ผู้ช่วยพิเศษเจียงนิ่งค้างไปเลย นี่มันอะไรกัน? ครึ่งชั่วโมงก็จบแล้วจริงๆหรอ? นี่? อีกอย่าง ผู้หญิงตรงหน้ามันอะไรกัน ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยเลยแม้แต่น้อย ผู้ช่วยพิเศษเจียงรู้สึกว่า ในใจของเขามีปีศาจน้อยอยู่ กำลังทำให้เขาคิดมาก
อันฉีมองคนตรงหน้าอย่างแปลกใจ สีหน้าของเขาบิดเบี้ยวมากขึ้นเรื่อยๆ อันฉีไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่กันแน่ เอื้อมมือออกไปโบกไปมาตรงหน้าเขา ผู้ช่วยพิเศษเจียง?
หา? ผู้ช่วยพิเศษเจียงได้สติ มองสำรวจอันฉีบนลงล่าง เหมือนกับตอนที่เข้าไปไม่แตกต่าง น่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าอย่างนั้นทำไมท่านประธานถึงบอกตัวเองอย่างจริงจังว่าให้ไปหาคนมา? ไม่น่าใช่ เขาถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ: คุณกับประธานอยู่ในห้อง…
ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น อันฉีรีบพูดขัดจังหวะเขาอย่างรวดเร็ว แต่ใบหน้าแดงก่ำ บอกไม่ถูกว่าเขินอายหรือว่าโกรธ ท่านประธานแค่พูดคุยกับฉันไม่กี่ประโยค ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น อันฉีพูดซ้ำอีกรอบ
พูดตามตรง ผู้ช่วยพิเศษเจียงไม่อยากจะเชื่อ แต่คนตรงหน้ายืนอยู่ตรงนี้ดีๆ เสื้อผ้าเรียบร้อย ไม่มีร่องรอยอะไรบนร่างกายเลย ดูไม่เหมือนเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ดังนั้น…ท่านประธานให้เขารีบหาผู้หญิงมาให้เร็วที่สุด เพื่อพูดคุยเฉยๆงั้นหรอ?
ท่านประธานพูดอะไรหรือเปล่า? ผู้ช่วยพิเศษเจียงถามด้วยความสงสัย จากสายตาของเขา อันฉีหน้าตาสวยมาก ใบหน้าที่บริสุทธิ์ รูปร่างเย้ายวน เป็นผู้ชายก็ไม่แน่ว่าจะสามารถควบคุมใจไว้ได้ ยิ่งกว่านั้น ท่านประธานยังดื่มเหล้าอีก? อยู่ในสภาวะไม่ปกติ
ท่านประธานบอกว่า จะให้เงินฉันสามแสน และให้ฉันติดตามคุณ อันฉีพูดอย่างจริงจัง คิดว่าคนคนนี้ต่อไปจะเป็นหัวหน้าของตัวเอง เธอจะต้องเรียนกับเขาไปตลอด ในใจก็อึดอัดใจเล็กน้อย ถึงอย่างไร เหตุผลที่พวกเขารู้จักกัน บอกไม่ได้จริงๆ
ตาม? ติดตามผม? ผู้ช่วยพิเศษเจียงรู้สึกว่าตัวเองถูกทุบจนมึนไปแล้ว หญิงสาวที่ส่งเข้าไป กลับมาอย่างสะอาด แล้วยังให้มาติดตามตัวเอง นี่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม? อีกอย่าง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแต่ให้เงินเธอสามแสน ท่านประธานเปลี่ยนมาเป็นบริษัทการกุศลแล้ว? หรือว่า ติดตามตัวเอง คือหมายความว่ายังไง? ผู้ช่วยพิเศษเจียงมองอันฉีอย่างลำบากใจ แม้ว่าเธอจะดูดี แต่ก็ไม่มีนิสัยชอบ ขาย ตัวนี่นา อีกอย่าง…นี่มัน รู้สึกไม่ค่อยถูกต้อง
ใช่ ท่านประธานบอกว่า ต่อไปนี้ให้ฉันติดตามคุณ อันฉีไม่สังเกตเห็นท่าทางอึดอัดของผู้ช่วยพิเศษเจียง พูดอย่างจริงจัง งานแบบนี้ ตั้งกี่คนที่หาไม่ได้ เธอติดตามผู้ช่วยพิเศษเจียงตรงๆ ประหยัดความพยายามไปตั้งกี่ปี อันฉีไม่กล้าคิดอย่างละเอียด ดังนั้นท่าทางตอนนี้เลยจริงจังเป็นพิเศษ
ผู้ช่วยพิเศษเจียงมองอันฉีอย่างยากลำบาก อย่าเลย! อย่าหมายความว่าอย่างนั้นเด็ดขาด ท่านประธานเป็นห่วงเขา เขารับน้ำใจไว้แล้ว ของขวัญ แบบนี้? เขารับไว้ไม่ได้จริงๆ
คุณอย่ามาตามผมเลยดีกว่า เงิน ผมจะจ่ายให้คุณ ผู้ช่วยพิเศษเจียงพูดอย่างลำบากใจ ถ้ามาติดตามเขา เขารู้สึกว่าตัวเองคงไม่สามารถอยู่อย่างสงบสุขได้ ในอนาคตเขายังอยากที่จะมีชีวิตยืนยาวกว่านี้หน่อย
อันฉีมองเขาอย่างแปลกใจ ทำไมถึงปฏิเสธล่ะ? แล้วยังมีท่าทางแบบนี้? ตามหลักแล้วผู้ช่วยพิเศษจะงานยุ่งมากนี่นา มีผู้ช่วยไม่ดีหรอ? ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นคนที่ท่านประธานระบุให้มา เขาปฏิเสธตรงๆแบบนี้จะดีหรอ?
ผู้ช่วยพิเศษเจียงเห็นว่าอันฉีไม่ได้คิดจะจากไปแต่อย่างใด กัดฟันและหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา โทรหาเบอร์ของซือถูมู่หรง: เจ้านาย ผมเห็นอันฉีออกมาแล้ว
ผู้ช่วยพิเศษเจียงไม่มีความกล้าที่จะบอกซือถูมู่หรงตรงๆจริงๆ อย่าให้อันฉีติดตามเขา ได้แค่ลองทดสอบดูก่อน ซือถูมู่หรงพูดต่อตามคำพูดของเขา อืม งั้นที่ผมพูดไปเมื่อกี้ คุณรู้แล้วใช่มั้ย? ให้เงินเธอก่อนสามแสน ติดตามคุณชั่วคราว
ซือถูมู่หรงพูดจบก็วางสายโทรศัพท์ ปล่อยให้ผู้ช่วยพิเศษเจียงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าตกตะลึง อะไรคือ ติดตามเขาชั่วคราว? หรือว่าท่านประธานหลังจากนี้กะว่าจะให้เธอไปติดตามคนอื่น? ผู้ช่วยพิเศษเจียงรู้สึกสับสนเล็กน้อย ท่านประธานของตัวเองไม่เคยเป็นคนแบบนี้ ทำไมจู่ๆถึงเปลี่ยนไป แต่ว่าคำพูดของท่านประธานเขาไม่สามารถปฏิเสธได้ งั้นก็หาวิธีทำให้ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าปฏิเสธละกัน
เขาเกลี้ยกล่อมอย่างสุภาพ: คุณต้องการเงินก็ได้รับแล้ว แก้ปัญหาเรื่องเร่งด่วนได้แล้ว เรื่องอื่นก็ไม่รีบร้อนแล้วสินะ?
อันฉีคิดว่าผู้ช่วยพิเศษเจียงกำลังปลอบใจเธอ รีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว ใช่ค่ะ มีเงินจำนวนนี้ แม่ของฉันจะต้องไม่เป็นไรแน่ ผู้ช่วยพิเศษเจียงวางใจเถอะ พรุ่งนี้ฉันก็จะมาติดตามคุณได้แล้ว จะปฏิบัติตัวอย่างดีแน่นอน
‘พี่สาว! ผมไม่ได้ให้คุณมาติดตามผม แต่บอกให้ไม่ต้องมาตามผมต่างหาก!’ ผู้ช่วยพิเศษเจียงคร่ำครวญในใจ แต่ว่า นี่จะให้เขาพูดว่ายังไงดีล่ะ? ถึงอย่างไรก็เป็นใบหน้าของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่สามารถพูดจาใจร้ายเกินไปได้
ที่จริงแล้วไม่รีบร้อนหรอก คุณแก้ปัญหาของตัวเองก่อนแล้วค่อยกลับมาก็ได้ อย่างเช่น หาแฟนแล้วอยู่ด้วยกันดีๆอะไรทำนองนั้น ผู้ช่วยพิเศษเจียงฝืนยิ้ม รีบเข้าเถอะ ถ้ามีแฟนแล้วก็จะไม่อยากจะมาตามเขาแล้วล่ะมั้ง! ยิ่งกว่านั้น การเป็นอิสระไม่ดีเหรอ?
ตอนนี้ฉันยังไม่ได้คิดจะหาแฟน ตอนนี้สิ่งเดียวที่ต้องการ ก็คือคุณแม่ปลอดภัยดี ท่านประธานบอกว่าเขาจะจัดการให้ ฉันจะล่าช้าไม่ได้ อันฉีคิด คิดไม่ถึงว่าท่านประธานจะดีขนาดนี้ ผู้ช่วยพิเศษข้างกายท่านประธานก็ดีมาก โชคดีเข้าแล้ว โชคดีเข้าแล้ว!
ผู้ช่วยพิเศษเจียงกำลังจะสติแตก คนคนนี้ดื้อด้านหรือไง? เขาต้องพูดให้ชัดเจนจริงๆเหรอ? เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง พูดอย่างเย็นชาว่า ผมมีแฟนแล้ว!
?? อันฉีไม่เข้าใจว่าทำไมจู่ๆถึงกระโดดมาที่หัวข้อนี้ได้ นี่มันเกี่ยวอะไรกับเธอล่ะ? เธอก็แค่ต้องการงานทำ ทำงานตามเขาดีๆก็แค่นั้น เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องส่วนตัวหรอ?
ผู้ช่วยพิเศษเจียงเห็นท่าทางสับสนมึนงงของอันฉี เข้มงวดกับเธอ พูดออกมาตรงๆว่า: ในเมื่อคุณได้รับเงินแล้ว จากไปเลยก็พอแล้วไม่ใช่หรอ? ทำไมต้องมาตามผมด้วยล่ะ? ผมไม่ได้ขาดแฟน
คำพูดนี้หมุนวนในสมองของอันฉีสองรอบก่อนถึงจะสงบลง หลังจากที่เธอมีปฏิกิริยาตอบสนอง เธอมองผู้ช่วยพิเศษเจียงอย่างโมโห ก็คิดว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษ ห่วงใยลูกน้อง คิดไม่ถึงว่าจะคิดแบบนี้ เธอกัดฟัน ฉันคิดว่า ผู้ช่วยพิเศษเจียงคงจะเข้าใจผิดแล้ว วันนี้ ประธานซือถูนอกจากจะให้เงินฉันสามแสนแล้ว ยังให้งานฉันอีก ให้ฉันมาติดตามเรียนรู้กับคุณชั่วคราว อันฉีเกือบจะโมโหจนระเบิด คนคนนี้คือยังไง ติดตามเขา คืออะไร? หมายความว่ายังไง? ที่แท้ในใจคิดยังไง ก็จะเข้าใจความหมายของคำพูดคนอื่นว่าอย่างนั้น
ผู้ช่วยพิเศษเจียงนิ่งค้างอยู่ที่เดิม อะไรนะ? ทำงาน? ติดตามเขา?
‘จบแล้ว! ‘ ผู้ช่วยพิเศษเจียงตะโกนในใจ เข้าใจเจ้านายผิดแล้ว ถ้าท่านประธานมอบงานให้อันฉี ก็แค่ติดตามเขาชั่วคราวไม่ใช่หรือไง! เขาทำไมถึงเข้าใจผิดได้มากขนาดนั้น! โชคดีที่เมื่อกี้ตอนโทรหาท่านประธานไม่ได้พูดอะไรมาก ไม่อย่างนั้น…
ผู้ช่วยพิเศษเจียงรู้สึกรอดชีวิต เขามองอันฉีก็สบายตามากขึ้นเยอะเลย แต่ว่าผู้หญิงตรงหน้ายังคงจ้องเขาอย่างโมโห ทำให้เขารู้สึกขอโทษ ผู้ช่วยพิเศษเจียงเป็นฝ่ายกล่าวขอโทษ: ขอโทษด้วย เป็นความผิดของผมเอง ผมไม่ควรคิดมากเกินไป หลังจากนี้ คุณมาติดตามผมทำงานละกัน พรุ่งนี้มาทำงานใช่ไหม?
ผู้ช่วยพิเศษเจียงพูด เสริมอีกประโยคว่า: เรื่องแม่ของคุณ ผมจะช่วยจัดการให้
อันฉีมองผู้ช่วยพิเศษเจียงอย่างโกรธเคือง คนคนนี้ มากเกินไปจริงๆ! แต่ว่า เนื่องจากคำขอโทษของผู้ช่วยพิเศษเจียง อันฉีก็ใจเย็นลง ตัวเองปรากฏตัวผิดเวลา คำพูด ก็ไม่ได้พูดให้ชัดเจน แต่ว่าเข้าใจผิดแบบนี้ ก็คือปัญหาของเขา!
อันฉีปล่อยเรื่องนี้ผ่านไปในใจ ถึงจะใจเย็นลง หวังว่าผู้ช่วยพิเศษเจียงต่อไปจะไม่คาดเดาคนอื่นแบบนี้อีกนะคะ เสียใจจริงๆ อันฉีคิดว่า แม้ว่าจะเตรียมใจอย่างดีมาก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนี้ได้ยินคำพูดแบบนี้ ก็ยังไม่สามารถยอมรับได้ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าเดินมาถึงจุดนั้นแล้วจริงๆล่ะ?
อันฉีแค่คิดแบบนี้ ก็ยิ่งหวงแหนโอกาสนี้มากขึ้นไปอีก ผู้ช่วยพิเศษเจียงทำเกินไปจริงๆ แต่ว่าเดินมาถึงตำแหน่งในวันนี้ได้ ความสามารถจะต้องมีแน่นอน ต่อจากนี้ จะต้องตั้งใจเรียนแน่นอน! อันฉีเตือนตัวเองในใจ
อืม ผู้ช่วยพิเศษเจียงตอบอย่างขอไปที มองอันฉี ผู้หญิงคนนี้ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ดีใช้ได้ เมื่อกี้โกรธแบบนั้น เพียงครู่เดียวก็ทำให้ตัวเองสงบลงแล้ว คนแบบนี้ คุณภาพจิตใจไม่เลว
พอเขายอมรับความจริงที่ว่าอันฉีเป็นลูกน้องของตัวเองแล้ว ผู้ช่วยพิเศษเจียงมองอันฉี แฝงการพิจารณาเล็กน้อย อยากเห็นว่าความสามารถของเธอเป็นอย่างไร สามารถทำได้ขนาดไหน ที่สำคัญกว่านั้นคือ คุ้มค่าให้เขาเสียเวลาปลูกฝังหรือไม่ ดีที่ ตอนนี้อันฉีไม่ได้ทำให้เขาผิดหวัง
ผู้ช่วยพิเศษเจียงอดคิดไม่ได้ว่า ท่านประธานเห็นอะไรในตัวอันฉี ถึงไม่ได้เกิดความสัมพันธ์กับเธอ ให้เธอมาเป็นผู้ช่วยของตัวเองแทน? แต่เพียงพริบตาก็ปฎิเสธ รอบกายท่านประธานไม่ขาดแคลนผู้หญิง สิ่งที่ท่านประธานอยากได้ แทบจะไม่มีที่ไม่ได้มา ยิ่งกว่านั้น ต่อให้มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ ให้อันฉีมาทำงานที่บริษัท ให้งานกับเธอ อันฉีก็ยังคงรู้สึกซาบซึ้งพระคุณ ไม่มีทางปฏิเสธแน่นอน ดังนั้น เรื่องนี้ อาจจะเป็นแค่ท่านประธานเกิดความคิดขึ้นมาอย่างกะทันหันก็เท่านั้น