ตอนที่ 1097
ลั่วฉวนที่กำลังทานกุ้งเผาเวอร์ชั่นต่างโลก ตอนนี้เขาหันสายตามองทางผู้จัดการร้านที่เดินเข้ามาเพื่อคิดพูดคุย
จากคำกล่าวและท่าที ลั่วฉวนพอคาดเดาได้ว่าคำถัดมาจะเป็นอะไร นั่นก็เพราะฝีมือการทำอาหารของเหยาซือหยานมันแทบก้าวถึงระดับท้าทายสวรรค์จนพวกเขาคิดอยากจ้างงานด้วยมูลค่าอันสูงลิบ
อย่างไรแล้วลั่วฉวนก็เคยได้เห็นใบประกาศรับสมัครพนักงานของทางร้านผ่านทางหนังสือพิมพ์ในช่วงเช้า
“พูดกล่าวตามสะดวก” ลั่วฉวนดื่มเครื่องดื่มที่รสชาติคล้ายน้ำส้มลงไป
แม้ในใจพอคาดเดาได้แล้ว รวมเข้ากับท่าทีของอีกฝ่ายไม่ใช่แย่อะไร ดังนั้นก่อนปฏิเสธก็ควรรับฟังให้เรียบร้อยเสียก่อน
อีกฝ่ายเผยยิ้ม เขาได้เห็นแล้วว่าคนตัดสินใจคือลั่วฉวน “ข้าคิดอยากเพิ่มบริการปิ้งย่างด้วยตนเองที่ภัตตาคารชายหาดศิลาทมิฬ ทั้งสองท่านพอจะมีความเห็นใดหรือไม่?”
หือ? เหมือนที่คาดเดาไว้จะผิดไปเล็กน้อย แต่พอคิดให้ดี ลั่วฉวนก็ค่อยเข้าใจ เพราะทั้งเขาและเหยาซือหยานต่างก็มีรูปลักษณ์เหมือนดังชนชั้นสูงของที่นี่ เช่นนั้นมีหรือจะยอมเป็นคนครัวให้? อีกฝ่ายก็ตระหนักทราบเรื่องนี้ดี
แต่ทางร้านคิดทำอะไรเหตุใดต้องสอบถามความเห็นเขากับเหยาซือหยาน? หรือเซ็นน่ามีกฎหมายควบคุมเรื่องแนวคิดการทำกิจการอย่างเข้มงวด? หากมีแนวคิดต้นแบบและต้องการนำมาปรับใช้ก็ต้องปรึกษาผู้ที่เกิดแนวคิดคนแรกก่อนงั้นหรือ?
“ความเห็นของข้า?” ลั่วฉวนวางแก้วน้ำลงก่อนจะเผยน้ำเสียงสงสัย
“อย่างไรแล้วก็เป็นท่านทั้งสองแนะนำแนวทางนี้ขึ้นมา ทางเราจึงต้องอการสอบถามก่อน” อีกฝ่ายเผยยิ้มแย้ม เหมือนว่าจะไม่ใช่ปัญหาเรื่องการนำแนวคิดไปใช้ แต่ต้องการคำแนะนำ
ลั่วฉวนครุ่นคิดไปครู่ก่อนจะเริ่มกล่าวถึงแนวคิดเรื่องโรงอาหารบริการตนเอง อีกฝ่ายพยักหน้ารับครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมเผยสีหน้าตื้นตัน
“สุดท้ายแล้วกระผมขอสอบถาม ท่านไปเรียนรู้ทักษะการปิ้งย่างมาจากที่ใดกัน?” ก่อนจะเดินกลับ อีกฝ่ายหันไปถามเหยาซือหยานถึงคำถามที่ค้างคาใจที่สุด
“เรื่องนั้น…” เหยาซือหยานนึกถึงหลักสูตรสอนทำอาหารของเครื่องเล่นเกมเสมือนจริง ทว่าเรื่องราวไม่อาจกล่าว “เรียนรู้มาจากคนรับใช้ที่บ้านน่ะ”
อีกฝ่ายพยักหน้าตอบก่อนจะถอนหายใจ ราวกับเขาเหม่อไปครู่หนึ่งก่อนจะโค้งกายและเดินกลับไป และก่อนกลับเขายังฝากนามบัตรไว้ “ขอรบกวน หากท่านทั้งสองแวะเวียนมาใช้บริการครั้งหน้า ทางเรายินดีมอบส่วนลดให้ครึ่งหนึ่ง”
สิ่งนี้คือนามบัตร เหมือนว่าอารยธรรมของที่นี่จะรุ่งเรืองไม่น้อย เหล่านี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงพื้นฐานที่ดี
ลั่วฉวนรับนามบัตรเอาไว้ก่อนจะอ่าน เนื้อหาเรียบง่าย ชื่อภัตตาคารชายหาดศิลาทมิฬ ที่อยู่ และชื่อที่น่าจะเป็นของเจ้าตัว เอวาน เลโอนาร์ด
เหยาซือหยานรับชมด้วยความสงสัยเช่นกัน ถัดจากนั้นลั่วฉวนจึงเก็บนามบัตรใส่กระเป๋าเสื้อ ไม่ใช่เรื่องราวสำคัญอะไร ภายหน้าหากมีโอกาสย่อมแวะเวียนมาใหม่ แต่ไม่ทราบเลยว่าตอนนั้นร้านจะพัฒนาไปในทิศทางใดบ้างแล้ว
พิจารณาจากท่าทีอีกฝ่ายขณะกลับไป ลั่วฉวนรู้สึกได้ว่าภัตตาคารพรุ่งนี้อาจมีการปิดปรับปรุงเปลี่ยนเปลี่ยนแนวทางทำธุรกิจกันยกใหญ่เป็นแน่
เปิดร้านในสถานที่แทบติดชายหาด ทำการลงโฆษณาร้านในหนังสือพิมพ์เซ็นน่ารายวัน รวมถึงมีอักขระเวทมนตร์ใช้งานกับเครื่องครัว เหล่านี้แสดงให้เห็นแล้วว่าเอวานไม่ใช่คนธรรมดา
จากการสำรวจเฝ้ามองของลั่วฉวน ประชาชนคนธรรมดาถือเป็นสัดส่วนใหญ่ของประชากรเซ็นน่า ขณะที่เหล่าผู้มีอำนาจสมควรมีน้อยนิด และพวกเขาน่าจะมีการลงทะเบียนเพื่อบันทึกตัวตนกันเสียด้วย
การลงทะเบียนบันทึกตัวตนคนส่วนน้อย มีไว้เพื่อบ่งบอกถึงสถานะของพวกเขา แต่แม้กระนั้นข้อมูลงที่ลงทะเบียนไว้ก็คงคลุมเครือ เพราะคงไม่มีใครรักชอบที่จะแถลงความจริงเปิดโอกาสให้ผู้อื่นนำมาใช้งานเป็นแน่
ครั้งแรกที่ได้ทราบเรื่องนี้ ลั่วฉวนต้องประหลาดใจไปครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็เข้าใจได้ เพราะสไตล์ของเซ็นน่า มันคล้ายกับสหราชอาณาจักรที่สมควรมีราชวงศ์ปกครอง
ด้วยเพราะเป็นบ้านเมืองที่เวทมนตร์มีบทบาท ทางการจึงต้องมีอำนาจบาตใหญ่ในการควบคุม หากมีผู้เก่งกาจจากภายนอกเข้ามาก่อสร้างความวุ่นวายและไม่มีใครที่สามารถลงมือจัดการได้ เช่นนั้นจะกลายเป็นปัญหาภายในเมือง
โลกแห่งนี้คือโลกแห่งเวทมนตร์ ความสามารถทางการต่อสู้ของผู้คนจะไม่ได้อุกอาจเหมือนเช่นผู้ฝึกตนของทวีปเทียนหลัน พวกเขาแทบไม่มีทางฉีกมิติเปิดเส้นทางหนีได้
แน่นอนว่าอย่างไรแล้วพื้นฐานของทั้งสองพลังก็แตกต่างกัน ดังนั้นจะใช้มาตรฐานเดียวกันตัดสินไม่ได้ ยกตัวอย่างผู้ซึ่งเพิ่งฝึกฝนเวทมนตร์ก็สามารถเรียกลูกไฟบนฝ่ามือได้แล้ว ขณะที่หากเป็นผู้ฝึกตน คิดนำพลังวิญญาณออกมาจากร่างกายได้ก็ต้องเป็นขอบเขตโชคชะตา
“อิ่มแล้ว” เหยาซือหยานดื่มน้ำผลไม้ในแก้วไปพลางเผยความอิ่มเอม นางตอนนี้คล้ายนึกอะไรขึ้นได้จึงถาม “เถ้าแก่ พวกเรามาที่โลกนี้ผ่านทางเครื่องเล่นเกมเสมือนจริง แต่ทำไมถึงต้องกินเพื่อให้อิ่มท้องด้วยกัน?”
“โลกก็คือข้อมูล ตราบเท่าที่มีค่าของข้อมูลที่แปรเปลี่ยนไปมาได้ เช่นนั้นความหิวและความอิ่มก็เป็นเช่นเดียวกัน” ลั่วฉวนกล่าวสิ่งที่ระบบเคยบอกให้ทราบ “เครื่องเล่นเกมเสมือนจริงจะทำหน้าที่คัดลอกร่างกายจากโลกนั้นมายังโลกนี้ แต่ค่าบางส่วนจะแปรเปลี่ยนไปตามแต่ละโลก ดังนั้นพลังวิญญาณจึงหายไปไม่อาจใช้งานที่นี่ได้”
“พอเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว” เหยาซือหยานพยักหน้ารับ วันนี้นางได้รับความรู้ใหม่ แม้ว่าจะยากทำความเข้าใจก็ตามที
แถวทางหน้าร้านยังค่อนข้างยาว บรรยากาศกำลังครื้นเครง เพราะหลายครั้งจะมีคิดเข้าไปเปิดประสบการณ์ปิ้งย่างด้วยตนเอง แต่สุดท้ายจบลงด้วยความล้มเหลว ดังนั้นเสียงหัวเราะจึงดังปรากฏเป็นครั้งคราว
หากเทียบกับตอนก่อนที่ลั่วฉวนและเหยาซือหยานจะมาถึง มันได้เกิดความเปลี่ยนแปลงขึ้นครั้งใหญ่แล้ว การยอมให้ผู้มาทานอาหารได้ลองทำเองเกิดได้รับความนิยม โดยเอวานและบริกรของร้านจะคอยดูความเรียบร้อยอีกทีหนึ่ง
“ได้เวลาไปกันแล้ว” ลั่วฉวนเช็ดคราบมันที่ปาก อาหารทะเลเสียบไม้ย่างถูกกินจนหมดแล้ว หากจะมีเหลือก็คงเป็นไม้เสียบและเปลือกหอย
ลั่วฉวนกับเหยาซือหยานเดินจากมาอย่างเงียบงัน อย่างไรทั้งสองก็แค่ลูกค้าที่แวะเวียนผ่านทางมา แม้เมื่อครู่ได้รับความสนใจ แต่พริบตาเดียวคนก็ลืมเลือนกันแล้ว
ตอนนี้ยังไม่ดึกมาก ทั้งสองต่างเดินไปตามทางเลียบชายหาดอย่างไร้จุดหมาย สายลมเย็นยามค่ำคืนกับกลิ่นน้ำทะเลที่พัดมาช่วยเสริมให้บรรยากาศน่าดื่มด่ำและรับชมความงดงามแห่งธรรมชาติ
……
โรนากำลังเดินอยู่บนถนนสายหนึ่ง เขายังคงรับรู้ถึงแรงเผาไหม้ที่ปรากฏในกาย ทว่าเหล่านั้นเป็นเพียงภาพลวงตาที่หลงเหลือไว้ในจิตสำนึกจากประสบการณ์ที่เคยได้รับ
เขาได้ไปยังร้านที่ไม่ทราบว่าเป็นเทพหรือมารอีกครั้งหนึ่ง ดื่มกาแฟครั้งที่สอง และสิ่งที่ได้รับครั้งนี้มันแตกต่างจากครั้งก่อนอย่างสิ้นเชิง ครั้งนี้มันคือความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ
ตราสัญลักษณ์ในมือที่เคยได้รับ มันเป็นสิ่งที่ใช้เรียกรวมพลังงาน และการเปลี่ยนแปลงที่นิ้วของเขาครั้งนี้ มันคือพลังอำนาจการโจมตีอันบริสุทธิ์
เป็นร้านที่ชวนสะพรึง เจ้าของร้านยังหนุ่มคนนั้นเป็นใคร เหตุใดจึงเลือกเซ็นน่า อีกทั้งมีจุดประสงค์อะไร…
คำถามมากมายผุดขึ้นในใจของโรนา แต่ไม่ว่าคำถามใดเขาก็ไม่อาจได้รับคำตอบ ทุกสิ่งอย่างราวกับมีหมอกหนาทึบบดบัง ความจริงถูกซุกซ่อนเอาไว้อย่างที่ไม่อาจเข้าถึงได้
นานเพียงใดกันแล้วที่เขารู้สึกว่าตนเองอ่อนแอเช่นนี้ กับแค่เพียงเพราะอาการหลังดื่มกาแฟที่ขายในร้านแห่งหนึ่ง ถือเป็นเรื่องน่าขันสำหรับโรนาที่แม้เป็นเช่นนี้ก็ยังคาดหวังว่าพรุ่งนี้จะมีโอกาสอีกสักครั้ง
ราวกับเป็นการล่อลวงแห่งมารร้าย ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อจะหลงมัวเมาทำสัญญากับมารร้ายไปทีละอย่าง หุบเหวอันไร้ก้นบึ้งแห่งความปรารถนา มันมีสิ่งที่ต้องจ่าย…
ความคิดมากมายโลดแล่นในจิตสำนึกของโรนา ไม่ช้าเขาจึงกลับถึงที่พักซึ่งเป็นห้องแถวที่เพิ่งทำสัญญาเช่า เขาตัดสินใจอยู่ที่เซ็นน่าในระยะยาวแล้ว