หลาย ๆ คนมองไปที่หานหนิงด้วยท่าทีประหลาดใจ”ท่านคงไม่คิดจะนำทหารไปมอบตัวกับลู่เฟิงใช่หรือไม่?”
หานหนิงไม่ได้ปฏิเสธแต่เขากลับพยักหน้า”อาณาจักรซีหยางจบสิ้นแล้ว สิ่งที่เราทำได้ก็ได้ทำไปแล้ว เดิมข้าคิดจะสนับสนุน ชูจิน จนวินาทีสุดท้าย แม้จะต้องตายก็หาได้เสียดาย แต่ทว่า เขากลับห่วงพวกขุนนางตระกูลใหญ่เหล่านั้นและทอดทิ้งพวกเราอย่างไม่ใยดีสำหรับลู่เฟิง…”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่เขาก็ตอบกลับ”ข้าได้ให้คนของข้าลอบเข้าไปสืบข่าวที่อาณาจักรหนานหยาน และก็ได้รู้ข้อมูลบางอย่างมา แม้ว่า ตระกูลขุนนางที่นั่นจะไม่ได้รับอนุญาติให้มีทหารส่วนตัว แต่ก็ไม่มีข้อจำกัดใด ๆ อื่นอีก พวกเขาสามารถส่งลูกหลานเข้ากองทัพได้ ทั้งที่นั่น ยังมีหนังสือทิเบต ที่ว่ากันว่าเป็นทักษะที่เปิดให้เรียนรู้ฟรี หาก ลูกหลานของพวกเราสามารถฝึกฝนหนังสือทิเบตนั่นได้ พวกเขาจะได้รับทักษะที่ล้ำค่าอย่างทักษะระดับปฐพีมาในครอบครอง”
“เท่าที่ข้ารู้มา ในกองทัพยังให้การสนับสนุนด้านทรัพยากรบ่มเพาะพลัง ด้วยทรัพยากรเหล่านี้เราสามารถปลูกฝังบุตรหลานให้เติบโตและแข็งแกร่งขึ้นทอด ชื่อสกุลของพวกเราจะยังคงสืบทอดต่อไปอีกนานแสนนาน!”
“ข้าเคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่เพราะข้าเป็นขุนนางของอาณาจักรซีหยาง ดังนั้นจึงหาได้ปฏิเสธความช่วยเหลือจึงส่งกำลังคนมาหา ชูจินทั้งหมด เพื่อกอบกู้อาณาจักรซีหยาง แต่ทุกคนก็เห็นผลลัพธ์แล้ว สุดท้ายในสายตาของชูจิน ตระกูลขุนนางใหญ่เหล่านั้นสลักสำคัญกว่าตระกูลขุนนางเล็ก ๆ อย่างพวกเรา พวกเราเป็นได้แค่อาหารฝนลูกศรเหล่านั้น”
“ข้าไม่อยากให้คนของตระกูลหานต้องเป็นอาหารของฝนลูกศรเหล่านั้น…”
ดวงตาของหานหนิงได้เปล่งประกายทันที”ดังนั้นข้าเต็มใจที่จะสละทหารส่วนตัวและตระกูลทั้งหมดเพื่อยอมจำนนต่อลู่เฟิง!”
หลายคนได้ยินเรื่องนี้พวกเขาก็รู้สึกลังเลขึ้นมา”พี่หานท่านได้ติดต่อกับลู่เฟิงแล้วหรือยัง?”
หานหนิงได้สั่นศีรษะ”ข้าไม่ได้ติดต่อกับลู่เฟิงโดยตรง แต่หลังจากเข้าประตูเมืองมา มีหน่วยทหารจินยี่เหว่ยที่สังกัดภายใต้ลู่เฟิงเข้ามาหาข้า พวกเขาให้สัญญาว่าหากเต็มใจยอมจำนน ตระกูลหาน จะได้รับการละเว้นชีวิตและได้รับการคุ้มครองอย่างดี”
“เรื่องนี้…”
หลายคนได้มองไปที่หานหนิงและยิ้มอย่างขมขื่น”พี่หานท่านคิดจะก่อกบฏงั้นเหรอ?”
หานหนิงไม่ได้ปฏิเสธ”หรือว่าพวกเจ้าคิดจะสนับสนุนจักรพรรดิสุนัขชูจิน ? ในวันนี้ท่าทีของเขาทำให้ข้ารู้สึกสิ้นหวัง ข้าไม่อาจให้การสนับสนุนเขาต่อไปได้”
เห้อ!
หลายคนที่ได้ยินดังนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจออกมาสิ่งที่ชูจินทำให้พวกเขารู้สึกหมดหวังจริง ๆ
“ตระกูลขุนนางเล็ก ๆ อย่างพวกเราหาได้เทียบตระกูลขุนนางใหญ่เหล่านั้นได้ ยามนี้ ทหารส่วนตัวของเราก็แทบไม่เหลือ ผลสุดท้าย หากเมืองถูกทำลายพวกเราก็คงตายกันหมดอยู่ดี สู้ถอยซะตั้งแต่ตอนนี้ เขาไม่มีค่าพอที่เราจะตายเพื่อเขา!”หานหนิงกล่าวอย่างเคร่งขรึม
“แต่…”
มีคนหนึ่งรู้สึกกังวลเล็กน้อยเขาได้พูดขึ้น”ถ้าเรายอมจำนนต่อลู่เฟิง เขาจะปล่อยให้คนในตระกูลของเราเข้าร่วมกองทัพจริง ๆ งั้นเหรอ ? อีกทั้งเขายังจะปล่อยให้คนของเราได้ฝึกฝนทักษะจากหนังสือทิเบต?”
หานหนิงได้พยักหน้า”คนที่ข้าส่งไปได้รับการยืนยันแล้วว่า แม้แต่คนที่สนับสนุน ราชาเมกาทรอนก่อนหน้านี้ เมื่อคิดยอมจำนนและมอบทหารส่วนตัว พวกเขาก็ได้รับการผ่อนปรณ ไม่มีกฏเกณฑ์ว่าพวกเขาจะไม่สามารถส่งลูกหลานเข้าร่วมกองทัพได้ แต่ทว่า หากคิดใช้เส้นสายของกองทัพเพื่อแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ของตนเองจุดจบมีเพียงอย่างเดียว ถูกฆ่า ซึ่ง จินยี่เหว่ย เป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้”
“สำหรับอื่น ๆ …”
หานหนิงมองไปที่คนเหล่านี้”เอาเป็นว่าพวกเจ้าต้องการลงเรือลำเดียวกับข้าหรือไม่?”
“พวกเราเห็นด้วย”
หลายคนได้พยักหน้า หานหนิงได้กล่าวออกมา”ถ้าทุกคนตัดสินใจเช่นนั้น ข้าจะให้คนไปบอกทหารจินยี่เหว่ย ให้ไปแจ้งต่อลู่เฟิงถึงทัศนคติของเราที่คิดจะยอมจำนน”
“ดี!”
หลาย ๆ คนได้พยักหน้าทันที
เพราะหากจินยี่เหว่ยไปรายงานลู่เฟิงเรื่องที่พวกเขายอมจำนนเป็นรายแรก ๆ เป็นธรรมชาติที่ ลู่เฟิงอาจจะตอบรับด้วยผลประโยชน์มากมาย
“แต่ว่าพวกเราลืมพิจารณาเรื่องบางอย่างไปหรือไม่?”ทันใดนั้นเองก็มีคนพูดขึ้นและมองไปที่หานหนิง”พวกท่านคงไม่ได้ลืม นายน้อยแห่งนิกายดาบวิญญาณ ? ถ้าลู่เฟิงเกรงกลัวนิกายดาบวิญญาณ ถึงตอนนั้นเราคิดจะถอนตัวก็คงทำไม่ได้แล้ว”
หานหนิง ได้ยิ้มออกมาทันที”เรื่องนี้ไม่ต้องกังวล เท่าที่ข้าได้รับข่าวมา ยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์4คนที่ลอบออกไปช่วยเหลือชูจินในเวลานั้น ได้ถูกคนของลู่เฟิงสังหารสิ้น”
“สังหารหมดเลยเหรอ?”หลายคนกล่าวถามด้วยความประหลาดใจ
หานหนิงได้พยักหน้า”ถูกต้อง ยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ 4 คน หนึ่งในนั้นยังมียอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ระดับ 6 พวกเขาทั้งหมดถูกฆ่าตาย เพราะเหตุผลนี้ ข้าถึงกล้าพูดเรื่องนี้กับพวกเจ้า ว่าเราควรยินยอมสวามิภักดิ์ต่อลู่เฟิง”
“นี่…พี่หาน เร็วเข้ารีบติดต่อจินยี่เหว่ยให้เขาไปรายงานต่อลู่เฟิง พวกเราไม่อาจรอช้าไปมากกว่านี้”หลายคนได้กล่าวพูดอย่างเร่งรีบ
4 ยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ หนึ่งในนั้นยังเป็นยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ระดับ 6 กลับถูกจัดการโดยลู่เฟิง พวกเขายังมีหน้าไปดูถูกอีกฝ่ายอีก
นี่ไม่เท่ากับพวกเขาเป็นตัวตลกหรือไม่?
หานหนิงได้หยุดพูดและรีบลงไปติดต่อจินยี่เหว่ยทันที
จินยี่เหว่ยเองก็ได้ส่งข่าวหาลู่เฟิง
“ฮ่าฮ่า,ดูเหมือนว่า เมืองหลิงหยางจะต้องแตกพ่ายภายในสามวันนี้!”
ลู่เฟิงหัวเราะออกมาเมื่อได้รับข่าวจากจินยี่เหว่ย
จางซุนหวูจี๋,ลิโป้ เมิ่งเถียน และ คนอื่น ๆ ได้หัวเราะออกมา”ถ้าชูจิน รู้เรื่องนี้ล่ะก็เขาคงอาเจียนออกมาเป็นเลือดแน่!”
ลู่เฟิงพยักหน้า”ไม่มีเหตุผลที่จะโทษคนอื่น ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษตัวเขาที่ไร้ความสามารถและทรยศความภักดีของลูกน้อง”
หากคุณเป็นจักรพรรดิที่ดีข้าราชบริพารก็จะภักดีต่อคุณ หากคุณคิดจะสังหารข้าราชบริพารของคุณ มันจะเป็นเรื่องแปลกหากคนเหล่านั้นไม่คิดอาฆาตแค้น
นี่ไม่ใช่เรื่องที่สมควรทำ
สิ่งที่พวกเขามีเหมือน ๆ กันก็คือความเป็นคน
แม้ว่าจักรพรรดิจะถืออำนาจบาตรใหญ่แต่พวกเขาก็ล้วนมีขอบเขตที่พึงกระทำได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเหตุการณ์
“จางซุนหวูจี๋!”
“ขอรับ!”
“ให้จินยี่เหว่ยไปส่งข่าวให้พวก หานหนิง ว่าข้ายอมรับการยอมจำนนของพวกเขา บอกพวกเขาว่า ในขณะที่กองทัพของข้าบุกโจมตีเมือง ให้พวกเขาเปิดประตูเมืองโดยเร็วที่สุด หากทำผลลัพธ์ได้ดีข้าจะตอบแทนด้วยความรุ่งเรืองและมั่งคั่งสำหรับพวกเขา”ลู่เฟิงตะโกนพูดขึ้น
“ขอรับ!”
จางซุนหวูจี๋ได้ลงไปจัดการ
“เมิ่งเถียน!”
“ขอรับ!”
“จัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการตีเมืองในคืนนี้ พวกเราจะยกทัพโจมตีเมืองในวันพรุ่งนี้”
“ข้าน้อยรับคำสั่ง!”
…
ในตอนเที่ยงของวันรุ่งขึ้นกองทัพของลู่เฟิงได้เคลื่อนตัว
นอกประตูทิศตะวันตกมีทหารหนึ่งแสนนายคอยประจำการและทหารที่เหลือได้กระจายไปอีกสามประตู
ถึงแม้ว่าด้านหน้านี้จะมีทหารแค่แสนนายแต่พวกเขาก็ทรงพลังอย่างมาก
“อ่า…นายน้อยหวู่ พวกเราจะทำอย่างไรกันต่อไปดี?”ชูจินมองไปที่กองทัพด้านล่างด้วยใบหน้าซีดเผือก
การต่อสู้เมื่อวานทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว
แม้ว่าตอนนี้เขาจะยืนอยู่บนกำแพงเมืองหลิงหยางเขาก็หาได้รู้สึกผ่อนคลายไม่
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น แม้แต่ทหารคนอื่น ๆ ก็เหมือนกัน
หวู่ฮง ไม่ได้ตอบ ใบหน้าของเขามืดมน เขาได้รับข่าวมาว่า ยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ทั้งหมดที่เขาส่งออกไปได้ถูกฆ่าโดยลู่เฟิง
ยอดฝีมือขั้นปรมาจารย์ทั้งสี่คนนี้ เปรียบเสมือนเสาหลักค้ำนิกายดาบวิญญาณ เมื่อสูญเสียไปย่อมสร้างผลกระทบมหาศาลให้กับพวกเขา
“ใครคือ ลู่เฟิง แสดงตัวออกมาซะ!”
หวู่ฮง รู้สึกโกรธมาก เขาได้ตะโกนใส่กองทัพที่อยู่ใต้เมือง