ตอนที่ 1122
ความกลัวของลูกค้าแต่ละคนไม่เหมือนกัน พวกเขามักยินดีที่ได้เห็นผู้อื่นโดนระบบรักษาความปลอดภัยเตะส่งออกมาพร้อมท่าทีหวาดกลัว
บางครั้งจะมีลูกค้าที่อยู่ใกล้เคียงรับคำอย่างตื่นตะลึง “ไม่น่า ไม่จริงใช่ไหม นี่โดนเตะออกมาจากมิติแห่งฝันร้ายงั้นหรือนี่?”
หากไม่ใช่เพราะในร้านต้นตำรับไม่อาจลงมือ เกรงว่าจะเกิดพายุคลื่นพลังภายในร้านไปเรียบร้อยแล้ว พบเห็นสีหน้าอีกฝ่ายยิ้มแย้มกล่าวคำหยอกล้อ ผู้อื่นได้แต่กัดฟันแน่น
ผู้ที่ยังรักษาหน้าตาได้ยังมี ต่อให้โดนบังคับส่งตัวออกมา พวกเขาก็ไม่ยอมรับ อย่างไรแล้วก็ไม่มีใครคิดอยากให้ผู้อื่นได้ทราบ ว่าตนหวาดกลัวความกลัวในใจจนไม่อาจแบกรับไหว
เรื่องราวเหล่านี้เป็นทั้งชื่อเสียงและหน้าตา ลูกค้าหลายคนที่เข้าไปรับประสบการณ์จากมิติแห่งฝันร้ายต่างไม่ยอมรับใดทั้งสิ้น
“อย่าได้โดนชื่อมิติแห่งฝันร้ายหลอกเอา ภายในค่อนข้างดี ไม่เห็นมีอะไรคล้ายฝันร้ายเสียหน่อย”
“จริงหรือ? ฟังดูน่าเชื่ออยู่บ้าง แต่เหตุใดข้ารู้สึกเหมือนกำลังโดนหลอก?”
“ข้าจึงไม่หลอกผู้อื่น หากไม่เชื่อ เช่นนั้นไปสอบถามมิตรสหายคนอื่นเพื่อรับฟังประสบการณ์ดูได้ แล้วเจ้าจะได้เข้าใจเอง”
“มิติแห่งฝันร้ายน่าสนใจไม่น้อย โดยสรุปคือไม่ต้องลังเล อย่างไรก็ปลอดภัยหายห่วง หากยังเอาแต่ลังเล ไม่ช้าเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงจะไม่เหลือที่ว่างให้เจ้าได้เล่น”
“อันที่จริงข้ารู้สึกว่าช่วงหลายวันมานี้ฝันร้าย เพราะงั้นจึงเกรงว่าจะมีอะไรน่ากลัวที่นั่น ได้ฟังพวกเจ้าเช่นนี้ก็วางใจได้แล้ว”
“ไป ไป ไป อย่าได้เสียเวลา…”
พบเห็นกลุ่มลูกค้าพร้อมใจกันเข้ามิติแห่งฝันร้าย เหล่าลูกค้าที่ประสบเรื่องราวมาก่อนต่างเผยยิ้มเบิกบานเพื่อรอรับชมเรื่องราวอันใกล้
ทางด้านหัวหน้าภาคีเงาแสวงเช่นหลินฟาน เขาคิดไปเปิดประสบการณ์ด้วยตนเอง วันนี้เป็นวันพักร้อน สาเหตุที่มาร้านก็เพราะมาเก็บข้อมูลสินค้าใหม่และมิติแห่งฝันร้าย
เมื่อพับร่มเก็บไว้ตรงข้างประตูร้าน หลินฟานก้าวเดินเข้ามา รองเท้าที่เปียกชื้นของเขาเหยียบย่ำลงกับพื้นเรียบเนียนโดยไม่ทิ้งร่องรอย ซึ่งเขาก็ไม่ได้ประหลาดใจแต่อย่างใด หลายคนที่มาใช้บริการร้านต่างคุ้นชินกันแล้ว
ในร้านเวลานี้มีคนค่อนข้างมาก เสียงฝนภายนอกเลือนหายตั้งแต่ก้าวเดินเข้าร้าน มันถูกแทนที่ด้วยเสียงสนทนาจอแจ ส่วนใหญ่จะพูดคุยเรื่องของสินค้าใหม่สองสิ่ง
หลินฟานไม่ค่อยมีเวลามาที่ร้านเท่าใดนัก กระนั้นเขาก็ยังสังเกตพบเห็นถึงชั้นวางใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้า พร้อมกับถุงมันฝรั่งทอดที่วางเรียงราย
ที่บริเวณหน้าชั้นวางมีลูกค้าจำนวนหนึ่งยืนเลือกรสชาติอยู่ หลินฟานก้าวเดินเข้าไป สิ่งแรกที่เห็นคือป้ายบอกคำอธิบาย
“ชื่อสินค้า : มันฝรั่งทอด ราคา : สิบผลึกวิญญาณ สรรพคุณ : เสริมความแข็งแกร่งร่างกาย”
“เสริมแกร่งให้ร่างกาย สิ่งนี้สำหรับผู้ฝึกตนระดับล่างน่าจะให้ผลได้ดีเยี่ยมยิ่งกว่าไอศกรีม” หลินฟ่านกล่าวพึมพำกับตนเอง
พลังกาย ศักยภาพ และพลังจิต ทั้งสามอย่างนี้ข้องเกี่ยวต่อกันอย่างเบาบาง เพราะเหตุนั้นไอศกรีมที่ช่วยเสริมพลังจิต มันจึงส่งผลน้อยนิดต่อลูกค้าที่ขอบเขตการฝึกฝนไม่ใช่สูงส่ง
“แม้เป็นเช่นนั้น แต่สินค้าของร้านเถ้าแก่ก็คุ้มค่าที่จ่ายไปโดยเสมอ นำมาเทียบกันไม่ได้ เพราะงั้นจึงไม่มีอะไรดีและอะไรแย่” ลูกค้าที่อยู่ด้านข้างได้ยินคำของหลินฟานจึงกล่าวออก
“แน่นอน ข้าเชื่อว่าตราบเท่าที่เป็นลูกค้าร้านต้นตำรับล้วนคิดเห็นเช่นเดียวกัน” หลินฟานไม่คิดโต้เถียง “พี่ชายท่านนี้ มันฝรั่งทอดมีรสชาติมากมาย อันใดที่ได้รับความนิยม?”
“ทุกคนต่างก็เลือกรสชาติแตกต่างกันไป ผู้อื่นชอบ ก็ไม่ใช่ว่าเจ้าจะชอบ” อีกฝ่ายยักไหล่ตอบคำ “อย่างไรแล้วก็มีหลายคนเลือกซื้อจนไม่อาจจำแนกได้ว่าอันไหนได้รับความนิยม แนะนำให้เลือกเองนั่นแหละนะ”
“ทราบแล้ว” หลินฟานพยักหน้าตอบ หลังพิจารณาครู่หนึ่ง เขาเลือกถุงที่ดูน่าจะมีรสชาติเผ็ด
เมื่อฉีกเปิดห่อ กลิ่นมันฝรั่งทอดอันเด่นชัดมาพร้อมกับกลิ่นเครื่องเทศเผ็ดร้อน น้ำลายถึงกับต้องลอบกลืนอย่างไม่รู้ตัว เพราะมันดูน่าทานเหมือนดังแท่งเครื่องเทศ
ด้วยไม่อาจอดกลั้น เขาคว้าเอาแผ่นมันฝรั่งทอดขึ้นจากถุง สีเหลืองทองของมันค่อนข้างดึงดูด รวมเข้ากับผงพริกสีแดงที่โรยประดับประหนึ่งแสงดาว รวมเข้ากับกลิ่นอันเย้ายวนให้ทานเข้าไป
หลินฟานอดไม่ได้ที่จะส่งมันเข้าปาก เสียงเคี้ยวเริ่มดังพร้อมรสชาติที่ฟุ้งกระจายในปาก
กรุบกรอบ หอม และเผ็ด มีกลิ่นของพืชอะไรสักอย่างที่มีมเอกลักษณ์อัดแน่นในแผ่นมันฝรั่ง มันกระจายทั่วทั้งปากยามขบเคี้ยวไปมา
ถ้อยคำบรรยายนับพันรวมกันเป็นหนึ่งเดียว อร่อย
หลินฟานเดินไปคว้าขวดโคล่าจากชั้นวางใกล้เคียง เพราะได้ยินลูกค้าบางคนกล่าว ว่ามันฝรั่งทอดเหมาะสมทานคู่กับโคล่า เขาเองก็คิดเห็นเช่นเดียวกัน
เมื่อเดินผ่านโต๊ะกลาง หลินฟานหยุด “เถ้าแก่ มิติแห่งฝันร้ายจะเพียงสร้างขึ้นจากความทรงจำงั้นหรือ?”
ลั่วฉวนกำลังเพลิดเพลินกับแอพนักอ่าน ตอนนี้เงยหน้าขึ้นยามได้ยินคำถาม “ก็ไม่ใช่ทั้งหมด มันข้องเกี่ยวกับความทรงจำ ลูกค้าแต่ละคนสามารถเลือกระดับความแตกต่างด้วยตนเองได้”
หลินฟานพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปทางเครื่องเล่นเกมเสมือนจริง เขาเตรียมพร้อมเปิดรับประสบการณ์ด้วยตนเองแล้ว ขณะเดียวกันเขาก็คาดหวังว่าตนเองจะได้พบเจอกับอะไร
เมื่อเข้าสู่มิติแรกเริ่ม เลือกเข้าสู่มิติแห่งฝันร้าย หลังกำหนดค่าเรียบร้อย หลินฟานกดเริ่ม
สายลมเย็นเยือกพัดมา มันเป็นความหนาวเย็นถึงกระดูก ลมเย็นเหล่านี้พัดผ่านเข้ามาจากรอยแยกของบ้านทรุดโทรมหลังหนึ่ง
บ้านหลังนี้ทั้งทรุดโทรมและเล็กแคบ ไม้ฟืนที่กำลังเผาต่อเนื่องคือหนึ่งเดียวที่ให้ความอบอุ่นและแสงสว่างภายในห้อง
เด็กสาวและเด็กชายนั่งล้อมรอบกองไฟพลางยื่นมือมาผิง แก้มของพวกเขาต่างแดงเพราะความร้อนที่แผ่ออกมา
หลินฟานจ้องมองสภาพรอบด้านอย่างเหม่อลอย ความทรงจำไกลห่างที่สมควรอยู่ก้นบึ้งหัวใจของเขา ตอนนี้มันเริ่มชัดเจนขึ้นมา
“หลินฟาน เจ้าจะเป็นผู้ฝึกตนหรือ?” เด็กสาวคล้ายได้ยินเรื่องราวเกินจะเชื่อ ดวงตาสุกสว่างของนางมองหลินฟานด้วยความประหลาดใจ
“ใช่” เด็กชายพยักหน้ารับหนักแน่น ดวงตานั้นเผยความคาดหวังต่ออนาคต “ข้าจะกลายเป็นผู้ฝึกตนและร่ำรวย ข้าจะพาเจ้าไปอยู่ในบ้านที่ใหญ่โตสุขสบายกว่านี้!”
รูปลักษณ์ของเด็กชายเหมือนดังหลินฟาน ขณะที่ตัวหลินฟานยืนอยู่เคียงข้างเด็กชาย สายตาทอดมองตนเองในอดีตอย่างเงียบงัน ตอนนี้เขาไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้อง แต่เป็นตัวตนที่เหมือนดังผู้เฝ้าดู
“ข้าเชื่อเจ้านะ” เด็กสาวยิ้มตอบก่อนจะลุกขึ้น จากนั้นจึงนำอาหารชุ่มน้ำมันออกมาจากตู้และส่งให้เด็กชาย “ข้าเพิ่งซื้อมาวันนี้ หลินฟาน เจ้ากินสิ”
“นี่เจ้าเอาเงินจากไหนไปซื้อ?” เด็กชายเกิดสับสน เขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายต่อกลิ่นอาหารตรงหน้า
หลินฟานเงียบ ความทรงจำที่ถูกฝังลึกในใจของเขากำลังถูกนำมาตีแผ่อีกครั้ง ทันใดนี้เองที่มุมมองของเขาแปรเปลี่ยน ตัวเขาได้กลายเป็นเด็กชายที่นั่งผิงกองไฟ ในมือกำลังถืออาหารกลิ่นหอมเอาไว้…