MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ – ตอนที่ 253

ตอนที่ 253

“เจ้าบอกว่ามีวิธีรับมือกองพันทหารค่ายแล้วหรือไม่?”

องค์ชายรู้สึกดีใจมากและรีบถามทันที”ไหนเจ้าลองว่ามา?”

จิ้งซือหรงได้ชี้ไปที่ด้านหลังของพลธนูซึ่งมีเครื่องยิงเกาทัณฑ์อยู่

“องค์ชาย เครื่องยิงเกาทัณฑ์เหล่านี้เป็นของชั้นยอดที่ถูกสร้างขึ้นโดยกองทัพของพวกเรามันมีความรุนแรงอย่างมาข้ารับประกันเลยว่าก่อนที่กองพันทหารค่ายของพวกเขาจะเข้าประชิดพวกเราอีกฝ่ายจะต้องสูญเสียอย่างหนัก!’

เมื่อองค์ชายเห็นดังนั้นเขาก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก”เป็นเช่นนี้ จิ้งซือหรง ไม่เเปลกใจเลยที่จักรพรรดิทรงไว้ใจเจ้า แท้จริงแล้ว เจ้ากลับเตรียมแผนรับมืออยู่ก่อนแล้ว”

ใบหน้าของ จิ้งซือหรงเต็มไปด้วยความภาคภูมิเขาได้ตอบกลับ”เดิมทีเกาทันฑ์เหล่านี้ข้าคิดจะเก็บไว้ใช้กับทหารม้าชั้นยอดของ ลู่เฟิง แต่ไม่คิดเลยว่า ศึกครั้งนี้ ลู่เฟิง จะไม่ส่งทหารม้ามาดังนั้น…”

รอยยิ้มที่โหดร้ายได้ฉายไปทั่วใบหน้าของ จิ้งซือหรง”ข้าจะใช้เกาทันฑ์นี้เล่นงานกองพันทหารค่ายที่พวกมันภาคภูมิใจและส่งลู่เฟิงลงไปยังนรก!”

“ดี!”

องค์ชายหัวเราะออกมา”จิ้งซือหรง หลังจากจบศึกการต่อสู้ครั้งนี้ ถ้าเจ้าทำได้ดี ข้าจะช่วยกราบทูลความดีความชอบนี้แก่องค์จักรพรรดิมอบบรรดาศักดิ์โฮวไป่เซียงอย่างแน่นอน!”

“ขอบพระทัยองค์ชาย!”จิ้งซือหรง รีบกล่าวตอบ

แม้ว่าตอนนี้ เขาจะเป็นแม่ทัพของอาณาจักรอู๋เซียง แต่ หากได้รับบรรดาศักดิ์โฮว ก็ถือเป็นเกียรติอย่างมาก

ตอนนี้เขาจะต้องทำลายกองพันทหารค่ายก่อน หากทำลายอีกฝ่ายได้สำเร็จเขาจะได้รับประทานบรรดาศักดิ์โฮวไป่เซียงแน่นอน

แต่ทว่า เกาชุน ที่เป็นผู้นำกองทัพเขาได้เห็นเกาทันฑ์ของศัตรูมานานแล้ว

อย่างไรก็ตามการแสดงออกของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย กองพันทหารค่ายของเขาได้อยู่ที่นี่ และ เขาเองก็มีวิธีจัดการกับเกาทันฑ์ของศัตรู

“ตั้งขบวนแนวหน้า!”

เขาได้ตะโกนขึ้น ทหารร่างกำยำหลายคนได้ถือโล่ขนาดใหญ่สองสามอันซ้อนทับกันเพื่อต้านทานการโจมตีของเกาทันฑ์

กระทั่งบางคนยังเตรียมพร้อมที่จะพุ่งรบไปยังแนวหน้าเพื่อจัดการเกาทันฑ์เหล่านั้น

“น่าขัน!”

จิ้งซือหรง ได้มองเห็นฉากนี้และยิ้มออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม”เมื่อใดก็ตามที่เผชิญหน้ากับเกาทันฑ์ ผู้คนส่วนมากนั้นรู้ดีว่าวิธีที่ดีที่สุดก็คือการเลี่ยงที่จะเผชิญหน้า แต่ เกาชุนผู้นี้กลับต้องการปะทะตรง ๆ กับเกาทันฑ์ นี่ไม่เรียกว่าโง่หรือไม่?”

“ช่างโง่เง่าจริง ๆ เดิมข้าก็คิดว่า ชื่อเสียงของ แม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักรหนานหยาน เกาชุนผู้นี้จะมีดีอะไร แต่ที่แท้จริงกลับโง่ปานนี้!”

องค์ชายได้พยักหน้าอย่างเห็นด้วย”แม้ว่าข้าจะไม่รู้เรื่องการทหารมากนัก แต่ข้าก็รู้มาว่าวิธีที่ดีที่สุดในการเผชิญหน้ากับเกาทันฑ์คือการหลีกเลี่ยงไม่ปะทะซึ่ง ๆ หน้า แต่ดูเหมือนว่าเกาชุนผู้นี้ จะทำตรงกันข้าม!”

แม้แต่ ทางด้าน ลู่เฟิง หลิวจี๋ เองก็ยังคงสงสัย”ฝ่าบาท แม่ทัพเกา ต้องการสู้กับเกาทันฑ์ซึ่ง ๆ หน้าด้วยกองพันทหารค่าย นี่เขาไม่ประมาทเกินไปหรอกหรือ?”

ลู่เฟิง ได้สั่นศีรษะและตอบกลับ”เกาชุน น่าจะมีแผนการในใจ ดังนั้นพวกเราไม่จำเป็นจะต้องกังวล!”

ลู่เฟิง ยังมีความเชื่อมั่นอยู่ในใจ แน่นอนว่า เขาเชื่อมั่นในตัวเกาชุน ว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมเสี่ยงชีวิตกับทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างดีอย่างกองพันทหารค่ายอย่างแน่นอน!

หลิวจี๋ ได้ยินดังนั้น เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขารู้ว่า ลู่เฟิง เชื่อในความสามารถของเกาชุน สิ่งที่เขาทำได้ตอนนี้ก็คือจ้องมองดูสนามรบเพื่อดูว่ากองพันทหารค่ายของเกาชุน และ เกาชุน เหมาะแก่ความเชื่อใจนี้หรือไม่

แม่ทัพแห่งอาณาจักรอู๋เซียง ที่ถือเกาทันฑ์เมื่อเห็น กองพันทหารค่ายของเกาชุน พุ่งขึ้นมา เขาก็โบกมือขึ้นและพูดเสียงดัง”ยิงได้!”

เกาทันฑ์กว่าสามร้อยอันได้ปล่อยลูกศรขนาดใหญ่พุ่งตรงไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว

“ป้องกัน!”

เกาชุน ได้หยุดฝีเท้าลง และ ตะโกนขึ้น ทหารร่างกำยำหลายคนที่อยู่ด้านหน้าพวกเขาได้ยกโล่และใช้เท้ายึดมั่นกับพื้นดินเพื่อทำให้โล่มั่นคง

เพร้ง!

ลูกศรขนาดใหญ่ได้พุ่งเข้าใส่โล่จนทำให้โล่เกิดความเสียหาย

แต่หลังจากที่ระลอกลูกศรที่ถูกยิงออกมาหมดไปก็บังเกิดความประหลาดใจขึ้นทุกฝั่ง

เพราะกองพันทหารค่ายของเกาชุน ไม่มีผู้เสียชีวิตแม้แต่คนเดียว!

“นี่…เป็นไปไม่ได้?”

แม่ทัพที่ควบคุมการยิงเกาทันฑ์มองไปที่ฉากนี้ด้วยความตะลึงงัน

แม้ประสิทธิภาพการรบของอาณาจักรอู๋เซียงจะต่ำ แต่อุปกรณ์ทางกองทัพของพวกเขาก็ดีมากโดยเฉพาะเกาทันฑ์นั้นดีที่สุด

แต่ตอนนี้ เขากลับไม่สามารถทำลายกองพันทหารค่ายของเกาชุนได้?

เขาเริ่มบังเกิดความสงสัยเล็กน้อย

ภายในกองพันทหารค่ายชายร่างกำยำหลายคนที่เคยถือโล่หน้าซีดเผือดอย่างมาก

แม้ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่ศรของเกาทันฑ์นั้นมีขนาดใหญ่และรุนแรงเกินไป การที่พวกเขาหาญกล้าปะทะกับมันโดยตรงย่อมทำให้สูญเสียแรงไม่ใช่น้อย

เมื่อ เกาชุน เห็นสิ่งนี้ เขาไม่ได้แปลกใจแม้แต่น้อย เขาได้กล่าวสั่งการอีกครั้ง”เปลี่ยนแถว!”

“ครับ!”

ทหารด้านหลังได้พลัดเปลี่ยนที่ไปแทนทหารร่างกำยำที่มีใบหน้าซีดเซียว

“เดินหน้า!”

ในเวลาเดียวกัน เกาชุน ก็ตะดกนเสียงดัง

ทหารทุกคนได้เพิ่มความเร็วในการเดินทัพเพื่อลดระยะทางของพลธนู

เกาทันฑ์นั้นทรงพลังมากก็จริง แต่เมื่อถูกยิงออกไปแล้วย่อมต้องใช้เวลามากในการเติมลูกศร

นี่เป็นโอกาสเดียวที่จะจัดการศัตรู!

“ยิงมัน,ยิง!”

เมื่อเห็นฉากนี้ แม่ทัพผู้ควบคุมก็หน้าซีดเขารีบตะโกนใส่หน่วยยิงเกาทันฑ์และสั่งการให้อีกฝ่ายรีบเติมหน้าไม้และยิงต่อ

เขาเชื่อว่าหากโจมตีอีกฝ่ายในระลอกนี้ได้สำเร็จ อีกฝ่ายย่อมไม่มีทางป้องกันได้อย่างแน่นอน

หรือกก็คือการโจมตีอีกระลอกหนึ่งย่อมซื้อเวลาให้พลธนูถอยทัพได้

พลธนูและคนยิงเกาทันฑ์ ที่ได้รับคำสั่ง พวกเขารีบจุลูกศรเข้าไปและโจมตีทันที

ภายใต้การสั่งการของเกาชุน เมื่อเห็นการโจมตี เขาได้สั่งให้ทหารโล่ทุกคนปิดกั้นการโจมตีจากลูกศรทั้งหมดที่พุ่งเข้ามา

การโจมตีด้วยลูกศรนั้นดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเขา

ยิ่งไปกว่านั้นความเร็วในการเดินทัพของพวกเขาก็ไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย

ในไม่ช้า กองพันทหารค่ายของเกาชุน ก็พุ่งประชิดกองทัพของศัตรู หน่วยยิงเกาทันฑ์ไม่ทันได้ยิงอีกระลอกก็ถูกไล่ล่าสังหาร เกิดการสังหารหมู่ด้านเดียวปรากฏขึ้นที่นี่

แม่ทัพผู้นี้ หน้าซีดเผือก ทหารของเขาได้ถูกสังหารที่นี่ เขาได้ย้อนหันไปมองทางด้านหลัง

เขารู้สึกเกลียดชัง!

เขาไม่ได้เกลียดชังเกาชุน แต่เป็น จิ้งซือหรง!

ในฐานะ ผู้บัญชาการทัพ ไม่รับรู้ถึงความแข็งแกร่งของศัตรู กลับให้เขานำพลธนูมาดักซุ่มโจมตีที่นี่ ทั้งยังไม่สั่งการถอนทัพอีก

พลธนูกว่า 30,000 นาย!

พวกเขาล้วนถูกไล่ล่าสังหารสิ้น!

จิ้งซือหรง บนภูเขาติงจิ้ง หน้าซีดเล็กน้อยเขาได้บ่นพึมพัมออกมา”เป็นไปไม่ได้,กองพันทหารค่ายของเกาชุน ไม่น่าจะต้านทานการยิงของเกาทันฑ์ได้ นี่มัน น่าเหลือเชื่อเกินไป ไม่เพียงแต่ประสิทธิภาพการรบที่ดีเท่านั้น การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จัดรูปขบวนกองทัพของพวกมันยังรวดเร็วอีกด้วย”

“จิ้งซือหรง รีบสั่งถอนทัพเร็วเข้า ไม่งั้นแนวหน้าของพวกเราจะล้มตายกันหมด”ใบหน้าขององค์ชายล้วนซีดเผือกเขาคำรามด้วยความหวาดกลัว

“ไม่ได้,สั่งถอยทัพไม่ได้เด็ดขาด!”

จิ้งซือหรง มองไปที่สนามรบและสูดลมหายใจเข้าลึก เขาพยายามระงับความหวาดกลัวที่มีต่อกองพันทหารค่ายของเกาชุน”กองทัพของพวกเราอ่อนแอด้านการรบหากกองทัพที่ถอยทัพออกมาในวันนี้ วันหน้าพวกเขาย่อมไม่สามารถสู้รบได้เพราะสูญเสียขวัญกำลังใจดังนั้นห้ามถอยทัพเด็ดขาด!”

“ถ้าเจ้าไม่ถอนทัพ เช่นนั้น เจ้าจะยืนมองดูกองทัพของเราพ่ายแพ้หรือไม่?”องค์ชายได้คำรามออกมา

“แพ้ก็แพ้ไป ตราบเท่าที่ ทัพมังกรของอาณาจักรอู๋เซียงยังคงอยู่ แผนการของข้า ก็ยังสามารถดำเนินการต่อได้ นับประสาอะไรกับกองทัพแนวหน้าแค่ 150,000 นาย แม้จะสูญเสียทหารไปหนึ่งล้านหรือสองล้านพวกเราก็ยังมีโอกาสที่จะชนะ!”จิ้งซือหรง ได้ตะคอกอย่างเย็นชา

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

MPESIH-ระบบจักรพรรดิไร้เปรียบ

Status: Ongoing

ข้ามต่างโลกไปเป็นเพียงแค่จักรพรรดิที่ถูกควบคุมหรือไม่ ? ไม่สำคัญเพราะข้ามีระบบจักรพรรดิ!

พวกเจ้ารวมหัวกันแก่งแย่งชิงอำนาจ ? ข้าไม่สนเพราะข้ามี เจี๋ยสวี่

พวกเจ้ามีนักรบที่เก่งกาจไร้คู่เปรียบ ? เหอะ ข้ามี เทพสงคราม ฮั่

ลำดับขั้น

เนื่องจากผู้อ่านอาจเข้าใจลำดับขั้นในภาษาไทยยาก จึงอยากจะขอเปลี่ยนเป็นการทับศัพท์ลำดับขั้นแทนทั้งหมด เพื่อให้เข้าใจได้ง่ายมากขึ้น *

1.Elemental Guider จากเดิม ผู้นำธาตุ – พลังงานก๊าซ

2.Elemental Apprentice จากเดิม เด็กฝึกธาตุ – พลังงานก๊าซ

3.Elemental Journeyman จากเดิม นักผจญภัย – พลังงานก๊าซ

4.Elemental Master จากเดิม ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุ – พลังงานก๊าซ

5.Elemental Mage จากเดิม นักเวทย์ธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

6.Elemental Archmage จากเดิม ผู้วิเศษธาตุ – พลังงานก๊าซที่กลั่นได้, อาณาจักรแห่งพลังจิต, พลังงานจิต

7.Elemental Overlord จากเดิม เจ้าเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่แห่งพลังงานธาตุ – พลังงานเหลว, อาณาจักรลึกลับ, พลังลึกลับ

8.Elemental Archlord จากเดิม ผู้พิพากษาธาตุ – พลังงานเหลว + พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ,พลังลึกลับ

9.Elemental Dominator จากเดิม ผู้ครอบครองพลังงานแห่งธาตุ – พลังงานของแก่นแท้ (ต่อธาตุหนึ่งธาตุ), อาณาจักรลึกลับ , พลังลึกลับ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท