MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ – ตอนที่ 173

ตอนที่ 173

“หึ่ม,พวกเจ้าทั้งสองรีบถอยออกไปเร็วเข้า!”

เฉินกัง ได้ตะโกนบอก ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน

ฝนลูกศรที่มาจากลูกศรพลังปราณนั้นสร้างแรงกดดันอย่างมากต่อร่างกายของพวกเขาแม้ว่าพวกเขาจะใช้พลังปราณในการป้องกันก็ยังยากที่จะต้านทาน ลูกศรพลังปราณเหล่านั้นได้เจาะทะลุร่างกายของพวกเขาโดยตรงทำให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้ลำบาก

ดาบของเฉินกัง ได้วาดฟันออกไปทำลายลูกศรพลังปราณจำนวนมากและตะโกนขึ้น”รีบล่าถอยออกไปกองทัพทหารโล่อยู่ห่างจากพวกเราไม่ถึง 500 เมตร รักษารูปแบบขบวนเอาไว้!”

ทั้งสามคน ต้วนชุย หลวนเฉิน และ หวางเหลียง ไม่ได้พูด พวกเขาเข้าใจเจตนาของหัวหน้าของพวกเขา

มีเพียงผู้ที่มากประสบการณ์เท่านั้นที่รู้ว่า ลูกศรพลังปราณนั้นน่ากลัวเพียงใด ตอนนี้ กองทัพโล่อยู่ห่างจากพวกเขาประมาณ 500 เมตร แต่ถึงอย่างนั้น ด้านหน้าของพวกเขาก็คือฝนลูกศรพลังปราณที่น่ากลัว พวกเขาแทบจะไม่สามารถยื้อไว้ได้

ฉวบ!

ในเวลานี้ ลูกศรพลังปราณได้แทงทะลุไปที่แขนขวาของ หลวนเฉิน มือของเขาสั่นและดาบของเขาเกือบที่จะหลุดตกจากมือลงไปยังพื้น

“หึ่ม! บัดซบ ถ้าไม่ใช่เพราะลูกศรพลังปราณนี้ข้าคงฆ่าศัตรูให้ฝ่าบาทได้มากกว่านี้!”

หลวนเฉิน รู้สึกสาปแช่งและอดทนต่อความเจ็บปวดของเขา

ร่างของ ต้วนชุย ได้พริ้วไหวไปด้านหน้าของ หลวนเฉิน และ ป้องกันลูกธนูพลังปราณแทนเขา

“ถอย!”

มีเสียงกรีดร้องจำนวนมากสั่งการให้ถอยมันเป็นกองทัพของชูหยี พวกเขาเองก็โดนลูกหลงจากลูกศรพลังปราณด้วย

ขณะเดียวกัน ชูหยี ที่นั่งอยู่บนรถม้าสูงเฝ้าดูฉากนี้ เขาได้หัวเราะเยาะออกมา ตราบใดที่เขาฆ่า ทาสดาบทั้งหกของ ลู่เฟิงได้ก่อน อีกฝ่ายจะต้องรู้สึกเสียใจเป็นแน่

“ดูเหมือนว่าจะไม่มีที่ให้พวกเราทั้งหกหนีแล้ว!”

เฉินกังมองขึ้นไปบนฟ้าการแสดงออกของเขาค่อนข้างเรียบเฉย

เขาเป็นนักฆ่า เขาน่าจะตายไปแล้วก่อนที่เขาจะมาถึงอาณาจักรหนานหยาน ในตอนนั้นเขาได้จักรพรรดิองค์ก่อนช่วยชีวิตเอาไว้

จนถึงตอนนี้เขาก็คิดว่าตนเองได้ใช้ชีวิตมานานพอแล้ว!

สำหรับชีวิตหลายปีที่ผ่านมาเขาคิดว่ามันคงจะคุ้มค่าแล้วที่เขาได้เกิดมา

“ข้ายังไม่ได้ล้างแค้นไอ้คนที่มันฆ่าครอบครัวของข้าเลย!”

หวางเหลียง ได้สบถด่าในใจ เขายอมเดินบนเส้นทางแห่งนักฆ่าเพื่อที่จะหาฆาตรกรที่ฆ่าทำลายครอบครัวของเขาและชีวิตของเขา

เขาคิดว่าเขาจะสามารถบรรลุเป้าหมายในการแก้แค้นได้โดยการติดตามฝ่าบาท แต่ตอนนี้เขากำลังจะตายภายใต้ฝนลูกศรพลังปราณ

ที่น่าขันก็คือ มันเป็นกลุ่มคนธรรมดาที่ใช้ลูกศรวิเศษเหล่านี้ไม่ใช่นักรบด้วยซ้ำ

เขาไม่เพียงแต่เป็นนักรบเท่านั้น เขายังเป็นถึงนักรบขั้นปรมาจารย์ที่แข็งแกร่ง ในเมื่อเขามาคิดว่าตนเองจะตายเพราะคนธรรมดาพูดไปแล้วมันก็ช่างน่าขันจริง ๆ !

อย่างไรก็ตามนี่แหละคือความสมดุลของวิถีสวรรค์

นักรบแม้ทรงพลังมากในสนามรบ แต่ลูกศรพลังปราณเหล่านี้ก็คือตัวแทนอำนาจของอาณาจักรแม้แต่นักรบที่แข็งแกร่งก็ยังพ่ายแพ้ต่อลูกศรพลังปราณระดับสูง

นี่เป็นสมดุลที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมอบโอกาสให้กับคนธรรมดา!

“ข้ายังไม่ได้เรียนรู้จุดจูงสุดของการเป็นนักฆ่าเลย!”ต้วนชุยมองไปที่ดาบในมือของเขาและถอนหายใจเบา ๆ

หลวนเฉินก็หัวเราะออกมา”จะฆ่าหรือถูกฆ่าก็ไม่ต่างกัน ยังไงชีวิตของข้า หลวนเฉิน คนนี้ก็ได้ถูกกำหนดเอาไว้แล้ว!”

ซุนฮวา และ เหม่ยหลาน ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาของพวกเธอดูเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจ

ราวกับว่าพวกเธอมีบางอย่างในใจมาตลอด

ขณะที่คนเหล่านี้กำลังครุ่นคิดบางอย่าง

ฝนลูกศรพลังปราณก็ลอยมาถึงด้านหน้าศีรษะของพวกเขา

ทั้งหกคนไม่ได้ขัดขืน พวกเขารู้ดีว่าการเผชิญหน้ากับลูกศรพลังปราณนับหมื่นนั้นไม่ต้องพูดถึงการป้องกันด้วยพลังปราณในร่างกาย ตอนนี้พลังปราณในร่างกายของเขาแทบจะหมดอยู่แล้วแม้ว่าเขาจะยังมีพลังปราณหลงเหลืออยู่ก็คงต้านทานได้สักสองวินาที

“ฮึ่ม,อย่าได้คิดว่าจะฆ่าคนของข้าได้!”

ขณะที่ทั้งหกคนกำลังสิ้นหวัง เสียงกราดเกรี้ยวของลู่เฟิงก็ได้ดังขึ้น

“ฝ่าบาท?”

ทั้งหกคนรู้สึกตกใจอย่างมาก พวกเขาเห็น ลู่เฟิง กระโจนเข้ามาเบื้องหน้าห่าฝนลูกศรพลังปราณที่อยู่ด้านหน้าพวกเขา

“ฝ่าบาท รีบหนีไปเร็วเข้า นี่เป็นลูกศรพลังปราณ เราไม่มีทางหยุดมันได้!”เฉินกัง ได้ตะโกนเรียก ลู่เฟิง

“หยุกไม่ได้ ? ใครบอกกัน!”

ลู่เฟิง ได้ส่งเสียงคำรามออกมา ด้วยการปลดปล่อยพลังของเขา กลิ่นอายพลังจำนวนมากได้ปะทุออกมาจากร่างของเขา

ในเวลานี้พลังระดับ 8 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณก็ถูกปลดปล่อยออกมา

พลังของนักรบระดับ 8 ขั้นเชื่อมจิตวิญญาณนั้นไม่มีทางที่จะต้านทานลูกศรพลังปราณได้อย่างแน่นอน

แต่ทว่า ลู่เฟิง มีชุดเกราะพยัคฆ์ดำ สำหรับเขาลูกศรพลังปราณก็เปรียบเสมือนลูกศรธรรมดาเพียงเท่านั้น

ทันใดนั้น ฝนลูกศรก็ถูกหยุดโดยลู่เฟิงอย่างสมบูรณ์

ในเวลานี้ทหารราบก็มาถึงด้านหน้าของพวกเขาพวกเขารีบวางโล่ขึ้นเพื่อปกป้องทาสดาบทั้งหก

“มันเป็นไปได้ยังไง!”

ใบหน้าของ ชูหยี นั้นมืดมนมาก เขาเคยเห็นนักรบที่แข็งแกร่งมากมาย แต่ทว่าคนเหล่านี้ยามเผชิญหน้ากับลูกศรพลังปราณพวกเขามีสองทางเลือกเท่านั้น ไม่หนีก็ตาย!

ไม่เคยมีนักรบคนใดต้านทานลูกศรพลังปราณนับหมื่นลูกได้มาก่อน

ตอนนี้ ลู่เฟิง ได้ทำสิ่งที่เขาไม่เคยเห็น ลูกศรพลังปราณนั้นเองเพียงพอที่จะดับชีวิตนักรบขั้นปรมาจารย์ได้ แต่ทว่า ลู่เฟิง กลับต้านทาน ได้นี่มันเป็นไปได้ยังไง

ภายใต้การป้องกันของ ลู่เฟิง เขายังไม่สามารถสังหารทาสดาบทั้งหกได้ทั้งยังสูญเสียทหารที่อยู่ภายในรัศมีการยิงไปอีก

เวรเอ้ย!

บัดซบ!

“ลู่เฟิง!”

ชูหยี คำรามออกมา”สั่งกองทัพทั้งหมดให้ไล่ฆ่าลู่เฟิง ใครที่ฆ่ามันได้ ข้าจะมอบรางวัลให้มันผู้นั้นอย่างงาม ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ องค์ชาย ข้าจะให้ทั้งหมด ดังนั้นไปฆ่ามันให้ข้า!”

ชูหยี โกรธมาก เขาได้ยอมเสียทุกอย่างเพื่อหวังจะฆ่าลู่เฟิง

ทหารที่ได้ยินเช่นนั้นพวกเขาต่างก็มีขวัญกำลังใจมากขึ้น

เพราะไม่มีทหารคนไหนไม่อยากเป็นองค์ชายหรือแม่ทัพใหญ่!

ฆ่า!

ฆ่า ลู่เฟิง!

ฆ่าลู่เฟิง เพื่อตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ หรือ องค์ชาย!

นี่คือความคิดของทหารทั้งหมด : ฆ่าลู่เฟิง ให้ได้

ทหารหลายแสนคนได้ตะโกนขึ้นเพื่อที่จะสังหาร ลู่เฟิง เหล่าทหารฝ่าย ลู่เฟิง ที่ได้ยินเช่นนั้นพวกเขาหน้าซีดเผือกเล็กน้อย

ในตอนนี้ ลู่เฟิง ขมวดคิ้วแน่นและมองไปที่ตั้งของกองทัพอาณาจักรซีหยางและกล่าวพูดเย้ยหยัน”ฆ่าข้า ? มาดูกันว่า ข้าหรือว่าพวกเจ้าที่จะตาย!”

“มานี่!”

จางฮั่น ที่ติดตาม ลู่เฟิง ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าของเขาและกล่าวพูดด้วยความเคารพ”ข้าน้อยอยู่นี่แล้วพะยะค่ะ!”

“ลงไปแจ้งทหารทุกคน ใครก็ตามที่ฆ่า ชูหยีได้ ข้าจะมอบบรรดาศักดิ์โฮวให้!”

ศักดิ์โฮว,บรรดาศักดิ์ที่สืบทอดไปยังรุ่นลูกรุ่นหลานได้ เป็นบรรดาศักดิ์ที่มีเกียรติ!

หลังจากได้ยินคำสั่งของ ลู่เฟิง ขวัญกำลังใจของทหารอาณาจักรหนานหยานก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว พวกเขาพุ่งไปข้างหน้าอย่างไม่หวั่นเกรงเพื่อที่จะกำราบทหารของอาณาจักรซีหยาง

ในเวลานี้ทหารของอาณาจักรซีหยางเองก็ต้องการไล่ฆ่าศัตรูเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง

ลู่เฟิง ได้ตะโกนขึ้นอีกครั้ง”ทหารม้าทุกคนฟัง ใครก็ตามที่เด็ดหัวศัตรูได้มากขึ้นข้าจะตบรางวัลให้มันผู้นั้นอย่างงาม!”

“ฆ่า!”

ทหารม้าเหล็ก 50,000 นายได้ยินดังนั้นเขาก็พุ่งเข้าใส่กองทัพของศัตรูอีกครั้งภายใต้การนำของลู่เฟิง

พริบตาเดียว กองทัพของอาณาจักรซีหยาง ได้พุ่งเข้ามาหากองทัพทหารม้าของ ลู่เฟิง จิตสังหารของลู่เฟิงได้แพร่กระจายไปทั่ว เขาได้ตะโกนขึ้นด้วยความโกรธ”ฆ่าพวกมันให้หมด ใครมันกล้าขวางทางข้า ตาย!”

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

Status: Ongoing

ข้ามต่างโลกไปเป็นเพียงแค่จักรพรรดิที่ถูกควบคุมหรือไม่ ? ไม่สำคัญเพราะข้ามีระบบจักรพรรดิ!

พวกเจ้ารวมหัวกันแก่งแย่งชิงอำนาจ ? ข้าไม่สนเพราะข้ามี เจี๋ยสวี่

พวกเจ้ามีนักรบที่เก่งกาจไร้คู่เปรียบ ? เหอะ ข้ามี เทพสงคราม ฮั่

ลำดับขั้น

เนื่องจากผู้อ่านอาจเข้าใจลำดับขั้นในภาษาไทยยาก จึงอยากจะขอเปลี่ยนเป็นการทับศัพท์ลำดับขั้นแทนทั้งหมด เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น *

1.Elemental Guider จากเดิม ผู้นำธาตุ – พลังงานก๊าซ

2.Elemental Apprentice จากเดิม เด็กฝึกธาตุ – พลังงานก๊าซ

3.Elemental Journeyman จากเดิม นักผจญภัย – พลังงานก๊าซ

4.Elemental Master จากเดิม ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุ – พลังงานก๊าซ

5.Elemental Mage จากเดิม นักเวทย์ธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

6.Elemental Archmage จากเดิม ผู้วิเศษธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

7.Elemental Overlord จากเดิม เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ – พลังงานเหลว, อาณาจักรลึกลับ, พลังลึกลับ

8.Elemental Archlord จากเดิม ผู้พิพากษาธาตุ – พลังงานเหลว + พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ,พลังลึกลับ

9.Elemental Dominator จากเดิม ผู้ครอบครองพลังงานแห่งธาตุ – พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ , พลังลึกลับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท