คนผู้นี้ใส่เสื้อปักลายมังกร
ทั้งยังอยู่บนภูเขาติงจิ้ง
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนผู้นี้ก็คือองค์ชายที่เป็นผู้บัญชาการทัพของอาณาจักรอู๋เซียง!
หลิวขี่ ได้คิดถึงเรื่องนี้และรีบมองไปที่เสี่ยวจือก่อนที่จะถามออกมา” แม่ทัพเสี่ยวจือ ท่านพบเขาที่ไหนงั้นหรือ?”
เมื่อเสี่ยวจือได้เห็นสีหน้าแปลก ๆ ของ หลิวจี๋ เขาก็ได้ตอบกลับทันที” เดิม ข้าไม่ได้เป็นคนพบแต่ทหารที่อยู่ภายใต้การบัญชาของข้าหลังจากที่พวกเขาจัดการศพพวกเขาก็พบชายผู้นี้ และ รู้สึกว่าไม่น่าจะใช่ตัวตนเรียบง่ายเมื่อมองจากเสื้อปักลายมงกรของเขา ดังนั้น เมื่อข้าคิดถึงสถานะของอีกฝ่าย จึงรีบให้คนยกร่างของเขามาให้ฝ่าบาททอดพระเนตร”
เมื่อ ลู่เฟิง ได้ยินเขาก็ถอนหายใจออกมา” ช่างโชคร้ายจริง ๆ !”
“คิดไม่ถึงเลยว่าองค์ชายแห่งอาณาจักรอู๋เซียงจะเสียชีวิตในสนามรบ!”
ลู่เฟิง และ หลิวจี๋ ไม่เคยพบเห็นองค์ชายผู้นี้มาก่อน และ ไม่คิดว่าเขาจะตายในสนามรบ ท้ายที่สุดแล้ว ชายผู้นี้ก็คือองค์ชายจากสถานะของเขา น่าจะได้รับความเคารพอย่างสูง และ ควรจะได้รับการปกป้องจากเหล่าทหาร
แต่ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาตายที่นี่
เมื่อองค์ชายตกตายแผนการทั้งหมดที่อยู่เบื้องหลังของ หลิวจี๋ ก็ไร้ผล
เดิมเขาต้องการใช้องค์ชายผู้นี้ทําลายความสัมพันธ์ระหว่าง จิ้งซือหรง และ จักรพรรดิอู๋เซียง แต่ไม่คิดเลยว่าตอนนี้องค์ชายจะตายไปแล้ว
เขารู้สึกทําอะไรไม่ถูก
เมื่อ เสี่ยวจือ เห็นการเปลี่ยนแปลงของ ลู่เฟิง เขาก็กล่าวถามออกมาด้วยสีหน้ากังวล” ฝ่าบาท,ข้าน้อยทําอะไรผิดไปหรือไม่?”
“ป่าว,ไม่มี!”
ลู่เฟิงยิ้มออกมา”ในเมื่อทหารภายใต้บัญชาของเจ้าเป็นคนฆ่าองค์ชายผู้นี้แน่นอนว่ามันเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมเมื่อสงครามสิ้นสุดลงข้าจะตบรางวัลความดีความชอบนี้ให้พวกเขา!”
แม้ว่าองค์ชายที่ถูกฆ่าตายจะทําให้แผนการของ ลู่เฟิง ยุ่งเหยิง แต่มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปตําหนิเสี่ยวจือ
เขาเป็นคนสั่งการให้ฆ่าศัตรูทุกคน!
ดังนั้นอีกฝ่ายแค่ปฏิบัติตามคําสั่งของเขา
ถ้าจะโทษก็ต้องโทษลู่เฟิงที่สั่งการไม่รอบคอบ
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!” เสี่ยวจือ รู้สึกดีใจมากและรีบขอบคุณลู่เฟิงทันที
”ฝ่าบาท,องค์ชายผู้นี้น่าจะไม่ได้ถูกฆ่าโดยทหารสังกัดแม่ทัพเสี่ยวจือ!” หลิวจี๋ ได้ตรวจสอบร่างกายของอีกฝ่ายและกล่าวพูดออกมา
เสี่ยวจือขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองไปที่หลิวจี๋”ท่านนักกลยุทธ์ท่านหมายความว่ายังไง จะบอกว่า ข้าเสี่ยวจือ เป็นคนโลภ คิดจะฉวยโอกาสรับความดีความชอบจากเรื่องพวกนี้หรือไม่?”
” แม่ทัพเสี่ยวจือ เข้าใจผิดแล้ว ข้า หาได้มีเจตนาในเรื่องนี้ไม่!” หลิวจี๋ รู้ว่าคําพูดของเขาดูหมิ่นเสี่ยวจือดังนั้นเขาจึงรีบอธิบาย” แต่ข้าคิดว่าศพนั้นมันแปลก ๆ !”
“มีอะไรแปลก จะบอกว่าศพนี้มันมีแขนขางอกต่างจากเดิมงั้นหรือ?”เสี่ยวจือ ได้ตอบกลับอย่างเย็นชา
” แม่ทัพเสี่ยว ฟังสิ่งที่ อาจารย์หลิวจะพูดก่อน”
ลู่เฟิง ได้มองไปที่ เสี่ยวจือ และตอบกลับ
” ขอรับ!”
แม้ว่า เสี่ยวจือ จะไม่พอใจกับคําพูดของ หลิวจี๋ แต่เขายังต้องเคารพฟังคําของ ลู่เฟิง
ลู่เฟิง ได้พยักหน้าและมองไปที่หลิวจี๋”อาจารย์หลิวท่านพบอะไรผิดปกติใช่หรือไม่?”
หลิวจี๋ ได้พยักหน้าและชี้ไปที่ศพ”ฝ่าบาท บาดแผลพวกนี้เป็นบาดแผลจากดาบไม่ผิดแน่ แต่ไม่มีร่องรอยการต่อสู้อื่นบนร่างกายเขาน่าจะถูกสังหารด้วยดาบเดียว”
” แม้ว่าองค์ชายผู้นี้จะไม่ได้เก่งกาจ แต่เขาก็เป็นนักรบระดับสูงขั้นรวมพลังหยวน ด้วยความแข็งแกร่งเช่นนี้ เขาไม่น่าจะถูกทหารธรรมดาฆ่าตายด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว”
เสี่ยวจือ ได้ยินดังนั้น เขาก็รู้สึกลังเล
เขารู้จักกองทัพพยัคฆ์ของเขาดี ถ้าจะให้พูดก็คือ คนที่สามารถฆ่านักรบระดับสูงขั้นรวมพลังหยวนได้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
และถ้าคนผู้นี้พบศัตรูเช่นนี้พวกเขาจะต้องมารายงานเรื่องนี้กับตัวเอง
อีกฝ่ายคงไม่รอให้เคลียร์สนามรบเสร็จและเพิ่งมารายงานแน่นอน
ดังนั้นเสี่ยวจือจึงรีบตอบสนองทันที” ท่านนักกลยุทธ์เป็นข้าเสี่ยวจือที่ร้อนรนใจไปหวังว่าท่านจะไม่ถือสา”
เมื่อเห็น ท่าทีของ เสี่ยวจือ ลู่เฟิง ก็พยักหน้า อะไรที่ผิดพลาดถ้ารู้จักขอโทษก็เป็นการดีมาก
ถ้าเกิดเขาได้เรียนรู้จากเหลียนปอ บางที เขาอาจจะเป็นแม่ทัพชั้นนําคนนึง
หลิวจี๋ ได้ยิ้มออกมา” แม่ทัพเสี่ยว กล่าวเกินไปแล้ว มันเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย”
ลู่เฟิง มองไปที่ หลิวจี๋ และกล่าวถาม” อาจารย์หลิว ถ้าคนผู้นี้ไม่ได้ถูกสังหารโดย ทหารสังกัดแม่ทัพเสี่ยวจือ เช่นนั้นคนที่พอจะฆ่าเขาได้”
ลู่เฟิงได้พึมพัมเล็กน้อย” หรือว่าจะเป็นจิ้งซือหรง?”
หลิวจี๋ ได้ครุ่นคิดเล็กน้อยและตอบกลับ”ฝ่าบาท เรื่องนี้ก็อาจจะเป็นไปได้!”
หลังจากหยุดชั่วครู่เขาก็กล่าวต่อ”จิ้งซือหรง พอจะมีความสามารถมากอยู่ก็จริง แต่ในสายตาของเชื้อพระวงศ์เขาก็เป็นได้แค่สุนัขรับใช้เท่านั้น ดังนั้น มันมีโอกาสที่ จิ้งซือหรง จะไม่พอใจกับพฤติกรรมขององค์ชายผู้นี้”
“ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่กองทัพของพวกเขาพ่ายแพ้ องค์ชายผู้นี้ก็มีส่วนรู้เห็นอย่างมาก มันมีโอกาสที่ จิ้งซือหรง จะหลุดจากตําแหน่งผู้บัญชาการทัพได้ ซึ่งเขาคงไม่ยอม ดังนั้น ในช่วงเวลาโกลาหล มันมีโอกาสที่องค์ชายจะเสียชีวิต”
หลิวจี๋ ได้มองดูบาดแผลอีกครั้ง” ดังนั้น จิ้งซือหรง จึงหาทางฆ่าองค์ชาย และ ผลักความผิดทั้งหมดของตนเองไว้ที่องค์ชายเท่านี้เรื่องที่เขานําทัพพ่ายแพ้ก็จะไม่แดงออกไป”
ถ้า จิ้งซือหรง รู้ว่า บาดแผล ที่เขาทํานั้น ถูกมองออกโดย หลิวจี๋ เขาคงจะต้องรู้สึกกลัวมากแน่
“ดูเหมือน จิ้งซือหรง จะฉลาดมากทีเดียว เขาไม่เพียงแต่กลบข้อผิดพลาดของตัวเอง สถานะของตนเองก็ไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ ทั้งเขายังสามารถเป็นผู้บัญชาการคอยปกป้องเมืองเป็งหยวนต่อได้ มันยากที่จะหาคนมีความคิดเฉียบแหลมเช่นนี้!”ลู่เฟิง ถอนหายใจออกมา
“ฝ่าบาท อย่าได้เศร้าเสียใจไปเลย!”
รอยยิ้มได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหลิวขี่
” หืม?”
เมื่อ ลู่เฟิง เห็นรอยยิ้มนั่น เขาก็เข้าใจทันที บางที หลิวจี๋ อาจจะมีแผนการดี ๆ เขารีบกล่าวถาม” หรือว่าอาจารย์หลิวจะมีแผน?”
หลิวจี๋ ได้ยิ้มและตอบกลับ”ฝ่าบาท จิ้งซือหรง ผู้นี้ฉลาดก็จริง มันทําให้ข้าประหลาดใจ แต่เขาก็ทําผิดพลาดครั้งใหญ่”
“ผิดพลาดครั้งใหญ่?”
หลิวจี๋ ได้ชี้ ไปที่ศพขององค์ชายและตอบกลับ”ฝ่าบาท จิ้งซือหรง รีบร้อนที่จะออกจากที่นี่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้มีเวลาจัดการกับศพขององค์ชาย ถ้าพวกเราส่งศพไปที่ด้านนอกของอาณาจักรอู๋เซียง ให้คนของจักรพรรดิพบศพ ย่อมมีคนนําร่างขององค์ชายไปตรวจสอบ พวกเขาย่อมสามารถบอกได้อย่างรวดเร็วว่าองค์ชายไม่ถูกสังหารในสนามรบ!”
” และตอนนี้ กระหม่อมเชื่อว่า จิ้งซือหรง จะต้องส่งรายงานการตายขององค์ชายไปที่พระราชวังเพื่อกราบทูลจักรพรรดิอย่างแน่นอนเขายังไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องศพที่อยู่ในมือของเรา…”
“ดังนั้นเราจึงไม่ต้องทําอะไรมาก ตําแหน่งผู้บัญชาการทัพของ จิ้งซือหรง คงไม่อาจรักษาไว้ได้ทหาร 2.6 ล้านนาย ที่ไม่มี จิ้งซือหรง ย่อมไม่อาจเป็นศัตรูกับกองทัพอาณาจักรหนานหยานของเรา”
“ถึงเวลานั้นพวกเราก็จะชนะ!”