“พี่เป็นอะไรไป? ไม่สบายเหรอ?” หลิวหยิงนานกว่าจะเรียกสติกลับมาได้ น้ำเสียงแหบลงไปเล็กน้อย ทำไมเขาถึงได้ปล่อยให้ตัวเองเป็นอย่างนี้ไปได้?
เมื่อครั้งที่แล้วตอนที่เธอเจอเขาที่โรงพยาบาล เขาดีกว่าตอนนี้เยอะเลย
“ไม่เป็นไร” ไป๋ยี่รุ่ยเงยหน้าขึ้นมา มองไปยังเธอ มุมปากได้ยกขึ้นเล็กน้อย คงจะอยากจะยิ้มออกมา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ยิ้มออกมา ไม่รู้ว่าไม่มีแรงยิ้มออกมา หรือว่าไม่มีอารมณ์ยิ้มออกมากันแน่
“สีหน้าของพี่ดูไม่ดีเลย” หลิวหยิงรู้ว่าเขาไม่อยากพูด แต่สภาพในตอนนี้ของเขามองไปแล้วก็ดูแย่มากเลยจริง ๆ “ให้ฉันไปส่งพี่ไปโรงพยาบาลดูอาการก่อนสักหน่อยมั้ยคะ?”
เธอกังวลมากจริง ๆ ว่าต่อจากนี้จู่ ๆ เขาจะสลบไป เธอคิดว่าเรื่องอื่นก็ปล่อยมันไปก่อน เขาควรจะไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจร่างกายดูก่อนสักหน่อย
“ร่างกายของฉันไม่เป็นไร เธอไม่ต้องเป็นห่วงไป” มุมปากของไป๋ยี่รุ่ยที่เมื่อกี้ได้ยกยิ้มออกมาได้เหยียดตรงออกมา น้ำเสียงเองก็ทุ้มต่ำและเนิบช้าออกมาเล็กน้อย สภาพร่างกายของเขาในตอนนี้มันไม่ดีเลยจริง ๆ
เดิมทีร่างกายของเขาไม่ได้ฟื้นตัวมาโดยตลอด เมื่อคืนถูกไป๋หยิงวางยาไป หลังจากที่ผ่านเรื่องอย่างนั้นมา เรี่ยวแรงของเขามันก็ได้เกินกำลังไปแล้ว บวกกับที่วันนี้ทั้งวันเขาไม่ได้พักเลย เขาเองก็รู้สึกเหมือนกันว่าตัวเองใกล้จะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน!!
แต่ว่าก่อนที่เขาจะล้มลง เขาจะต้องจัดการเรื่องที่จะต้องทำให้เรียบร้อยเสียก่อน
“แต่พี่ดูไม่ดีเลยนะคะ” คิ้วของหลิวหยิงได้ขมวดเข้าหากันเล็กน้อย เธอไม่รู้เลยว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา ถึงได้ทำให้เขาทรมานร่างกายของตัวเองจนกลายเป็นอย่างนี้ได้
ถึงแม้ว่าเขาจะยังไง ก็ควรทะนุถนอมร่างกายของตัวเองให้ดีหน่อยสิ?
“สภาพร่างกายของฉันรู้ดีที่สุด เธอนั่งลงก่อน ฉันมีหลายเรื่องที่จะต้องให้เธอช่วย” ไป๋ยี่รุ่ยรู้สภาพร่างกายของตัวเองดี แต่ว่าเขาไม่ได้สนใจเลยสักนิด ถึงแม้ว่าตอนนี้จะสลบตายไปจริง ๆ เขาก็ไม่สนใจเลยเหมือนกัน
หลิวหยิงเห็นท่าทีของเขาแน่วแน่ขนาดนี้ ภายในใจถึงแม้ว่าจะเป็นห่วง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก แต่ก็ได้นั่งลงไปตามความต้องการของเขา
เธอแค่อยากจะลองดูสักหน่อยว่าตกลงแล้วมันเป็นเรื่องอะไรกันแน่ที่ทำให้เขาไม่สนแม้แต่ชีวิตของตัวเองได้?
ไป๋ยี่รุ่ยหลังจากที่เห็นหลิวหยิงนั่งลงตรงหน้าเขาแล้วจึงได้เอ่ยปากพูดออกมา “ฉันได้เอาหุ้นทั้งหมดของบริษัทของฉัน แล้วก็ทรัพย์สินทั้งหมดในนามฉันโอนไปอยู่ในนามของฉิงฉิงไปหมดแล้ว”
เขาติดต่อเวินลั่วฉิงไม่ได้ และเขาก็ไม่มีช่องทางการติดต่อของเวินลั่วฉิง เกี่ยวกับเรื่องพวกนั้นมันจำเป็นต้องดำเนินไปตามขั้นตอน ตอนหลังต้องการให้เวินลั่วฉิงเป็นคนออกหน้า ดังนั้นถึงตอนนั้นแล้วก็จะต้องติดต่อเวินลั่วฉิงให้ได้
เขาฆ่าไป๋หยิงไป พรุ่งนี้เตรียมจะไปมอบตัว เขาก็เลยไม่สามารถติดต่อเวินลั่วฉิงด้วยตัวเองได้ อีกอย่างสถานการณ์ในตอนนี้ของเขา เขาเองก็ไม่อยากให้เวินลั่วฉิงรู้เหมือนกัน สภาพนี้ในตอนนี้ของเขา เขาก็ยิ่งไม่อยากให้เวินลั่วฉิงเห็นยิ่งกว่า
ดังนั้นแล้ว เขาเลยอยากให้หลิวหยิงทำเรื่องนี้แทนเขา
“เกิด เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หลิวหยิงตกใจขึ้นมา ตกตะลึงงันไปโดยสมบูรณ์ เธอคาดเดาได้ว่าคงจะเกิดเรื่องร้ายแรงมากขึ้นมา เธอคาดเดาออกเหมือนกันว่าเรื่องมันคงจะเกี่ยวข้องกับเวินลั่วฉิง แต่ไม่ว่าจะยังไงเธอก็คาดเดาไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นสถานการณ์อย่างนี้
นึกไม่ถึงว่าไป๋ยี่รุ่ยจะโอนหุ้นทั้งหมดของบริษัทของเขาไปให้เวินลั่วฉิง?
นั่นมันเป็นบริษัทที่ไป๋ยี่รุ่ยสร้างขึ้นมาเองกับมือเลยนะ? เธอรู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยรักเวินลั่วฉิงอย่างลึกซึ้ง แต่เรื่องนี้มันทำให้เธอผิดคาดมากเลยจริง ๆ
บริษัทนั้นมันก็ไม่ใช่ของไป๋ยี่รุ่ยแค่คนเดียว ไป๋ยี่รุ่ยโอนให้เวินลั่วฉิงไปอย่างนี้ คณะกรรมการบริหารคนอื่นจะเห็นด้วย
อีกอย่างตระกูลเวินกับตระกูลไป๋ก็มีความแค้นต่อกัน เมื่อตอนนั้นพ่อของไป๋ยี่รุ่ยได้ถูกคนตระกูลเวินฆ่าตายไป
ตอนแรกไป๋ยี่รุ่ยสร้างบริษัทมาก็เพื่อรับมือกับบริษัทเวินซื่อกรุ๊ป เพื่อแก้แค้นให้พ่อของเขา
หลิวหยิงรู้ว่าไป๋ยี่รุ่ยแบ่งแยกบุญคุณและความแค้นเอาไว้ชัดเจน ไม่มีทางจะโยนความผิดของคนรุ่นก่อนไปที่ตัวเวินลั่วฉิง และไป๋ยี่รุ่ยก็ไม่เคยรักเวินลั่วฉิงน้อยลงเพราะเรื่องพ่อของเขามาก่อนเลย
แต่ว่าเธอเองก็ไม่มีทางนึกถึงเลยเหมือนกันว่า ไป๋ยี่รุ่ยจะโอนหุ้นทั้งหมดของบริษัทของตัวเองให้เวินลั่วฉิงไป
นี่ตกลงแล้วมันเกิดเรื่องแบบไหนขึ้นมากันแน่ถึงได้ทำให้ไป๋ยี่รุ่ยทำอย่างนี้?
“เรื่องอื่นเธอไม่ต้องสนใจ เกี่ยวกับกระบวนการโอนฉันจะส่งไปให้ทางโทรศัพท์เธอ ถึงตอนนั้นเธอช่วยฉันติดต่อฉิงฉิงให้หน่อย” ไป๋ยี่รุ่ยไม่อยากพูดเรื่องอื่นกับหลิวหยิง เรื่องพวกนั้น เขาไม่ต้องการให้ใครได้รู้ และยิ่งไม่อยากให้เวินลั่วฉิงได้รู้มากกว่าใคร
และถ้าหลิวหยิงรู้เวินลั่วฉิงเองก็จะต้องรู้เหมือนกัน
“ทำไมพี่ถึงต้องทำอย่างนี้ด้วย? ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรกันแน่ พี่ไม่บอกฉันมาให้ชัดเจน ธุระนี้ฉันคงจะช่วยไม่ได้” หลิวหยิงเห็นสภาพที่อ่อนแรงของไป๋ยี่รุ่ยแล้ว ได้ยินคำพูดของไป๋ยี่รุ่ยแล้ว รู้สึกว่าเขาเหมือนกับว่ากำลังพูดสั่งเสียอยู่เลยไม่มีผิด ความรู้สึกแบบนี้มันไม่ดีเลย
มุมปากของไป๋ยี่รุ่ยได้เม้มออกมาเล็กน้อย พร้อมกับเงียบไป
“พี่ไม่บอกฉัน ถึงตอนนั้นแล้วฉันจะไปบอกฉิงฉิงได้ยังไง นิสัยของฉิงฉิงพี่ก็รู้ดีนี่ ถ้าพี่ไม่พูดกับเธอไปให้มันชัดเจน เธอจะไม่มีวันต้องการอะไรจากพี่เลย” หลิวหยิงเห็นเขาเม้มปากไม่พูดออกมา ก็ร้อนใจอยู่บ้าง แต่ดีที่หลิวหยิงรู้ว่าจุดอ่อนของเขาอยู่ตรงไหน
ไป๋ยี่รุ่ยลอบถอนหายใจออกมา อันที่จริงเขาก็รู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้มันปิดเอาไว้ไม่อยู่ เพราะถึงยังไงการฆ่าคนตายมันก็เป็นเรื่องใหญ่ อีกอย่างเขาก็ได้เตรียมที่จะไปมอบตัวอยู่ด้วย ถึงตอนนั้นจะต้องปิดไม่อยู่แน่ ๆ เลย
ไม่สู้ให้เขาบอกหลิวหยิงไปก่อนเลย ให้หลิวหยิงช่วยเขาปกปิดเวินลั่วฉิงให้ บางทีมันอาจจะสามารถปกปิดไปได้อยู่ก็ได้
หลังจากที่คิดตกในตรงจัดนี้แล้ว ไป๋ยี่รุ่ยเงยหน้าขึ้นมา แล้วมองไปยังหลิวหยิงอีกครั้ง มุมปากได้เปิดออกมาเล็กน้อย เอ่ยด้วยเสียงที่เนิบช้าออกมา “ฉันฆ่าคนตาย”
ตอนที่เขาพูดคำนี้ออกมาอารมณ์มันสงบนิ่งมาก น้ำเสียงเป็นธรรมชาติ ไม่มีความกังวลเลยสักนิดเดียว ไม่เห็นความร้อนรนออกมาเลยสักนิด เหมือนกับเพียงแค่กำลังพูดว่าวันนี้อากาศดีเลยไม่มีผิด
แต่หลิวหยิงกลับตกใจจนพลิกแก้วที่วางอยู่ตรงหน้าล้มคะมำไปเลย ดวงตาทั้งสองข้างของเธอเบิกกว้างออกมา มองไปยังไป๋ยี่รุ่ยด้วยใบหน้าที่ไม่อยากที่จะเชื่อ “พี่? พี่พูดอะไร?”
เธอสงสัยว่าเมื่อกี้เธอเพิ่งจะได้ยินอะไรผิดไป เธอสงสัยว่าเมื่อกี้หูเธอเกิดปัญหา หรือว่าความคิดของเธอมันเกิดปัญหาขึ้นมากันแน่
“เธอไม่ได้ฟังผิดไป ฉันฆ่าคน” ไป๋ยี่รุ่ยรู้ว่าเธอจะต้องยากที่จะเชื่อในตรงจุดนี้อย่างแน่นอน เธอคงจะสงสัยว่าตัวเธอได้ยินผิดไป แต่เธอไม่ได้ฟังผิดไป นี่มันเป็นความจริง
“จะเป็นไปได้ยังไง? เป็นไปได้ยังไง?” หลิวหยิงได้ลุกขึ้นมาทันที เธอไม่เชื่อ เธอไม่เชื่อว่านี่จะเป็นความจริง
ไป๋ยี่รุ่ยจะฆ่าคนได้ยังไงกัน?
“พี่กำลังล้อเล่น ใช่มั้ย?” หลิวหยิงไม่กล้าที่จะเชื่อ และก็ไม่เต็มใจที่จะเชื่อเรื่องอย่างนี้ด้วยเหมือนกัน
“ฉันไม่ได้ล้อเล่น มันเป็นความจริง” ไป๋ยี่รุ่ยเห็นเธอไม่เชื่อ ถอนหายใจออกมาเบา ๆ “หลิวหยิงฉันพูดความจริงทั้งนั้น ฉันวางแผนเอาไว้ว่าจะไปมอบตัววันพรุ่งนี้ ดังนั้นแล้ว เรื่องอื่นฉันหวังว่าเธอจะช่วยฉันได้”
“พรุ่งนี้พี่จะไปมอบตัว?” หลิวหยิงตกใจจนอ้าปากค้างออกมา เขาจะไปมอบตัว ฆ่าคนตายไปมอบตัว นั่นมันไม่ใช่ว่า…
แต่ว่าตอนนี้ในสถานการณ์แบบนี้ เหมือนจะมีแค่การไปมอบตัวที่เป็นหนทางที่ถูกต้องแล้ว!!
“ใช่ ไปมอบตัว คนได้ถูกฆ่าตายไปเมื่อคืน ไม่สิ คงจะต้องบอกว่าเช้าตรู่ของวันนี้มากกว่า วันนี้ฉันจัดการเรื่องที่ควรจะต้องจัดการไปหมดแล้ว พรุ่งนี้ฉันก็เลยจะไปมอบตัว” ไป๋ยี่รุ่ยวางแผนเรื่องทั้งหมดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว!!