ตอนที่ 1129
ลูกค้าภายในร้านเดินทางวนเวียนไปมา เวลาผันผ่านไปเงียบงันขณะลั่วฉวนฆ่าเวลาไปเรื่อย พอมองออกไปนอกร้านท้องฟ้าก็เริ่มหม่นแสงแล้ว
ค่ำคืนยามฤดูฝนมาถึงเร็วไม่เคยเปลี่ยน เพราะเมฆฝนสีดำสนิทภายนอกปกคลุมฟากฟ้า แสงดาวจากด้านบนจึงไม่อาจเล็ดรอดส่งลงมา
“พี่หญิง ท่านเข้าไปเล่นมิติแห่งฝันร้ายมากี่ครั้งกันแล้ว?” ปู้หลี่เกื๋อจิ้มแขนปู้ฉืออีเอ่ยคำถาม เพราะช่วงเช้าใช้งานเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงจนหมดเวลา ช่วงบ่ายจึงเดินวนเวียนไปมาไม่ได้เล่น
ปู้ฉืออีที่เปิดประสบการณ์ช่วงเช้า หลังไปพักดื่มกาแฟจึงกลับจากร้านต้นตำรับไป กว่าจะมาอีกรอบก็ตอนบ่าย
“สองครั้ง” ปู้ฉืออีไม่คิดเอ่ยถึงประเด็นนี้ หลังมองมา นางกล่าวคำหนักแน่น “และข้าจะไม่เข้าไปยังมิติแห่งฝันร้ายอีก”
“หืม ข้าเข้าไปมาตั้งสามครั้งแน่ะ” ปู้หลี่เกื๋อเผยยิ้มตอบปู้ฉืออี “พี่หญิง เหมือนว่าด้านจิตใจข้าจะแข็งแกร่งกว่าท่านนะ”
“รู้แล้ว รู้แล้ว เก่งกว่าข้าก็เก่งกว่า” ปู้ฉืออีคร้านจะโต้เถียง น้ำเสียงนั้นรำคาญเต็มที่ นางเข้าไปยังมิติแห่งฝันร้ายสองครั้งก็แทบทำสภาพจิตใจย่ำแย่ กระทั่งถึงตอนนี้ยังคงหวาดกลัวอยู่
สำหรับปู้ฉืออี นางได้ข้อสรุปกับตนเองแน่ชัดแล้ว ว่าการเอาชนะความหวาดกลัวไม่ใช่เป้าหมายที่จะทำสำเร็จได้ในระยะสั้น แต่เป็นในระยะยาว ตอนนี้ยังไม่มีเหตุต้องรีบร้อน
และนั่นก็เป็นความคิดของลูกค้าส่วนใหญ่ที่มีต่อมิติแห่งฝันร้ายเช่นกัน ถือว่าปกติเข้าใจได้ สำหรับพวกเขา น้อยคนที่จะได้เผชิญกับมิติแห่งฝันร้ายที่พอรับไหวเช่นปู้หลี่เกื๋อ
ภาพฉากฝันร้ายที่ลูกค้าส่วนใหญ่พบเจอ มันแบ่งออกได้เป็นหลายขมวด ทั้งความทรงจำที่หวนคืน ฝันร้ายที่เคยลืมเลือน หรือภาพจินตนาการที่คิดไปเองและหวาดกลัวเองก็มี
แน่นอนว่ามันยังมีฝันร้ายอื่น ๆ อีกหลากหลาย ส่วนที่กล่าวไปนั้นมีเพียงน้อยนิด
ระยะเวลาทำการของร้านต้นตำรับใกล้สิ้นสุด ลูกค้าภายในร้านเริ่มแยกย้ายกลับกันไป
ชิงหยวนตอนนี้เดินมาที่โต๊ะกลางเพื่อพูดคุยกับเหยาซือหยานถึงมิติแห่งฝันร้าย “ยากไม่น้อย ข้ารู้สึกว่าแปลกนะ แต่พอมาคิดตอนนี้มันก็เหมือนข้าเดินในเขาวงกตมายาวนานมาก”
“แล้วยังไงต่อ?” เหยาซือหยานดื่มชานมพลางถาม แต่คำตอบนั้นนางพอจะคาดเดาในใจได้แล้ว
“ข้าก็ยังหาทางออกไม่เจออยู่ดี” ชิงหยวนถอนหายใจ นางรู้สึกเหมือนหมดแรงใจ “ทำข้าเกิดสงสัยด้วยซ้ำ ทุกที่ที่ข้าไปล้วนเป็นวงกลมวนไปมา”
“ก็อาจจะ” เหยาซือหยานพยักหน้าตอบ นางพอเข้าใจถึงความรู้สึกชิงหยวน
ชิงหยวนไม่อาจปฏิเสธ ตอนนี้ทำได้เพียงโบกมือ “ขอตัวก่อน ร้านน้อยหยวนก่วยหากไปช้าโต๊ะจะเต็มเอา วันนี้อยากทานอาหารที่เทพแห่งอาหารเป็นคนทำ”
“หรือจะทานมื้อเย็นที่นี่ก็ได้นะ” เหยาซือหยานยิ้มตอบ
“ไม่เป็นไร” ชิงหยวนส่ายศีรษะ “ก็ตามนี้ ข้าขอตัวก่อน”
ลั่วฉวนที่กำลังเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดไม่ได้สนใจบทสนทนาระหว่างคนทั้งสองเท่าใดนัก ตอนนี้เขากำลังคิดว่าจะหาเปิดตัวแอพสำหรับเล่นโกะผ่านโทรศัพท์วิเศษ
หลังเริ่มเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ดรอบใหม่ ลั่วฉวนมองไพ่ในมือตนเอง จากนั้นจึงมองซ้ำ ครุ่นคิด และเลือกเป็นแลนด์ลอร์ด
คู่ต่อสู้ทั้งสองคนต่างก็เลือกคิดอยากเล่นเป็นแลนด์ลอร์ดเช่นกัน แต่สุดท้ายลั่วฉซนก็ได้รับไป ไพ่ทั้งสามในมือค่อยเผยออกเมื่อเกมเริ่ม
เขาเกิดรู้สึกว่าวันนี้ดวงดี ไพ่ในมือค่อนข้างดี แต่แล้วตอนนี้เองที่ข้อความแจ้งเตือนปรากฏบนหน้าจอ
หนึ่งในคู่ต่อสู้ของลั่วฉวนกำลังถ่ายทอดสดการเล่นไพ่พิชิตแลนด์ลอร์ด รวมถึงมีคนดูจำนวนไม่น้อย ช่องนั้นค่อนข้างมีอันดับในแอพถ่ายทอดสด
“ไพ่รอบนี้ค่อนข้างดี หนึ่งระเบิดราชา สองระเบิดน้อย น่าจะชนะได้ไม่ยาก” ผู้ชมเริ่มพูดคุยกันประหนึ่งได้รับชัยชนะแล้ว
“รวมมีสามระเบิด น่าจะชนะได้ไม่ยาก”
“แต่เหมือนชื่ออีกฝ่ายที่เล่นด้วยดูคุ้นนะว่าไหม?”
“ข้ามีร้านกาแฟ? ชื่อประหลาดแท้”
“เริ่มแล้ว เริ่มแล้ว อีกฝ่ายเรียกไพ่จะเล่นเป็นแลนด์ลอร์ดแน่ะ”
“…”
ข้อความแชทสดมากมายปรากฏบนหน้าจออย่างคึกคัก ทางผู้ที่ทำการถ่ายทอดสดเองก็อ่านเนื้อหาบนแชทเป็นระยะเพื่อคอยตอบผู้รับชม
“หือ? เลือกเป็นแลนด์ลอร์ดด้วย? เหมือนว่าผู้เล่นข้ามีร้านกาแฟจะมั่นใจเอาเรื่อง” เจ้าของช่องเผยยิ้มก่อนจะถอนมือจากการเป็นแลนด์ลอร์ด
เครื่องบิน! ราชาน้อย!
เสียงดังปรากฏ ผู้เล่นที่ถ่ายทอดสดเผยสีหน้าแข็งค้าง จำนวนข้อความแชทสดปลิวว่อน จำนวนเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างทันตาเห็น
“?!”
“เร็วเกินไปไหม? ใครเห็นบ้างว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”
“ครั้งแรกเลยนะเนี่ยที่ได้เห็นเกมเริ่มก็จบเลยแบบนี้”
“โชคฟ้าประทานแล้ว ทำเอานึกถึงเหยาซือหยานขึ้นมาเลย”
“…”
“เรื่องนี้… อีกฝ่ายโชคดีไปหน่อย” ผู้ถ่ายทอดสดถอนหายใจอย่างอับจน “ครั้งนี้ไม่ใช่ฝีมือข้าที่แย่ ทุกคนต่างก็ต้องโดนกันได้ หาคู่ต่อสู้ใหม่กันดีกว่า…”
ลั่วฉวนไม่ทราบเรื่องราว แต่ตอนนี้กำลังอารมณ์ดี โทรศัพท์วิเศษถูกวางลงก่อนจะหยิบโคล่าขึ้นดื่ม ลูกค้าในร้านกลับกันไปแทบหมดแล้ว ภายในร้านกลับคืนสู่ความเงียบอีกครั้ง
ก็เหมือนดังปกติ อานเหวยหยากับปิงชวงออกมาจากพื้นที่ส่วนต่อขยายเป็นกลุ่มสุดท้าย เมื่อเดินผ่านโต๊ะกลาง ลั่วฉวนกล่าวเรียกทั้งสองเอาไว้ “ประสบการณ์กับมิติแห่งฝันร้ายเป็นยังไงบ้าง”
“ข้าไม่เล่น” อานเหวยหยาตอบรับอย่างมั่นคง “โชคดีที่ข้าเล็งเห็นแต่แรก ได้ยินหลายคนกลัวกันขนาดร้องไห้ด้วยซ้ำ!”
ลั่วฉวนเผยสีหน้างงงันตอบรับ
กลัวจนร้องไห้? เหมือนว่าลูกค้ากลุ่มนี้ต้องฝึกฝนอีกนานกว่าจะก้าวข้ามมันไปได้
เหยาซือหยานเข้ามาพูดคุยด้วยเล็กน้อย ท่าทีของอานเหวยหยากระจ่างชัด นางไม่คิดเข้าไปเปิดประสบการณ์ในมิติแห่งฝันร้ายอย่างแน่นอน
เหมือนมังกรสาวจะทราบถึงความกลัวในใจของตนเองดี เพราะต่อให้ทราบว่ามิติแห่งฝันร้ายปลอดภัยหายห่วง นางก็ยังยืนกรานไม่เข้าไป
ปิงชวงไม่พูดตอบ ตลอดเวลาเงียบเหมือนเช่นเคย หลังเหยาซือหยานลูบศีรษะนางไปเล็กน้อย ทั้งนางและอานเหวยหยากลับจากร้านไป เป้าหมายถัดไปสมควรเป็นร้านน้อยหยวนก่วย
อาหารพิเศษเช่นดอกครามเยือกแข็ง ร้านน้อยหยวนก่วยนำเสนอขายเพียงแค่วันเดียว แม้ว่าอร่อย แต่อาการข้างเคียงไม่ใช่อะไรที่จะเมินเฉยได้ หยวนก่วยทราบดีจึงพอแค่เท่านั้น
ซึ่งเป็นที่น่าเสียดายสำหรับเหล่าโพธิสัตว์แห่งภูเขาจักรวาล พวกเขาติดใจรสชาติความอร่อยของดอกครามเยือกแข็ง ทว่าตอนนี้ไม่มีให้ทานแล้ว พวกเขาจึงทำได้เพียงนึกคิดไปพลางน้ำลายไหลไป
มื้อเย็นที่ร้านต้นตำรับยังคงเหมือนเช่นเคย กระทั่งว่าเป็นร้านน้อยหยวนก่วยก็ไม่อาจเทียบเคียงความหรูหรา นอกจากนี้ลั่วฉวนยังเกิดรู้สึก ว่าฝีมือทำอาหารของเหยาซือหยานเหมือนจะเพิ่มพูนมากขึ้น
เวลามื้อเย็นผ่านไปขณะทั้งสองสนทนากันไปเรื่อย แน่นอนว่าลั่วฉวนเป็นผู้รับฟัง เหยาซือหยานจะบอกเล่าถึงเรื่องราวน่าสนใจที่เกิดในร้านช่วงบ่ายให้เขาทราบ