ตอนนี้นรมนเชื่อแล้วว่ารเมศเป็นบ้า!
ไม่สิ!
เขาไม่ใช่แค่เป็นบ้า แต่ไม่เคยสนใจอะไรทั้งนั้น
นรมนรีบบิดลูกบิดประตู แต่ก็เปิดไม่ออก
รเมศเห็นว่าจนป่านนี้แล้ว นรมนยังไม่ยอมอยู่กับตน ก็อดโกรธขึ้นมาไม่ได้
“นรมน ผมทำให้คุณลำบากใจขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ความรักเป็นสิ่งที่ฝืนกันไม่ได้ รเมศ ทำไมคุณไม่ยอมเข้าใจ”
นรมนร้อนใจ
อุณหภูมิในนี้หนาวขึ้นเรื่อยๆ เธอต้องคอยกระทืบเท้าถึงจะทำให้ตัวเองรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาบ้าง แต่เธอก็รู้ ทำแบบนี้ไปได้ไม่นาน
นรมนรีบหาโทรศัพท์ตนเอง แต่รเมศก็เตรียมการไว้พร้อม โยนโทรศัพท์ทิ้งไปแล้ว
เมื่อเห็นท่าทางนรมน รเมศจึงยิ้มอย่างลำพองใจ
“โทรศัพท์ของเราผมโยนทิ้งท่อน้ำไปหมดแล้ว คุณวางใจได้ ต่อให้บุริศร์จะเก่งคอมพิวเตอร์แค่ไหน ก็หาพวกเราไม่เจอ หรืออาจจะหาพวกเราเจอ แต่คาดว่าตอนนั้นพวกเราคงจะไปอยู่ยมโลกแล้วล่ะ”
“มีแต่ผีที่จะไปยมโลกกับคุณ!รเมศ คุณบ้าไปแล้ว!คุณรู้มั้ย โง่แค่ไหนที่ทำแบบนี้ ตระกูลวัชโร
ทัยอาจจะพังทั้งตระกูล!”
นรมนคิดจะใช้ความเป็นความตายของตระกูลวัชโรทัยมาทำให้รเมศคืนสติ เสียดายที่รเมศไม่สนใจ“ตระกูลวัชโรทัยจะหายก็หายไป อยู่ไปแล้วจะมีประโยชน์อะไรได้ ผมก็ยังไม่ได้คุณอยู่ดี ถ้าตระกูลวัชโรทัยแน่ขนาดนั้น ตอนนี้คุณเป็นเมียผมแล้ว ผมเสียใจมาก เสียใจที่ห้าปีนี้ไม่ได้ทำอะไรกับคุณ ไม่ได้แม้แต่ขอคุณแต่งงาน ตอนนี้ผมก็ไม่อยากฝืนในสิ่งที่คุณไม่อยากทำ แต่ชาติหน้าผมจะไม่ปล่อยให้เป็นแบบนั้นแน่ ผมจะต้องได้คุณมาครอบครอง!”
ความบ้าระห่ำของรเมศทำให้นรมนอยากร้องไห้ทั้งที่ไม่มีน้ำตา
บุริศร์ คุณอยู่ที่ไหน
ถ้าคุณยังไม่มา เมียกับลูกในท้องคงไม่รอดแล้วแน่ๆ!
นรมนตะโกนร้องในใจ เธอเดินไปเดินมาไม่หยุด เพื่อให้ตัวเองอบอุ่นขึ้นบ้าง
จู่ๆบุริศร์รู้สึกเจ็บหัวใจแปล๊บ ลางสังหรณ์ไม่ดีผุดขึ้นมาในหัว
“นรมน!”
เขาตามหาร่องรอยของนรมนอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่ว่าจะใช้เงินมากเท่าไหร่ หรือใช้คนมากเท่าไหร่ก็หาร่องรอยของนรมนไม่พบ แม้แต่รเมศเองก็ราวกับระเหยหายตัวไป ทำไมถึงหาโลเกชั่นพวกเขาไม่เจอสักที
“ทางพฤกษ์เป็นอย่างไรบ้าง”
บุริศร์ได้แต่ฝากความหวังไว้กับพฤกษ์แล้ว หวังว่าตระกูลวัชโรทัยจะเห็นแก่ความเป็นความตายมอบตัวรเมศออกมา
พฤกษ์โทรศัพท์ ตระกูลวัชโรทัยไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้ถึงขนาดกำลังเตรียมงานแต่งงานของฉัตรยากับรเมศอย่างยิ่งใหญ่
“ทุกอย่างในตระกูลวัชโรทัยอย่าให้มีเหลือ!”
บุริศร์ออกคำสั่งจับตาย
เป็นเพราะการหายตัวของนรมน ทำเอาบ้านวัชโรทัยวุ่นวายไปหมด แต่ทุกสิ่งอย่างรเมศไม่รับรู้ และ เขาเองก็คิดไม่ถึง ไม่สนใจแล้วด้วย
ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่อยากได้ในชาตินี้มาอยู่ข้างกายแล้ว ต่อให้สุดท้ายต้องกลายเป็นศพแข็งตาย ขอแค่ได้อยู่ด้วยกัน เขาก็พอใจแล้ว
นรมนเริ่มรู้สึกว่ามือเท้าชาไปหมด
ชีวิตเธอช่างรันทดเหลือเกินใช่หรือไม่
คิดไม่ถึงว่าโรงแรมที่ตระกูลโตเล็กคุ้มกันดีขนาดนี้ยังจะโดนรเมศพาตัวไปได้อีก
เธอประมาทเกินไปแล้ว!
“คุณเข้าไปในโรงแรมได้ไง หรือว่าคุณซื้อตัวบอดี้การ์ดตระกูลโตเล็ก”
นรมนจำได้ว่าบอดี้การ์ดชุดนี้เป็นบอดี้การ์ดลับที่บุริศร์ฝึกออกมาเองกับมือ ถ้ายังซื้อตัวกันได้ง่าย
ขนาดนี้ มีไปแล้วจะมีความหมายอะไร
รเมศนั่งพิงอยู่บนพื้น เห็นนรมนทำสีหน้าสงสัยดูแล้วช่างน่าสนใจ ทำให้เขาคิดถึงเป็นพิเศษ เขาจำได้ว่าเมื่อห้าปีก่อน มีอยู่หลายๆคืน ที่เขาคอยเฝ้านรมนในโรงพยาบาล
ตอนนั้น กมลหลับไปแล้ว แต่เนื่องจากอาการเจ็บป่วยจึงหลับไม่สนิท นรมนอยู่เฝ้าทั้งคืน ส่วนเขาก็นั่งข้างนรมน อยู่เป็นเพื่อนนรมนทุกคืนๆ
ตอนนี้มาคิดดู ตอนนั้นน่าจะเป็นช่วงที่เขามีความสุขมากที่สุดในชีวิต
ตอนนี้ภาพนี้ปรากฏขึ้นอีกในหัว รเมศเองก็รู้สึกสับสน ราวกับว่าพวกเขายังคงอยู่ที่อเมริกา ราวกับว่าพวกเขายังไม่จากไปไหน นรมนยังอยู่ข้างกายเขา ไม่ได้กลับไปอยู่กับบุริศร์
นรมนเห็นเขาไม่รู้ใจลอยไปถึงไหน และคอยพร่ำพรรนากับตัวเอง จึงกลอกตาขาวขึ้น
ทำไมตัวเองถึงได้ไปยุ่งกับคนบ้าแบบนี้ได้นะ
“รเมศ ฉันถามคุณอยู่นะ”
นรมนต้องหาอะไรทำ พูดคุยบ้าง ไม่งั้นเธอคงต้องแข็งตายจริงๆ
เธอเคยคิดการตายของตัวเองไว้หลายรูปแบบ แต่แน่นอนว่าไม่ใช่แข็งตายแบบนี้
รเมศได้ยินนรมนขึ้นเสียงสูง จึงได้สติ
“เมื่อกี้คุณว่าไงนะ”
“ฉันถามว่าคุณเข้าโรงแรมมาได้ไง คุณใช้เงินซื้อตัวบอดี้การ์ดเหรอ”
นรมนพูดอย่างหมดความอดทน
รเมศนิ่งคิดแล้วพูด“ผมต้องยอมรับ บอดี้การ์ดของบุริศร์แข็งราวเหล็กไหล ผมซื้อไม่ได้หรอก ช่วยไม่ได้ ผมวางยาคนที่อยู่เวร ให้เขาวิ่งเข้าห้องน้ำ ผมเลยถือโอกาสลักคุณมา จากนั้นเปลี่ยนชุดบริกร แสร้งทำเป็นทำความสะอาด แล้วเอาคุณใส่ถังขยะหลบออกมา”
“ถังขยะเหรอ”
นรมนอดนึกถึงถังขยะของโรงแรมไม่ได้ จึงรู้สึกคลื่นไส้
เป็นเพราะอากาศในนี้ค่อนข้างหนาว เธอจึงไม่ทันได้สังเกตกลิ่นบนตัวของตัวเอง พอได้ยินรเมศพูด แบบนี้ เธอก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเองนั้นแสนจะสกปรกขึ้นมา
ถ้าบุริศร์รู้เข้า ไม่รู้ว่าจะปวดใจแค่ไหน
“รเมศ คุณนี่เหลือเกินจริงๆนะ“
นรมนไม่รู้ว่าควรจะด่ารเมศยังไงดีแล้ว
รเมศยิ้มมองนรมนแล้วพูด“นรมน อย่าเสียแรงอีกเลย ผมจะบอกให้ บุริศร์หาที่นี่ไม่เจอหรอก คุณมานั่งข้างผมดีกว่า เรามาคุยกัน คุณกลับมาเมืองชลธีน่าจะปีนึงแล้วสินะ กานต์กับกมลน่าจะโตขึ้นมากสินะ ไม่รู้ว่าตอนผมไม่อยู่ พวกเขาโตขึ้นมากแค่ไหน”
“คุณยังมีหน้าถามถึงกานต์กับกมลอีกเหรอ ความรู้สึกเด็กคุณยังหลอกได้ คุณยังมีมนุษยธรรมอะไรอีก รเมศ คุณเคยเป็นไอดอลของกานต์ แล้วคุณดูนี่คุณทำอะไร ถ้ากานต์รู้ทุกสิ่งที่คุณทำในตอนนี้ กานต์จะรู้สึกแย่แค่ไหน”
นรมนคิดไปถึงว่าถ้าตัวเองต้องตายไปจริงๆ ลูกชายกับลูกสาวจะรู้สึกแย่แค่ไหน เธอก็ปวดใจร้าวราน ทำไมตัวเองถึงได้ไม่ระวังแบบนี้นะ
ตอนนี้ต่อให้ตีรเมศจนตาย เธอก็ออกไปไม่ได้อยู่ดี เหลือแรงไว้มีชีวิตต่ออีกสักพักเถอะ อดทนจนบุริศร์หาเธอเจอ
เธอเชื่อว่าบุริศร์จะต้องหาเจอแน่นอน
ตอนที่นรมนพูดถึงกานต์รเมศรู้สึกแย่ไม่น้อย
“ผมเคยคิดว่าเขาเป็นลูกชายผมจริงๆ ขอแค่คุณยอม ผมยกบริษัทวัชโรทัยให้เขาเลยก็ยังได้ เสียดายแต่คุณไม่เอาผม!”
“เขาเป็นลูกชายของบุริศร์ ถ้าเขาอยากได้ ของตระกูลโตเล็กก็เป็นของเขา แล้วทำไมต้องอยากได้ของบ้านวัชโรทัยด้วย รเมศ ปล่อยฉันไปเถอะ!ถือว่าเห็นแก่หน้ากานต์ ปล่อยฉันออกไปได้ไหม เขายังเด็กขนาดนี้ ไม่มีแม่ไม่ได้!”
นรมนอยากลองใช้กานต์มาล่อรเมศ แม้ว่าโอกาสไม่มาก แต่ลองดูก็ได้
สีหน้ารเมศทุกข์ระทม พูดเสียงค่อย“ผมก็ไม่อยากให้กานต์ไม่มีแม่ แต่ผมทนเห็นคุณจากไปไม่ได้ ไม่ง่ายกว่าที่จะได้คุณมาเป็นของผม ทำไมคุณต้องจากไปด้วยเล่า คุณกลายเป็นฉัตรยาดีไหม คุณรู้มั้ย เพื่อที่จะได้แต่งกับคุณอย่างเต็มตัว ผมอุตส่าห์ฆ่าฉัตรยา”
“คุณว่าไงนะ”
นรมนตะลึงงัน
เธอคิดมาตลอดว่าเรณุกาเป็นคนทำให้ฉัตรยาตาย คิดไม่ถึงว่าจะเป็นรเมศ
รอยยิ้มของรเมศบิดเบี้ยว
“น่าแปลกใจนักหรือไง สุภาพบุรุษอย่างผม กลับมือเปื้อนเลือดเสียอย่างนั้นใช่ไหม ช่วยไม่ได้ ใครให้ฉัตรยาหน้าเหมือนคุณ”
“คุณพูดอะไรน่ะ ทั้งๆที่พวกคุณเป็นคนให้ฉันทำศัลยกรรมจนเหมือนฉัตรยา ฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ทำไมตอนนี้ถึงไปลงกับฉัตรยาล่ะ เธอทำผิดอะไร”
“ความผิดเดียวที่เธอมี คือเกิดในตระกูลจันทรวงศ์ !ถ้าไม่ใช่เพราะเรณุกาเห็นด้วย ผมจะลงมือง่ายขนาดนั้นเหรอ ยมบาลน่ะไม่ได้กินมังสวิรัติหรอกนะ!แต่ว่าไม่เป็นไร ผมควบคุมคนในครอบครัวเธอไว้ เธอต้องเชื่อฟังผม เปลี่ยนยาที่ฉัตรยากำลังใช้รักษา ฉัตรยาตายแล้ว แต่การแต่งงานของตระกูลจันทรวงศ์กับตระกูลวัชโรทัยจะล้มเลิกไม่ได้ ผมเลยเสนอให้คุณแต่งแทน เรณุกาอุตส่าห์รับปากว่าจะไม่ฆ่าคุณแล้ว คุณรู้มั้ย ว่าผมกำลังช่วยคุณ!คุณอยู่กับบุริศร์มีแต่อันตราย เรณุกาเอาชีวิตคุณได้ตลอดเวลา ผมช่วยคุณไว้นะ!คุณรู้หรือเปล่า”
“ฉันไม่ต้องการให้คุณช่วย!”
นรมนตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น
ทำไมเธอถึงคิดไม่ออก ฉัตรยาโดนรเมศฆ่าตาย ถึงขนาดตายเพราะความรักที่รเมศมีต่อเธอ
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้
เธอไม่ฆ่าคนอื่น คนอื่นกลับตายเพราะเธอ ความรู้สึกแบบนี้ทำให้นรมนรู้สึกผิด และรู้สึกแย่มาก
“รเมศ คุณทำให้ฉันพลอยผิดศีลธรรมไปด้วย แล้วยังพูดได้เต็มปากว่าทำเพื่อฉันอีกเหรอ คุณเสแสร้ง เกินไปมั้ย”
“ผมไม่สน ขอแค่คุณมีชีวิตที่ดี ต่อให้ผมต้องโดนคนทั้งโลกด่า แล้วไง”
“แล้วตอนนี้ล่ะ ในเมื่อคุณอยากให้ฉันมีชีวิตที่ดี แล้วทำไมต้องให้ฉันมารอความตายกับคุณด้วย”
นรมนไม่สามารถเข้าใจความคิดรเมศได้แม้แต่น้อย
รเมศยักไหล่ พูดอย่างเศร้าโศก“มีทางรอดทางเดียว ผมก็ไม่อยากตายไปพร้อมกับคุณหรอก จะโทษต้องโทษบุริศร์แกร่งเกินไป ผมสู้เขาไม่ได้ แต่ว่าไม่เป็นไร ผมสู้เขาไม่ได้ ผมก็พาคุณไปยมโลกด้วยกันสิ แบบนี้ต่อให้เขาแกร่งแค่ไหนก็ขวางไว้ไม่อยู่”
นรมนโกรธจนไม่รู้จะพูดอะไรดี
เธอรู้สึกพลังงานในตัวอ่อนลง ทั้งตัวหนาวจนสั่นสะเทิ้ม
เธอไม่รู้ว่าตัวเองถูกขังในนี้นานเท่าไหร่แล้ว ยิ่งไม่รู้ว่าสถานการณ์ข้างนอกเป็นไง คิดมาถึงความโดดเดี่ยวตรงนี้ เธอเองก็ไม่แน่ใจ
บุริศร์จะหาเจอมั้ย
หรือว่า เขาจะหาเจอตอนที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ไหม