ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – บทที่ 1643 การปฏิบัติที่แตกต่างกัน

บทที่ 1643 การปฏิบัติที่แตกต่างกัน

ในตอนที่ความรักกับคุณธรรมยืนอยู่สองด้าน คุณอาจจะเลือกคุณธรรมไปแล้ว แต่ว่าความรักน่ะ…ไม่อาจเก็บซ่อนได้หรอก ดูจากข้อนี้แล้ว มู่เฉิงจึงมั่นใจแน่นอนว่า หลินหว่านไม่ได้รักซ่างกวนหง

ผู้ดูแลจ้งที่ยืนอยู่ตลอดไม่ได้พูดอะไร เรื่องนี้ เขารู้ ความรู้สึกก็ไม่ต่างกับซ่างกวนหงเท่าไร รู้สึกละอายใจ เดิมทีไม่น่าจะกลายเป็นเช่นนี้ ทว่า…หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น ก็ไม่มีความเป็นไปได้ที่จะแก้ไขได้อีก

สำหรับหลินหว่านนั้น ผู้ดูแลจ้งในตอนเด็กไม่ได้มีภาพประทับในความทรงจำมากนัก เพียงจำได้ว่าเป็นเด็กหญิงที่สวมกระโปรงสีขาว อบอุ่นอ่อนโยนคนหนึ่ง อาศัยอยู่ในองค์กรโกสต์ซิตี้ เธอเงียบมาก ไม่สร้างความรำคาญให้คนอื่นเลยสักนิด เขารู้สึกได้ถึงความผ่อนคลาย ทั้งยังสบายใจ ต่อมา…ตอนที่หญิงคนนี้ปรากฏตัว ในความอบอุ่นอ่อนโยนได้แฝงไปด้วยความหยิ่งทะนง แต่เมื่อแย้มยิ้มก็ยังอ่อนโยนมาก สตรีเช่นนี้ ไม่มีพิษภัย ที่เสียชีวิตก็เป็นเหตุที่เกิดขึ้นฉับพลันโดยไม่ทันตั้งตัว——ไม่ใช่ว่าไม่เสียดาย เพียงแต่ไม่อาจช่วยให้รอดพ้น

ถังจื่อซีลูบสร้อยข้อมือ เห็นหน้าจอโทรศัพท์กะพริบเล็กน้อย เป็นประกาศแจ้งข้อความอันหนึ่ง กดเปิดดูคือหลินฉือ คงเป็นเพราะตอนที่กำลังคุยกันจู่ๆก็ไม่มีข้อความไป เธอจึงส่งข้อความมาเตือนเล็กน้อย แล้วบอกฝันดีด้วย ถังจื่อซีไม่ได้ตอบกลับทันที เธอเปิด Wechat ดูข้อความ มีเกือบสิบบรรทัด นอกจากเสื้อผ้าที่ส่งให้ก่อนหน้านี้ ยังถามอีกว่าถังจื่อซีชอบไหม ยังบอกอีกประโยคว่าถ้าถังจื่อซีไม่อยากเป็นนางแบบ ยินดีจะเป็นนางแบบให้เธอคนเดียวไหม

ถังจื่อซีตอบกลับข้อความไป พิมพ์อักษร  พี่คะ~( ̄▽ ̄~)~ขอโทษนะ เมื่อครู่ที่บ้านเกิดเรื่องขึ้นกะทันหัน เลยไม่ทันได้ตอบข้อความ 

 เรื่องเป็นนางแบบ ต้องปรึกษากับคนในครอบครัว พี่รอฉันได้ไหมคะ? แต่ว่า ไม่ว่าฉันจะเป็นนางแบบหรือไม่ ฉันก็เป็นนางแบบให้พี่โดยเฉพาะได้นะคะ  ถังจื่อซียังส่งอีโมติคอนจุดพลุฉลองไปอีกอัน

ทางฝั่งหลินฉือก็ตอบกลับข้อความเร็วมากเช่นกัน ส่งหัวใจมาให้ถังจื่อซีเป็นอย่างแรก

 ไม่ต้องรีบร้อน พวกเธอค่อยๆคุยกันก็ได้ แล้วก็ จื่อซีต้องพักผ่อนไวๆนะ เด็กน้อยนอนดึกไม่ดี  หลินฉือพูดตามปกติ จื่อซีตอบกลับอย่างเบิกบานใจ  ได้ค่ะ จื่อซีทราบแล้ว! พี่ก็นอนไวๆนะคะ~ 

ถังจื่อโม่ล้วงโทรศัพท์ออกมา ให้ถังจื่อซีส่งWechatของหลินฉือให้เขา ยื่นคำขอเพิ่มเพื่อน

ถังจื่อซีคล้อยตามความคิดเห็น ส่งให้ถังจื่อโม่ มู่เฉิงก็หยิบโทรศัพท์ออกมา ให้ถังจื่อซีส่งWechatของหลินฉือให้เขาด้วย

ที่ถังจื่อโม่คิดก็คือ จะพิจารณาดูเสียหน่อยว่าทำไมหลินฉือถึงชอบถังจื่อซี สนิทกับถังจื่อซีเช่นนี้ หรือเพียงเพราะแค่อยากได้จื่อซีไปเป็นนางแบบ แต่ VG ไม่มีทางขาดแคลนนางแบบกระมัง? มู่เฉิงเพิ่มเพื่อนหลินฉือ เพราะอยากรู้ฐานะที่แท้จริงของเธอ และอยากรู้เรื่องราวในตอนนั้น เขาสงสัยอยู่เล็กน้อยว่าทำไมเรื่องราวในตอนนั้นถึงปล่อยไปเช่นนั้น

ที่ต่างกันก็คือ——คำขอของถังจื่อโม่ผ่านอย่างรวดเร็ว มู่เฉิงโดนปฏิเสธตรงๆ มู่เฉิงไม่ยอมแพ้ เพิ่มเพื่อนต่อไป ยังคงถูกปฏิเสธ

รอยยิ้มบนใบหน้าของมู่เฉิงปริออกแล้ว ทำไมล่ะ? เห็นๆอยู่ว่าตอนกลางวันยังสมาคมกันได้อย่างปรองดอง ตกกลางคืนกลับปฏิเสธเอาโดยสิ้นเชิงอย่างนี้? ถังจื่อซีมอง  ปฏิเสธคำขอ  บนโทรศัพท์ ครุ่นคิดแล้วพูด  คุณลุง คุณลุงอาจจะต้องเพิ่มหมายเหตุไปสักหน่อย อย่างเช่น ลุงของถังจื่อซีกับถังจื่อโม่ 

มู่เฉิงพยักหน้า คำขอครั้งนี้ใส่หมายเหตุว่าลุงของถังจื่อซีกับถังจื่อโม่ไปด้วย ครั้งนี้ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ก็…ไม่ตอบรับเหมือนเดิม เขาส่งคำขออีกครั้ง ยังคงไม่มีการตอบสนอง เขาชักอยากเขวี้ยงโทรศัพท์ขึ้นมาบ้างแล้ว!

ถังจื่อซีหัวเราะคิกคักอย่างอดไม่อยู่ แล้วพูดล้อๆ  คุณลุง ดูท่าว่าพี่สาวจะไม่ชอบคุณลุงนะคะ 

ถังจื่อโม่ไม่พูดอะไร มู่เฉิงมองเขา  นายพูดกับหลินฉือสักหน่อยสิ ดูว่าเธอนอนไปแล้วหรือเปล่า 

มู่เฉิงไม่ยอมรับความจริงที่ตัวเองถูกปฏิเสธ แทบจะในเวลาเดียวกัน คำขอของถังจื่อโม่ได้รับการยินยอม ของเขาถูกปฏิเสธ ต่อมาก็ไม่มีการตอบสนอง เห็นชัดว่าหลินฉือไม่มีเหตุผล! มู่เฉิงรู้สึกว่าตัวเองได้รับบาดเจ็บ ไม่เคยมีใครกล้ามองข้ามเขาอย่างนี้มาก่อน

ถังจื่อโม่มองมู่เฉิงอย่างดูถูกแวบหนึ่ง แล้วพูดคุยกับหลินฉือ พิมพ์อักษร:  สวัสดีครับพี่ ผมคือจื่อโม่ 

ฝั่งนั้นตอบกลับอย่างรวดเร็ว  ฉันรู้แล้ว รีบพักผ่อนได้แล้ว มีอะไรไว้คุยพรุ่งนี้ 

 ฝันดี 

สองประโยคติดๆ ไม่ให้เวลาถังจื่อโม่ได้พูดอะไรเลย แต่สองประโยคนี้ ดูไม่สนิทสนม เย็นชามาก ถังจื่อโม่สัมผัสได้ว่า การพูดคุยกันของหลินฉือกับจื่อซี ผ่อนคลายมาก ดูสนิทสนม บางครั้งที่หลินฉือพิมพ์ยังใส่อีโมจิเข้าไปด้วย แต่การคุยกับเขา ช่างจืดชืดแห้งผาก เหมือนงานในหน้าที่ประจำวันอย่างไรอย่างนั้น

ถังจื่อโม่ชูโทรศัพท์ขึ้นหน้ามู่เฉิง ให้เขาเห็นคำตอบของหลินฉือ บอกกับมู่เฉิงอย่างชัดเจนว่าหลินฉือยังไม่นอน แค่ไม่อยากสนใจคุณ

มู่เฉิงหงุดหงิดใจ ตนไปยั่วโมโหหลินฉือไว้ตอนไหนหรือเปล่า? ไม่มีทางเป็นอันขาด แต่การปฏิบัติที่แตกต่างกันนี้ก็ต่างกันเกินไปไหม?

ถังจื่อซีหัวเราะแหะๆอยู่ด้านข้าง คุณลุงถูกเมินอย่างชัดเจน ทั้งยังไม่รู้ด้วยว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร

ซ่างกวนหงมองพวกเขาเล่นกันคึกคัก ความสุขใจและเพลิดเพลินใจหลั่งไหลไปในหัวใจตลอด ความละอายใจกับความพัวพันอุตลุดที่เกิดจากหลินหว่านเมื่อครู่ก็สลายหายไปแล้ว เขามองมู่เฉิงแล้วส่ายหัว หลังจากที่มาที่นี่ ดูเหมือนมู่เฉิงทำอะไรไม่ค่อยราบรื่น ตอนนี้ยังถูกคนแสดงความหมางเมินอย่างชัดเจนอีก คะเนว่าต้องโดนกระทบอย่างหนักแล้ว

ถังจื่อโม่ตอบกลับข้อความหลินฉือ แล้วพูดกับซ่างกวนหง  คุณปู่ พวกเราคิดจะกลับไปวันมะรืน หม่ามี้ของผมจะมารับพวกเราครับ 

ในน้ำเสียงของถังจื่อโม่แฝงไปด้วยความเศร้าสลดที่ไร้ร่องรอย แต่เขาไม่สังเกตเห็น ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกเช่นนี้หมายความว่าอะไร

บรรยากาศหนาวเหน็บลงอย่างรวดเร็ว ถังจื่อซีมองถังจื่อโม่นิ่งๆ คิดไม่ถึงว่าจะพูดขึ้นอย่างกะทันหัน สภาพจิตใจดิ่งลงทันที

 เร็วอะไรอย่างนี้!  ผู้ดูแลจ้งพูดตามจิตใต้สำนึก เขามองไปทางซ่างกวนหงทันที ดวงตาเขาหลุบลง มองอารมณ์ใดๆไม่ออก แต่ความรู้สึกทั้งร่างเปลี่ยนเป็นเปล่าเปลี่ยวขึ้นมา คล้ายกับว่าเขาอยู่คนเดียวอีกแล้ว

ถังจื่อซีมองอย่างเศร้าใจ เดิมทีเธออยู่ข้างๆซ่างกวนหง จึงขยับเข้าไปใกล้ๆเขา กอดแขนซ่างกวนหงเอาไว้ แล้วพูดออดอ้อน  คุณปู่ อย่าเสียใจเลยนะคะ พวกเราแค่กลับบ้าน หลังจากนี้ถ้าคิดถึงคุณปู่ ต้องมาหาคุณปู่อีกแน่นอน 

ซ่างกวนหงถูกปลอบใจในชั่วพริบตา ใช่แล้ว ตอนนี้พวกเขายังไม่รู้จักกัน กลับไปเป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้ว ปัญหาอยู่ที่ช้าเร็วเท่านั้น ทำไมต้องวุ่นวายใจอยู่เรื่อย? ขอแค่จื่อซีกับจื่อโม่ยังยอมมาก็พอแล้ว

เขาฝืนยิ้ม  ได้ อย่างนั้นปู่จะรอจื่อซีกับจื่อโม่มานะ ที่นี่มีที่ของพวกเธอเสมอ 

ถังจื่อซีพยักหน้า สำหรับซ่างกวนหง แม้ว่าเธอจะเรียกคุณปู่ แต่ภายในใจ ถือว่าซ่างกวนหงเป็นคุณตาไปแล้ว รอแค่พรุ่งนี้ไปตรวจพิสูจน์สายสัมพันธ์ แล้วรอผลลัพธ์ออกมา ถังจื่อซีเชื่อว่า ความสนิทสนมที่ตนมีต่อเขาไม่ใช่ว่าจะไร้สาเหตุ ถ้าหากมี นั่นจะต้องเป็นสายสัมพันธ์ทางสายเลือดแน่ๆ

ถังจื่อซีกับถังจื่อโม่รออยู่ครู่หนึ่ง ซ่างกวนหงไม่ได้ถามสาเหตุที่พวกเขากลับไป และไม่อยากเป็นฝ่ายพูดขึ้นมาให้พวกเขาเสียใจ ดังนั้นจึงไม่ได้พูดอะไร

ถึงจื่อซีครุ่นคิด อย่างนั้นเรื่องนี้ก็เอาอย่างนี้แหละ ไม่ต้องให้คุณปู่รู้ เธอเขย่าแขนซ่างกวนหง แล้วพูด  คุณปู่คะ อย่างนั้นฉันกับพี่ไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้พวกเราจะเที่ยวเล่นกันอีกวัน! 

ซ่างกวนหงพยักหน้า ถังจื่อซีกับถังจื่อโม่กลับไปที่ห้องตัวเอง ก่อนจะเดินไป ถังจื่อซีมองมู่เฉิงอย่างมีความหมายลึกซึ้ง มู่เฉิงพยังหน้า

ซ่างกวนหงย่อมเห็นการกระทำของพวกเขา ในใจลอบดีใจขึ้นมา หรือว่า…ใช่หรือไม่…

รอจนถังจื่อซีกับถังจื่อโม่เข้าห้องไปแล้ว มู่เฉิงสบตากับสายตาแห่งความหวังของซ่างกวนหง เขาเอ่ยปากยิ้มๆ  พ่อบุญธรรม วางใจได้เลยครับ ผมเกลี้ยกล่อมจื่อซีแล้ว เธอยินดีไปตรวจพิสูจน์สายสัมพันธ์กับพ่อบุญธรรม แล้วเธอยังเป็นฝ่ายเสนอขึ้นมาด้วยว่า ก่อนที่ผลพิสูจน์จะออก ไม่ต้องบอกใคร ซ่างกวนหงสบายใจแล้ว ที่แท้ จื่อซีก็ยินยอม เธอไม่ได้โกรธเกลียดเขา และสามารถยอมรับได้ว่าตนเป็นตาของเธอ ซ่างกวนหงรู้สึกว่าในใจเต็มไปด้วยความหวัง อีกอย่าง ถังจื่อซียังพิจารณาได้รอบด้านขนาดนี้ ก่อนที่ผลจะออกไม่ต้องบอกใคร เช่นนั้น ต่อให้เป็นความเข้าใจผิดจริงๆ ก็ไม่ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างเขากับคนอื่นๆ

ผู้ดูแลจ้งพูดอุทานออกมาจากใจ  หัวหน้า ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ก็จะไปเตรียมการพิสูจน์สายสัมพันธ์ของท่านกับคุณจื่อซีแล้ว 

มู่เฉิงเม้มปาก พอตื่นเต้นขึ้นมาสมองก็พร่าเบลอได้ง่ายจริงๆน่ะหรือ? เขาพูดอย่างจนปัญญา  จื่อซียินยอมแล้ว อย่างนั้นไม่ว่าจะเป็นเส้นผมหรือเลือดก็สามารถพูดกับเธอได้เลย หรือว่าไม่ต้องให้เธอไปด้วยครับ? พาจื่อซีไปคนเดียว จื่อโม่จะยอมเหรอ?  มู่เฉิงรู้จักจื่อโม่ดีเกินไป แม้ว่าตอนนี้เขาจะมีความเชื่อใจในตัวซ่างกวนหงกับตนมากพอ แต่ก็ไม่อาจให้ถังจื่อซีถูกพาตัวไปคนเดียวได้ จะต้องตามไปแน่ๆ นี่คงไม่อาจปฏิเสธได้กระมัง? มิเช่นนั้นไม่แน่ถังจื่อโม่อาจคาดเดาอะไรได้ มากขึ้นอีกเรื่องไม่สู้น้อยลงไปอีกเรื่อง พรุ่งนี้เอาเส้นผมของจื่อซีไปก็พอ

 

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Status: Ongoing

มองที่เด็กๆ ที่มีหน้าตาเหมือนกับตัวเอง สมองเขาว่างเปล่า ชั่วคราว”แม่เราก็คือภรรยาของคุณนะคะ ทำไม ภรรยาของ คุณมีลูกสองคน คุณไม่รู้หรอ”เด็กๆ จ้องมองเขา เตือนเขา อย่าง”มีน้ำใจ” เขาชะงักไปสองวินาที สีหน้าเปลี่ยนหลาย แบบ”ที่รัก อยู่ไหน” วินาทีต่อไป เขาโทรหาเวินลั่วฉิง “ได้ รอ ฉันสักครู่ ฉันจะไปที่ที่อยู่ทันที จะมีSurpriseให้นะ”ดี ดีจัง เขาอยากจะดูว่าเธอยังมีเรื่องอะไรที่ปิดบังเขาไว้ จะคิดบัญชี อย่างจริงจังแล้วนะ”นี่มันร้ายใจเกินไปมั่ง”เด็กสองคนนี้ตะลึง Surpriseนี่มันใหญ่จัง ดูเหมือนว่า คนนั้นจะซวยค่ะ! ! !

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท