MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ – ตอนที่ 77

ตอนที่ 77

“ฆ่ามัน!”

ทั้งสองคนได้ตะโกนขึ้นและชักดาบพุ่งแทงไปที่ลู่เฟิง

ทั้งสองคนเป็นนักรบระดับ 5 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน ด้วยความแข็งแกร่งระดับนี้แม้ว่าทหารม้าผู้ภักดีจะอยู่รอบ ๆ เพื่อเฝ้าระวังให้กับ ลู่เฟิง แต่มันก็เป็นไปได้ยากที่พวกเขาจะตอบสนองได้ทัน

พวกเขาเพียงเห็นชายสองคนนี้พุ่งถือดาบแทงไปที่ลู่เฟิง

“ฝ่าบาทระวัง!”

ทหารที่ตอบสนองได้ทันพวกเขารีบตะโกนบอก ลู่เฟิง และ พยายามพุ่งเข้าไปเพื่อขัดขวาง

แต่ความเร็วของพวกเขาก็ช้าเกินไป

ก่อนที่พวกเขาจะไปได้ทัน ทหารสองคนที่ลอบโจมตีลู่เฟิงก็พุ่งไปถึงร่างกายของลู่เฟิงแล้วปลายดาบของพวกเขาได้แทงออกไป

แต่ทว่า ร่างของ ลู่เฟิง กลับหายไป

พวกเขาทั้งสองเห็นลู่เฟิงหายไปจากบนหลังม้า

“พวกเจ้ากำลังมองหาข้าอยู่งั้นเหรอ?”

ในขณะเดี๋ยวกันเสียงที่เย็นชาก็ได้ดังขึ้นจากทางด้านหลังของทั้งสองคน

ทั้งสองคนได้หันศีรษะไปอย่างรวดเร็วแต่ก่อนที่พวกเขาจะตอบสนองได้ทันพวกเขาก็ได้ยินเสียง”วาดดาบ!”

ทั้งสองคนเห็นเพียงแสงจากปลายดาบก่อนที่สติของพวกเขาจะเลือนหายไป

ลู่เฟิง ได้กระโดดขึ้นไปบนม้าศึกอีกครั้งและจ้องมองไปที่ทั้งสองคนด้วยสายตาดูถูก แม้ว่า ความแข็งแกร่งของทั้งสองคนจะไม่อ่อนเเอก็ตาม แต่ลู่เฟิง ก็ไม่ธรรมดาเช่นเดียวกัน หากอีกฝ่ายคิดว่าเขาเป็นเพียงไก่ที่ถูกเชือดง่าย ๆ ละก็พวกเขาคิดผิดแล้ว

“ติ๊ง ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่สังหาร นักรบระดับ 5 ขั้นสร้างรากกฐานพลังหยวน สองคน ได้รับค่าประสบการณ์ 20,000 แต้ม!”

ลู่เฟิง ขมวดคิ้วและกล่าวถามระบบทันที”ทำไมฉันฆ่านักรบระดับ 5 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน สองคน ถึงได้รับค่าประสบการณ์เพียงแค่ 20,000 แต้ม ก่อนหน้านี้ ฉันยังได้มากกว่านี้ หรือว่า คุณจงใจหักค่าประสบการณ์ของฉัน?”

“ติ๊ง จากมุมมองของระบบ ระดับพลังของโฮสต์ จะ สอดคล้องกับค่าประสบการณ์ที่จะได้รับดังนั้นระบบจะคำนวณใหม่”

“ติ๊ง ระดับพลังของโฮสต์ในปัจจุบันคือ ระดับ 5 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน การฆ่านักรบในระดับเดียวกันจะได้เพียงค่าประสบการณ์หนึ่งในห้าของค่าดั้งเดิมเพียงเท่านั้น”

หลังจากได้ยินเสียงแจ้งเตือนของระบบ ลู่เฟิง ก็รู้สึกทำอะไรไม่ถูก เขาได้แต่สั่นศีรษะ ให้กับการคำนวณค่าประสบการณ์ของระบบ

“ฝ่าบาท แล้วคนพวกนี้?”

ทหารม้าผู้ภักดี ได้จ้องมองไปที่ ลู่เฟิง พร้อมกับกล่าวถามถึงทหารที่หลบหนีออกจากกองทัพของซ้งหยูตี้

ในสายตาของพวกเขา ได้แสดงความโหดร้ายออกมา พวกมันกล้าที่จะหันคมดาบใส่ฝ่าบาท เป็นธรรมชาติที่คนเหล่านี้ต้องการสังหารพวกมันทั้งหมด

แน่นอนว่า การตอบสนองของพวกเขาไม่ได้เล็ดลอดสายตาของลู่เฟิงไป เขาได้จ้องมองไปที่ ทุ่งราบขนาดใหญ่ด้านหน้า หากคนเหล่านี้ หลบหนีไปยังดินแดนของพวกคนเถื่อนทางตอนเหนือสถานการณ์ของพวกเขาอาจจะตกที่นั่งลำบากทันที

จากนั้นลู่เฟิงก็ได้ออกคำสั่ง”ฆ่าพวกมันให้หมด!”

“ขอรับ!”

ทันทีที่สิ้นสุดเสียงของลู่เฟิง ลูกศรหน้าไม้จำนวนมากก็แทงทะลุหน้าอกของพวกเขา

ลู่เฟิง ไม่ได้สนใจ เขาปล่อยให้ ทหารม้าผู้ภักดีฆ่าคนเหล่านี้ทั้งหมด

จะว่า ลู่เฟิง โหดร้ายก็ไม่ถูก คนเหล่านี้กล้าที่จะหันคมดาบใส่เขา หาก ลู่เฟิง พลาดท่าเขาก็คงจบชีวิตไม่ต่างจากคนเหล่านี้

ลู่เฟิง เฝ้าดูสถานการณ์ก่อนที่จะสั่นศีรษะออกมา”ทำความสะอาดสนามรบ”

“ขอรับ”

อีกด้านหนึ่งไม่ไกลจากสนามรบ ซ้งหยูตี้ และ ทหารนับพันของเขาอยู่ที่นี่

“ท่านแม่ทัพ พวกเราจะทำอย่างไรกันดี ตอนนี้ทัพหลักของพวกเราพ่ายศึกไปแล้ว!”ใบหน้าของทหารเหล่านี้ซีดเผือกเล็กน้อยก่อนที่จะจ้องมองไปที่ ซ้งหยูตี้ เพื่อรอคำสั่ง

ใบหน้าของ ซ้งหยูตี้ ยังคงซีดเผือกอย่างมาก ลิโป้ และ เกาชุน ทำให้เขารู้สึกหวาดกลัวจากใจจริง

ซ้งหยูตี้ ได้สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และกล่าวพูดออกมา”ข้าได้ส่งทหารหนึ่งพันนายไปทางตอนเหนือพวกมันคงจะพบรอยเท้าและไล่ตามพวกมันไปอย่างแน่นอน นี่เป็นโอกาสของพวกเราที่จะหลบหนีไปทางใต้และมุ่งหน้าไปที่เมืองหยุนไห่ จากนั้นข้าจะกลับไปจัดตั้งกองกำลังและบุกโจมตีอาณาจักรหนานหยานอีกครั้ง!”

“ท่านแม่ทัพช่างชาญฉลาดยิ่งนัก!”

ทหารเหล่านี้ที่ได้ยินคำพูดพวกเขาก็ตะโกนเฮลั่นออกมา

“เอาล่ะ รีบเดินทางซะ ทหารที่หลบหนีไปทางตอนเหนือคงจะถ่วงเวลาไว้ไม่ได้นาน”

หลังจาก ซ้งหยูตี้ พูดจบ เขาก็รีบเดินทางมุ่งหน้าไปยังเมืองหยุนไห่พร้อมกับคนของเขา

กลุ่มคนเหล่านี้ หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่มากเกินไป พวกเขาได้ทิ้งม้าและสร้างเส้นทางหลอก ๆ ในระหว่างที่พวกเขากำลังหลบหนี

หลังจากผ่านไปสามชั่วโมง ซ้งหยูตี้ และ ทหารของพวกเขา ก็เดินทางมาถึงแม่น้ำผิงหยวน

แม่น้ำผิงหยวน เป็นแม่น้ำสายเดียวจากเมืองว่านเหอของษราจักรหนานหยานตรงไปยังหุบเขาหยางผิงของอาณาจักรซีหยาง มันตั้งอยู่บนที่ราบ 800 ไมล์ และมีขนาดใหญ่อย่างมาก ทั้งยังอยู่ใกล้กับเขตหมื่นหุบเขาที่เป็นอาณาเขตของสัตว์อสูรอีก

แม่น้ำผิงหยวน เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ปิดกั้นสงครามหลายครั้ง และ การยุติสงครามของอาณาจักรหนานหนานหยาน และ อาณาจักรซีหยาง ได้เริ่มต้นขึ้นจากที่นี่

ดังนั้นหลายปีที่ผ่านมาจึงไม่ได้มีสงครามเกิดขึ้น ด้านหน้าของพวกเขา มีเพียงสะพานไม้ที่มีความกว้างมากกว่าหนึ่งเมตรทั้งยังลอยอยู่บนแม่น้ำขนาดใหญ่มันไม่สามารถสัญจรไปพร้อมกันได้ทั้งกองทัพ

“ท่านแม่ทัพ ตราบใดที่เราข้ามแม่น้ำหยางผิงไปพวกเราก็จะอยู่ไม่ไกลจากเมืองหยุนไห่ และ พวกเราจะมุ่งหน้าไปกลับไปที่อาณาจักรซีหยางได้ทันที”ทหารรอบ ๆ ได้กล่าวพูดด้วยความตื่นเต้น

ซ้งหยูตี้ ได้ถอนหายใจออกมา มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยหกชั่วโมงในการเดินทางมาถึงแม่น้ำหยางผิงจากเมืองว่านเหอ แต่เขากลับบังคับให้กองทัพของเขาใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเพื่อที่จะเดินทางมาถึงเป็นธรรมชาติที่กองทัพของเขาจะเหนื่อยล้าอย่างมาก

“เอาล่ะ ทุกคน อดทนกันหน่อย หากพวกเราข้ามแม่น้ำหยางผิงไปได้พวกเราก็จะปลอดภัยทันที”ซ้งหยูตี้ ได้ตะโกนออกมา

“ขอรับ!”

คนกลุ่มนึงได้รีบข้ามสะพานไม้ไป

ซ้งหยูตี้ ได้ยืนอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำและจ้องมองไปที่ทิศทางของเมืองว่านเหอก่อนที่จะกล่าวพูดออกมาอย่างเย็นชา”รอก่อนเถอะ ในระยะเวลาสามเดือน ข้าจะรวบรวมทหารและกลับมาแก้แค้นอีกครั้ง!”

“โอ้ว,นั่นมันแม่ทัพ ซ้งหยูตี้ ไม่ใช่หรือ?”

ในขณะนี้เองได้มีเสียงดังมาจากทางด้านหลังของเขา

ซ้งหยูตี้ได้หันศีรษะไปมองด้วยสีหน้าอัปลักษณ์เขามองเห็นชายวัยกลางคนบนหลังม้าด้วยความลังเลเขาได้กล่าวถามออกมา”ข้าคือ ซ้งหยูตี้ แล้วเจ้าล่ะเป็นใคร?”

“ฮ่าฮ่า,ในที่สุดก็ได้พบกันเสียที!”

ชายวัยกลางคนได้หัวเราะออกมาและโบกมือขึ้นทหารม้าสามพันนายได้วิ่งออกมาก่อนที่ชายคนนี้จะกล่าวแนะนำตัว”ซ้งหยูตี้ ข้าคืออัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายของอาณาจักรหนานหยาน เจี๋ยสวี่ ข้าได้มาดักรอเจ้าอยู่ที่นี่นานแล้ว!”

“อะไรนะ เจี๋ยสวี่!”

ซ้งหยูตี้ รีบกล่าวพูดทันที”รีบวิ่งไปเร็วเข้า!”

เขาได้หันไปหาทหารที่ข้ามสะพานไม้ไปไม่นานเขาก็มองเห็นทหารม้าเหล่านี้ใช้เกาทัณฑ์เล็งไปที่สะพานไม้

แต่ว่ามันก็ไม่ทันแล้ว

ร่างกายของ ซ้งหยูตี้ ได้ล้มลงทันที

“ท่านแม่ทัพ!”

เหล่าทหารหลายคนที่ยังอยู่ข้างกายของ ซ้งหยูตี้ ได้ตะโกนขึ้น”ท่านแม่ทัพท่านเป็นถึงนักรบระดับ 7 ขั้นสร้างรากฐานพลังหยวน ท่านน่าจะสามารถหลบหนีฝ่าออกไปได้ พวกเราจะอยู่เพื่อปกป้องท่านเอง”

“ใช่แล้วท่านแม่ทัพ พวกเราได้รับการปฏิบัติจากท่านอย่างดี เป็นธรรมชาติที่พวกเราจะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องท่าน”

“ฆ่า! ปกป้องเส้นทางหลบหนีของท่านแม่ทัพ!”

“ฆ่า!”

ทหารหลายคนได้แบกร่างกายที่อ่อนล้าของพวกเขาและพุ่งเข้าหาศัตรู

เจี๋ยสวี่ ได้จ้องมองไปที่พวกเขาและถอนหายใจออกมา”พวกเจ้าเป็นกลุ่มคนที่ซื่อสัตย์ดี! แต่น่าเสียดายที่พวกเราต่างก็เป็นศัตรูกัน!”

เขายกมือขึ้นและกล่าวพูดออกมา”ยิงได้!”

ทหารม้าสามพันนายที่อยู่ด้านหลังได้ยิงลูกสณออกไปจำนวนมากเพียงในระยะเวลาสองนาทีทหารทั้งหมดก็ล้มลงกับพื้น

“ซ้งหยูตี้ ยอมให้ข้าจับไปซะเถอะ บางทีฝ่าบาทอาจจะชื่นชมความกล้าหาญของเจ้าและไม่ต้องการจะฆ่าเจ้าก็เป็นได้!”เจี๋ยสวี่ ได้จ้องมองไปที่ ซ้งหยูตี้ ที่ล้มทั้งยืน

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

Status: Ongoing

ข้ามต่างโลกไปเป็นเพียงแค่จักรพรรดิที่ถูกควบคุมหรือไม่ ? ไม่สำคัญเพราะข้ามีระบบจักรพรรดิ!

พวกเจ้ารวมหัวกันแก่งแย่งชิงอำนาจ ? ข้าไม่สนเพราะข้ามี เจี๋ยสวี่

พวกเจ้ามีนักรบที่เก่งกาจไร้คู่เปรียบ ? เหอะ ข้ามี เทพสงคราม ฮั่

ลำดับขั้น

เนื่องจากผู้อ่านอาจเข้าใจลำดับขั้นในภาษาไทยยาก จึงอยากจะขอเปลี่ยนเป็นการทับศัพท์ลำดับขั้นแทนทั้งหมด เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น *

1.Elemental Guider จากเดิม ผู้นำธาตุ – พลังงานก๊าซ

2.Elemental Apprentice จากเดิม เด็กฝึกธาตุ – พลังงานก๊าซ

3.Elemental Journeyman จากเดิม นักผจญภัย – พลังงานก๊าซ

4.Elemental Master จากเดิม ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุ – พลังงานก๊าซ

5.Elemental Mage จากเดิม นักเวทย์ธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

6.Elemental Archmage จากเดิม ผู้วิเศษธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

7.Elemental Overlord จากเดิม เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ – พลังงานเหลว, อาณาจักรลึกลับ, พลังลึกลับ

8.Elemental Archlord จากเดิม ผู้พิพากษาธาตุ – พลังงานเหลว + พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ,พลังลึกลับ

9.Elemental Dominator จากเดิม ผู้ครอบครองพลังงานแห่งธาตุ – พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ , พลังลึกลับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท