บทที่ 751 ทำไมคุณถึงชอบฉัน
นิตากำลังลังเลว่าตัวเองควรจะรับโทรศัพท์สายนี้ดีหรือไม่ แต่หากไม่รับ แล้วเจตต์ที่อยู่ข้างในได้ยินเข้าจะทำอย่างไรดี
เธอจะอธิบายอย่างไร
โทรศัพท์ยังคงดังไม่หยุด นิตากระวนกระวายใจ
ไม่มีทางเลือกแล้ว เธอก็เลยกดรับสายโทรศัพท์
“ฮัลโหล”
“นิตา เธอนี่ช่างใจกล้าเหลือเกินนะ ถึงได้กล้าให้ฉันรอสายนานขนาดนี้ เธออยากจะเห็นนิ้วมือของน้องชายเธอใช่ไหม ?”
อีกฝ่ายพูดจาโหดเหี้ยมมาก
“คุณอย่าแตะต้องน้องชายฉันนะ !”
“ถ้าไม่อยากให้ฉันแตะต้องน้องชายเธอ ทางที่ดีเธอควรทำตัวดีๆหน่อยนะ เป็นยังไงบ้างแล้ว ตอนนี้เจตต์เชื่อใจเธอเต็มที่หรือยัง ?”
คำพูดของอีกฝ่ายทำให้หัวใจของนิตาเจ็บปวดขึ้นมาเล็กน้อย
“ยังไม่ทั้งหมด”
“เธออย่ามาหลอกฉัน คิดว่าฉันไม่รู้จริงๆหรือ เขาถึงขนาดยอมตายเพื่อเธอเลย นิตา ถ้าเธอไม่เชื่อฟังคำสั่ง ฉันก็ยังมีวิธีอีกมากที่จะทำให้เธอเชื่อฟัง”
“คุณอย่าแตะต้องน้องชายฉัน คุณจะให้ฉันทำอะไร ฉันจะทำตามเอง”
นิตากัดริมฝีปาก รู้สึกเหมือนหัวใจทั้งดวงแทบจะแตกสลาย
“ถ้าทำแบบนี้ตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง ฉันจะได้ไม่ต้องเสียเวลา ค้นหาตราประทับบริษัทของเจตต์ แล้วคัดลอกมาให้ฉันชิ้นหนึ่ง”
“อะไรนะ ?”
นิตานิ่งอึ้งไปทันที
“ของสำคัญอย่างตราประทับบริษัท ฉันจะไปแตะต้องได้ยังไง ?”
“จะแตะต้องได้หรือไม่เธอไปหาทางเอาเอง ยังไงฉันก็ต้องได้ตราประทับนั่น เธอหาวิธีเองแล้วกัน ถ้าเธอทำไม่ได้ เธอก็คิดภาพผลที่จะตามมาเอาเองแล้วกัน”
พออีกฝ่ายพูดจบก็วางสายไปทันที
นิตารู้สึกเหมือนตัวเองตกเข้าไปในถังน้ำแข็ง
ให้ไปเอาตรงประทับของเจตต์ แถมยังเป็นของบริษัทด้วย ผลของการกระทำนี้ นิตารู้อยู่แก่ใจเป็นอย่างดี
เธอไม่อยากแตกหักกับเจตต์ เธอหลงรักเขาเข้าจริงๆแล้ว แต่ถ้าหากไม่ทำแบบนั้น แล้วน้องชายของเธอจะเป็นอย่างไร ?
นิตากัดริมฝีปาก น้ำตาคลอเบ้า
ทำไมชีวิตของเธอถึงได้เป็นแบบนี้
เจตต์ไม่รู้ว่ามีสิ่งใดอยู่ในใจของนิตาในตอนนี้ เขากดซื้อของบางอย่างในโทรศัพท์ จากนั้นก็สั่งให้คนนำมาส่งให้ถึงมือ
พอหันกลับมาอีกที ก็ไม่เจอนิตาแล้ว
“นิตา นิตา ?”
เจตต์วิ่งตามออกมา ก็เห็นนิตายืนพิงกำแพงอยู่ น้ำตาคลอเบ้า เลยขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
“เป็นอะไรไป ? ใครรังแกเธอเหรอ ?”
“เปล่า แค่ปวดท้องนิดหน่อย”
นิตาอดกลั้นความปวดร้าวแล้วมองไปที่เจตต์
สายตาของเขาดูเป็นห่วงเป็นใยขนาดนั้น และจริงใจขนาดนั้น แต่ว่าเธอ……
พอคิดถึงช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกัน เขาก็อยากให้เวลาย้อนกลับไปตอนที่เพิ่งรู้จักกัน เธอจะได้สามารถพูดคุยกับเจตต์ได้อย่างตรงไปตรงมา และอยู่ด้วยกันกับเขาอย่างมีความสุข
“ปวดท้องแล้วมายืนอยู่ที่นี่ทำไม ? รีบเรียกคุณหมอสิ มานี่ เดี๋ยวฉันอุ้มเธอกลับไปนอนที่เตียง จริงๆเลย โตขนาดนี้แล้ว ยังไม่รู้จักดูแลตัวเองอีก”
เจตต์อุ้มนิตาขึ้นมา จากนั้นก็รีบกลับไปที่เตียงผู้ป่วยในห้องผู้ป่วยทันที
“เธอพักผ่อนอยู่ที่นี่ก่อนนะ เดี๋ยวฉันไปตามหมอมา”
เจตต์หันหลังจะเดินออกไปทันที แต่กลับถูกนิตาดึงแขนเอาไว้
“คุณอยู่กับฉันสักเดี๋ยวนะ แค่เดี๋ยวเดียว”
“ยัยบื้อ ฉันไม่ใช่หมอสักหน่อย หยุดความเจ็บปวดของเธอไม่ได้หรอก เด็กดี อย่าดื้อ เดี๋ยวไปตามคุณหมอมา ช่วยดูอาการเธอก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
เจตต์ยิ้มแล้วดึงแขนเธอออก จากนั้นก็รีบวิ่งออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว
นิตามองดูมือของเขาที่จากตัวเองไป วินาทีนั้นราวกับความว่างเปล่าเข้ามาจู่โจมทั้งชีวิตของเธอ
ชีวิตต่อจากนี้ของเธอจะต้องเป็นแบบนี้เท่านั้นหรือ ?
หรือว่าท้ายที่สุดแล้วเธอจะต้องสูญเสียเจตต์ไป ?
คงต้องสูญเสียสินะ !
เพราะคงไม่มีคนที่ชอบให้จอมหลอกลวงที่มาหลอกตัวเองให้อยู่ข้างกายตัวเองได้หรอก
นิตาร้องไห้เหมือนใจแตกสลาย
แรกเริ่มไม่รู้จักรสชาติของความรัก จนทุกวันนี้ได้รู้แล้ว รสชาติเปรี้ยวหวานขมเผ็ดนี้ทำให้เธอปล่อยวางไม่ได้จริงๆ
เจตต์ตามคุณหมอมาอย่างรวดเร็ว แต่นิตาไม่อยู่แล้ว
“นิตา ? นิตา ?”
เจตต์รีบโทรหานิตาทันที แต่นิตากลับไม่รับสาย
“คุณหมอ ผมไปตามหาก่อนนะครับ เธออาจจะออกไปซื้อของก็ได้”
เจตต์เองก็ไม่รู้ว่าพูดให้คุณหมอฟัง หรือว่าพูดให้ตัวเองฟังกันแน่
เขารีบวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วก็เห็นนิตานั่งอยู่ตรงขั้นบันไดที่อยู่ด้านนอก สองมือกอดเข่านั่งมองผู้คนที่เดินผ่านไปมา สีหน้าเหม่อลอย
แผ่นหลังของเธอช่างเปล่าเปลี่ยว และโศกเศร้าขนาดนั้น ดูเหมือนกับตัวเจตต์ในสมัยเด็กมาก
เจตต์ยังจำได้หลังจากที่คุณพ่อของตัวเองนอกใจ และคุณแม่เริ่มเสียสติ เขาเองก็นั่งมองผู้คนที่สัญจรไปมาแบบนี้ ไม่รู้ว่าตัวเองควรจะไปทางไหนดี
เสี้ยววินาทีนั้น เขาก็รู้สึกราวกับมองเห็นตัวเองที่ย่อส่วนลง
ช่างไร้ที่พึ่ง ร้าวราน และเจ็บปวดเจียนตายขนาดนั้น
เจตต์ไม่รู้ว่านิตาเป็นอะไรไป เขาเดินเข้าไป แล้วสวมกอดนิตาจากด้านหลังไว้แน่น หวังจะใช้อุณหภูมิของร่างกายตัวเองทำให้นิตาอบอุ่น
นิตาชะงักขึ้นมาทันที จากนั้นก็เริ่มขัดขืน
“อย่าขยับ ปล่อยให้ฉันกอดแบบนี้สักเดี๋ยว ตอนเด็กๆ ฉันก็หวังว่าจะมีใครสักคนมากอดฉันไว้แบบนี้เหมือนกัน ให้ฉันได้รับรู้ถึงความรู้สึกอบอุ่นสักหน่อย คอยบอกฉันว่าคุณพ่อของฉันไม่ได้นอกใจ คุณแม่ของฉันไม่ได้เสียสติ เธอไม่มีทางรู้สึกได้หรอก ชายเย่อหยิ่งที่เดิมทีเคยถูกทุกคนอุ้มชู และจิตใจแตกสลายในชั่วพริบตานั้น คุณพ่อไม่ชอบฉันอีกต่อไป คุณแม่ไม่รู้จักฉันอีกต่อไปแล้ว สายตาที่คนรอบข้างมองฉันไม่เหมือนเดิมอีกเลย ไม่มีใครเรียกฉันว่าคุณชายเจตต์อีก แต่ว่าลับหลังพวกเขาเรียกฉันว่าอะไร ที่จริงฉันรู้ทุกอย่างดี ตอนนั้นตัวฉันก็ชอบนั่งอยู่แบบนี้เหมือนเธอ เฝ้ามองผู้คนบนถนน มองดูพวกเขาเดินผ่านไปมา ปล่อยให้เวลาหลุดลอยจากมือไป”
หัวใจของนิตาปวดร้าวขึ้นมาทันที
“เจตต์ ทำไมคุณถึงชอบฉันเหรอ ?”
พอได้ยินนิตาถาม เจตต์ก็หัวเราะออกมาทันที”
“ไม่รู้สิ จะว่าไปหน้าตาเธอก็ไม่ได้สวย ตัวก็ไม่ได้สูง แถมยังพูดจาไม่เข้าหูคน นิสัยก็ไม่ค่อยดี ทำไมฉันถึงได้ชอบเธอได้นะ ?”
นิตากัดริมฝีปากแล้วพูดว่า “นั่นสิ ผู้หญิงที่นิสัยไม่ดีอย่างฉัน ทำไมคุณถึงได้ชอบ หรือว่าคุณมีแนวโน้มเป็นมาโซคิสต์ ?”
“ไม่แน่นะ แต่ว่าเรื่องของความรู้สึก ถ้ารู้สึกใช่ก็คือใช่ ฉันจะทำอะไรได้ล่ะ ทำไม ? หรือว่านึกเสียใจขึ้นมาตอนนี้ สายไปแล้วล่ะ”
เจตต์กอดนิตาอย่างเอาแต่ใจ แล้วยิ้มอย่างคนพาล
เขาในวินาทีนี้ รอยยิ้มช่างไร้เดียงสา และช่างมีความสุข
นิตายิ้มตาม แต่เธอหัวเราะไม่ออก
“คุณหมอมาแล้วเหรอ ?”
“มาแล้ว ยังจะพูดอีก เธอไม่อยู่ห้องผู้ป่วยดีๆ วิ่งมาอยู่ตรงนี้ทำไม หรือว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม ?”
เจตต์สัมผัสได้ว่าอารมณ์ของนิตาไม่ค่อยดีนัก
นิตาพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่ น้องชายของฉันโทรมา สุขภาพของเขาไม่ค่อยดี ฉันอยากกลับไปเยี่ยมเขา”
“ได้สิ เดี๋ยวฉันไปกับเธอ จะได้ไปเจอน้องชายของภรรยาในอนาคตของฉันด้วย”
เจตต์เพิ่งจะพูดจบ ก็ถูกนิตาปฏิเสธทันที
“ไม่ต้องหรอก ฉันยังไม่ได้พูดเรื่องของคุณให้เขาฟังเลย รอให้ฉันกลับไปบอกเขาก่อนค่อยว่ากันอีกที อีกอย่างอาการบาดเจ็บของคุณยังต้องใช้เวลาพักฟื้น จะไปทรมานกับฉันทำไม ไม่รู้ด้วยว่าช่วงนี้ชาญจะทำอะไรอีกหรือเปล่า คุณควรจะระวังตัวเอาไว้”
การปฏิเสธของนิตาทำให้เจตต์รู้สึกไม่ค่อยดี
“คิดว่าฉันจัดการไม่ได้เหรอ ? หรือว่าเธอกลัวว่าน้องชายเธอจะว่าอะไรฉัน ?”
“ไม่ใช่ทั้งนั้นแหละ คุณอย่าคิดมากไป ฉันก็แค่อยากกลับไปเยี่ยมน้องชายฉัน ส่วนเรื่องของพวกเรา ให้ฉันบอกเขาก่อนดีกว่า ไม่อย่างนั้นเขาจะตกใจเกินไป เจตต์ คุณต้องเข้าใจฉันนะ พวกเราเป็นแค่คนธรรมดา จู่ๆฉันก็มาอยู่กับคุณแบบนี้ ด้วยฐานะของฉันอาจจะทำให้คนอื่นรู้สึกว่าฉันหวังทรัพย์สมบัติ ดังนั้น……”
“ถ้าน้องชายของเธอกล้าคิดแบบนั้น ฉันจะจัดการเขาเอง”
“คุณกล้าเหรอ !”
นิตาฉุนกึกขึ้นมาทันที
พอเห็นท่าทางของนิตา เจตต์ก็รู้สึกหดหู่เล็กน้อย
“ในใจของเธอ น้องชายของเธอสำคัญกว่าฉันงั้นเหรอ ?”
“นั่นเป็นเรื่องธรรมดา เขาเป็นญาติเพียงคนเดียวของฉันในโลกใบนี้นะ”
คำพูดนี้ของนิตาทำให้เจตต์รู้สึกไม่ดียิ่งกว่าเดิม
เขาก็แค่ถามออกไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น แต่นิตากลับเข้าใจทำร้ายจิตใจคนอื่นจริงๆ
“ได้ ฉันไม่กลับไปกับเธอ แต่เธอต้องรับปากว่าจะดูแลความปลอดภัยของตัวเอง ไม่ได้ ฉันก็ยังไม่วางใจอยู่ดี ฉันหาบอดี้การ์ดติดตามเธอไปดีกว่า”
“ไม่ต้องจริงๆ เจตต์ ชาญไม่มีทางทำอะไรฉันหรอก ถ้าเขาคิดจะทำร้ายฉันคงทำไปนานแล้ว ฉันคิดว่าที่เขาลงมือกับคุณ ก็เพราะตรวจสอบตัวตนของคุณแล้ว กลัวว่าคุณจะช่วยฉันตรวจสอบเรื่องของคุณพ่อคุณแม่ถึงได้ลงมือกับคุณ ก่อนที่จะตรวจสอบเรื่องราวให้ชัดเจน ต่อหน้าฉันเขายังต้องรักษาภาพพจน์ที่ดีของคุณอาชาญอยู่ ดังนั้นคุณไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอก ตัวคุณต่างหาก ที่จะต้องระวังตัวให้ดี แล้วรอฉันกลับมาเข้าใจไหม ?”
คำพูดของนิตาทำให้เจตต์เถียงไม่ค่อยออก
“ได้ ฉันเข้าใจแล้ว ตัวเธอเองก็ต้องระวังให้มาก จะไปเมื่อไหร่ล่ะ ?”
“อีกเดี๋ยวก็ไป”
เจตต์ชะงักไปทันทีก่อนจะพูดว่า “ต้องรีบร้อนขนาดนี้เลยเหรอ ?”
“เขาป่วย รอบกายไม่มีใคร ฉันจะต้องรีบกลับไป”
นิตาพูดจบก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปทางห้องผู้ป่วย
เจตต์รู้สึกว่านิตากีดกันให้ตัวเองอยู่ภายนอกประตูหัวใจตลอดเวลา ยิ่งตอนนี้ขนาดญาติเพียงคนเดียวของเธอก็ไม่ยอมให้เขาไปเจอ ความรู้สึกแบบนี้มันเหมือนว่าเขาเป็นคนรักใต้ดิน มันแย่มาก
พอตามนิตากลับไปห้องผู้ป่วย คุณหมอก็ทำการตรวจร่างกายให้นิตาแล้ว
เจตต์พยายามจัดการกับความรู้สึกตัวเองให้ดี จากนั้นก็ถามว่า “คุณหมอ เป็นยังไงบ้างครับ ?”
“ช่วงนี้ผู้ป่วยควรงดอารมณ์ร้อน ทางที่ดีที่สุดคือทำใจให้สงบ มีอาการอักเสบเล็กน้อย หมอจะจัดยาให้ ระวังต้องทานให้ตรงเวลา”
“ขอบคุณครับคุณหมอ”
เจตต์ส่งคุณหมอ แล้วมองดูนิตาเก็บข้าวของ อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้นก็ได้มั้ง ? เธอก็ได้ยินที่คุณหมอพูดแล้วนี่ บาดแผลของเธออักเสบ เธอ……”
“คุณไม่ต้องยุ่งวุ่นวายกับฉันแล้วได้ไหม ?”
จู่ๆนิตาก็พูดขึ้นมาอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย
พอพูดจบทั้งเธอและเจตต์ต่างก็ชะงักไปทันที
นี่เป็นครั้งแรกที่เจตต์ถูกผู้หญิงคนหนึ่งดุแบบนี้ และที่สำคัญยังเป็นช่วงเวลาที่เขาเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงคนนี้ด้วย
นิตาเองก็ดูเหมือนจะสัมผัสได้ว่าท่าทีของตัวเองมีปัญหา เลยอดไม่ได้ที่จะลดน้ำเสียงลงแล้วพูดว่า “ขอโทษด้วยนะ ฉันปวดอยู่เลยอารมณ์ไม่ค่อยดี แล้วก็เป็นห่วงร่างกายของน้องชายฉันด้วย ดังนั้นคำพูดคำจาก็เลยไม่ค่อยดี คุณอย่าถือสาเลย”
“นิตา ฉันไม่ได้ถือสาคำพูดของเธอ ฉันก็แค่เป็นห่วงร่างกายของเธอ”
เจตต์จ้องมองนิตา หวังว่าจะมองสีหน้าของเธอออกสักเล็กน้อย แต่ว่าเขาก็ล้มเหลว
นิตารีบเบือนหน้าหนีแล้วพูดว่า “ฉันไม่เป็นไร ร่างกายของตัวเองฉันรู้ดีที่สุด ตอนที่ฉันไม่อยู่ คุณก็ดูแลตัวเองให้ดีๆแล้วกัน”
“อย่าพูดเหมือนจะจากฉันไปตายแบบนั้นสิ ฉันโตขนาดนี้แล้ว ไม่ตายง่ายๆหรอก วางใจเถอะ นี่ นี่เป็นบัตรเครดิต รหัสผ่านคือวันเกิดของเธอ อย่าปฏิเสธฉัน น้องชายเธอป่วย จำเป็นต้องใช้เงิน ถึงเวลาอย่าปล่อยให้ตัวเองต้องสับสนเพราะเรื่องเงิน รับไว้เถอะ อย่างมากก็แค่หาเงินมาคืนฉันทีหลัง”
มองดูบัตรเครดิตในมือของเจตต์ ดวงตาของนิตาก็เริ่มเปียกชื้นขึ้นมา