“ในเมื่อไม่ใช่ฝีมือของหัวหน้าน้อย ถ้าอย่างนั้นก็มีความเป็นไปได้มากกว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่คุณหนูใหญ่ของตระกูลถังจัดเตรียมไว้”ผู้ดูแลจ้งยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่ามันมีความเป็นไปได้มาก “ดูจากความรอบคอบและความฉลาดของเธอแล้ว มันเป็นไปได้ทั้งหมด”
“ตอนนั้นที่หน้าประตูโรงพยาบาล เจ้าเก้ากับอะหานเห็นเองกับตาว่าเด็กผู้หญิงคนนั้นดึงผมออกมาจากหัวของคุณหนูใหญ่ และตลอดทั้งกระบวนการนี้ เจ้าเก้ากับอะหานก็แน่ใจว่าไม่มีการเปลี่ยนเส้นผมอย่างแน่นอน แต่ว่ามันมีความเป็นไปได้ไหมคำว่าตอนนั้นผมที่ถูกดึงออกมาจากหัวของเธอไม่ใช่ผมของเธอตั้งแต่แรกแล้ว? ”
“ผมรู้สึกว่าดูจากความฉลาดของเธอแล้ว จะทำอะไรแบบนี้มันไม่ยากเลย ถ้าเกิดว่าเธอรู้เป้าหมายของพวกเจ้าเก้าตั้งแต่แรก แล้วก็เอาผมของคนอื่นมาหนีบไว้กับผมของตัวเอง แล้วก็สงสัยให้เด็กผู้หญิงคนนั้น‘ดึง’ผมที่ถูกติดไว้ตั้งแต่ก่อนหน้านี้ออกมาตรงหน้าโรงพยาบาลต่อหน้าพวกเจ้าเก้า”ผู้ดูแลจ้งยิ่งพูดยิ่งรู้สึกตื่นเต้น เสียงของเขาก็ดังขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“อืม มันก็มีความเป็นไปได้จริงๆ ”ซ่างกวนหงค่อยๆ พยักหน้า เขาเห็นด้วยกับสิ่งที่ผู้ดูแลจ้งพูด
“แต่ว่าตอนนั้นเจ้าเก้ากับอะหานก็ติดตามเธอตลอด อยู่กับความสามารถของเจ้าเก้ากับอะหานแล้ว ถ้าเกิดว่าเธอทำแบบนั้นจริงๆ ไม่มีทางที่พวกเขาจะจับไม่ได้”ซ่างกวนหงรู้ว่าถังฉิ้นเอ๋อฉลาดมาก แต่ว่าเขาก็รู้ความสามารถของพวกเขาดีเหมือนกัน
ถ้าพูดถึงเรื่องกลยุทธ์เจ้าเก้ากับอะหานตามถังฉิ้นเอ๋อไม่ทันแน่นอน แต่ถ้าเกิดเป็นเรื่องที่ต้องคอยจับตามอง เจ้าเก้ากับอะหานไม่มีทางเกิดข้อผิดพลาดเด็ดขาด
ผู้ดูแลจ้งชะงักไป เขาพูดอะไรไม่ออก เห็นได้ชัดว่าเขาก็เห็นด้วยกับความคิดของหัวหน้า
แต่ว่าผู้ดูแลจ้งก็เงียบไปแค่ครู่เดียวเท่านั้น แต่หลังจากนั้นดวงตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาในทันที “มี มีโอกาสครับ มีโอกาสที่เธอจะทำได้ ตอนนั้นมีหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งต้องการถ่ายเลือด และคุณหนูใหญ่ก็ช่วยถ่ายเลือดให้กับเธอ ตอนนั้นอยู่ในห้องผ่าตัด แน่นอนว่าเธอไม่ได้อยู่ในสายตาของเจ้าเก้ากับอะหาน เธอสามารถทำเรื่องแบบนั้นได้แน่นอนครับ”
ซ่างกวนหงชะงักไป ถ้าเกิดว่าเป็นแบบนั้นจริงก็มีความเป็นไปได้
“หัวหน้า ผมรู้สึกว่าสิ่งที่ผมพูดไปเมื่อกี้มันคือเรื่องจริง ดูจากความฉลาดของเธอแล้ว เธอสามารถอ่านแผนการของเจ้าเก้าออกตั้งแต่แรก แล้วทำไมเธอถึงต้องเอาของตัวเองให้เจ้าเก้าด้วย ตอนนั้นเจ้าเก้าจะเอาเส้นผมไปทิ้งขยะ แต่เธอเป็นนักจิตวิทยาอาชญากรรม เธอสามารถวาดภาพคนร้ายออกมาจากการดูแค่ร่องรอยเท่านั้น แล้วจะถูกเจ้าเก้าหลอกง่ายๆ ได้ยังไงกัน แสดงว่าเรื่องนี้มันต้องมีปัญหาแน่ มีปัญหาแน่นอน”
“ตอนนี้โดยเบื้องต้นแล้วผมสามารถยืนยันได้ว่าตัวอย่างที่พวกเจ้าเก้านำกลับมานั้นเป็นของปลอม แต่ว่าความจริงของเรื่องนี้มันไม่สามารถสืบหาได้ แต่สามารถสืบได้ว่าตอนนั้นในห้องผ่าตัดมีอยู่กี่คน แล้วก็ไปตรวจสอบดูก็จะชัดเจนแล้วครับ”
“ไม่ต้องไปตรวจหรอก สิ่งที่นายพูดน่ะถูกแล้ว”ซ่างกวนหงยกมุมปากขึ้นช้าๆ “อย่างที่นายพูด เธอฉลาดและรอบคอบขนาดนั้น ไม่มีทางปล่อยให้เจ้าเก้าเอาผมเธอมาได้ง่ายๆ หรอก ดังนั้นเส้นผมที่เจ้าเก้าเอากลับมานั้นต้องเป็นของปลอมอย่างแน่นอน”
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้พวกเรา……”ผู้ดูแลจ้งได้ยินคำพูดของหัวหน้าตัวเองแล้วก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาก ในเมื่อเส้นผมที่เจ้าเก้าเอากลับมาไม่ใช่ของคุณหนูใหญ่ของตระกูลถัง ถ้าอย่างนั้นผลDNAนั้นก็ไม่สามารถนับได้ ถ้าเกิดว่าต้องการพิสูจน์และยืนยันอีก ต้องไปเอาตัวอย่างจากเธออีกครั้งถึงจะได้
แต่การที่คิดจะไปเอาตัวอย่างจากเธออีกครั้งน่าจะเป็นเรื่องที่ยาก ขนาดก่อนหน้านี้ผู้ดูแลจ้งก็รู้สึกว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่ยากมากแล้ว แถมตอนนี้พอมารู้ว่าเธอจงใจเอาเส้นผมให้เจ้าเก้าเอากลับมา ผู้ดูแลจ้งก็ยิ่งรู้สึกว่าเรื่องนี้มันยากขึ้นไปใหญ่ ยากกว่าจะปีนขึ้นไปบนท้องฟ้าอีก
“ไปหาเธอเลยเถอะ”เมื่อก่อนซ่างกวนหงเอาแต่กังวลว่าผลลัพธ์มันจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิด เขาก็เลยมีความคิดที่จะหลบเลี่ยงอยู่เสมอ ไม่ได้ออกไปตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน แต่ว่าตอนนี้ซ่างกวนหงตัดสินใจว่าเขาควรจะตรวจสอบเรื่องนี้ด้วยตัวของเขาเอง
และซ่างกวนหงก็ไม่อยากจะใช้วิธีที่ลับๆ ล่อๆ แบบนี้อีกต่อไปแล้ว เขาอยากจะไปหาถังฉิ้นเอ๋อ แล้วก็เล่าเรื่องนี้ให้เธอฟังอย่างชัดเจน แล้วก็ปล่อยให้เธอตัดสินใจเอง
“แต่ว่าผมไม่สามารถติดต่อคุณหนูใหญ่ของตระกูลถังได้ และผมก็เคยไปที่บ้านถังตั้งหลายครั้ง ก็ไม่เคยเจอเธอเลย และแน่นอนว่าเรื่องที่เคยเกิดขึ้นกับตระกูลถังมันมีความเกี่ยวข้องกับองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเราจริงๆ ถ้าเกิดว่าหัวหน้าจะไปหาคุณหนูใหญ่ด้วยตัวเอง เกรงว่า……”ผู้ดูแลจ้งเป็นกังวลว่าตระกูลถังจะมีความประทับใจที่ไม่ดีต่อองค์กรโกสต์ซิตี้ของพวกเขา และจะโทษหัวหน้าของพวกเขาด้วย ก็เลยกลัวว่าคุณหนูใหญ่ของตระกูลถังจะเห็นหัวหน้าเป็นศัตรูตามไปด้วย
ถ้าเกิดว่ามันเป็นแบบนั้นจริงๆ การที่หัวหน้าไปหาคุณหนูใหญ่ของตระกูลถัง เรื่องมันต้องไม่สวยอย่างแน่นอน
“ฉันรู้ว่านายเป็นห่วงว่าเธอจะมีเจตนาไม่ดีกับฉัน แต่ว่าเรื่องบางเรื่องที่ควรจะเผชิญหน้าเราก็ต้องเผชิญหน้ากับมัน” แน่นอนว่าซ่างกวนหงรู้ว่าผู้ดูแลจ้งกำลังกังวลเรื่องอะไรอยู่ ตอนแรกเขาก็รู้สึกกังวลเหมือนกัน แต่ว่าตอนนี้เขาคิดว่าเขาไม่ควรจะหลีกเลี่ยงมันอีกแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมหาวิธีติดต่อคุณหนูใหญ่ของตระกูลถังไปก่อน ดูว่าเธอตอบตกลงมาเจอหัวหน้าหรือเปล่า”ผู้ดูแลจ้งได้ยินหัวหน้าของตัวเองพูดแบบนี้ เขาก็พูดอะไรต่อไม่ได้อีกแล้ว
“หัวหน้าครับ ที่จริงมันก็มีวิธีหนึ่งนะ”ดวงตาของผู้ดูแลจ้งเป็นประกายขึ้นมาอีกครั้ง น้ำเสียงของเขาดังขึ้นอย่างอดไม่ได้ เขาทั้งสองคนเอาแต่คุยเรื่องนี้ ยังไม่ได้ออกจากคฤหาสน์หยวนไป ยังคงยืนอยู่ที่นอกหน้าต่าง
โชคดีที่ตำแหน่งที่พวกเขาอยู่ตอนนี้มันคือด้านนอกของห้องออกกำลังกาย และในห้องนั้นก็ไม่มีคนอยู่ ก็เลยไม่มีใครเห็นพวกเขา แล้วก็ไม่ได้ยินเสียงของพวกเขาด้วย
ซ่างกวนหงมองไปที่เขา แล้วก็เลิกคิ้วขึ้น
“เด็กผู้หญิงคนเมื่อกี้น่าจะเป็นลูกของคุณหนูใหญ่ตระกูลถัง หัวหน้าก็สามารถไปตรวจDNAกับเธอโดยตรงเลยก็ได้ ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน”ผู้ดูแลจ้งรู้สึกว่าการเอาเส้นผมจากเด็กน้อยคนนั้นมันง่ายกว่าเอาจากคุณหนูใหญ่เยอะเลย
ซ่างกวนหงขมวดคิ้วเข้าหากันในทันที ซ่างกวนหงยังไม่ทันพูดอะไร แต่ผู้ดูแลจ้งก็บอกได้ว่าหัวหน้าของเขาไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้
เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าของเขาชอบเด็กคนนั้นมากจริงๆ ดังนั้นหัวหน้าก็เลยไม่อยากจะเข้าไปใกล้ชิดกับสาวน้อยคนนั้นโดยมีเป้าหมายอื่น
“หัวหน้าครับ ผมไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเด็กคนนั้นนะ พอถึงเวลาพวกเราก็เล่าเรื่องราวให้เธอฟังได้ ถึงแม้ว่าเธอจะเพิ่งอายุห้าขวบ แต่ว่าเธอฉลาดกว่าเด็กทั่วไปมาก และก็รู้เรื่องรู้ราวมากกว่าเด็กทั่วไปเยอะ ผมเชื่อว่าเธอต้องเข้าใจอย่างแน่นอน ถ้าเกิดว่าเธอยินยอม พวกเราก็ไปตรวจ DNA กัน แต่ถ้าเกิดว่าเธอไม่ยินยอม พวกเราก็จะไม่ฝืนเธอ”เห็นได้ชัดว่าผู้ดูแลจ้งคิดมาอย่างดีแล้ว ผู้ดูแลจ้งรู้สึกว่าการทำแบบนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไร
“หัวหน้าครับ เด็กคนนั้นทิ้งช่องทางการติดต่อไว้ให้คุณแล้ว เดี๋ยวผมจะสมัครวีแชทให้คุณ แล้วคุณก็สามารถติดต่อกับเธอได้”