แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 812

ตอนที่ 812

นาวินลังเลอยู่พักหนึ่ง ทำให้บุริศร์กระวนกระวายใจขึ้นมาทันที

“ทำไม? พูดไม่ได้เหรอ?”

“เปล่าครับ พูดได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าแน่นอนหรือเปล่า แค่รู้สึกว่าคล้ายมาก”

คำพูดของนาวินทำให้คนจับต้นชนปลายไม่ถูก

“หมายความว่าอะไร? พูดให้มันเข้าใจหน่อย”

นาวินรีบไอออกมาและตอบว่า: “ ประธานบุริศร์ มีคนเคยเห็นคุณนายอยู่ในตระกูลจันทรวงศ์ เพียงแต่ไม่กล้ายืนยันว่าใช่หรือเปล่า”

“คุณนายคนไหน?”

นรมนไถ่ถามขึ้นมาทันที คิ้วขมวดเข้าหากันแน่น

ดวงตาของบุริศร์หรี่ลงเล็กน้อย

นาวินได้ยินเสียงรีบร้อนของนรมน จึงรีบตอบว่า: “คือเรณุกา คุณนายตระกูลโตเล็กของพวกเราครับ เพียงแต่เจอแค่ครั้งเดียว ไม่เคยได้เจออีก แต่คุณนายตระกูลโตเล็กของพวกเราไม่ได้เสียชีวิตไปแล้วเหรอครับ หรือว่าท่านมีพี่น้องฝาแฝด?”

บุริศร์กับนรมนสบตากันทันที

“ไม่มีพี่น้องฝาแฝด คือเธอนั่นแหละ”

บุริศร์นึกถึงตอนแรกที่หาศพของเรณุกาไม่เจอ มีคนพูดว่าระเบิดไปพร้อมกับรถ แต่ตอนนั้นทำไมรถถึงได้ระเบิด เรื่องนี้ไม่มีคำอธิบายที่สมเหตุสมผลมาตลอด วันนี้ลองคิดดู ทั้งหมดนี้อาจจะเป็นกลอุบายหลบหนีอย่างหนึ่งของเรณุกา

บางทีตอนแรกเธออาจคิดว่าหลังจากทำกับนรมนแบบนั้น บุริศร์จะไม่มีทางปล่อยตนเองไป ดังนั้นจึงหาทางหนีทีไล่ให้ตนเอง?

สีหน้าของนรมนมืดมน

คุณนายทวีทรัพย์ธาดาถูกเธอบังคับจนตาย ตนเองก็เกือบเป็นใบ้ตลอดชีวิต กิจจายิ่งเกือบไม่สามารถหายจากอาการออทิสติกได้

เรณุกาทำเรื่องเลวร้ายมากมายเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าตอนนี้จะยังมีชีวิตอยู่!จนแม้แต่ยังสามารถหลบอยู่เบื้องหลังคอยเป็นผู้ควบคุมทุกอย่างของพวกเขา!

คิดถึงสิ่งนี้ นรมนเจ็บหน้าอกด้วยความโกรธ

ถ้าหล่อนโดนระเบิดตายไปตรงนั้น เธอก็จะลืมความแค้นไปทั้งหมด ในเมื่อตอนนี้เรณุกายังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็จะไม่ปล่อยหล่อนไป!

บุริศร์รู้ว่าในใจของนรมนคิดอย่างไร เขาบีบมือเธอแน่นและกล่าวว่า: “วางใจเถอะ มีผมอยู่ด้วย”

“ฉันอยากจัดการเอง”

นรมนกล่าวอย่างเย็นชา จากนั้นถามนาวินว่า: “เรณุกาปรากฏตัวที่ตระกูลจันทรวงศ์เมื่อไหร่?”

“ประมาณหนึ่งเดือนก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครเห็นเธออีก เพียงแต่เรื่องนี้มีความบังเอิญมาก หลังจากคนนั้นเห็นเรณุกา ฉัตรยาก็ล้มป่วยลงอย่างไม่มีสาเหตุ จากนั้นตระกูลจันทรวงศ์เชิญมิลินหรือยมราชมารักษา สุดท้ายฉัตรยาทนไม่ไหว ส่วนมิลินก็หายตัวไป”

ได้ยินนาวินพูดแบบนี้ นรมนกับบุริศร์ก็อึ้งไปพร้อมกัน

หลายเดือนก่อน ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงที่เรณุกาเพิ่งจะแกล้งตาย เมื่อเธอกลับไปถึงตระกูลจันทรวงศ์ ฉัตรยาก็ป่วยลง จะมีเรื่องอะไรอยู่ข้างในไหม?

นภดลก็เคยพูด ว่าการตายของฉัตรยาดูลึกลับ หรือว่าเป็นเพราะเรื่องนี้?

แถมรเมศยังมีความเกี่ยวข้องกับตระกูลจันทรวงศ์อย่างไม่น่าเชื่อ?

หรือว่าห้าปีก่อนตนเองถูกทำให้เสียโฉม จากนั้นรเมศก็พาเธอไปทำศัลยกรรมกลายเป็นฉัตรยา ก็เป็นความต้องการของเรณุกา?

นรมนยิ่งคิดยิ่งรู้สึกหวาดกลัว

ถ้าการคาดเดาทั้งหมดเป็นความจริง เรณุกาคนนี้น่ากลัวมากเกินไป!

เธอควบคุมทุกคนอย่างไม่รู้ตัว และเล่นกับทุกคนในกำมือของตนเอง คนแบบนี้ถ้าไม่เป็นเพื่อน ก็ต้องกลายเป็นศัตรู เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับทุกคน

สีหน้าของบุริศร์ก็ดูไม่ได้

“เข้าใจแล้ว ตรวจสอบเบาะแสของมิลินต่อไป”

หลังจากบุริศร์วางสาย เขามองนรมน จู่ ๆ ก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร

นรมนกล่าวเสียงเบา: “คุณก็คือคุณ เธอก็คือเธอ พวกคุณต่างไม่เหมือนกัน ตอนนี้เธอติดค้างฉัน ฉันจะทวงกลับมา ถ้าคุณยังคิดถึงความสัมพันธ์แม่ลูก คุณไม่ต้องไปก็ได้ ฉันจะไปคนเดียว คุณสบายใจได้เลย ฉันจะไม่ตำหนิคุณ”

“พูดอะไรของคุณ ผมจะปล่อยให้คุณไปตระกูลจันทรวงศ์คนเดียวได้อย่างไร วันนี้ผมก็รู้ว่าตระกูลจันทรวงศ์เป็นสถานที่เลวร้าย แล้วจะให้คุณไปโดยไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่างเหรอ แล้วจากนั้นล่ะ?ผมยังเป็นผู้ชายอยู่ไหม?หรือว่าในใจของคุณ ผมเป็นคนที่จัดการเรื่องอะไรไม่ได้เลย?”

คำพูดของบุริศร์ค่อนข้างแรง นรมนรู้ว่าเมื่อสักครู่ที่ตนเองพูดออกไปนั้นไม่ค่อยดี

เธอรีบกล่าวว่า: “คุณอย่ามาทะเลาะกับฉันดีกว่า คุณรู้ว่าฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น”

“ผมเข้าใจ วางใจเถอะ คุณจะทำอะไร ผมให้คุณจัดการเอง คุณอยากล้างแค้นให้แก่ตัวเอง ผมก็ยอมรับได้ แต่เงื่อนไขแรกคือคุณจำเป็นต้องรับรองความปลอดภัยของตนเอง นี่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ถ้าคุณทำไม่ได้ ผมยอมขังคุณไว้ในบ้านดีกว่า และให้ผมออกไปจัดการเรื่องทั้งหมดนี้เอง”

ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนซาบซึ้งใจมาก

“ฉันรับรอง ฉันก็เป็นแม่คนหนึ่ง ฉันรู้ว่าตนเองควรจะทำอย่างไร คุณวางใจได้ ฉันจะระวังตัวให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีคุณอยู่ด้วยไม่ใช่เหรอ?ฉันเชื่อว่าคุณไม่มีทางยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับฉันหรอกจริงไหม?”

สำหรับความเชื่อใจและการพึ่งพาอย่างไม่มีข้อแม้ของนรมน บุริศร์รู้สึกอบอุ่นหัวใจ

เขาเคยเกือบสูญเสียความไว้วางใจนี้ไป ยังดีที่ทุกอย่างไม่สายเกินไป

บุริศร์กอดนรมนไว้ในอ้อมแขนแน่น สูดดมกลิ่นหอมของเธอ กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า: “ในโลกของผมมีเพียงแค่คุณกับลูก ๆ คุณไม่สามารถทำลายโลกทั้งใบของผมได้เข้าใจไหม?”

“คุณก็คือทุกอย่างของฉัน”

นรมนอิงแอบในอ้อมแขนของบุริศร์อย่างมีความสุข

ทั้งสองจู๋จี๋กันอยู่พักหนึ่ง ถึงจะนึกถึงปัญหาใหญ่ นั่นคือพวกเขาจะไปตระกูลจันทรวงศ์อย่างไร?

“ตระกูลจันทรวงศ์หูตาเป็นสับปะรด พวกจะต้องทำอย่างไรถึงจะไม่ถูกคนอื่นพบเข้า?”

นรมนสับสน

บุริศร์ตอบเสียงเบา: “ไม่ว่าจะไปอย่างไรก็จะถูกพบเข้าอยู่แล้ว แทนที่จะแอบ ไม่สู้เข้าไปอย่างเปิดเผยดีกว่า อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขาต้องการคือให้พวกเราโยนตนเองลงไปในแห ทำไมถึงไม่ซ้อนแผนล่ะ ?”

นรมนอึ้งไปสักพัก จากนั้นจึงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า: “ คุณวางแผนไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?”

“แน่นอน ผมไม่มีทางที่จะโยนตนเองลงไปในแหอย่างโง่ ๆ ”

“ปลิ้นปล้อน เจ้าเล่ห์!”

การประเมินของนรมนไม่ทำให้บุริศร์รู้สึกว่าไม่เหมาะสมใด ๆ ตรงกันข้ามเขากลับหัวเราะเสียงดัง

“คุณไม่ได้รักที่ผมเป็นอย่างนี้เหรอ?”

“หน้าไม่อายเลย”

นรมนรู้สึกว่าบุริศร์ในตอนนี้ไร้ยางอายเสียจริง แต่เธอกลับชอบอย่างยิ่ง

“ใช่ ผมมันหน้าไม่อาย ตอนนี้ดื่มเสร็จหรือยัง พวกเราเรียกรถแท็กซี่ไปดีไหม?”

“ดี”

นรมนก็พักผ่อนพอแล้ว จึงลุกขึ้นและออกไปกับบุริศร์

ทั้งสองคนโบกรถแท็กซี่ตามใจชอบ บอกที่อยู่ของตระกูลจันทรวงศ์ จากนั้นเริ่มมองทิวทัศน์ด้านนอกอย่างมีความสุข

“เมืองDนี้พัฒนาค่อนข้างดี ไม่ได้แย่ไปกว่าเมืองชลธีเลย”

นรมนกล่าวด้วยรอยยิ้ม

คนขับรถได้ยินนรมนพูดแบบนี้ จึงรีบถามว่า: “คนสวย หนุ่มหล่อ พวกคุณไม่ใช่คนเมืองDเหรอครับ?”

“อืม ไม่ใช่ พวกเรามาหาเพื่อนที่นี่”

บุริศร์รีบพูดต่อ

คนขับรถมองบุริศร์จากกระจกหลัง เห็นออร่าของบุริศร์ต่างกับคนทั่วไป จึงเอ่ยถามทันที: “หนุ่มหล่อ เพื่อนของคุณคือตระกูลจันทรวงศ์เหรอ?”

“ทำไมเหรอ ช่วงนี้ตระกูลจันทรวงศ์มีข่าวอะไร?”

“นั่นแหละ ข่าวใหญ่ด้วย”

คนขับรถรีบกล่าวว่า: “แต่ก่อนพวกเรารู้ว่าตระกูลจันทรวงศ์เป็นครอบครัวนักปราชญ์ ดร.ฐานทัตเป็นศาสตราจารย์ที่มีชื่อเสียงของเมืองDของพวกเรา มีผู้คนมากมายเป็นลูกศิษย์เขา แต่ก่อนหน้านี้ไม่นานเล่ากันว่ามีคนกลุ่มหนึ่งเห็นว่ามาจากข้างนอก เป็นวงศ์ตระกูลของตระกูลจันทรวงศ์ พระเจ้า เอิกเกริกยิ่งใหญ่จริง ๆ ”

นรมนกับบุริศร์หลังจากไปฟังก็แปลกใจเล็กน้อย

“ตระกูลจันทรวงศ์มาจากที่ไหน คุณรู้ไหม?”

“ผมจะไปรู้อะไร? ผมเป็นแค่คนขับแท็กซี่ แค่ได้เห็นเหตุการณ์ที่ครึกครื้นยิ่งใหญ่แค่นั้นเอง ได้ยินมาว่าลูกสาวคนเดียวของดร.ฐานทัตหน้าตาดีมาก ๆ เพียงแต่ตอนนั้นลูกสาวของเขาป่วยจึงไม่ได้ออกมา ไม่อย่างนั้นพวกเราคงจะได้เห็นว่าคุณหนูฉัตรยาหน้าตาเป็นอย่างไร”

เมื่อคนขับรถพูดถึงตรงนี้ก็อดเสียดายไม่ได้

นรมนกับบุริศร์อึ้งไปอีกครั้ง

คิดไม่ถึงว่าตระกูลจันทรวงศ์จะไม่เผยแพร่ข่าวการตายของฉัตรยาออกมาข้างนอก?

“พี่คนขับ หลังจากที่คุณหนูฉัตรยาของตระกูลจันทรวงศ์ป่วยก็ไม่ได้ออกมาข้างนอกเลยเหรอ?”

“ไม่เลย ว่ากันว่าเชิญคุณหมอที่มีชื่อเสียงที่สุดมา ไม่รับแขกอยู่หลายวัน ตราบใดที่ไม่เป็นโรคร้ายแรง สำหรับอิทธิพลของตระกูลจันทรวงศ์ น่าจะไม่มีปัญหาอะไร และผมยังได้ยินมาว่า อีกไม่กี่วันนี้คุณหนูตระกูลจันทรวงศ์จะแต่งงานกับตระกูลใหญ่ข้างนอก”

“แต่งงาน?”

ดวงตาของบุริศร์มืดมนเล็กน้อย

“ใช่แล้ว ว่ากันว่าอีกฝ่ายมีอิทธิพลในต่างประเทศมาก ตระกูลจันทรวงศ์น่าทึ่งจริง ๆ คิดไม่ถึงว่าแม้แต่ตระกูลใหญ่ที่ต่างประเทศก็ยังสามารถเกี่ยวดองกันได้ หลังจากนี้ใครจะกล้ารุกรานตระกูลจันทรวงศ์เนอะ?”

“ตระกูลที่ต่างประเทศ? รู้ไหมว่านามสกุลอะไร?”

นรมนค่อนข้างจะคาดเดาได้

คนขับรถคิดอยู่สักพักจึงตอบว่า: “ดูเหมือนจะเป็นตระกูลวัชโรทัย ผมเองก็ลืมไปแล้ว”

สีหน้าของบุริศร์บึ้งตึงทันที

ห้าปีก่อนรเมศศัลยกรรมนรมนให้กลายเป็นฉัตรยา วันนี้ฉัตรยาตายไปแล้ว แต่ตระกูลจันทรวงศ์กลับเก็บเป็นความลับ

และยังส่งข่าวออกมาว่าตระกูลวัชโรทัยกับตระกูลจันทรวงศ์จะเกี่ยวดองกัน

จุดประสงค์ที่รเมศใช้นภดลล่อให้นรมนออกมาที่นี่ชัดเจนมาก

แต่สิ่งที่บุริศร์คิดไม่ถึงก็คือ มาถึงตอนนี้แล้ว คิดไม่ถึงว่ารเมศยังคงไม่ปล่อยนรมนไป

เขาปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ทำให้คนขับรถรู้สึกเหน็บหนาวทันที

นรมนจะคาดเดาความเกี่ยวข้องและสาเหตุไม่ออกได้อย่างไร?

มองเห็นบุริศร์โกรธเช่นนี้ เธอจับแขนของบุริศร์เอาไว้อย่างอดไม่ได้ กล่าวเสียงเบาว่า: “เป็นอะไรไป ?ไม่ใช่ว่าเตรียมตัวมาล่วงหน้าแล้วเหรอ?”

“รเมศอย่าคิดวางแผนกับคุณจะดีที่สุด ไม่อย่างนั้นอย่างหาว่าผมลงมืออย่างไร้ความปรานี!”

บุริศร์ใช้เสียงที่ได้ยินแค่เพียงสองคนพูดออกมา

นรมนรู้ว่าบุริศร์เป็นคนพูดจริงทำจริง สำหรับรเมศ เธอหวังว่าเขาจะไม่รนหาที่ตายให้ตนเองจริง ๆ

คนขับรถเห็นบรรยากาศผิดปกติ จึงรีบหุบปากและไม่กล้าพูดอะไรมาก

นรมนอยู่ข้าง ๆ บุริศร์ไปตลอดทางจนมาถึงประตูบ้านตระกูลจันทรวงศ์

ประตูใหญ่ตระกูลจันทรวงศ์ปิดสนิท ไม่มีการจัดงานศพให้แก่ฉัตรยาเล็กสักนิดเดียว ตรงกันข้ามที่นี่ให้ความรู้สึกเคร่งขรึมและน่าเกรงขามแก่ผู้คน

นรมนกับบุริศร์ลงจากรถ และจ่ายเงินค่ารถ คนขับแท็กซี่รีบจากไปอย่างรวดเร็ว

มองดูประตูใหญ่ตรงหน้า ในใจของนรมนกับบุริศร์มีความกดดัน

“ตระกูลจันทรวงศ์นี้ทำเหมือนเป็นลานกว้างที่มีห้องส่วนตัวของผู้หญิงแยกกัน”

นรมนหัวเราะเบา ๆ และกล่าวออกมา

บุริศร์กลับกล่าวอย่างเย็นชา: “ถึงแม้ตระกูลจันทรวงศ์จะมีผนังที่แข็งแกร่ง ตราบใดที่กล้าหาเรื่องคุณ ผมสามารถพังที่นี่ได้”

ในเรื่องนี้ นรมนไม่มีความสงสัยสักนิดเดียว

เธอกับบุริศร์ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีแผนการมากมาย แต่เพื่อนภดล ครั้งนี้พวกเขาจำเป็นต้องมา

จำเป็นต้องพูดว่า คนในนี้ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่างกุมชีวิตของพวกเขาเอาไว้

นภดลมีบุญคุณต่อพวกเขา อาศัยเรื่องนี้ ถึงแม้ตระกูลจันทรวงศ์จะสถานที่ที่เต็มไปด้วยภยันตราย พวกเขาก็ต้องเข้าไป!

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท