“นี่มัน…”
ลู่เฟิง ขมวดคิ้วแน่น เรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ หากเขารู้เรื่อง นิกายดาบวิญญาณแอบสร้างอาคมเคลื่อนย้ายอยู่ เขาคงไม่สนใจเรื่องหินวิญญษณอย่างแน่นอน
“อาคมเคลื่อนย้ายตั้งอยู่ที่ใด?”ลู่เฟิง ถามและจ้องมองไปที่ หนิงหยุนเอ๋อร์
“ที่ลานด้านหลังคฤหาสน์ตระกูลหนิงในเป่ยเฉิง”หนิงหยุนเอ๋อร์ ได้ตอบกลับ
“ตามข้ามาไปที่คฤหาสน์ด้านหลังตระกูลหนิงทันที”
“เพคะ!”
ทาสดาบทั้งหกเองก็ได้ติดตาม ลู่เฟิง ไปพร้อมกับหนิงหยุนเอ๋อร์
แน่นอนว่า ลู่เฟิง ไม่อยากทิ้ง หนิงหยุนเอ๋อร์ เอาไว้ เพราะท้ายที่สุดแล้วหากหญิงผู้นี้โกหกเขา เขาจะมอบบทเรียนเลือดให้กับเธออย่างแน่นอน
ลู่เฟิง ได้พา กำลังทั้งหมดของเขา แม้กระทั่ง หนิงหยุนเอ๋อร์ มาถึงที่นี่
ต้วนชุย ได้เข้าไปแจ้งเมิ่งเถียน และ ลิโป้ ให้รับรู้ ก่อนที่พวกเขาจะนำทัพใหญ่มาล้อมคฤหาสน์เอาไว้
“ฝ่าบาท!”
ทั้งสองคนได้มาถึงก็เดินเข้ามาทักทายลู่เฟิงทันที
“สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”ลู่เฟิงกล่าวถามทันที
“ฝ่าบาท เฟิงเชี่ยน และ ข้าได้นำกองทัพมาปิดล้อมทางเข้าออกคฤหาสน์ไว้หมดแล้วตอนนี้กำลังทุบประตูบานหนึ่งอยู่”เมิ่งเถียน ได้ตอบกลับ
“รายงานท่านแม่ทัพ ประตูบานนี้ไม่สามารถเปิดออกได้”
หลังจากคำพูดของ เมิ่งเถียน จบก็มีทหารคนหนึ่งวิ่งมารายงาน
“เปิดไม่ได้ ? พวกเจ้าไม่มีเรี่ยวแรงกันเลยหรืออย่างไร?”
เมิ่งเถียน ตะโกนด้วยความโกรธ”พาข้าไปดู”
เมิ่งเถียน ได้ติดตามทหารไปทันที
แน่นอนว่า ลู่เฟิง ทาสดาบทั้งหมด ลิโป้ และ หนิงหยุนเอ๋อร์ ก็ติดตามไปด้วย
เมิ่งเถียน จ้องมองไปที่ประตูเขาขมวดคิ้วแน่น”ฝ่าบาท มีรูปแบบอาคมถูกวางเอาไว้ไม่เเปลกใจที่เหล่าทหารไม่สามารถเปิดประตูได้”
ลู่เฟิง ได้ครุ่นคิดในใจ หนิงหยุนเอ๋อร์ บอกว่าคนผู้นี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอาคมวิญญาณ
ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างอาคมวิญญาณนั้น เป็นอีกหนึ่งในอาชีพที่หาจับตัวได้ยากในทวีปคิวชู
ในสมัยโบราณของทวีปคิวชู นั้น ไม่มีราชวงศ์ใด ๆ ครอบครองผู้เชี่ยวชาญด้านอาคมวิญญาณ เพราะมีแต่นิกายใหญ่ ๆ เท่านั้น ผู้เชี่ยวชาญด้านอาคมวิญญาณนั้น สามารถสร้างอาคมวิญญาณที่ใช้ปราบปรามความแข็งแกร่งของกองทัพได้
การมีอยู่ของผู้ใช้อาคมวิญญาณถือเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่หลายประเทศต้องการ
แม้แต่นิกายใหญ่หลาย ๆ แห่ง ก็มีผู้ใช้อาคมวิญญาณอยู่น้อยมาก
อาคมวิญญาณ นั้นไม่ได้มีเพียงแต่อาคมทางรูปแบบทหารเท่านั้น ยังรวมไปถึงรูปแบบอื่น ๆ เช่นอาคมเคลื่อนย้าย
การก่อตัวขึ้นของอาคมวิญญาณบนประตูจะต้องถูกสร้างขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญด้านอาคมวิญญาณอย่างแน่นอน
อาคมวิญญาณเหล่านี้ค่อนข้างแข็งแกร่ง
ลู่เฟิง ไม่ค่อยรู้รายละเอียดมากนัก แต่การจะสร้างอาคมวิญญาณที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้จะต้องมีคนคอยควบคุมมันอยู่
หากผู้ใช้อาคมวิญญาณที่อยู่ด้านในเป็นผู้ใชอาคมวิญญาณระดับสวรรค์ เขาคงจะสามารถจัดการกับ ลู่เฟิงได้ไม่ยาก
เนื่องเพราะ อาคมวิญญาณระดับนี้ แม้แต่นักรบขั้นราชาศักดิ์สิทธิ์ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้
“ฝ่าบาท ให้ข้าน้อยจัดการเถอะพะยะค่ะ!”ลิโป้ ได้กล่าวพูดเสียงดัง
ลู่เฟิงได้พยักหน้า”ฝากเจ้าด้วย!”
“ฝ่าบาทโปรดวางพระทัย เพียงแค่ศรเดียว ข้าน้อยก็สามารถทำลายอาคมนี้ได้แล้ว”
ลู่เฟิง ได้หยิบคันธนูหลิงซีขึ้นมาและเล็งลูกศรไปที่ประตู
จากนั้นเขาก็ปล่อยลูกศรออกไป
ปั้ง!
ทันทีที่ ลูกศรเข้าปะทะกับประตูคลื่นพลังจากอาคมก็ทรงพลังออกมาต้านทาน
ในขณะเดียวกันความเร็วของลูกศรก็ช้าลงมาก
แต่ทว่า พลังของลูกศรลิโป้หาได้ธรรมดาไม่ไม่นานมันก็ถูกยิงกระทบเข้าไปยังประตูบานนั้นจนพังทลาย
“ดูเหมือนว่า ศรเทพทำลายล้าง ของ ลิโป้ ไม่เพียงแต่จะใช้ได้กับกองทัพ ยังทรงพลังมากกับอาคมวิญญาณอีกด้วย”ลู่เฟิงพึมพัมออกมา
“เข้าไปกันเถอะ!”
ลู่เฟิงได้เดินเข้าไปพร้อมกับกลุ่มคน
แต่ทันทีที่เขาเข้าไปอาคมวิญญาณบางอย่างก็ถูกกระตุ้นขึ้น
ลิโป้ ได้ตะโกนขึ้นมาอย่างเย็นชาก่อนที่จะหยิบคันธนูหลิงซีขึ้นมาทำลายอาคมวิญญาณ
“เวรเอ้ย!”
ในตอนนี้ ลู่เฟิง ได้ยินเสียงด่ากรนอย่างลับ ๆ จากนั้นเขาก็เห็นคนบินขึ้นไปบนท้องฟ้าและต้องการหลบหนีออกจากที่นี่
“จับเป็นมาให้ได้!”ลู่เฟิง ได้กล่าวพูดเบา ๆ
“ขอรับ!”
ทาสดาบทั้งหก ได้เคลื่อนไหวหายไปอย่างรวดเร็ว
ลู่เฟิง พา ลิโป้ และ เมิ่งเถียน เข้าไปในบ้าน
หลังจากนั้นเขาก็เห็นอักขระอาคมบนพื้นดิน
มันเป็นอักขระอาคมที่ก่อตัวเป็นวงกลม!
นี่คืออาคมเคลื่อนย้าย
อาคมเคลื่อนย้ายเหล่านี้ ถูกสร้างขึ้น จากวัสดุจำนวนมาก
ลู่เฟิง มองไปที่ มันและถอนหายใจออกมา โชคดีที่อาคมเคลื่อนย้ายนี้ยังไม่สำเร็จ
“ฝ่าบาท ต้องการให้ข้าน้อยทำลายอาคมนี้หรือไม่?”ลิโป้ กระตือรือร้นที่จะใช้ธนูหลิงซีในมือของเขา
ด้วยศรเดียวของเขาสามารถทำลายพื้นดินและรูปแบบอาคมเคลื่อนย้ายนี้ได้ในทันที
ลู่เฟิงมองไปที่ข้างหน้าและไตร่ตรองเล็กน้อย”เก็บไว้ก่อนบางทีมันอาจมีประโยชน์ในอนาคต”
รูปแบบนี้ได้กำหนดจุดหมายไปที่นิกายดาบวิญญาณหากในอนาคต ลู่เฟิง มีความแข็งแกร่งมากพอ เขาจะใช้อาคมเคลื่อนย้ายนี้ วาปไปที่นิกายดาบวิญญาณโดยตรง
แต่ตอนนี้ เขาต้องมั่นใจว่ามันจะไม่ทำงานก่อน
เพราะว่าความแข็งแกร่งของเขายังคงไม่เพียงพอ
“ฝ่าบาทพวกเราจับตัวคนผู้นี้ได้แล้ว”
ไม่นานทาสดาบทั้งหกก็กลับมาพร้อมกับชายวัยกลางคน
ชายวัยกลางคนผู้นี้มีรอยดาบสองเล่มประทับอยู่บนร่างกายโลหิตได้ไหลอาบย้อมออกมาแต่ยังไม่ถึงชีวิต
“เจ้าชื่ออะไร?”ลู่เฟิงกล่าวถามวัยกลางคน
“ข้า…ข้าชื่อ ตู้หลี่ซู่”ชายวัยกลางคนได้ตอบกลับลู่เฟิงด้วยความหวาดกลัว
“เจ้ามาจากนิกายดาบวิญญาณ?”
ตู้หลี่ซู่ ได้สั่นศีรษะอย่างรวดเร็ว”นิกายดาบวิญญาณอนุญาติเฉพาะนักรบเข้าไปฝึกฝนได้พวกเขาไม่รับคนจากอาชีพอื่น ข้าเป็นเพียงคนที่ถูกพวกเขาควบคุมตัวไว้เท่านั้น”
“เจ้าไม่ได้มาจากนิกายดาบวิญญาณ?”
ลู่เฟิง แปลกใจเล็กน้อยก่อนที่เขาจะตอบกลับ”เช่นนั้น เจ้าสนใจจะมาทำงานภายใต้เงื้อมมือของข้าหรือไม่?”
ตู้หลี่ซู่ ได้พยักหน้าอย่างรวดเร็ว”ทำ…ข้าจะทำ”
ตู้หลี่ซู่ ไม่ใช่คนโง่ เขาสามารถบอกได้โดยธรรมชาติว่าหากเขาไม่ตกลง ชะตากรรมของเขาคงจะต้องสิ้นสุดลงในวันนี้
เขาไม่ได้เป็นสมาชิกของนิกายดาบวิญญาณ และ ไม่ได้สังกัดอาณาจักรใด ๆ ถ้าจะพูดให้ถูก เขาเหมือนนักเดินทางที่ทำงานตามค่าจ้างที่ได้รับมาเท่านั้น
ดังนั้นเรื่องความภักดี เขาย่อมมีครึ่งไม่มีครึ่ง
แต่ทว่า ในเมื่อเขามีโอกาสรอดเขาก็จะต้องมอบความภักดีครึ่งนึงให้อีกฝ่าย
ลู่เฟิง มองไปที่ ตู้หลี่ซู่ เขาได้ขอให้ระบบตรวจค่าความภักดีของอีกฝ่าย ปรากฏว่ามันคือ 50 คะแนน
ตัวเลขนี้ ไม่เเปลกใจสำหรับ ลู่เฟิง เพราะอีกฝ่ายคือคนแปลกหน้า และไม่ใช่ลูกน้อง ตู้หลี่ซู่ ตอบตกลงเพราะต้องการรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้เท่านั้น