MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ – ตอนที่ 237

ตอนที่ 237

“อาณาจักรอู๋เซียง?”

เจี๋ยสวี่ และ ซุนฮก ผงะเล็กน้อย พวกเขารีบตอบกลับทันที”เป็นไปไม่ได้! ประสิทธิภาพการรบของอาณาจักรอู๋เซียงต่ำมากที่สุดในทางตะวันตกเฉียงใต้ของหยูโจว ถ้าไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขามีเหมืองแร่ขนาดใหญ่เลยทำให้ทรัพยากรของพวกเขาหนาแน่นแล้วล่ะก็คงถูกประเทศเพื่อนบ้านทำลายไปนานแล้ว เช่นนี้พวกเขายังกล้าส่งทหารมางั้นเหรอ?”

กั๋วเจีย ได้ยิ้มออกมา”อันที่จริงจะเรียกให้ถูกก็คืออาณาจักรอู๋เซียงมีชื่อเสียงด้านการต่อสู้อย่างมากเมื่อร้อยปีก่อน เพราะพวกเขามีแม่ทัพที่มีความสามารถในการสั่งการทัพโจมตีอาณาจักรเล็ก ๆ จนหลอมรวมกลายเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอู๋เซียงได้ ถ้าจะบอกว่าพวกเขามีทรัพยากรภายในอาณาจักรมากก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องเกินจริงแม้แต่น้อย”

“ก่อนหน้านี้ ฝ่าบาท ได้ขอกำลังพลจากแม่ทัพเหลียนป๋อที่เมืองเร้ดเมเปิ้ลมา 800,000 นาย ทำให้ ที่นั่นเหลือทหารคุ้มกัน 200,000 นาย ถึงอย่างนั้น อาณาจักรอู๋เซียง ก็ยังไม่คิดโจมตี นี่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่มั่นใจว่าตนเองจะสามารถเอาชนะได้”

“แต่ว่า…”

หลังจากหยุดชั่วครู่ การแสดงออกของ กั๋วเจีย ก็เปลี่ยนกลายเป็นเคร่งขรึมเขาได้กล่าวอย่างจริงจัง”อาณาจักรอู๋เซียง ไม่กล้าเผชิญหน้ากับอาณาจักรหนานหยานของเราโดยตรง แต่ตอนนี้ มีอาณาจักรไป๋หลัน อาณาจักรหงเป่า เข้าร่วมด้วย พวกเขาต่างส่งกองกำลังมา แปดในสิบส่วน ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่า อาณาจักรอู๋เซียง จะไม่ฉวยโอกาสส่งทหารในตอนนี้เหมือนกัน”

ลู่เฟิง ได้ยินสิ่งที่ เจี๋ยสวี่,ซุนฮก และ กั๋วเจีย พูด ดวงตาของเขาซับซ้อนเล็กน้อย

คนเหล่านี้ควรค่าแก่การให้คำชื่นชมจริง ๆ ไม่เเปลกใจที่พวกเขาจะเป็นถึงบุคคลสุดยอดในประวัติศาสตร์ เพียงแค่การคาดการณ์ต่าง ๆ ก็เทียบเท่ากับข้อมูลที่เขาได้รับมา

ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ อาณาจักรอู๋เซียง ก็จะเข้าร่วมโจมตีอาณาจักรหนานหยานในครั้งนี้ด้วย

ครั้งนี้ ลู่เฟิง ไม่ได้บอกกล่าวแก่พวกเขาเพราะเขาได้รับข้อมูลมาจากระบบ

ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เป็นจักรพรรดิ ยังไงก็ต้องฟังคำแนะนำของที่ปรึกษาตนเอง

โชคดีที่คนเหล่านี้อยู่ภายใต้มือของเขา หากมีคนเช่นนี้อยู่ในอาณาจักรอื่นล่ะก็พวกเขาคงสร้างปัญหาให้ตนเองไม่ใช่น้อย

ในตอนนี้ กั๋วเจีย ได้มองไปที่ ลู่เฟิง และกล่าวถาม”ฝ่าบาท,กระหม่อมได้ยินมาว่า จิ้งซือหรง เคยเป็นแม่ทัพอยู่ในเมือง เสี่ยวหลิงตู่ มาก่อน ตอนนี้เขาได้หลบหนีไปยังอาณาจักรอู๋เซียง และใช้ความสามารถของตนเองในการไต่เต้าเป็นแม่ทัพใหญ่ เท่าที่กระหม่อมรู้มา คนผู้นี้มีความสามารถแต่หยิ่งผยองไม่ใช่น้อย กระหม่อมได้ยินมาว่า ก่อนหน้านี้ เขากล้าทดสอบความสามารถของฝ่าบาท แต่ท้ายที่สุดเขาเขาก็ถูกฝ่าบาทสวนกลับจนได้แต่หนีไป”

“สิ่งที่ กระหม่อมอยากจะพูดก็คือ อาณาจักรอู๋เซียง แม้จะไม่มีความสามารถด้านกองทัพแต่พวกเขามีทรัพยากรและอาวุธหนักอยู่ในมือจำนวนมากมันนับเป็นปัญหาอย่างใหญ่หลวง”

เมื่อ ลู่เฟิง ได้ยินดังนั้น เขาก็ตอบกลับทันที”ถ้าหากเป็นคนอื่นข้าอาจจะพอรู้สึกหวั่น ๆ ขึ้นมาบ้าง แต่ถ้าเป็น จิ้งซือหรง ข้าหาได้กลัวเขาไม่!”

“เรื่องนี้…”

กั๋วเจีย ได้คิดอยู่พักหนึ่ง จิ้งซือหรง อาจจะเก่งกาจก็จริง แต่ก็ไม่ได้มากไปกว่า ฉู่ต้าเหว่ย

เมื่อเทียบ ฉู่ต้าเหว่ย กับอีกฝ่าย ฉู่ต้าเหว่ย ย่อมดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด

ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือคนธรรมดาที่สามารถไต่เต้าจนกลายเป็นแม่ทัพได้ย่อมมีความสามารถที่ไม่ธรรมดาเฉกเช่นตัวตน

“ฝ่าบาท แม้พระองค์จะตรัสเช่นนั้น แต่กระหม่อมคิดว่าพวกเราควรเตรียมพร้อมรับมือไว้ก่อนนะพะยะค่ะ”ซุนฮก ได้ตอบกลับ

ลู่เฟิง ได้พยักหน้า”เช่นนั้น เจ้ามีความเห็นอย่างไรบ้าง?”

“ฝ่าบาท ถ้าเกิดเราต้านศึกสามอาณาจักรเกรงว่าพวกเราคงไม่สามารถรับมือได้ ดังนั้นกระหม่อมคิดว่า เราควรเลือกป้องกันเพียงแค่สองฝ่าบเท่านั้น หากอาณาจักรอู๋เซียงส่งทหารจริง ๆ พวกเราจะโต้กลับด้วยทหารชั้นยอด ด้วยประสิทธิภาพกองทัพของพวกเรา กระหม่อมคิดว่าเราสามารถเอาชนะอาณาจักรอู๋เซียงได้ไม่ยาก”

“หลังจาก เอาชนะ อาณาจักรอู๋เซียงได้แล้ว เราก็ดึงกองทัพกลับมา รับมือกับ อาณาจักรหงเป่า และ อาณาจักรไป๋หลัน ยิ่งถ้าอาณาจักรอู๋เซียง ไม่ส่งทหาร เราก็สามารถดึงทัพมาเพิ่มเพื่อทำลายอาณาจักรไป๋หลัน และต่อสู้กับอาณาจักรหงเป่า”ซุนฮก ได้กล่าวแนะนำ

ลู่เฟิง พยักหน้าอย่างเห็นด้วย”แผนนี้ข้าเห็นด้วย”

“ฝ่าบาท,กระหม่อมมีความเห็น ให้แม่ทัพเมิ่งเถียน ใช้กำลังพลชั้นยอดไม่น้อยกว่า หนึ่งล้านนาย ดังนั้น กระหม่อมคิดว่าให้แม่ทัพเกาชุน นำทหารชั้นยอด 600,000 นายไปสนับสนุน แม่ทัพเมิ่งเถียน กระหม่อมยินดีอาสาเป็นผู้บัญชาการทหารปกป้องสิบสามมณฑลซีหยางโดยมั่นใจว่าเราจะไม่พ่ายแพ้!”เจี๋ยสวี่ ได้กล่าวพูดออกมา

ลู่เฟิง ได้คร่ำครวญเล็กน้อยและพยักหน้า”เหวินเหอ ในเมื่อเจ้าออกปากพูดด้วยตัวเอง เช่นนั้นข้าคงต้องรบกวนเจ้าแล้ว ส่วนเรื่องทหารที่เจ้าขอข้าจะจัดการให้”

“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”เจี๋ยสวี่ ได้ตอบกลับทันที

แต่ทว่า ลู่เฟิงมองไปที่ เจี๋ยสวี่ และพูดขึ้นอีกครั้ง”เหวินเหอ เรื่องนี้สำคัญมาก เจ้าแน่ใจหรือไม่ที่จะปกป้องสิบสามมณฑลซีหยาง เพราะ หาก สิบสามมณฑลซีหยางถูกทำลาย อาณาจักรซีหยางย่อมล่มสลายทหารที่จับมาก็จะก่อการกบฏ เจ้าน่าจะทราบผลลัพธ์ถึงความล้มเหลวใช่หรือไม่?”

“กระหม่อมรับทราบเป็นอย่างดี หากกระหม่อมมิสามารถปกป้องสิบสามมณฑลซีหยางได้ กระหม่อมยินดีรับโทษตายเพื่อชดใช้ความผิด!”เจี๋ยสวี่ ได้กล่าวอย่างเคร่งขรึม

“ข้าไม่ได้ต้องการให้เจ้าตาย ข้าต้องการให้เจ้ามีชีวิตอยู่และที่สำคัญเจ้าจะต้องปกป้องสิบสามมณฑลซีหยางเอาไว้ให้ได้!”ลู่เฟิง มองไปที่ เจี๋ยสวี่อย่างรุนแรง”นี่เป็นคำสั่งของข้า!”

ในความคิดของ ลู่เฟิง สิบสามมณฑลซีหยางสำคัญมากก็จริง แต่ก็ไม่เท่ากับ เจี๋ยสวี่!

เจี๋ยสวี่ ไม่เพียงแต่เป็นรัฐมนตรีของลู่เฟิง เขายังมีบทบาทในการสร้างรากฐานอาณาจักรของลู่เฟิงอีกด้วยเป็นคนที่ขาดไม่ได้ในอาณาจักรหนานหยาน

แม้จะสูญเสียสิบสามมณฑลซีหยางจริง แต่ เจี๋ยสวี่ ก็ห้ามตายเด็ดขาด!

สิบสามมณฑลซีหยางเสียไปก็สามารถฟื้นคืนกลับมาได้ แต่ถ้า เจี๋ยสวี่ ตาย ก็คือตายจริง ๆ

“กระหม่อมรับบัญชา!”

ดวงตาของ เจี๋ยสวี่ เต็มไปด้วยน้ำตา เขาได้ยินไม่ผิด

ฝ่าบาทบอกเขาว่าตัวเขาสำคัญกว่าสิบสามมณฑลซีหยาง!

นี่คือสิ่งที่ฝ่าบาทตรัสด้วยตัวเอง!

ฝ่าบาทให้ความสำคัญกับตัวเขาอย่างมาก ในฐานะข้าราชบริพารเขายังต้องการอะไรอีก?

“เหวินเหอ เจ้ารีบเดินทางไปยังที่รายลั่วซานและสั่งให้เกาชุน นำทหาร 600,000 นายย้ายไปยังที่ สิบสามมณฑลซีหยาง เพื่อสนับสนุน เมิ่งเถียน แต่ เกาชุน ห้ามไป ข้ายังมีเรื่องอื่นให้เขาจัดการ”

“กระหม่อมรับบัญชา!”

เจี๋ยสวี่ รับราชโองการ และ รีบจากไปทันที

เมื่อ เจี๋ยสวี่ นำทหาร 600,000 นายไปสนับสนุนเมิ่งเถียน และการที่มี จางซุนหวูจี๋ อยู่ที่นั่นอีก ลู่เฟิง เชื่อว่า สิบสามมณฑลซีหยาง น่าจะรับศึกนานได้มากกว่า สามเดือน

ลู่เฟิง ได้ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย

เขามองไปที่ กั๋วเจีย”เฟิงเซียว ข้าขอสั่งให้เจ้าเป็นผู้บัญชาการเมืองฉิวซาน เพื่อช่วยเหลือแม่ทัพเฒ่าเหลียนป๋อ ในการปกป้องเมืองฉิวซาน อาการบาดเจ็บ ของแม่ทัพเฒ่า ดีขึ้นมาก เพื่อป้องกันอุบัติเหตุให้เจ้าเดินทางไปกับแม่ทัพเฒ่าเหลียนป๋อในวันพรุ่งนี้ และพาทหารจากที่ราบลั่วซาน 450,000 นายไปที่เมืองฉิวซาน เพื่อรับประกันว่าเมืองฉิวซานจะปลอดภัย!”

“กระหม่อมรับบัญชา!”กั๋วเจีย ได้ตอบกลับและรีบไปหา เหลียนป๋อ ทันที

ในฐานะผู้บัญชาการทหารเขาจะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับแม่ทัพใหญ่ เพราะหากต่างฝ่ายต่างแก่งแย่งผลประโยชน์กันย่อมไม่สามารถป้องกันศึกได้

“เหวินยื่อ,กิจการภายในราชสำนัก ข้าให้เจ้าอยู่ที่นี่คอยดูแล ข้าจะพา เกาชุน และ เตียวอุ๋น ไปที่เมืองเร้ดเมเปิ้ลเพื่อป้องกันศึกจากอาณาจักรอู๋เซียง!”ลู่เฟิง มองไปที่ ซุนฮก

“กระหม่อมรับบัญชา!”

ซุนฮก ได้ตอบ แต่ทว่า เขาได้หยุดเล็กน้อยและเงยหน้าขึ้นมองลู่เฟิง”ฝ่าบาท,พระองค์จะไม่ทหารองค์รักษ์ไปด้วยหรือพะยะค่ะ?”

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

Status: Ongoing

ข้ามต่างโลกไปเป็นเพียงแค่จักรพรรดิที่ถูกควบคุมหรือไม่ ? ไม่สำคัญเพราะข้ามีระบบจักรพรรดิ!

พวกเจ้ารวมหัวกันแก่งแย่งชิงอำนาจ ? ข้าไม่สนเพราะข้ามี เจี๋ยสวี่

พวกเจ้ามีนักรบที่เก่งกาจไร้คู่เปรียบ ? เหอะ ข้ามี เทพสงคราม ฮั่

ลำดับขั้น

เนื่องจากผู้อ่านอาจเข้าใจลำดับขั้นในภาษาไทยยาก จึงอยากจะขอเปลี่ยนเป็นการทับศัพท์ลำดับขั้นแทนทั้งหมด เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น *

1.Elemental Guider จากเดิม ผู้นำธาตุ – พลังงานก๊าซ

2.Elemental Apprentice จากเดิม เด็กฝึกธาตุ – พลังงานก๊าซ

3.Elemental Journeyman จากเดิม นักผจญภัย – พลังงานก๊าซ

4.Elemental Master จากเดิม ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุ – พลังงานก๊าซ

5.Elemental Mage จากเดิม นักเวทย์ธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

6.Elemental Archmage จากเดิม ผู้วิเศษธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

7.Elemental Overlord จากเดิม เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ – พลังงานเหลว, อาณาจักรลึกลับ, พลังลึกลับ

8.Elemental Archlord จากเดิม ผู้พิพากษาธาตุ – พลังงานเหลว + พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ,พลังลึกลับ

9.Elemental Dominator จากเดิม ผู้ครอบครองพลังงานแห่งธาตุ – พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ , พลังลึกลับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท