ซือถูมู่หรงมองไปยังริมฝีปากยิ้มของเธอ ในใจยิ่งโกรธกว่าเดิม เขาไม่ชอบเห็นเธอทำท่าทางเฉยเมยเป็นที่สุด!และปกป้องไป๋ยี่รุ่ยขนาดนั้น เพื่อไป๋ยี่รุ่ยแล้วไม่สนใจอะไรทั้งนั้น แต่พอกับเขากลับทำท่าทางเมินเฉย
ในเวลานี้หลิวหยิงขี้เกียจจะโต้เถียง เขาอยากพูดอะไรก็ให้เขาพูดไปเถอะ
“เป็นผู้หญิงของผมแล้วยังอยากไปหาผู้ชายอื่น เชื่อไหมว่าผมจะตัดขาของคุณ?” ในเวลานี้ในใจของซือถูมู่หรงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่ว่ากลับทำอะไรเธอไม่ได้ ทำได้แค่พูดจาหยาบคาย
“คุณสามารถไปหาผู้หญิงคนอื่นได้” เดิมทีหลิวหยิงไม่อยากที่จะอยู่ในใจเขา แต่ว่าเขากลับไม่จบไม่สิ้น หลิวหยิงไม่สามารถที่จะอดทนได้ จึงตอบกลับหนึ่งประโยค
เขาไม่จำเป็นที่จะต้องทรมานเธอ เขาสามารถไปหาผู้หญิงคนอื่นได้
แววตาของซือถูมู่หรงเป็นประกายเล็กน้อย สูดหายใจเข้าลึกอย่างเงียบๆ เธอให้เขาไปหาผู้หญิงคนอื่น?
เธอกลับให้เขาไปหาผู้หญิงอื่น?
ดูเหมือนว่าเขาไม่แคร์เธอเลยจริงๆ
แต่ว่าหากเธอยังแคร์เขาอยู่บ้าง เธอก็คงจะไม่พูดว่าให้เขาไปหาผู้หญิงคนอื่น
เมื่อเขารู้ว่า เธออยู่ด้วยกันกับไป๋ยี่รุ่ย เขาโกรธจนแทบอยากจะฆ่าคน
แต่ว่าเธอกลับไม่แคร์เลยแม้แต่น้อย
เธอแค่อยากจะผลักเขาไปหาผู้หญิงคนอื่น เมื่อเป็นแบบนี้เธอก็จะได้อยู่ด้วยกันกับไป๋ยี่รุ่ยแล้ว?
เธอโลกสวยเกินไป
“หลิวหยิง คุณจำไว้นะว่า ชาตินี้อย่าได้คิดจะจากไป จะตายก็ต้องตายอยู่ข้างผม” ซือถูมู่หรงก็เป็นคนที่มีนิสัยเช่นนี้
สิ่งที่เขาต้องการ เขาจะต้องได้มันมา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
ซือถูมู่หรงกดหลิวหยิงไว้ที่ประตูห้องรับรองมาโดยตลอด อาจเป็นเพราะน้ำหนักมือแรงเกินไป ทำให้ประตูด้านหลังของเธอถูกผลักออก
ห้องรับรองไม่ใหญ่ จากประตูมองเข้าไป ภายในห้องมองดูครู่เดียวก็เห็นจนหมด ไป๋ยี่รุ่ยยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง
ดูเหมือนจะนอนหลับลึกมาก ไม่ได้ตื่นเพราะถูกการรบกวนจากพวกเขา
ซือถูมู่หรงขมวดคิ้วเล็กน้อย ไป๋ยี่รุ่ยทำอะไรถึงทำให้ตนเองเหนื่อยขนาดนี้ หลับลึกยิ่งกว่าหมูตายเสียอีก
ขณะที่ซือถูมู่หรงมองเข้าไป ก็ถือโอกาสมองสถานการณ์บนเตียงอย่างชัดเจน บนเตียงเป็นระเบียบมาก นอกจากบริเวณที่ไป๋ยี่รุ่ยนอน บริเวณที่เหลือก็ราบเรียบ แม้แต่รอยย่นก็ไม่มี
เสื้อผ้าบนร่างกายของไป๋ยี่รุ่ย แม้ว่าเสื้อผ้าบนร่างกายของไป๋ยี่รุ่ยจะมีรอยย่นอยู่บ้าง แต่ว่ากลับเป็นระเบียบเรียบร้อยดี
แม้แต่กระดุมเสื้อก็ไม่ถูกปลดออก
เห็นได้ชัดว่าไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
ถือว่าซือถูมู่หรงคลายความกังวลลงเล็กน้อย แม้ว่าก่อนหน้านี้เธอจะบอกว่าเธอกับไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้มีอะไรกัน และเขาก็พบว่าบนร่างกายของเธอไม่มีร่องรอยอะไร แต่ว่าในใจก็ยังมีความไม่สบายใจอยู่บ้างในใจ
เพราะถึงยังไงเธอกับไป๋ยี่รุ่ยก็อยู่ในห้องรับรองกันสองต่อสองมาเป็นระยะเวลาสามชั่วโมง ระยะเวลาสามชั่วโมงนี้ ผู้ชายคนหนึ่งกับผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นไปได้ที่จะ……
หลิวหยิงเห็นประตูของห้องรับรองถูกเปิดออก จึงหันศีรษะไปมองอย่างอัตโนมัติ เธอเป็นกังวลอย่างมากว่าจะรบกวนจนทำให้ไป๋ยี่รุ่ยตื่น
เพียงแต่ยังไม่ทันรอให้เธอเห็นอย่างชัดเจน ซือถูมู่หรงกลับบังคับให้เธอหันศีรษะกลับมา:“มองอะไร?มีอะไรน่ามองเหรอ กลับบ้าน”
สิ่งที่ซือถูมู่หรงอยากทำมากที่สุดก็คือแยกเธอกับไป๋ยี่รุ่ยออกจากกัน ดังนั้นจึงลากเธอออกไปข้างนอกทันที
ตอนที่หลิวหยิงจากไปก็ถือโอกาสยื่นมือไปปิดประตู
ซือถูมู่หรงเห็นการกระทำของเธอ รู้สึกเพียงแน่นที่หน้าอก ขึ้นไม่ได้ ลงก็ไม่ได้ โกรธจนแทบจะขาดใจตาย
เธอจะไม่ลืมที่จะเป็นห่วงไป๋ยี่รุ่ยสักเวลาเลยเหรอ
ผู้หญิงคนนี้ อยากจะบีบคอเธอให้ตายจริงๆ
แต่ว่าเขากลับทำใจไม่ได้ ตอนนี้อย่าว่าแต่บีบคอเธอให้ตายเลย แม้แต่จะทำร้ายเธอเล็กน้อยเขาก็ทนไม่ได้
ซือถูมู่หรงถอนหายใจเงียบๆอยู่ในใจ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ในใจของเขาเธอถึงสำคัญมากขนาดนี้?
ในใจของซือถูมู่หรงเผยความโหดเหี้ยมออกมา จับมือเธอแรงขึ้นอีก จากนั้นก็ลากเธอออกจากห้อง
หลิวหยิงผลักเขาออกไม่ไหว แน่นอนว่าหลิวหยิงก็ไม่อยากที่จะผลักเขาออก เพราะเดิมทีเธอก็อยากออกไปจากที่นี่มาโดยตลอด
แต่ว่าเขาไม่ยอมกลับไป ในที่สุดตอนนี้เขาก็ต้องการกลับแล้ว แน่นอนว่าเธอคงไม่ปฏิเสธ
เพราะถึงยังไงหากพวกเขาจากไปแล้ว ไป๋ยี่รุ่ยก็จะสามารถพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะสามารถเผชิญหน้ากับเรื่องที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ได้
ในเวลานี้หลิวหยิงก็ไม่ได้โต้แย้งกับซือถูมู่หรง เรื่องที่จะสามารถเจอกับไป๋ยี่รุ่ย พรุ่งนี้ยังไงซือถูมู่หรงก็ต้องไปทำงาน ในเมื่อเขาไปทำงานแล้ว เธอก็จะสามารถออกมาข้างนอกได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าซือถูมู่หรงจะเผด็จการ แม้ว่าจะใช้อำนาจเสร็จ แต่ว่าก็ไม่ถึงกับจับเธอขังไว้
เพราะถึงยังไงตอนนี้สัญญาของพวกเขาก็สิ้นสุดลงแล้ว เธอก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเชื่อฟังเขาทุกเรื่อง
หลิวปิงอยู่ข้างนอกมาโดยตลอด ฟังความเคลื่อนไหวจากด้านในมาโดยตลอด แต่กลับไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวที่ต้องทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือนอย่างที่เขาคิด เขาสงสัยอยู่อย่างเงียบๆ จากนั้นจู่ๆประตูห้องก็เปิดออก
หลิวปิงตกใจ ถอยหลังไปสองสามก้าวอย่างอัตโนมัติ จากนั้นก็เห็นประธานของตนจูงมือหลิวหยิงออกมา
สีหน้าของประธานยังคงดูไม่ได้เช่นเดิม สีหน้ายังคงโกรธเกลียดทนแทบอยากจะฆ่าคน แต่ว่าคุณหลิวกลับไม่ได้รับบาดเจ็บใดอีกทั้งเห็นประธานของตนจูงมือคุณหลิวเช่นนี้ ก็ไม่เหมือนกับจะทำอะไรไม่ดีกับคุณหลิว
ในเวลานี้ประธานของเขาแม้ว่าท่าทางจะดูดุดัน แต่ว่าจูงมือคุณหลิวโดยใช้แรงไม่มากนัก ราวกับเกรงว่าจะทำให้คุณหลิวได้รับบาดเจ็บ
หลิวปิงตะลึงงัน เกิดอะไรขึ้น?
ยังไม่ทันรอให้หลิวปิงมีปฏิกิริยาตอบกลับ ซือถูมู่หรงก็จูงมือหลิวหยิงจากไปแล้ว
เมื่อหลิวปิงได้สติกลับมาแม้แต่จะตามก็ตามไม่ทัน เห็นเพียงท่าทางของประธานของตนจูงมือคุณหลิว
แววตาของหลิวปิงซับซ้อนเล็กน้อย
เขารู้สึกว่าท่าทีที่ประธานของเขา ปฏิบัติต่อหลิวหยิงนั้นเปลี่ยนไป ไม่เหมือนกับการกระทำต่อคนรักที่ไร้เกียรติ
หลิวปิงคิดว่าประธานของเขาอาจจะมีความรู้สึกที่ดีต่อคุณหลิวแล้ว
เป็นไปได้เหรอ?มีความเป็นไปได้เหรอ?
ผู้จัดการต้อนรับเห็นซือถูมู่หรงจูงมือหลิวหยิงออกมาก็ตะลึงงัน นี่มันเรื่องอะไรกัน สุภาพสตรีท่านนี้ไม่ใช่คนที่อยู่ในห้องประธานไป๋เหรอ?
นี่ไม่ใช่ผู้หญิงของประธานไป๋เหรอ?
ทำไมประธานซือถูถึงได้พาผู้หญิงของประธานไป๋ไปล่ะ อีกทั้งประธานซือถูยังจูงมือผู้หญิงคนนั้นด้วย ราวกับมีความสัมพันธ์ที่ธรรมดากับผู้หญิงคนนั้น
ในหัวของผู้จัดการต้อนรับจู่ๆก็เผยความคิดต่างๆนานาออกมามากมาย อิงตามหลักการแล้วสถานะของซือถูมู่หรง
ไม่มีทางที่จะมาพบไป๋ยี่รุ่ยที่นี่ด้วยตนเอง อีกทั้งซือถูมู่หรงยังไม่ให้พวกเขาแจ้งให้ทราบก่อน แต่เขากลับมาด้วยตนเองโดยทันที
ตอนนี้พอคิดดูแล้ว ก็เหมือนการมาจับผิดเรื่องชู้สาวมากกว่า ดังนั้นประธานซือถูเขาไม่ได้มาหาประธานไป๋ แต่ความจริงแล้วมาหาผู้หญิงคนนี้ ?
ถ้างั้นผู้หญิงคนนี้มีสถานะยังไงกันแน่?
เธอเป็นผู้หญิงของประธานไป๋?หรือว่าเป็นผู้หญิงของประธานซือถู?
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นละครของผู้ชายสองคนที่แย่งผู้หญิงคนหนึ่ง อีกทั้งหนึ่งในนั้นก็คือซือถูมู่หรง
เมื่อผู้จัดการต้อนรับคิดว่าเมื่อสักครู่นี้ตนทิ้งให้ซือถูมู่หรงอยู่ในห้องวีไอพีนั้นก็ตกใจจนเหงื่อเย็น
ประธานไป๋ยังโอเคอยู่ไหม?
ถูกซือถูมู่หรงฆ่าไปแล้วหรือเปล่า?
แม้ว่าตอนนี้ในใจของผู้จัดการต้อนรับจะคาดเดาเช่นนี้ แต่ว่าเขาก็ไม่กล้าที่จะขวางซือถูมู่หรง เมื่อเห็นซือถูมู่หรงออกจากประตูไป ผู้จัดการต้อนรับจึงกำชับขึ้นว่า:“เร็ว รีบไปดูซิว่าประธานไป๋เป็นอะไรหรือเปล่า?ช่างเถอะ ผมไปดูเองดีว่า”
ในเวลานี้สีหน้าของผู้จัดการต้อนรับซีดขาว ขาทั้งสองข้างอ่อนปวกเปียก เขากลัวจริงๆ แม้ว่าการพาซือถูมู่หรงไปพบไป๋ยี่รุ่ยเป็นคำสั่งของเจ้านาย แต่ว่าหากทำให้คนต้องตาย เขาก็คงไม่สามารถปัดความรับผิดชอบนี้ได้
ผู้จัดการต้อนรับรีบวิ่งเข้าไปในห้องของไป๋ยี่รุ่ย เมื่อเห็นไป๋ยี่รุ่ยนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับ ในเวลานั้นก็ตกใจจนแทบที่จะหายใจไม่ออก ขาทั้งสองข้างของเขาอดไม่ได้ที่จะสั่น ในเวลานี้เขายืนอยู่ด้านนอกประตู แต่กลับไม่กล้าเข้าไป
ซือถูมู่หรงมาหาผู้หญิงคนนั้นจริงๆ เมื่อสักครู่นี้จะต้องทะเลาะกันอย่างแน่นอน แต่ว่าตอนนี้ไป๋ยี่รุ่ยกลับนอนอยู่บนเตียง
คงไม่ใช่ว่ากำลังนอนอยู่หรอกนะ หรือว่าจะถูกซือถูมู่หรงฆ่าตายแล้ว
แต่ว่าผู้จัดการต้อนรับทำงานอยู่ที่คลับแห่งนี้มาเป็นเวลานานแล้ว และเคยเห็นสถานการณ์เช่นนี้ เหตุการณ์เช่นนี้ยังไงก็ต้องทำให้กระจ่างก่อน
ผู้จัดการต้อนรับสูดหายใจเขาลึกครู่หนึ่ง จากนั้นกัดฟันเข้าไปในห้อง เมื่อเดินมาถึงด้านหน้าเตียง ก็พบว่าสีหน้าของไป๋ยี่รุ่ยเป็นปกติ ค่อยๆยืดอกขึ้น แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเขายังหายใจอยู่
ในเวลานี้ผู้จัดการต้อนรับจึงได้คลายความกังวลลง เพียงแต่เขาคิดไม่ตกว่า ในเมื่อซือถูมู่หรงต้องการมาหาผู้หญิงคนนั้น
และผู้หญิงคนนั้นเมื่อสักครู่ก็อยู่ด้วยกันกับไป๋ยี่รุ่ย
ด้วยนิสัยของซือถูมู่หรง แต่กลับไม่ฆ่าคน อีกทั้งยังยอมให้ไป๋ยี่รุ่ยนอนต่อ?
นี่คิดยังไงก็คิดไม่ตก
หลังจากที่ซือถูมู่หรงจูงมือหลิวหยิงออกจากคลับแล้ว ก็พาขึ้นรถทันที
หลิวหยิงไม่พูดไม่จามาโดยตลอด ไม่มีมีการปฏิเสธหรือโต้แย้งใด
เมื่อซือถูมู่หรงเห็นว่าในเวลานี้เธอยอมอยู่ในโอวาท ความอัดอั้นที่มีอยู่เต็มอกก็ค่อยๆคลายลง!!
หลังจากที่หลิวหยิงขึ้นรถก็ไม่พูดไม่จา สีหน้าของซือถูมู่หรงจึงขรึมลง เธอกำลังต่อต้านเขาอยู่อย่างเงียบๆใช่ไหม?