MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ – ตอนที่ 175

ตอนที่ 175

เมื่อ ลู่เฟิง พุ่งเข้าใส่ เมิ่งเถียน ก็ได้ส่งทหารราบชั้นยอดของเขาติดตามไป

ตอนนี้ ชูหยี ได้สั่งการให้กองทัพของเขาพยายามปิดล้อมกองทัพทหารม้าของลู่เฟิงแต่มันก็ต้องหยุดลงเมื่อเห็นกองทัพของ เมิ่งเถียนเข้ามา

“บ้าเอ้ย!”

ชูหยี รู้สึกเสียใจอย่างมาก

เขารู้สึกเสียใจที่ไม่เชื่อใจแม่ทัพที่บอกให้เขาจัดการลู่เฟิงด้วยเกาทันฑ์ก่อนหน้านี้

หากเขาโจมตีลู่เฟิงและทหารม้าด้วยเกาทันฑ์ก่อนหน้าคงจะพอทำให้กองทัพของอีกฝ่ายสูญเสียหนักได้!

แต่ตอนนี้!

เขาไม่สามารถแก้ไขอะไรได้แล้ว

กองทัพของเขาที่ไม่มีรูปแบบทางทหารจะเอาอะไรไปหยุดกองทัพของลู่เฟิง?

สำหรับการสู้ส่วนตัว?

เขาเป็นนักรบที่ทรงพลังที่สุดในอาณาจักรซีหยาง เขาเคยคิดที่จะสู้ตัวต่อตัวกับลู่เฟิงมาก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะสมบัติป้องกันของเขา ศีรษะของเขาคงถูกตัดไปแล้ว

“ฝ่าบาท พวกเราควรถอยทัพกันก่อน! แม้ว่าจะสูญเสียกำลังพลไปมาก แต่กองทหารทางด้านขวาของเรายังคงอยู่กองทหารทางด้านซ้ายเองก็ยังรวมรวมกำลังพลกลับมาได้อย่างน้อย 200,000 นาย ถ้าเราถอยทัพตอนนี้เราจะยังเหลือทหารมากกว่า 600,000 นาย ในมือเรา หลังจากเราถอยเข้าเมืองโฮวฉิว แม้ว่าพวกมันอยากจะตีพวกเราก็เป็นไปได้ยากแล้ว!”

เมื่อได้ยินคนของเขาพูดสีหน้าของ ชูหยี ก็มืดมน ครั้งนี้เขามั่นใจคิดว่าเมิ่งเถียนใช้ทหารของตระกูลขุนนางเหล่านั้นและเขาจะสามารถเอาชนะได้ง่าย แต่ไม่คิดเลยว่า ลู่เฟิง จะใช้ทหารม้า ทำลายแผนการของเขาทั้งหมด

สิ่งที่ประหลาดที่สุดก็คือการต้านทานลูกศรพลังปราณของอีกฝ่ายได้ หากอีกฝ่ายไม่มีวิธีการเช่นนั้นเขาคงได้รับชัยชนะในศึกนี้ไปแล้ว

ตอนนี้ถ้าเขายังลากการต่อสู้ต่อไปมันจะทำให้เขาสูญเสียหนักมากขึ้นดังนั้นความคิดถอนทัพจึงอยู่ในใจของเขา เมิ่งเถียน เองก็สั่งให้กองทัพรุกหน้าขึ้นไป

ในใจของ ชูหยี เขาไม่ลังเลที่จะสั่งถอนทัพหากเขาเลือกถอนทัพตอนนี้เขาจะต้องสูญเสียทหารอย่างน้อย 100,000 นาย เพื่อต้านทาน

แต่เขาไม่มีทางเลือก

“ถอยทัพ ถอยทัพ!”

ชูหยี ได้ตะโกนออกมาอย่างไม่เต็มใจ

เมื่อได้ยินเช่นนั้น แม่ทัพที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกโล่งใจและรีบแจ้งสัญญาณถอนทัพทันที

ขณะเดียวกันรถม้าของชูหยี ก็เริ่มอพยพ

ทันทีที่ รถม้าเคลื่อนไหว ลู่เฟิง ก็ค้นพบมันและเข้าใจแผนของชูหยีทันที!

แต่เขาจะปล่อย ชูหยี หนีไปได้อย่างไร?

ในการต่อสู้ครั้งนี้ กุญแจสำคัญสำหรับชัยชนะก็คือ การสังหารชูหยี ดังนั้นเขาจะปล่อยชูหยีให้หนีไปได้งั้นหรือไม่?

“จางฮั่น!”

“ขอรับ!”

จางฮั่น รีบควบม้าไปที่ด้านข้างของลู่เฟิง

ลู่เฟิงออกคำสั่งทันที”ข้าจะนำทหารม้าชั้นยอดห้าร้อยนายออกไป เจ้าควบคุมทหารม้าและมุ่งหน้าสังหารศัตรูต่อทำให้ศัตรูเสียหายให้ได้มากที่สุดและอย่าปล่อยโอกาสให้กองทัพของอาณาจักรซีหยางกลับมารวมตัวกัน!”

อาณาจักรซีหยางที่ไม่มีกองทัพก็เปรียบเสมือนเสือที่ไม่มีเขี้ยวเล็บดังนั้นจึงไม่มีภัยคุกคามใด ๆ ตอนนี้ อาณาจักรหนานหยาน มีผู้เชี่ยวชาญขั้นปรมาจารย์มากมาย สามารถจัดการอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน

“ฝ่าบาท คิดจะไล่ตาม ชูหยี ไปใช่หรือไม่?”จางฮั่น กล่าวถาม

“อืม,ไม่ว่าอย่างไร ชูหยี จะต้องตาย!”

“ฝ่าบาท ได้โปรดระวังตัวด้วย หากพระองค์เป็นอะไรไป ข้าน้อยยินดีตัดศีรษะเพื่อชดใช้ความผิด!”จางฮั่น ได้กล่าวพูดขึ้นทันที

“ฮ่าฮ่า,เช่นนั้นเจ้าคงต้องเปลี่ยนความคิดแล้ว ข้าจะไม่ยอมให้คนของข้าต้องตัดศีรษะเพราะรู้สึกผิด!”

ลู่เฟิง หัวเราะออกมา และไล่ตามทิศทางการหลบหนีของชูหยีด้วยทหารม้าชั้นยอด 500 นาย

จางฮั่น ได้เฝ้าดูและนำทหารม้าเข้าชาร์จต่อทันที ตำแหน่งที่เขาเลือกคือกองทัพทางด้านขวา เนื่องเพราะกองทัพทางด้านขวาของกองทัพอาณาจักรซีหยางไม่ได้รับความเสียหายมากนัก และ ตอนนี้ กองทัพนั่นแทบจะเรียกได้ว่าสมบูรณ์เขาจะต้องบั่นทอนกำลังที่จะตามไปสมทบชูหยีให้ได้มากที่สุด

ลู่เฟิงนำทหารม้าห้าร้อยนายติดตามไปยังรวดเร็ว แต่ม้าที่ชูหยีใช้นั้นเป็นม้าที่ดี ดังนั้นมันจึงรวดเร็วอย่างมากแม้ว่าจะแบกรถม้าไปด้วยแต่ก็ยังเร็วกว่าม้าธรรมดา

ชูหยี ได้หนีเอาชีวิตรอดโดยไม่สนใจสิ่งใด ตราบใดที่เขายังไม่ตายเขาก็ยังกลับมาแก้แค้นได้

“เอาธนูมาให้ข้า!”

ด้านหลังของลู่เฟิงได้มีคนส่งคันธนูให้กับเขา

ลู่เฟิงไม่สามารถยิงธนูได้ แต่เขาสามารถใช้พลังปราณแท้จริงในการเหนี่ยวนำเพื่อล็อคม้าศึกที่ลากรถม้าของชูหยีได้

เขาได้วาดคันธนูและตั้งลูกศรเล็งไปที่ม้าศึกด้วยเจตนาสังหารที่รุนแรง

เขาได้ปล่อยมือหลวม ๆ พร้อมกับง้างคันธนูยิงออกไป

ฟุ่บ!

ไม่มีใครคิดว่าลูกศรนี้จะแทงทะลุม้าโดยตรง

ม้าศึกได้ร้องลั่นและล้มลงกับพื้น ม้าศึกอีกตัวได้ถูกตรึงเอาไว้และล้มลงไปกับพื้นจนรถม้าทับตาย

ชูหยี ได้ตอบสนองอย่างรวดเร็ว และ กระโดดหลบหนีออกไปก่อนหน้านี้ เขารีบกระโดดไปยังม้าศึกของแม่ทัพคนนึงและโยนแม่ทัพคนนั้นออกไป

“ชูหยี ยอมรับชะตากรรมของตนเองซะ!”

ลู่เฟิง ได้คำรามออกมา

“บ้าเอ้ย!”

ชูหยี ที่ได้ยินเสียงของลู่เฟิง เขาไม่ลังเลที่จะควบม้าหลบหนีไปโดยไม่สนใจจสิ่งใด

เมื่อเขาจะพุ่งไปยังกองทัพทางด้านขวาก็เห็นว่ากองทัพทางด้านขวากำลังถูกทำลาย

ตอนนี้เขาไม่มีเวลาคิดและเป้าหมายเดียวของเขาก็คือควบม้ามุ่งหน้ากลับไปที่เมืองโฮวฉิว

ลู่เฟิง เองก็ไม่ลังเลที่จะไล่ตามไป

ไม่นานทั้งสองฝ่ายก็ออกจากสนามรบ

ชูหยี ได้นำทหารมากกว่าหนึ่งพันติดตามเขาไปเพื่อหลบหนีทหารม้าของลู่เฟิง

“ยิงมัน,สอยลู่เฟิงให้ข้า!”

ชูหยี ได้สั่งให้ทหารของเขานำธนูออกมายิงใส่ ลู่เฟิง

ทันใดนั้นคนกว่า 500 คนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็หันกลับมาพร้อมกับง้างคันธนูเพื่อที่จะเล็งยิงลู่เฟิง

อันที่จริง ชูหยี รู้ว่า ลูกศรของพวกเขาไม่สามารถทำอันตรายอะไรลู่เฟิงได้ แต่เขาต้องการให้คนเหล่านี้ถ่วงเวลาลู่เฟิง ให้เขาเพียงเท่านั้น

ตัวเขาเป็นถึง จักรพรรดิแห่งอาณาจักรซีหยาง เขาจะมาตายตรงนี้ไม่ได้

ลูกศรมากกว่า 500 ดอก ได้พุ่งเข้าใส่ ลู่เฟิงอย่างรวดเร็ว ปลายดาบของลู่เฟิงได้วาดออกและทำลายลูกศร 500 ดอกโดยตรง

ทหารห้าร้อยนายที่เหลือรีบพยายามหลบหนีตามไปยังทิศทางของชูหยี

แต่พวกเขาก็ถูก ลู่เฟิง และทหารม้าไล่ฆ่าอย่างเหี้ยมโหด

ในเวลานี้ ลู่เฟิง ไม่สนใจสิ่งใด สิ่งสำคัญก็คือเขาต้องการฆ่า ชูหยี หากเขาฆ่าชูหยี ได้สำเร็จ การต่อสู้ครั้งนี้จึงจะเรียกว่าชัยชนะที่สมบูรณ์

ในไม่ช้า ชูหยี ก็มาถึง เมืองโฮวฉิว เขาได้ตะโกนขึ้น”เปิดประตู รีบเปิดประตูสิวะ!”

ทหารยามของเมืองโฮวฉิว ที่เห็น จักรพรรดิของตนเองเสด็จกลับมาพวกเขารีบเปิดประตู

แต่ประตูนี้มีน้ำหนักมากมันยังคงต้องใช้เวลาในการเปิด

ครั้งนี้เพียงพอสำหรับทำให้ ลู่เฟิง ตามทัน

ลู่เฟิง มองไปที่ ชูหยี ที่กำลังจะเข้าเมืองเขาตะโกนด้วยความโกรธ”ชูหยี มอบชีวิตมาให้ข้าซะ!”

ชูหยี รู้สึกตกใจมาก เขาสัมผัสได้ถึงเจตนาฆ่าที่รุนแรงด้านหลังของเขา เขาทำได้เพียงสวดภาวนาขอให้ประตูเมืองเปืดออกโดยเร็วที่สุด

ดูเหมือนว่าคำอธิษฐานของเขาจะได้ผลในที่สุดประตูเมืองก็เปิดออก

ชูหยี ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและรีบพุ่งเข้าเมืองทันที

ทหารม้าของเขา ก็ต้องการจะพุ่งเข้าไป แต่ชูหยี ได้สั่งให้พวกเขาไปต่อต้าน ลู่เฟิง เพื่อถ่วงเวลาไม่ให้ ลู่เฟิง ตามเขาได้ทัน

ทหารแต่ละคนยิ้มอย่างขมขื่น แต่พวกเขาทำได้เพียงแค่ปฏิบัติตามคำสั่งและพุ่งเข้าไปด้านหน้าเพื่อต่อต้านลู่เฟิง

ชูหยี ได้สั่งให้ปิดประตูเมืองทันทีขณะเดียวกันเขาก็มองไปที่ ลู่เฟิง ด้วยสายตาเย้ยหยัน”คิดจะฆ่าข้างั้นเหรอ ไว้รอชาติหน้าแล้วกัน!”

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

Status: Ongoing

ข้ามต่างโลกไปเป็นเพียงแค่จักรพรรดิที่ถูกควบคุมหรือไม่ ? ไม่สำคัญเพราะข้ามีระบบจักรพรรดิ!

พวกเจ้ารวมหัวกันแก่งแย่งชิงอำนาจ ? ข้าไม่สนเพราะข้ามี เจี๋ยสวี่

พวกเจ้ามีนักรบที่เก่งกาจไร้คู่เปรียบ ? เหอะ ข้ามี เทพสงคราม ฮั่

ลำดับขั้น

เนื่องจากผู้อ่านอาจเข้าใจลำดับขั้นในภาษาไทยยาก จึงอยากจะขอเปลี่ยนเป็นการทับศัพท์ลำดับขั้นแทนทั้งหมด เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น *

1.Elemental Guider จากเดิม ผู้นำธาตุ – พลังงานก๊าซ

2.Elemental Apprentice จากเดิม เด็กฝึกธาตุ – พลังงานก๊าซ

3.Elemental Journeyman จากเดิม นักผจญภัย – พลังงานก๊าซ

4.Elemental Master จากเดิม ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุ – พลังงานก๊าซ

5.Elemental Mage จากเดิม นักเวทย์ธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

6.Elemental Archmage จากเดิม ผู้วิเศษธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

7.Elemental Overlord จากเดิม เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ – พลังงานเหลว, อาณาจักรลึกลับ, พลังลึกลับ

8.Elemental Archlord จากเดิม ผู้พิพากษาธาตุ – พลังงานเหลว + พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ,พลังลึกลับ

9.Elemental Dominator จากเดิม ผู้ครอบครองพลังงานแห่งธาตุ – พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ , พลังลึกลับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท