God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ! – ตอนที่ 1110

ตอนที่ 1110

ตอนที่ 1110

“เถ้าแก่ บทเพลงเปียโนทั้งสามนี้มีเรื่องราวเบื้องหลังหรือไม่?” เหยาซือหยานเอ่ยถามหลังเห็นว่าหลิวลู่อวี่กลับไปแล้ว

นางจดจำได้ดี ว่าบทเพลงก่อนหน้านี้ต่างมีเนื้อเรื่องอันพิเศษของพวกมันเอง และบทเพลงจันทราเจิดจรัส มันยิ่งมีภาพอันงดงามชวนให้เฝ้าฝันถึง

“มี” ลั่วฉวนอื่มโคล่าพลางตอบ “ทั้งสามเลย”

เหยาซือหยานกระพริบตามองลั่วฉวนด้วยความคาดหวัง

“เรื่องราวค่อนข้างยาว เอาไว้พูดกล่าวกันคืนนี้ก็แล้วกัน” ลั่วฉวนคิดไปครู่ก่อนจะกล่าวตอบ

“ทราบแล้ว” เหยาซือหยานพยักหน้ารับพร้อมเกิดคาดหวัง

ช่วงเวลาทำการที่เหลือของร้านไม่มีอะไรควรค่าให้กล่าวถึง และลั่วฉวนก็รับชมการถ่ายทอดสดไปเรื่อย

ที่รับชมตอนนี้ คือชายหนุ่มพบเจอสัตว์ตัวน้อยที่ซ่อนตัวอย่างซุกซนไปทั่ว ลั่วฉวนทานแท่งเครื่องเทศกับโคล่าไปพลางอย่างเอร็ดอร่อย

อัตราส่วนสินค้าที่เป็นเครื่องดื่มในร้านต้นตำรับตอนนี้ออกจะมีมากเกินไปแล้ว สินค้าใหม่ควรต้องเป็นขนม…

…..

กลิ่นย่างควันลอยฟุ้งในอากาศ สายลมเย็นเยือกหวีดหวิวพัดผ่าน เสียงประท้วงร้องดังจากทั้งร่าง

ต้องจบแค่นี้หรือ? ไม่ได้! ยังไม่ได้!

แสงสีฟ้าครามปรากฏจากในมือสหายร่วมทีมใกล้เคียง ร่างนั้นถูกแสงปกคลุมในพริบตา พลังฟื้นกลับคืนอีกครั้ง

เสียงดังกึกก้อง ร่างที่หลบเลี่ยงไปมา ลูกไฟที่แหวกผ่านป่าปะทะจากทางด้านหลัง เมื่อเสียงระเบิดดังปรากฏขึ้น ร่างในชุดเขียวทะยานไปมาหลบเลี่ยงอย่างปราดเปรียว

เมื่อผ่านแนวกีดขวางของศัตรูมาได้ นั่นคือการเข้าถึงตำแหน่งเป้าหมาย ถุงมือของเขาเผยประกายแสงเจิดจ้าส่องสว่าง มันสะท้อนผ่านนัยน์ตา จากนั้นจึงปะทะเข้ากับคริสตัลที่ฐาน

กึก–

เสียงแตกร้าวดังปรากฏ คริสตัลฐานกระจ่างใสเมื่อถูกถุงมือสัมผัส มันกระจายหายอย่างรวดเร็ว ชิ้นส่วนละอองที่แตกสลายของมันลอยฟุ้งฟากฟ้าส่องสว่างและเลือนหายไปในพริบตา

กาลเวลาและห้วงมิติหยุดนิ่ง ระยะห่างระหว่างหนามที่พุ่งทะยานหาเขากับหมอกสีดำอยู่ห่างเพียงหลักสิบเซนติเมตร ภายใต้กฎบังคับใช้ พวกมันหยุดนิ่งค้างกลางอากาศ

เสียงแจ้งเตือนดังปรากฏ ป้ายประกาศเผยตรงหน้า ซือเสวียนอดไม่ได้ที่จะเผยยิ้ม

“น่ารื่นรมย์เสียจริง” ซือเสวียนถอนหายใจเมื่อกลับคืนสู่โลกความเป็นจริง ตอนนี้เขาได้ยินเสียงบ่นโอดครวญของสมาชิกที่เหลือจากตำหนักจักรกลสวรรค์

หลังใช้เวลายาวนานที่โบราณสถาน จิตวิญญาณของพวกเขาราวกับโดนผลกระทบเล่นงาน หลังได้ผ่านศึกในกลอรี่เติมเต็มความกระชุ่มกระชวย พวกเขาค่อยผ่อนคลายกันได้มาก

พวกเขายังได้เห็น ว่าเหวินเทียนจียังคงพิจารณาดอกครามเยือกแข็งที่ตำแหน่งเดิมไม่ไปไหน พวกเขาต่างอดไม่ได้ที่จะมองไป เพราะพวกเขาคิดอยากทราบว่ามันมีอะไรแตกซับซ้อนให้รับชม แต่น่าเสียดายที่พวกเขาไม่อาจได้เห็น

“เวลาทำการของร้านใกล้หมดแล้วกระมัง?” เหวินเทียนจีตระหนักถึงสายตาผู้อื่น ตอนนี้เขาเก็บหินผลึกบันทึกพร้อมหันมากล่าวถาม

“อีกไม่ช้าขอรับ” คนหนึ่งตอบคำขึ้น

“เวลาผ่านไปเร็วเสมอ” เหวินเทียนจีถอนหายใจก่อนจะเก็บเก้าอี้ “ไปกัน กลับตำหนักจักรกลสวรรค์ ไปรับชมว่าชิ้นส่วนที่พวกเจ้าได้มามีอะไรบ้าง”

“เวลาผ่านไปเร็วเสียจริง” อานเหวยหยาเดินไปหยุดตรงหน้าโต๊ะกลางพลางบ่น ฟ้าด้านนอกเริ่มหม่นแสงแล้ว ทว่าฟันที่นางเผยยิ้มยิงออกมากลับขาวเจิดจ้า

“ก็เร็วเช่นนี้” คำของลั่วฉวนราบเรียบไร้ความรู้สึกตอบรับ เขายังคงนั่งบนเก้าอี้พลางรับชมโทรศัพท์วิเศษ นิยายของแอพนักอ่านในช่วงนี้ค่อนข้างน่าสนใจติดตาม

“เถ้าแก่ ท่าทีของท่านไม่คล้ายใช่การรำพึงรำพันเลยนะ” อานเหวยหยาอดไม่ได้ที่จะทักท้วงออกมา “ไปกัน หากไปช้าร้านหยวนก่วยได้โต๊ะเต็มแน่ ทั้งร้านมีสี่โต๊ะ ข้าคิดว่าเถ้าแก่หยวนน่าจะเรียนรู้จากร้านต้นตำรับบ้าง สี่โต๊ะนี้น้อยเกินไปแล้ว”

“ร้านน้อยหยวนก่วยเปิดเพราะอยากเปิด หากมีมากกว่านี้ข้าเกรงว่าจะกลายเป็นร้านจริงจังแล้ว” เหยาซือหยานยิ้มตอบ

“อืม… นั่นก็จริง” อานเหวยหยาคิดตามก่อนจะพยักหน้ารับเห็นพ้อง จากนั้นจึงเดินกลับจากร้านต้นตำรับไปพร้อมปิงชวง

สิ้นสุดเวลาทำการของร้าน ลูกค้าเริ่มทยอยเดินทางกลับ ทั้งร้านกลายเป็นเงียบงัน

หลังรับชมโทรศัพท์วิเศษอยู่พักหนึ่ง ลั่วฉวนไปช่วยเหยาซือหยานนำสำรับอาหารเย็นลงมา มันคงยังมีมากมายเช่นเคย หลากสีสัน หลากกลิ่นหอม และหลากรสชาติ

“เถ้าแก่ ท่านบอกว่าจะเล่าเรื่องราวของบทเพลงให้ฟังใช่หรือไม่?” พบเห็นลั่วฉวนกำลังอิ่มเอมกับมื้ออาหาร เหยาซือหยานที่ทนไม่ไหวแล้วจึงกล่าวถามขึ้นมา

เรื่องราว? บอกกล่าวตามตรง หยากไม่ใช่เพราะเหยาซือหยานย้ำบอก ลั่วฉวนก็ลืมไปหมดสิ้นแล้ว หากไม่ใช่เพราะมีอาหารเต็มปากคงเผยอาการประหลาดใจแล้วเป็นแน่

“เรื่องราวทั้งสาม เอาเป็นเรื่องดวงตาสีชาดก่อนก็แล้วกัน” ลั่วฉวนนึกย้อนไปครู่ “สีม่วง” เขาต้องนึกย้อนนาน “พันธสัญญาทศวรรษ” ออกจะยาวเกินไป ดังนั้น “ดวงตาสีชาด” คือตัวเลือกที่เหมาะสม

หลังนึกโครงเรื่องและเรียบเรียงภาษาอยู่ครู่หนึ่ง ลั่วฉวนค่อยบอกเล่า เหยาซือหยานรับฟังอย่างเงียบงัน

ผ่านไปไม่กี่คำ โลกอันแปลกประหลาดได้ปรากฏตรงหน้าของนาง เป็นยุคแห่งการล่าอาณานิคม การปฏิวัติเกิดขึ้นหลากหลายครั้งครา ชนชั้นสูงที่โรยรา…

เหยาซือหยานรับฟังเรื่องราวไปพลางทานอาหาร ทว่านางกลับเกิดรู้สึกว่าผิดคาดตอนได้ยินว่าหนึ่งในกลุ่มตัวละครหลักเสียชีวิต “เถ้าแก่ ตอนจบนี้เศร้าไปหรือไม่?”

“ความเปลี่ยนแปลงจากยุคเก่าสู่ยุคใหม่ บ่อยครั้งต้องมาพร้อมเลือดนับไม่ถ้วนที่เจิ่งนอง” ลั่วฉวนที่เคี้ยวอาหาร กลืน และกล่าวต่อ “เรื่องราวเหล่านี้มีพื้นฐานและอ้างอิงจากความเป็นจริง เพราะอย่างนั้นหากรอดพ้นทุกชีวิต มันก็จะกลายเป็นเรื่องหลอกลวงแล้ว”

“นั่น… ก็จริง” เหยาซือหยานไม่อาจทักท้วงคำของลั่วฉวน “เถ้าแก่เชิญเล่าต่อแล้ว”

……

มื้อเย็นวันนี้ใช้เวลายาวนานกว่าปกติ สาเหตุหลักก็เพราะเรื่องราวที่ลั่วฉวนบอกเล่า อารมณ์ของเหยาซือหยานดิ่งลงไปพักหนึ่งหลังรับฟัง นางต้องใช้เวลาเพื่อปรับสภาพอารมณ์

ลั่วฉวนรู้สึกค่อนข้างเหนื่อยแล้ว วันนี้ไม่คิดไปเก๋อหลัว เพียงแต่นำโทรศัพท์วิเศษออกมานั่งเล่นอ่านนิยายฆ่าเวลา

“เถ้าแก่ไม่ใช้เครื่องเล่นเกมเสมือนจริงหรือ?” เหยาซือหยานที่กลับลงมาจากชั้นสองเห็นลั่วฉวนนั่งกึ่งนอนจึงถาม

“ไม่แล้ว วันนี้พัก” ลั่วฉวนกล่าวตอบ

“พัก?” เหยาซือหยานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเบายามได้ยิน แต่สุดท้ายนางก็เผยยิ้ม “แล้วคิเมร่าที่ร้านกาแฟทำยังไงดี?”

นางยังคงห่วงสัตว์เลี้ยงตัวน้อยที่รับมาเลี้ยง

“ไม่มีอะไรต้องห่วงไป” ลั่วฉวนโบกมือตอบ เพราะด้านการดำรงชีพ ระบบถือว่าน่าเชื่อถือ

“วิเศษแล้ว” เหยาซือหยานพยักหน้ารับ นำเอาโทรศัพท์วิเศษออกมา นั่งลง และจึงเริ่มนึกเนื้อหาที่ต้องการเขียน

ณ ร้านกาแฟที่เซ็นน่า คิเมร่ากำลังนอนเบื่อหน่ายกับพื้นไม้ ท่าทีประหนึ่งกำลังนอนหลับ

จานน้อยตอนนี้ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันและเคลื่อนตัวมา ดวงตาของมันลืมตื่นขึ้น แสงขาวปรากฏ อาหารพลันปรากฏบนจานจากความว่างเปล่า

แรกเริ่มมันเดินเข้าไปจับจ้องพิจารณา พบว่าไม่น่ามีอันตรายใด ทั้งยังกลิ่นดี มันยืนยันก่อนกินว่าเป็นอาหาร

แม้ไม่ทราบว่าเหตุใดอาหารปรากฏจากความว่างเปล่า แต่ของอร่อยมีให้กินตรงหน้าก็พอแล้ว

God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ!

God-level Store Manager เถ้าแก่ขั้นเทพ!

Status: Ongoing

ร้านต้นตำรับ มันคือชื่อร้านของวิเศษแห่งหนึ่งในทวีปเทียนหลัน

โคล่าที่ร้านนี้ขายพร้อมจะทำให้พลังชีวิตของผู้คนเต็มเปี่ยมในพริบตา

เครื่องเทศอัดแท่งนั้นสามารถเสริมกำลังแก่ผู้คนยามต่อสู้

เกมของที่ร้านยังเพิ่มพูนการฝึกฝนของผู้คน นวนิยายที่ร้านมีขายให้อ่านยังส่งเสริมให้ผู้คนเข้าใจวิทยายุทธ์…

ร้านค้าวิเศษแห่งนี้มีสินค้านับไม่ถ้วน ไม่ว่าใช้สำหรับพักผ่อน บันเทิง เป็นอาหาร หรือเพื่อฝึกฝนล้วนมีครบครัน

ทว่าเรื่องหนึ่งที่ต้องจำไว้ให้ขึ้นใจ คืออย่าได้สร้างปัญหาที่ร้านแห่งนี้

เพราะเถ้าแก่ร้านนั้นแข็งแกร่งขั้นเทพ…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท