้ข้างกาย ไม่ใช่คนรัก ไม่ใช่สถานะใด ๆ ที่ไม่อาจเปิดเผยได้ เขาอยากให้เธออยู่ข้างกายเขาไปอย่างเปิดเผยและบริสุทธิ์ใจ
เขารู้ว่าตอนนี้เธอยังยอมรับไม่ได้อยู่ แต่ไม่เป็นไร เขาสามารถให้เธอค่อย ๆ เชื่อมั่นในตัวเขาไปช้า ๆ ยอมรับเขา เขาสามารถชดเชยให้กับเรื่องเลวระยำพวกนั้นที่เขาได้ทำลงไปเมื่อห้าปีก่อนก็ได้
ซือถูมู่หรงกำลังจะพูดออกไป ในขณะนั้นเอง จู่ ๆ โทรศัพท์ของหลิวหยิงก็ได้ดังขึ้นมา
ตอนที่หลิวหยิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเห็นสายที่โทรเข้ามาที่โชว์อยู่บนหน้าจอไปชัดเจนแล้ว ดวงตาของเธอได้เป็นประกายออกมาเล็กน้อย เธอนึกไม่ถึงว่าในตอนนี้ไป๋ยี่รุ่ยจะโทรมาหาเธอ
เมื่อหลายวันก่อนเธอได้รับข้อความจากไป๋ยี่รุ่ย เมื่อตอนนั้นซือถูมู่หรงอยู่ด้วย เธอไม่อาจตอบไป๋ยี่รุ่ยไปได้เลย และในภายหลังตอนที่เธอโทรหาไป๋ยี่รุ่ยก็โทรไม่ติดเลย และเธอเองก็ติดต่อไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้เลยเหมือนกัน
คุณหมอที่โรงพยาบาลบอกว่าไป๋ยี่รุ่ยได้ออกจากโรงพยาบาลมาแล้ว แต่เขาไม่ได้กลับบริษัทไป บ้านก็ไม่กลับเหมือนกัน โทรศัพท์ก็โทรไม่ติดด้วยเหมือนกัน ก็เหมือนกับได้หายสาบสูญไปโดยสมบูรณ์เลยก็ไม่ปาน
เธอไม่รู้ว่าเขาเกิดเรื่องอะไรขึ้น ช่วงหลายวันนี้ก็เลยรู้สึกกังวลอยู่บ้างเหมือนกัน