ตอนที่ 1139
ลั่วฉวนทานมันฝรั่งทอดเสียงกร็อบแกร็บพลางมองที่หน้าจอโทรศัพท์วิเศษ
ต้องกล่าวว่าเมืองแห่งความโกลาหล มันสมกับชื่อของมัน ไม่ว่ามองซ้ายขวาล้วนวุ่นวายไปหมด
จำนวนข้อความแชทสดเลือนหายอย่างเห็นได้ชัด เหมือนว่าบรรดาลูกค้าที่รับชมอยู่กำลังตื่นตะลึงกับภาพที่ได้เห็นเมื่อครู่
“เมืองนี้สมคำเล่าลือเสียจริง” ฉู่หยางขมวดคิ้วเล็กน้อย “วุ่นวายทุกหนแห่ง แต่ช่างมัน ไปทางอื่นก็แล้วกัน”
ปกติสิ่งที่เรียกว่าเมืองจะมีกฎเกณฑ์ และกฎเกณฑ์ของเมืองแห่งความโกลาหลคือนับถือความแข็งแกร่ง ด้านอันโหดร้ายของโลกแห่งผู้ฝึกตนได้เผยขึ้นที่นี่
ลูกค้าส่วนใหญ่ของร้านต้นตำรับไม่เคยเห็นอะไรเหล่านี้มาก่อน แค่คิดว่ามีก็ทำพวกเขาเกิดความคิดปั่นป่วนแล้ว
นอกจากความโกลาหลของเมืองที่ไม่มีข้อกังขาใด ทั้งสองฟากข้างของเส้นทางในเมืองก็มีสิ่งของสารพัดนำมาขาย
“ผู้ขายเหล่านี้ได้รับการคุ้มกันภายใต้คฤหาสน์จ้าวเมือง ดังที่เห็นว่าในเงามืดของที่นี่ก็ยังพอมีกฎเกณฑ์อยู่บ้าง” ฉู่หยางอธิบายโดยคร่าว
เสียงตะโกนร้องเรียกลูกค้าดังจากร้านมากมาย ภายในเมืองแห่งนี้มีข่าวลือว่าบางทีสมบัติที่ไม่มีใครทราบก็ถูกนำมาขายกันข้างถนน
ยังมียาวิเศษทั้งหลาย ของที่ไร้นาม เศษชิ้นส่วนประหลาด ตำราโบราณที่สภาพไม่สมบูรณ์ อาวุธที่แตกพัง…
ทั้งหมดทั้งมวล กลุ่มลูกค้าที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่เริ่มสงสัย ว่าของเหล่านั้นบังเอิญเก็บได้จากภายนอกและนำไปขายที่นั่น
ฉู่หยางไม่ค่อยสนใจสินค้าเท่าไหร่ แม้เพิ่งมาถึงเมืองแห่งความโกลาหลเป็นครั้งแรก เขาก็ไม่คิดเสียเวลาไปกับการสำรวจขยะข้างทาง
“พี่ชายตรงนั้น สนใจข่าวคราวของเมืองแห่งความโกลาหลหรือไม่?” ชายคนหนึ่งที่มีคิ้วดูโฉดชั่วพลันเดินเข้ามาใกล้ฉู่หยาง
ลั่วฉวนที่ดื่มโคล่า เขามองว่านี่เหมือนมีการส่งบทออกมาอย่างไรอย่างนั้น มาถึงเมืองก็ต้องค้นหาข้อมูลก่อน ระหว่างนั้นก็จะถูกเรียกเก็บค่าข้อมูลที่มากขึ้นไปเรื่อยโดยเอ็นพีซีประจำเมือง รวมถึงมีการนำเสนอข่าวพิเศษ ทั้งหมดนี้แทบจะเป็นโครงเรื่องสูตรสำเร็จ และครั้งนี้ก็ไม่เว้น
เมื่อฉู่หยางนำเอาผลึกวิญญาณคุณภาพสูงออกมา ดวงตาอีกฝ่ายจับจ้อง ในเมืองโกลาหลที่พลังวิญญาณแทบจะเรียกได้ว่าแห้งแล้ง มูลค่าของผลึกวิญญาณคุณภาพสูงนั้นสูงล้ำยิ่งกว่าที่อื่นหลายต่อหลายเท่า
เขาเร่งรีบเก็บมันเอาไว้ กระทั่งลอบมองซ้ายขวาว่ามีผู้ใดพบเห็นสิ่งที่ตนเพิ่งเก็บไปหรือไม่
อีกฝ่ายกลับไป ฉู่หยางเผยสีหน้าเคร่งเครียด ไม่เพียงแต่เขา ลูกค้าคนอื่นที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่ต่างรู้สึกว่าผิดปกติเช่นกัน
ใจความที่อีกฝ่ายขายข่าวเมื่อครู่ คือการประมูลของเมืองแห่งความโกลาหลกำลังจะเริ่มขึ้น และบางสิ่งที่นำมาขาย คือสิ่งที่กองกำลังมากมายต่างต้องมาเยือนที่นี่
ตามข่าวลือ วัตถุลึกลับซึ่งถูกนำมาประมูลคือสิ่งที่สามารถเพิ่มศักยภาพแก่ผู้ฝึกตน และยังไร้ข้อจำกัดไม่ว่าอยู่ขอบเขตการฝึกฝนใด!
การเพิ่มศักยภาพถือเป็นสิ่งที่แทบไม่เคยมีใครได้ยิน มันถือเป็นสิ่งที่กำหนดตั้งแต่ถือกำเนิด เป็นสิ่งยากเปลี่ยนแปลง
แต่แล้วตอนนี้กลับมีสินค้าที่ช่วยเสริมศักยภาพได้ถูกนำมาขาย มันมากพอที่จะทำให้เหล่าผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนแห่แหนกันมา
“เหตุใดนึกถึงน้ำแร่ของที่ร้านกันนะ?” ลั่วฉวนพึมพำ
“หือ เถ้าแก่กล่าวอะไรหรือ?” เหยาซือหยานที่กำลังเขียนงานส่วนที่เหลือจนเหนื่อยล้า ตอนนี้บังเอิญได้ยินเข้าพอดี
ลั่วฉวนอธิบายไปโดยคร่าว เหยาซือหยานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ไม่น่าผิดแล้ว บางทีคงเป็นลูกค้าสักคนที่นำไปขาย”
ทวีปเทียนหลันกว้างใหญ่ ดินแดนมากมายมีสัตว์อสูรวิ่งเล่นไปทั่ว ข่าวคราวข้ามฟากทวีปถือเป็นสิ่งยากกระทำ
รวมเข้ากับความจริงที่ว่าร้านต้นตำรับเพิ่งเปิดได้ไม่กี่เดือน ไม่แปลกหากจะมีแต่ยอดฝีมือใกล้เคียงจักรวรรดิเทียนชิงที่ทราบเรื่อง
เช่นกัน ฉู่หยางมีความคิดเห็นคล้ายกับลั่วฉวน รวมถึงบรรดาลูกค้าที่รับชมการถ่ายทอดสดก็ด้วย พวกเขากำลังคาดหวังจะได้เห็น ว่าสิ่งที่นำมาประมูลจะใช่สิ่งที่พวกตนคาดคิดหรือไม่
งานประมูลในเมืองโกลาหลถูกจัดขึ้นโดยกองกำลังใต้บัญชาของคฤหาสน์จ้าวเมือง พวกเขารับจ้างจัดงานประมูล และค่าจ้างคือส่วนแบ่งมูลค่ามากถึงสามในสิบ
มันแลกมากับความปลอดภัย เพราะคฤหาสน์จ้าวเมืองคือผู้มีอำนาจใหญ่ในการปกครองเมืองแห่งความโกลาหล เคยมีผู้ฝึกตนขอบเขตทดสอบเต๋าระดับสูงสุดเข้าท้าทายคฤหาสน์จ้าวเมือง สุดท้าย จ้าวเมืองผู้ลึกลับไม่แม้แสดงตัวตน แต่เพียงปรากฏฝ่ามือมายาจัดการอีกฝ่ายจนเกิดความปั่นป่วนทางมิติ
จ้าวเมืองรูปลักษณ์เป็นเช่นไรไม่มีผู้ใดทราบ กระทั่งว่าไม่ปรากฏตัวมายาวนานหลายปีแล้ว ก็ยังไม่เคยมีผู้ใดหาญกล้าท้าทายอำนาจคฤหาสน์จ้าวเมืองอีกจนถึงตอนนี้
ฉู่หยางไม่ได้สนใจเรื่องจ้าวเมืองผู้ลึกลับ เขาเพียงมารับชมงานประมูลเพื่อหาความสนุก และเขาคิดอยากได้เห็น ว่าสินค้าที่ถูกนำมาประมูลจะใช่น้ำแร่ของร้านต้นตำรับหรือไม่
การประมูลจัดขึ้นในช่วงบ่าย ดังนั้นเนื้อหาการถ่ายทอดสดถัดจากนี้ของฉู่หยางคือการเดินเที่ยวเล่นในเมือง หลังสังหารผู้ฝึกตนจำนวนหนึ่งที่คิดแย่งชิงโทรศัพท์วิเศษ ผู้อื่นเริ่มหลบเลี่ยงเขา คล้ายว่าภายในเมืองจะมีการสื่อสารที่ค่อนข้างดี หากไม่งั้นผู้คนคงไม่ทราบรวดเร็วว่าเขาเป็นบุคคลที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยว
ลั่วฉวนรับชมการถ่ายทอดสดไปเรื่อย สุดท้ายเกิดเบื่อขึ้นมาจึงปิดการถ่ายทอดสดไป เขาคิดรับชมอีกครั้งก็ตอนงานประมูลเริ่มขึ้นช่วงบ่าย เพราะฉู่หยางกล่าวแล้ว ว่าจะถ่ายทอดสดอยู่จนถึงช่วงจบงานประมูล
หลังครุ่นคิด เขาตัดสินใจเดินไปใช้งานเครื่องเล่นเกมเสมือนจริงเพื่อเล่นกลอรี่รอเวลา สำหรับหลักสูตรทำอาหาร โหมดท้าทาย และโหมดอารีน่าของหอคอยแห่งการทดสอบ ลั่วฉวนยังไม่คิดเข้าไปเล่น
“เถ้าแก่มาเล่นกลอรี่งั้นหรือ?” ลูกค้าคนหนึ่งที่ใช้งานเครื่องเล่นอยู่ พบเห็นลั่วฉวนเดินเข้ามาจึงกล่าวทักทายเชื้อเชิญ
“ใช่” ลั่วฉวนพยักหน้าตอบรับ
เสียงลูกค้ารอบด้านเงียบลงไปครู่ ดังทราบว่าปกติลั่วฉวนมักเกียจคร้าน แต่แล้ววันนี้กลับตอบรับอย่างเหนือความคาดหมาย หลังความเงียบงันไปครู่ เสียงฮือฮาจึงดังขึ้นแทนที่
“เถ้าแก่เลือกข้าร่วมทีมแล้ว ข้าอยากเล่นด้วย!”
“เถ้าแก่ ทีมของพวกเราพร้อมมาก ท่านคือชิ้นส่วนสุดท้ายที่พวกเรารอคอย!”
“เถ้าแก่ เลือกข้า! เลือก…”
เสียงอึกทึกภายในร้านดังไม่ขาด กลุ่มลูกค้าที่เพิ่งเคยมาร้านยังไม่ได้เปิดตัวปิดกั้นรับรู้โลกภายนอกต่างต้องหันมองมาทางนี้
แน่นอนว่าด้วยคนมากมายย่อมยากจะเลือก ลั่วฉวนให้ระบบเป็นคนสุ่มให้ เช่นนี้ทั้งสองฝ่ายจะได้ตื่นเต้นกันจนถึงที่สุดด้วย
เมื่อผ่านการเตรียมพร้อมและเห็นว่าตรงหน้าคือเถ้าแก่ พวกเขาต่างยินดี ขณะที่อีกฝ่ายต่างก็มีใจคิดสู้ เพราะการได้ต่อสู้กับเถ้าแก่ก็ถือเป็นเรื่องราวที่ควรค่าแก่การจดจำ และความเป็นไปได้ที่จะเอาชนะก็ไม่ใช่ศูนย์
หลังเลือกบทบาทกันเรียบร้อย เสียงเพลงชวนฮึกเหิมดังขึ้น สภาพแวดล้อมแปรเปลี่ยนเป็นจุดเกิดภายในการแข่งขันกลอรี่ในพริบตา