แต่ว่าเห็นได้อย่างชัดเจนว่าน้ำหนักมือของเธอนั้นไม่ส่งผลใดกับซือถูมู่หรงเลย!!ซือถูมู่หรงคิดเพียงว่าเธอจั๊กจี้เขาอีกครั้งก็เท่านั้น
จู่ๆอารมณ์ของซือถูมู่หรงก็ดีขึ้นมาก มุมปากของเขากระตุกเล็กน้อย:“ติดตามผมมาตั้งห้าปี เพิ่งรู้เหรอ?คุณยังไม่เคยเห็นตอนที่ผมเป็นคนพาลจริงๆ ผมไม่รังเกียจถ้าจะทำให้คุณได้เห็นมัน”
สำหรับหลิวหยิงแล้วหากด่าว่าเขาเป็นคนพาล เขานั้นไม่รังเกียจเลยแม้แต่น้อย ไม่คิดว่าเป็นเรื่องน่าอาย แต่กลับรู้สึกภูมิใจแทน ฟังแล้วก็ดูมีทีท่าที่ภูมิใจเป็นอย่างมาก!!
หลิวหยิงท้อแท้ ในเมื่อคนคนนี้เป็นแบบนี้แล้ว แล้วเธอจะทำอะไรได้ล่ะ?
ไม่มีเหตุผล และมีอำนาจมากเป็นพิเศษ ไม่มีวิธีการอะไรที่เธอสามารถทำได้เลย
ซือถูมู่หรงอุ้มเธอเข้าไปในห้องพลางกดทับเธออยู่บนเตียงแล้ว หลิวหยิงไม่สามารถผลักเขาออกได้เลย เพียงแต่ว่าในนาทีสุดท้าย เธอเตือนให้เขารักษาความปลอดภัย เธอไม่อยากให้มีใครต้องเป็นอันตรายถึงชีวิต
มีลูกให้กับเขานั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้อย่างเด็ดขาด
ซือถูมู่หรงตะลึงงันครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ดื้อดึงมากเกินไป อีกทั้งยังเอาถุงยางอนามัยออกมาอย่างมีจิตสำนึก เพียงแต่ว่าขณะที่เขาก้มศีรษะลง มุมปากของเขาเผยยิ้มอ่อนๆออกมา
เมื่อหลิวหยิงเห็นว่าเขามีการป้องกันก็คลายความกังวลลงอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนว่าเมื่อสักครู่นี้เขาน่าจะทำให้เธอหวาดกลัวเท่านั้น เดิมทีอิงตามความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา เขาคงไม่ให้เธอมีลูกให้เขาจริงๆหรอก
ขณะที่ซือถูมู่หรงเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้งมองไปยังหลิวหยิง ดูเหมือนว่าจะมีความไม่พอใจเล็กน้อยในการแสดงออก แต่ว่ากลับไม่ได้พูดอะไรมาก หลิวหยิงกลับโล่งใจเป็นอย่างมาก
วันรุ่งขึ้น ตอนที่หลิวหยิงตื่นขึ้นมาก็ใกล้จะสิบโมงแล้ว หลังจากที่เธอดูเวลาชัดเจนแล้วก็ตกใจ จากนั้นรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว
เมื่อวานตอนกลางคืนซือถูมู่หรงทรมานเธออย่างดุดัน เธอแทบจะไม่ได้นอน ขณะใกล้ฟ้าสางเธอถึงได้มีโอกาสนอน ดังนั้นจึงนอนเพลินไปเลยเวลาที่กำหนดตื่น
เธอตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนเจ็ดโมงเช้าชัดๆ ทำไมนาฬิกาไม่ปลุกล่ะ?หรือว่าเธอหลับลึกเกินไปก็เลยไม่ได้ยิน?
แต่ว่าหากเธอหลับลึกเกินไปจนไม่ได้ยิน นาฬิกาก็ต้องปลุกซ้ำสิ ดังนั้นแสดงว่านาฬิกาไม่ได้ปลุก
หลิวหยิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พบว่าเวลาที่ตั้งไว้ถูกยกเลิก ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าซือถูมู่หรงเป็นคนทำ
หลิวหยิงรู้สึกว่าตอนนี้ซือถูมู่หรงนับวันยิ่งน่าเบื่อขึ้นเรื่อยๆ กลับทำการยกเลิกนาฬิกาปลุกของเธอ
ซือถูมู่หรงน่าจะไปทำงานแล้ว หลิวหยิงจึงรีบลุกขึ้นจากเตียง พลางจัดการอย่างง่ายๆครู่หนึ่ง รีบล้างหน้าอย่างรวดเร็ว รีบออกจากบ้านไป แม้แต่เครื่องสำอางก็ไม่มี
หลังจากที่ออกจากบ้าน ก็เรียกรถพลางโทรศัพท์หาไป๋ยี่รุ่ยพลาง
เธอไม่รู้ว่าเวลานี้ไป๋ยี่รุ่ยไปมอบตัวแล้วหรือยัง?แท้ที่จริงแล้วเธอก็รู้เรื่องที่ไป๋ยี่รุ่ยไปมอบตัวนั้น เธอคงช่วยอะไรไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้
แต่ว่าเธอก็อยากที่จะถามสถานการณ์เขาสักครู่หนึ่ง อย่างน้อยสามารถปลอบใจเขาก็ได้บ้างก็ยังดี
เธอโทรออกติดต่อกันอยู่หลายสาย ทางด้านของไป๋ยี่รุ่ยนั้นไม่ได้รับสาย ใจของหลิวหยิงค่อยๆนิ่ง เขาไม่ได้รับโทรศัพท์ หรือว่าเขาไปที่สถานีตำรวจแล้ว มอบตัวเรียบร้อยแล้ว
หากเขาไปมอบตัวที่สถานีตำรวจแล้ว นี่เป็นเรื่องฆ่าคนตาย ตำรวจจะต้องควบคุมตัวเขาอย่างแน่นอน และก็คงจะไม่สามารถรับโทรศัพท์ได้
หลังจากที่หลิวหยิงโทรออกสามสายแต่ไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้รับสายนั้น เธอก็รู้ได้ทันทีว่าไป๋ยี่รุ่ยน่าจะไปมอบตัวที่สถานีตำรวจแล้ว เธอจึงไม่ได้โทรหาอีก
ติดต่อไป๋ยี่รุ่ยไม่ได้ เธอไม่รู้ด้วยว่าไป๋ยี่รุ่ยไปสถานีตำรวจไหนกันแน่ เธอคงไม่สามารถไล่ตามทุกสถานีได้
เดิมทีไป๋ยี่รุ่ยก็ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องนี้ หากเธอไปถาม หากทำให้เรื่องใหญ่โตขึ้นมาคงไม่ดีแน่
แต่ว่าเรื่องนี้เธอจะไม่สนใจเลยไม่ได้ เดิมทีหลิวหยิงต้องการโทรหาเวินลั่วฉิง ให้เวินลั่วฉิงตรวจสอบ สถานะและความสามารถของเวินลั่วฉิงในตอนนี้หากหล่อนต้องการที่ตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจน นั้นก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก
คุณชายห้าฉิงเป็นผู้บัญชาการตำรวจของเมืองA
แต่ว่าเมื่อหลิวหยิงนึกถึงสิ่งที่ไป๋ยี่รุ่ยกำชับเมื่อคืนนี้ ไป๋ยี่รุ่ยนั้นไม่ต้องการให้เวินลั่วฉิงรู้เรื่องนี้
หลิวหยิงหายใจเข้าลึกอย่างเงียบๆ เธอควรที่จะเคารพการตัดสินใจของไป๋ยี่รุ่ย อย่าเพิ่งบอกเวินลั่วฉิง
หลิวหยิงนึกถึงตอนที่ก่อนหน้านี้เธอทำงานอยู่ที่บริษัทสายการบิน สามีของเพื่อนร่วมงานที่เธอสนิททำงานอยู่ที่สถานีตำรวจพอดี หลิวหยิงจึงโทรศัพท์หาเพื่อนคนนั้นเพื่อให้ช่วยสอบถาม
แน่นอนหลิวหยิงไม่ได้เอ่ยถึงไป๋ยี่รุ่ย
แน่นอนว่าเพื่อนร่วมงานรับปาก บอกว่าหากตรวจสอบพบแล้วจะรีบตอบกลับเธอ
ในเวลานี้หลิวหยิงเดินมาถึงปากทางพอดี เธอไม่รู้ว่าเพื่อนร่วมงานจะตอบกลับเธอเมื่อไหร่ แต่ว่าตอนนี้เธอยังไม่อยากที่จะกลับไป
หลิวหยิงลังเลว่าจะไปที่ไหนก่อน และในเวลานี้เอง จู่ๆโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น
แววตาของหลิวหยิงเป็นประกาย เพียงแต่ขณะที่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเห็นเพียงเบอร์โทรของคนแปลกหน้า คิ้วของเธอจึงขมวดเล็กน้อย จากนั้นจึงรับสาย:“ฮัลโหล สวัสดีค่ะ”
“ใช่คุณหลิวไหมคะ?”ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้หญิง น้ำเสียงอ่อนโยนเป็นอย่างมาก ไม่สามารถคาดเดาอายุจากเสียงได้เลย
“ใช่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณคือ?” น้ำเสียงของคู่สายอ่อนโยนและสุภาพมาก ดังนั้นน้ำเสียงของหลิวหยิงก็สุภาพมากเช่นกัน
“ฉันคือแม่ของมู่หรง” คู่สายไม่ได้พูดอะไรมาก เปิดเผยสถานะของตนออกมาทันที
หลิวหยิงตะลึงงัน แม่ของซือถูมู่หรง?ทำไมแม่ของซือถูมู่หรงถึงได้โทรศัพท์หาเธอ?
แม้ว่าเธอจะติดตามซือถูมู่หรงมาห้าปีแล้ว แต่ว่าก็ไม่เคยทักทายกับซือถูมู่หรงมาก่อน เธอไม่เคยเจอหน้าแม่ของซือถูมู่หรงแม้แต่ครั้งเดียว
เพราะถึงยังไงเธอก็เป็นแค่คนรักที่ไร้เกียรติ ปกติเธอไม่ทำตัวเป็นจุดสนใจและปิดบังความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับซือถูมู่หรงมาโดยตลอด
เธอไม่รู้ว่าแม่ของซือถูมู่หรงรับรู้การมีอยู่ของเธอไหม แต่ว่าในระยะเวลาห้าปีมานี้ แม่ของซือถูมู่หรงนั้นไม่เคยมาพบเธอ
ตอนนี้ครบห้าปีแล้ว แม่ของซือถูมู่หรงจู่ๆก็โทรศัพท์หาเธอ ทำให้เธอนั้นรู้สึกประหลาดใจจริงๆ และรู้สึกไม่เข้าใจ เธอไม่รู้ว่าแม่ของซือถูมู่หรงมีเจตนาอะไร?
“คุณนายซือถู สวัสดีค่ะ” แม้ว่าหลิวหยิงจะไม่ทราบว่าแม่ของซือถูมู่หรงจะโทรหาเธอเพื่ออะไร แต่ว่าน้ำเสียงตอบกลับเต็มไปด้วยความเคารพ แน่นอนว่าเธอเรียกชื่อที่เป็นทางการของหล่อน เธอไม่ได้เรียกตามซือถูมู่หรงเพื่อแสดงความสนิทสนม
“พวกเรามาเจอกันหน่อยได้ไหม?น้ำเสียงของคุณนายซือถูยังคงอ่อนโยน ฟังแล้วสบายไม่น้อย อีกทั้งน้ำเสียงของหล่อนก็ไม่ได้แข็งกร้าว แสดงอย่างเห็นได้ชัดว่าเป็นน้ำเสียงที่ต้องการหารือ ไม่เหมือนกับซือถูมู่หรงเลยแม้แต่น้อย!!
“ได้ค่ะ” หลิวหยิงครุ่นคิด สุดท้ายก็ไม่ได้ปฏิเสธ ท่าทีของอีกฝ่ายนั้นดีเกินไป เธอรู้สึกว่าหากปฏิเสธก็คงไม่มีมารยาทเป็นอย่างมาก
อีกทั้งเธอก็อยากรู้ว่าในเวลานี้แม่ของซือถูมู่หรงมีเรื่องอะไรกันแน่
แต่ว่าหลิวหยิงคิดว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องร้ายแรงอะไร บางทีอาจเป็นเพราะแม่ของซือถูมู่หรงเพิ่งจะรู้ว่าข้างกายของซือถูมู่หรงมีเธอซึ่งเป็นผู้หญิงที่ไร้เกียรติอยู่เคียงข้างเขา ดังนั้นคุณนายซือถูต้องการที่จะไล่เธอไป
หากเป็นเช่นนั้น ก็เป็นสิ่งที่เธอต้องการ
“ฉันจะให้ที่อยู่กับเธอ คุณเรียกแท็กซี่มาได้ไหม?”น้ำเสียงของคู่สนทนายังคงสุภาพเป็นอย่างมาก
“ได้ค่ะ” หลิวหยิงคิดว่าเรื่องที่ไป๋ยี่รุ่ยให้เพื่อนช่วยตรวจสอบผลคงออกมาไม่เร็วนัก ตอนนี้เธอไปพบกับคุณนายซือถูก็คงไม่ทำให้เสียเวลาอะไร
คุณนายซือถูบอกที่อยู่ เป็นห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
“ฉันกำลังซื้อของให้เพื่อนพอดี พอคุณถึงแล้วก็โทรหาฉันแล้วกันนะ”น้ำเสียงของคุณนายซือถูอ่อนโยน เป็นโทนเสียงที่สบายมากในการฟังอย่างนุ่มนวลและช้าๆ
“ได้ค่ะ” หลิวหยิงรับปาก เพียงแต่ในใจนั้นกลับรู้สึกแปลกๆ ในเมื่อคุณนายซือถูกำลังซื้อของกับเพื่อนอยู่ แล้วทำไมจะต้องนัดเธอออกไปพบด้วยล่ะ?
หรือว่าเพิ่งรู้เรื่องเธอมาจากเพื่อน ก็เลยอยากพบเธออย่างกะทันหัน?
หลิวหยิงก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะถึงยังไงเมื่อพบกันทุกอย่างก็จะกระจ่างเอง
หลิวหยิงเรียกรถ แล้วมุ่งตรงไปที่ห้างสรรพสินค้าแห่งนั้นที่คุณนายซือถูนัดหมาย นั้นคือห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่และหรูหราที่สุดในเมืองA สินค้าที่นี่แพงมากเป็นพิเศษ โดยปกติแล้วเธอไม่มาที่นี่อย่างแน่นอน แต่ว่าคุณนายซือถู คุณนายสูงเกียรติอย่างหล่อนมาห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ก็เป็นเรื่องที่ปกติ
หลังจากที่หลิวหยิงมาถึงยังประตูทางเข้าห้างสรรพสินค้า ก็โทรศัพท์หาคุณนายซือถู เสียงรอสายดังขึ้นเพียงสองครั้ง คู่สายก็รับสายทันที
“คุณนายซือถู ฉันมาถึงหน้าทางเข้าห้างสรรพสินค้าแล้วค่ะ” หลิวหยิงไม่รู้ว่าตอนนี้คุณนายซือถูอยู่ที่ไหน และไม่รู้ว่าจะไปหาทางไหนดี
“ดีเลย คุณมาถึงแล้ว”น้ำเสียงของคุณนายซือถูนั้นยังคงอ่อนโยนเหมือนเดิมและเผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย:“ตอนนี้ฉันอยู่ชั้นสาม คุณขึ้นมาชั้นสาม ฉันจะรอคุณอยู่ชั้นสามนะ ฉันอยู่ที่แผนกชุดชั้นใน”
“ได้ค่ะ” หลิวหยิงไม่ได้คิดมาก นี่เดิมทีก็เป็นเรื่องปกติ
หลิวปิงได้รับคำสั่งจากซือถูมู่หรงให้ติดตามหลิวหยิง เมื่อผ่านเรื่องราวของเมื่อวานมาแล้วหลิวปิงก็ไม่กล้าที่จะคลายความกังวลเลยแม้แต่น้อย ทำเพียงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเท่านั้น!!