มู่เฉิงรู้สึกว่า หลินจื่อมักจะยั่วยวนตัวเองตลอดเวลา ไม่ช้าก็เร็วตนเองจะต้องตกอยู่ในมือของเธอ
หลินจื่อขยับขึ้นไปอย่างไม่รู้ตัว จูบมู่เฉิงไปหนึ่งที สมองของมู่เฉิงระเบิดแตกทันที ในตอนที่หลินจื่อถอยออกไป ก็กดทับจูบลงไปเลย
หลังจากที่หลินจื่อตะลึงงันแล้ว ก็ปล่อยให้มู่เฉิงจูบ นี่คือคนที่เธอชอบเร็วที่สุด ทว่าไม่ได้เร่งรีบ พวกเขามีเวลาค่อยๆ ศึกษากันและกัน
มู่เฉิงจูบไปสักพัก พิงอยู่ตรงไหล่ของหลินจื่อ สงบสติอารมณ์ ตอนเช้าไม่ควรจะหวั่นไหวใจเร็ว เร็วเกินไปแล้ว ควบคุมตนเองไม่อยู่เลย
หลินจื่ออยู่นิ่งไม่ขยับอย่างเชื่อฟัง มู่เฉิงลุกขึ้น ทิ้งประโยคที่ว่าฉันไปห้องน้ำแล้วไว้ แล้วเดินจากไปเลย หลินจื่อยิ้มอ่อนอยู่ข้างหลัง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังจากนี้ทุกวัน นายเป็นของฉัน!
หลินจื่อชินกับการออกกำลังกายในตอนเช้า มู่เฉิงอาบน้ำเรียบร้อยแล้วเดินออกมา เห็นหลินจื่อแล้วเปลวไฟก็ลุกขึ้นทันที——ข้างหลังของหลินจื่อเปล่งประกาย ตามท่าทาง สามารถมองเห็นกระดูกไข ลงไปถึงเอว เอวบางผอม ไม่รู้ว่าทำไม มู่เฉิงรู้สึกว่าทุกจุดของหลินจื่อล้วนเพอร์เฟกต์มาก ทำให้คนมีความรู้สึกวู่วาม
ช่วงนี้ เธออยู่ในนี้ตลอด? ไม่ออกบ้านเลยเหรอ? มู่เฉิงสงสัยร่องรอยการเดินทางของหลินจื่อ ทำไมก่อนหน้านี้ตามหาเธอไม่เจอเลย ถึงแม้จะเป็นองค์กรโกสต์ซิตี้ ก็ไม่มีเบาะแสเลยแม้แต่น้อย หากไม่ใช่เพราะหลินจื่อปรากฏตัวในฉือเย่ฉางเอง เขาอาจจะยังคงตามหาเธอไม่เจอ ตอนนี้ มู่เฉิงรู้สึกเหมือนจะเอาหลินจื่อไม่อยู่ หากหลินจื่อหาตัวไปอีกครั้ง งั้น เขาจะตามหาเธออย่างไรล่ะ?
เปล่านิ ฉันจะไม่ออกบ้านเลยได้ยังไง? หลินจื่อไม่ชอบอยู่ในที่เดิมๆ อีกอย่างตอนนี้ทางฉือเย่ฉางก็จัดงานประมูล จิ่นฉือเย่และโม่ฉีก็อยู่ หนึ่งปีเจอกันไม่กี่ครั้ง ครั้งนี้จะต้องสังสรรค์กันหน่อยแล้ว
แล้วเธออยู่ที่ไหน? ทำไมคนขององค์กรโกสต์ซิตี้หาเธอไม่เจอเลย มู่เฉิงมีความสงสัยไม่เข้าใจ เขาไม่ได้ปิดบังเรื่องที่ตนเองตามหาเขา คิดอยู่ว่าไม่แน่อาจจะได้รับการปลอบใจจากเธอ
อ๋อ ฉันอยู่ที่ฉือเย่ฉาง พวกนายจะหาไม่เจอก็ปกติ หลินจื่อไม่หันมาเลย คนที่สามารถตามหาคนของฉือเย่ฉาง ไม่มีอยู่บนโลกนี้เลย หรือไม่ พวกเขายอมให้หาเจอเอง และความหมายในคำพูดของมู่เฉิง คือก่อนหน้านี้เขาตามมาตนเอง? ก็ใช่ หากมีแผนการตั้งแต่แรกแล้ว เมื่อคืนก็คงไม่ได้มาเชิญชวนเธออย่างคล่องแคล่วขนาดนั้น ยอมเอารถมาชนเลย
มู่เฉิงอึ้งไปเลย หลินจื่อกลับมีความเกี่ยวข้องกับฉือเย่ฉาง ฐานะตัวตนของคนคนนี้ มีเท่าไหร่กัน?
หลินจื่อขึ้นมาตบหน้าของมู่เฉิงเบาๆ คิดอะไรเนี่ย!ฉือเย่ฉางจะสามารถเกิดความเกี่ยวข้องด้วยได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ? เธอก็แค่สนิทกับจิ่นฉือเย่ เรื่องอื่น เธอไม่รู้เลยจริงๆ
ฉือเย่ฉางฉันก็ไม่ค่อยรู้จัก ก็แค่สนิทกับฉือเย่ เธอถือว่าเป็นน้องสะใภ้ของฉัน หลินจื่ออธิบาย พูดขึ้นแล้ว ฉือเย่ฉางเป็นคนหาเรื่องพวกเขาทั้งนั้น หากไม่ใช่เพราะฉือเย่ฉางไปขโมยของที่บ้าน墨 แล้วถูกจับได้ พวกเขาจะมีความเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร?
โม่ฉียัยซื่อบื้อนั้น ในตอนที่จับจิ่นฉือเย่ได้ยังไม่ได้สติกลับมา คิดว่าจิ่นฉือเย่คือคนงานธรรมดาคนหนึ่ง ปกป้องจิ่นฉือเย่ด้วย ทั้งสองก็เลยมีการติดต่อกัน
คิดแล้วก็โมโห จิ่นฉือเย่อยู่ที่บ้านโม่มานานหลายวันขนาดนั้น ก็ยังหาไม่เจอ จนกระทั่งโม่ฉีบอกว่าจะสู่ขอเธอ จิ่นฉือเย่จึงจะเผยฐานะตัวตน พูดอย่างถ่องแท้ก็คือ จิ่นฉือเย่บอกว่าตนเองคือจิ่นฉือเย่ ก่อนหน้านี้มาขโมยของที่บ้านโม่ ตอนนี้เธอเปลี่ยนใจแล้ว ไม่ขโมยของแล้ว เปลี่ยนเป็นขโมยคน ให้เอาโม่ฉีให้เธอ
ทุกครั้งที่หลินจื่อนึกถึงเรื่องนี้ก็จะรู้สึกไม่สบอารมณ์ต่อความไม่เอาถ่าน โม่ฉีใจกว้างแค่ไหนเนี่ย กล้าพาคนที่ตนเองชอบมายังตรงหน้าของคนในครอบครัวโดยไม่รู้จักเลยแม้แต่น้อย หากไม่ใช่เพราะจิ่นฉือเย่แค่อยากมาขโมยของ ไม่ได้ฆ่าคนทำเรื่องผิดกฎหมาย พวกเขาจะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นได้อย่างไร
นี่เรียกว่าไม่สนิทเหรอ! มู่เฉิงรู้สึกว่า หลินจื่อน่ามีความเข้าใจผิดกับคำว่าไม่สนิท คำว่าฉือเย่ในปากเธอ ก็น่าจะเป็นเจ้าของของฉือเย่ฉางสินะ? เธอสนิทกับเจ้าของแล้ว อย่างอื่นยังต้องสนใจอีกเหรอ
งั้นช่วงนี้ เธออยู่แต่ในฉือเย่ฉางมาโดยตลอด? มู่เฉิงตัดสินใจจะไม่สนใจปัญหาที่ว่าสนิทหรือไม่สนิท เธอบอกว่าไม่สนิทก็คือไม่สนิท แต่ว่า เขาอยากจะลองเข้าไปดูในฉือเย่ฉางมาก ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสหรือเปล่า
ใช่แล้ว นายจะไปไหม? วันนี้ฉันนัดกับฉือเย่ไว้ ไปเดินตลาดกัน พึ่งเงินก้อนใหญ่มาจากจิ่นฉือเย่ น่าจะไปใช้หน่อย และวันนี้ตัวเองก็น่าจะไม่ต้องใช้เงินของตัวเอง ใครให้จิ่นฉือเย่รู้สึกผิดล่ะ?
ไป! มู่เฉิงตอบกลับอย่างเด็ดขาด สามารถไปเยี่ยมฉือเย่ที่ร่ำลือกันมา เขาดีใจมาก
ฉือเย่ฉางและองค์กรโกสต์ซิตี้เทียบกันไม่ได้ ทว่าองค์กรที่ลึกลับนี้ องค์กรที่แม้กระทั่งองค์กรโกสต์ซิตี้ก็ไม่สามารถขับหางได้ง่ายๆ ลองไปพบดู จะไม่ยินดีได้อย่างไร?
โอเค เตรียมตัวและออกเดินทางกัน หลินจื่อพูด วันนี้ตื่นสายมากแล้ว โทรศัพท์เสร็จก็สามารถออกไปได้แล้ว
สถานที่นัดกับจิ่นฉือเย่ไว้ คือร้านอาหารธรรมดา ดังนั้นเสื้อผ้าที่หลินจื่อใส่จึงสบายๆ เป็นชุดกระโปรงสีฟ้า รองเท้าส้นสูงสีขาว เทียบกับมู่เฉิงที่สวมชุดสูททั้งคัวแล้ว มู่เฉิงสวมชุดอย่างทางการเงินไป
มู่เฉิงมองเสื้อบนตัวเขา แล้วมองหลินจื่อ ความแตกต่างนี้ อย่ามากเกินไป เขามองหลินจื่ออย่างไม่พอใจ
หลินจื่อจนปัญญา ที่นี่เธอไม่มีชุดอื่นแล้ว ออกบ้านแบบนี้ เหมือนจะไม่ค่อยเหมาะสม
นายรอแปป! หลินจื่อพูดพลางวิ่งออกไป ซื้อเสื้อชุดหนึ่งกลับมา ข้างบนมีเสื้อเชิ้ตสีดำธรรมดา ข้างล่างมีกางเกงยีน คู่กับรองเท้าออกกำลังกาย
หลินจื่อเป็นดีไซเนอร์เสื้อผ้าอยู่แล้ว แวบเดียวก็สามารถมองออกว่าผู้อื่นใส่ไซซ์อะไร เสื้อผ้าที่ซื้อให้มู่เฉิง ก็เหมาะตัวพอดีมาก
มู่เฉิงเปลี่ยนแล้วรู้ดีพอใจไม่น้อย อยู่กับหลินจื่อ อย่างน้อยก็ไม่ผิดปกติ
ตอนที่ไปถึง จิ่นฉือเย่และโม่ฉีรออยู่แล้ว จิ่นฉือเย่สวมชุดกระโปรงสีเขียวอ่อน รองเท้าส้นสูงสีเบจ หากไม่ใช่เพราะหน้าตาโดดเด่นเกินไป ยืนอยู่ในท่ามกลางผู้คนมองไม่ออกเลย โม่ฉีโดดเด่นกว่าเธอไม่น้อย นี่น่าจะเป็นจุดที่พิเศษของฉือเย่ฉางสินะ หากพวกเขาไม่อยากเปิดเผยตัวเอง งั้นยืนอยู่ในกลุ่มผู้คน ก็เป็นเหมือนแค่สมาชิกหนึ่งในนั้น มองไม่ออกถึงความพิเศษเลย
โม่ฉี ฉือเย่ หลินจื่อควงแขนมู่เฉิงแล้วเดินไป มองดูจิ่นฉือเย่ที่สวมแว่นดำใหญ่ ริมฝีปากที่ดูถูก จริงๆ แล้ว โอเวอร์!
เฮอะ กระโปรงวันนี้ของเธอ ธรรมดาเกินไปแล้ว จิ่นฉือเย่ดึงแว่นดำลง เห็นมู่เฉิงที่อยู่ข้างๆ รู้สึกตะลึงมาก
คนนี้?
แฟนฉัน
ไม่ใช่! จิ่นฉือเย่กัดฟัน เธอไม่ได้จะถามคำถามนี้ นี่ไม่ใช่หัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้เหรอ? เมื่อคืนนั่งอยู่ตรงกลาง ทำให้คนอยากละเลยก็ละเลยไม่ได้
ทำไมถึงไม่ใช่แฟนของฉัน? หลินจื่อตั้งใจเข้าใจความหมายของจิ่นฉือเย่ผิด มู่เฉิงเองก็ให้ความร่วมมือมาก โอบกอดเอวของเธอโดยตรง
พี่ อย่ามารังแกฉือเย่บ้านผม! โม่ฉี จนปัญญา รู้อยู่แท้ๆ ว่าจิ่นฉือเย่จะถามอะไร หลินจื่อก็ยังพูดแบบนี้ ไม่กลัวคนข้างๆ โมโหเหรอ?
ใช่หัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้หรือเปล่า? จิ่นฉือเย่เหลือกตาขาวใส่หลินจื่อ ไม่มีเรื่องหาเรื่อง คิดว่าเธอจะสนใจนางจริงๆ เหรอ? วันนี้พาเธอมาที่นี่ ก็แค่ไม่อยากใช่เงิน อย่าคิดจะโกงเธอ! ตอนนี้ ชัดเจนเลยว่ามีคนที่น่าโกงกว่า หัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ มหาเศรษฐีร่ำรวยมากๆ!
ใช่แล้ว มู่เฉิง! หลินจื่อพูดอย่างโอ้อวด ใครให้พวกนายมาสวีทกันต่อหน้าฉันวันก่อน ตอนนี้ยังจะสวีทอยู่ไหม?
อย่าบอกนะว่าเธอถูกกระตุ้นจากฉัน? สองวันก่อนบอกว่าเธอโสดไม่มีคู่ ตอนนี้ก็มีแฟนแล้ว แน่ใจว่าไม่ได้มาแก้แค้นเหรอ? จิ่นฉือเย่รู้สึกว่า หลินจื่อในตอนนี้ค่อนข้างเกรี้ยวกราด แต่ว่าเธอสงสัยมา หลินจื่อและมู่เฉิงอยู่ด้วยกันได้อย่างไร? อีกอย่างทั้งสอง น่าจะพึ่งรู้จักกันมั้ง? ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย เมื่อวานก่อนหลินจื่อยังโสด วันนี้? เมื่อวานเกิดอะไรขึ้น!จิ่นฉือเย่รู้สึกว่าความอยากเสือกของตนเองกำลังลุกเป็นไฟ แต่ว่าหัวหน้าน้อยขององค์กรโกสต์ซิตี้ เธอไม่ได้กล้ายั่วยุมาก ได้แต่จ้องหลินจื่อ
แก้แค้นไง ไม่เช่นนั้นฉันจะจีบแฟนคนหนึ่งได้เร็วขนาดนี้ได้ไงล่ะ? หลินจื่อไม่ใส่ใจคำพูดของจิ่นฉือเย่ ในตอนที่เธอโสด จิ่นฉือเย่ก็ไม่ได้สร้างความกระตุ้นอะไรกับเธอ แต่ว่าแค่ให้หน้าเธอกับโม่ฉีเท่านั้นเอง สำหรับเธอแล้ว ความสามารถมีหรือไม่มีก็ได้ หากไม่ใช่เพราะใบหน้าของมู่เฉิง เธอชอบมากเกินไป จะเสียเวลาไปคบกับมู่เฉิงเหรอ?
พี่ ฉันขอถามอะไรหน่อย พี่อย่าโกรธนะ! นัยน์ตาของโม่ฉีมองสลับหลินจื่อและมู่เฉิงไปมา เขารู้จักพี่สาวของตนเองดี หากอยากจะหาแฟนคนหนึ่ง ก็หาตั้งนานแล้ว ข้างกายก็ไม่ขาดแคลนแฟน ทำไมถึงได้คบกับมู่เฉิง
ถามมา หลินจื่อพูดตรงๆ รู้สึกว่าคำพูดที่ออกจากปากของโม่ฉีจะไม่ใช่คำพูดดีๆ อะไร