MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ – ตอนที่ 167

ตอนที่ 167

เนื่องจากการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นตัวตัดสินเขาไม่อาจพลาดได้

ลู่เฟิงจ้องมองไปที่ จางฮั่น และกล่าวถาม”เจ้ารู้รูปแบบการจัดขบวนกองทัพของพวกเขาหรือไม่?”

จางฮั่นได้ตอบกลับ”ฝ่าบาทกองทัพของคน 20,000 คนด้านหน้ามีพลธนูประมาณ 3,000 คน และ คนข้างหลัง 10,000 คน มีพลธนูประมาณ 2,000 คน”

ลู่เฟิง ขมวดคิ้วแน่น การจัดวางรูปแบบกองทัพเช่นนี้ฉลาดมาก แม้จะมีผู้เชี่ยวชาญขั้นปรมาจารย์แอบลอบโจมตีพวกเขาก็ยังสามารถฆ่าอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์

ความเป็นไปได้ที่จะทำลายกองทัพขนเสบียงนี้เริ่มน้อยลงทุกที

ปัญหาใหญ่ก็คือ พลธนู และ ลูกศรพลังปราณ

หลังจากลังเลเล็กน้อย ลู่เฟิง ก็สั่งให้ จางฮั่น เรียกกองทัพเงากลับมาก่อน พวกเขายังคงพอมีเวลาให้คิดเตรียมแผนการอีกครั้ง

กลางดึก พวกเขาได้มาลอบดูการจัดวางกองทัพนี้อีกครั้งเพื่อมองหาโอกาส

กองทัพขนส่งเสบียงของอาณาจักรซีหยาง เริ่มตั้งค่าย

ลู่เฟิงพา ทาสดาบทั้งหก และ จางฮั่น ลอบขึ้นไปบนภูเขาและมองลงไปดู

แม่ทัพใหญ่ของกองทัพนี้ได้จัดตั้งพลธนูอยู่ด้านหลังทหารโล่คอยปกป้องค่ายของพวกเขา หากมีคนโจมตีค่ายพวกเขาจะสามารถตอบโต้ได้ทันที

ทหารราบหนึ่งหมื่นคนก็ยังออกไปตระเวณอยู่รอบ ๆ ค่าย

“จางฮั่น,ข้าจะนำทาสดาบทั้งหก ลอบเข้าไปในค่ายและหาทางทำลายพลธนูเหล่านั้น พวกเราจะเปิดโอกาสให้เจ้าและกองทัพเงาโจมตี ข้าหวังว่ากองทัพเงาของเจ้าจะไม่ทำให้ข้าผิดหวัง!”ลู่เฟิง มองไปที่ จางฮั่น

จางฮั่นรีบกล่าวทันที”ฝ่าบาท โปรดวางพระทัย ประสิทธิภาพการต่อสู้ของกองทัพเงาจะไม่ทำให้พระองค์ผิดหวังแต่ทว่า…”

จางฮั่นมองไปที่ ลู่เฟิง”ทำไมท่านถึงไม่ปล่อยให้ข้าและทาสดาบทั้งหกพุ่งเข้าไปที่ค่ายเพื่อหาทางฆ่าพลธนูเหล่านั้นและให้พระองค์สั่งการกองทัพเงาให้โจมตี!”

จางฮั่น กังวลเรื่องความปลอดภัยของ ลู่เฟิง ท้ายที่สุด นี่ก็คือการบุกค่ายศัตรู แม้ว่าทาสดาบทั้งหก จะเลื่อนขั้นเป็นปรมาจารย์แล้วก็ตาม แต่เผชิญหน้ากับกองทัพนับหมื่นคน นักรบปรมาจารย์ 6 คน หรือแม้แต่ 10 ก็ยังไม่สามารถหยุดมันได้

พลังของกองทัพนับหมื่นนั้นน่ากลัวมาก

ลู่เฟิงได้สั่นศีรษะ”เจ้าได้ก่อตั้งกองทัพเงาขึ้นมา เป็นเจ้าที่รู้ดีเกี่ยวกับพวกเขาว่าจะใช้งานยังไงให้เกิดประสิทธิภาพในการต่อสู้สูงสุดดังนั้นเจ้าจะต้องเป็นคนคอยสั่งการกองทัพ!”

“แต่ว่าฝ่าบาท…”

“นี่คือคำสั่ง!”ลู่เฟิง กล่าวพูดทันที

จางฮั่นได้กัดฟันแน่นและตอบกลับ”ข้าน้อยรับคำสั่ง!”

หาก ลู่เฟิง พูดเช่นนี้ จางฮั่น ก็มีแต่ต้องทำตาม แต่ถ้ามันล้มเหลวขึ้นมาเขาคงจะรู้สึกผิดไปชั่วชีวิต

ขณะที่ท้องฟ้ากำลังมืดลง ลู่เฟิง ก็ยังไม่ได้บุกโจมตีทันที เขากำลังรอโอกาส

จนกระทั่งเช้าตรู่ ลู่เฟิง ได้พาทาสดาบทั้งหก ไปที่ค่ายทหาร

ร่างทั้ง 7 เคลื่อนไหวโดยไม่ทำให้ทหารในค่ายตระหนักรู้ เพียงพริบตาเดียวพวกเขาก็ลอบเข้าไปในค่ายได้สำเร็จ

“เฉินกัง เจ้าพาคนอื่น ๆ ไปหาทางลอบสังหารแม่ทัพใหญ่ของค่ายนี้ อย่าปล่อยให้พวกเขาสั่งการจัดตั้งกองทัพขึ้นมาตอบโต้พวกเรา”ที่มุมของค่ายทหาร ลู่เฟิง ได้สั่ง เฉินกัง

สีหน้าของ เฉินกัง ได้เปลี่ยนไปเขาได้กล่าวถาม”ฝ่าบาท พระองค์จะจัดการกับพลธนูเหล่านั้นด้วยตัวคนเดียวงั้นหรือ?”

ลู่เฟิง พยักหน้าและตอบกลับ”ข้ามีวิธีที่จะต้านลูกศรพลังปราณ ,ลูกศรพลังปราณของพวกเขาไม่มีประโยชน์กับข้า เจ้าเพียงแค่สร้างสถานการณ์โกลาหลภายในกองทัพก็พออย่าปล่อยให้พวกเขามารวมตัวกันได้”

ถูกต้อง เขามี เกราะพยัคฆ์ดำ!

นี่คือจุดแข็งที่ลู่เฟิงมีอยู่

ชุดเกราะพยัคฆ์ดำ สามารถต่อต้านลูกศรพลังปราณที่มีระดับพลังทำลายระดับสวรรค์ขั้นต่ำได้ เป็นธรรมชาติที่ กองทัพขนส่งเสบียงเหล่านี้ จะไม่มีลูกศรพลังปราณที่อยู่เหนือกว่า ระดับสวรรค์ขั้นกลาง

ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบัน ระดับ 8 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณ บวกกับเกราะพยัคฆ์ดำ ตราบใดที่กองทัพนี้ไม่สามารถรวมตัวกันได้เขาก็แทบจะเรียกได้ว่าไร้เทียมทาน

มีเพียงกองทหารราบที่บุกประชิดลู่เฟิงเท่านั้นที่พอจะเป็นภัยคุกคามได้!

เฉินกัง ที่เป็นผู้นำของทาสดาบทั้งหก ธรรมชาติเขาไม่ได้โง่เขลา เขาเข้าใจความหมายของลู่เฟิงและพยักหน้าทันที”แม้ว่าข้าน้อยจะถูกสังหารในสนามรบ พวกเราก็จะไม่มีวันปล่อยให้กองทัพเหล่านี้ได้มารวมตัวกัน!”

“ไปได้!’

ลู่เฟิง ได้เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปยังสถานที่ที่พลธนูอยู่

สมาชิกอีกห้าคนกำลังรอคำสั่งจาก เฉินกัง

เฉินกัง ได้กล่าวพูดออกมา”พวกเราทั้งหกคนที่นี่ไม่มีใครที่อ่อนเเอ แต่พวกเราก็ไม่สามารถสังหารทุกชีวิตที่นี่ได้ ทางเดียวก็คือป้องกันไม่ให้พวกเขารวมตัวกัน พวกเราจะทำตามคำสั่งที่ได้รับจากฝ่าบาท…”

“ให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเถอะ!”

เป็นครั้งแรกที่ ต้วนชุย ได้พูดออกมา น้ำเสียงของเขาดูแก่มากมือของเขาได้ถือดาบในมือแน่น

เฉินกังได้พยักหน้า”ดี,พวกเราต้องทำหน้าที่ดึงความสนใจของพวกเขา หากสังหารแม่ทัพใหญ่ของศัตรูได้แผนของเราก็เสร็จสมบูรณ์”

“พวกเจ้ามีความเห็นอะไรหรือไม่?”

เขาจ้องมองไปที่ทั้งห้าคน

“แม้จะสู้จนตัวตายเราก็ไม่มีวันถอย!”ต้วนชุย และ คนอื่น ๆ ได้พยักหน้า

“ดีมาก!”

ตอนนี้พวกเขาได้ตัดสินใจกันแล้ว เฉินกัง ได้นำทาสดาบอีกห้าคนพุ่งเข้าไป พวกเขาไม่แม้แต่จะซ่อนร่างและตัดศีรษะทหารในเต็นท์อย่างรวดเร็ว

การเคลื่อนไหวของพวกเขาทั้งหกคนนั้นดีกว่าแต่ก่อนมาก

แต่ถึงพวกเขาจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าแต่ก่อน มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะฆ่าทหารทั้งหมดในระยะเวลาอันสั้น

อย่างไรก็ตาม มีทหารมากกว่า 2,000 ชีวิตสูญเสียภายใต้เงื่อมมือของพวกเขาหกคน

ในไม่ช้า ทหารเหล่านี้ ก็แสดงปฏิกิริยาและรีบมุ่งหน้าไปหา ทาสดาบทั้งหก

กลุ่มคนเหล่านี้ได้จัดตั้งรูปแบบกองทัพเพื่อที่จะจัดการทาสดาบทั้งหก

ทาสดาบทั้งหกนั้นแข็งแกร่งอย่างแท้จริงแม้จะถูกกดันด้านรูปแบบกองทัพของพวกเขาก็ยังหาทางหลบหนีและสวนกลับพวกเขาได้

เมื่อแม่ทัพใหญ่ออกมาและสั่งการให้จัดตั้งรูปแบบกองทัพของศัตรูก็ทรงพลังมากขึ้น ความแข็งแกร่งของทาสดาบเดิมขั้นปรมาจารย์ ตอนนี้ แทบจะสำแดงออกมาได้แค่ขอบเขตขั้นสร้างรากฐานพลังหยวนเท่านั้น

ไม่นานก็ตกอยู่ในความเสียเปรียบ

ลู่เฟิง รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวและเข้าใจแผนของ เฉินกัง เขาไม่สนใจที่อีกฝ่ายฝ่าฝืนคำสั่งของเขาและมุ่งหน้าไปที่ค่ายธนู

การเคลื่อนไหวของทาสดาบทั้งหกนั้นเป็นประโยชน์มาก ทหารโล่ที่คอยปกป้องพลธนูนั้นได้รีบมุ่งหน้าไปที่ศูนย์กลางของการต่อสู้เพื่อปิดล้อมทาสดาบทั้งหก

ในเวลาเดียวกัน พลธนูก็เริ่มมารวมตัวกัน

ลู่เฟิง ได้รีบไปยังสถานที่เหล่านี้ และ เปิดฉากโจมตีทันที

คนจำนวนมากที่พุ่งออกมาดูได้ถูกสังหารลงอย่างรวดเร็ว

มีทหารหลายสิบคนที่อยู่ใกล้กับเขาได้เสียชีวิตลงทันทีที่เขาเหวี่ยงดาบ

คนอื่น ๆ ได้รีบถอยห่างและพยายามรักษาระยะเพื่อที่จะปล่อยลูกศร

แต่ ลู่เฟิง จะพลาดโอกาสดี ๆ เช่นนี้ไปได้อย่างไร เขาได้แกว่งดาบออกไปทุกครั้งที่แกว่งดาบออกไปย่อมมีศีรษะของทหารถูกตัดกระเด็นลงไปบนพื้น

หทารเหล่านี้พยายามจะโจมตี ลู่เฟิง แต่พวกเขาไม่สามารถหยุดลู่เฟิงได้

ความแข็งแกร่งของ ลู่เฟิง ได้ไล่ฆ่าทหารทีละคนด้วยดาบในมือของเขา

พลธนูหลักของที่นี่ ได้ทำสีหน้ามืดมน การโจมตีของธนู ยิงรักษาระยะไกลได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพในการโจมตีมากเท่านั้น

ตอนนี้ ลู่เฟิง ได้ปะปนเข้าไปในกลุ่มของพวกเขาและเริ่มการสังหารมันเป็นเรื่องยากที่จะยิงโดยไม่ให้คนพรรคพวกของตนเอง

แต่ในไม่ช้าแม่ทัพที่คุมกองนี้ก็ได้สั่งการ”ยิงลูกศรถล่มเจ้าเด็กนั่นซะ!”

ท้ายที่สุดพลธนูมากกว่า 3,000 คน ก็ปล่อยลูกศรของพวกเขาออกไป ฝนลูกศรสีเงินได้พุ่งลงไปกระแทกใส่ร่างของ ลู่เฟิง และ ทหารจำนวนมากรอบ ๆ ตัวของเขา

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

Status: Ongoing

ข้ามต่างโลกไปเป็นเพียงแค่จักรพรรดิที่ถูกควบคุมหรือไม่ ? ไม่สำคัญเพราะข้ามีระบบจักรพรรดิ!

พวกเจ้ารวมหัวกันแก่งแย่งชิงอำนาจ ? ข้าไม่สนเพราะข้ามี เจี๋ยสวี่

พวกเจ้ามีนักรบที่เก่งกาจไร้คู่เปรียบ ? เหอะ ข้ามี เทพสงคราม ฮั่

ลำดับขั้น

เนื่องจากผู้อ่านอาจเข้าใจลำดับขั้นในภาษาไทยยาก จึงอยากจะขอเปลี่ยนเป็นการทับศัพท์ลำดับขั้นแทนทั้งหมด เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น *

1.Elemental Guider จากเดิม ผู้นำธาตุ – พลังงานก๊าซ

2.Elemental Apprentice จากเดิม เด็กฝึกธาตุ – พลังงานก๊าซ

3.Elemental Journeyman จากเดิม นักผจญภัย – พลังงานก๊าซ

4.Elemental Master จากเดิม ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุ – พลังงานก๊าซ

5.Elemental Mage จากเดิม นักเวทย์ธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

6.Elemental Archmage จากเดิม ผู้วิเศษธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

7.Elemental Overlord จากเดิม เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ – พลังงานเหลว, อาณาจักรลึกลับ, พลังลึกลับ

8.Elemental Archlord จากเดิม ผู้พิพากษาธาตุ – พลังงานเหลว + พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ,พลังลึกลับ

9.Elemental Dominator จากเดิม ผู้ครอบครองพลังงานแห่งธาตุ – พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ , พลังลึกลับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท