แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 817

ตอนที่ 817

“นรมน แกขู่ฉันอย่างนี้ข้างนอก บางทีฉันอาจจะลังเลเล็กน้อย แต่ในนี้ ต้องฟังคำพูดของฉัน!ถ้าเครื่องส่งสัญญาณของแกสามารถส่งออกไปได้ ก็ถือว่าฉันแพ้ เป็นอย่างไร?”

เรณุกาลำพองใจสุด ๆ

นรมนถึงจะนึกขึ้นมาได้ว่าในนี้ไม่มีสัญญาณ หรือจะพูดว่าสัญญาณในนี้ถูกบล็อกไว้

เธอมองนภดลที่ทุกข์ทรมาน วิ่งไปแย่งชิงสะพานไฟอย่างไม่คิด

“ขวางมันเอาไว้! ไม่อย่างนั้นคนที่ต้องเข้าไปต่อคือพวกแก!”

เสียงของเรณุกามีความน่าเกรงขาม บอดี้การ์ดเหล่านั้นวิ่งไปทางนรมนทันที

นรมนไม่สนใจพวกเขา อาศัยร่างกายที่คล่องแคล่ว หลบหลีกพวกเขาอย่างรวดเร็ว จนในที่สุดสามารถเกี่ยวที่จับของสวิตช์ได้ แต่บรรดาบอดี้การ์ดต่างโผเข้ามา

เมื่อนภดลเห็นนรมน เขาเจ็บจนแทบจะไม่หายใจแล้ว เมื่อเขามองเห็นนรมนพยายามอย่างสุดกำลังเช่นนี้เพื่อเขา ราวกับว่าเขาเห็นฉัตรยา

ไม่!

ฉัตรยาตายแล้ว!

สามารถปรากฏตัวตรงนี้มีแค่เพียงนรมน

นภดลตะโกนร้อง พยายามดิ้นรน แต่กลับไม่อาจต่อต้านกระแสไฟที่ช็อตใส่ได้

นรมนมองเห็นนภดลแบกรับความเจ็บปวด ถึงจะเสี่ยงถูกบอดี้การ์ดต่อย ก็เสี่ยงพยายามดึงสวิตช์ลง

ในที่สุดนภดลก็หอบสั้น ๆ

“ไป! รีบไปซะ! ไม่ต้องเป็นห่วงผม!”

นภดลตะโกน มุมปากเต็มไปด้วยเลือด

นรมนถึงจะมีสมาธิสู้กับบอดี้การ์ดเหล่านั้น

ถึงแม้ร่างกายของเธอจะไม่เทียบเท่าบุริศร์ และตอนนี้ก็ยังท้องอยู่ด้วย แต่อาจเป็นเพราะศักยภาพที่ซ่อนอยู่ถูกกระตุ้น นรมนรับมือกับผู้ชายตัวใหญ่เหล่านั้นเหมือนนักรบผู้กล้าหาญ และยังเป็นฝ่ายที่เหนือกว่า

เมื่อเรณุกามองเห็นฉากนี้ โมโหจนปากเบี้ยว

“ไอ้พวกไร้ประโยชน์ แม้แต่ผู้หญิงยังสู้ไม่ได้ ฉันให้พวกแกทำอะไร? กิมจิ!”

เมื่อนรมนได้ยินชื่อนี้ก็อดแปลกใจเล็กน้อยไม่ได้

กิมจิ?

เป็นเขาเหรอ?

ในขณะที่นรมนตกตะลึง บอดี้การ์ดคนหนึ่งต่อยลงบนใบหน้าของเธอ ของเหลวอุ่น ๆ ไหลออกมาจากจมูก

นรมนถอยหลังไปสองก้าว มองเห็นกิมจิเข้ามาจากด้านนอก สายตาเย็นชาอย่างยิ่ง

เธอยังจำได้ว่ากิมจิขอร้องให้ตนเองยกโทษให้อย่างไร ถ้าไม่ใช่เพราะเธอยึดถือในหลักการของตนเอง เกรงว่าตอนนี้คงจะถูกเขาทำร้ายเป็นครั้งที่สอง?

มองกิมจิเดินมาหาตนเอง นรมนหัวเราะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า: “ฉันมันตาบอดจริง ๆ ไม่คิดว่ายังจะเชื่อว่านายจะช่วยฉันได้”

กิมจิมองนรมน แววตาแฝงไปด้วยความเจ็บปวดทรมาน

“นายหญิง ผมขอโทษ”

“อย่ามาเรียกฉันว่านายหญิง! เจ้านายของนายกำลังมองนายอยู่หน้ากล้อง”

นรมนโกรธจนขึ้นเสียงอย่างห้ามไม่ได้

คนอื่นมองเห็นกิมจิเข้ามา ก็หยุดการโจมตี และยังถอยหลังออกไปสองก้าว กลายเป็นวงล้อม โอบล้อมนรมนกับกิมจิอยู่ข้างใน

นรมนมองเห็นท่าทางแบบนี้ รู้ว่าวันนี้ตนเองจะต้องพ่ายแพ้อยู่ตรงนี้

ถ้าเป็นคนอื่น เธอยังมีแผนการที่จะเอาชนะได้บ้าง แต่ถ้าคู่ต่อสู้เป็นกิมจิ ถึงแม้เธอจะพยายามอย่างยากลำบากก็ได้เพียงแค่เสมอกับเขา

มีบอดี้การ์ดล้อมรอบอยู่มากมายเช่นนี้ ถึงตอนนั้นเธอคงไม่สามารถพานภดลออกไปได้!

หรือว่าวันนี้ไม่มีหนทางแล้วจริง ๆ

นรมนมองกิมจิ รู้ว่าตนเองต้องชนะถึงจะมีโอกาสรอด

“มาเถอะ ไม่ต้องพูดให้มากความ ในเมื่อเลือกเป็นศัตรูก็อย่าทำท่าทางเหมือนไม่มีทางเลือก”

นรมนถอยหลังหนึ่งก้าว จัดท่าทางทันที เตรียมตัวพร้อมประลองกับกิมจิทุกเมื่อ

นภดลเห็นนรมนสู้สุดชีวิตเพื่อตนเองเช่นนี้ จึงร้องตะโกนออกมาอย่างห้ามไม่ได้

“นรมน คุณไปเถอะ ไม่ต้องสนใจผม ฉัตรยาไม่อยู่แล้ว ผมออกไปก็ไม่มีความหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนอย่างผมถึงจะออกไปแล้วจะเป็นอย่างไร?ผมจะไม่ถูกคนมองว่าเป็นสัตว์ประหลาดเหรอ?บางทีความตายอาจจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายที่ดีที่สุดของผม”

“อย่าพูดจาไร้ประโยชน์ ฉันรับปากฉัตรยาแล้วว่าจะพานายออกไป”

คำพูดของนรมนทำให้นภดลอึ้งไปเล็กน้อย และกล่าวด้วยรอยยิ้มขมขื่นทันที: “ฉัตรยาช่างโง่เหลือเกิน เชื่อเสมอว่าความรักในครอบครัวจะสามารถเอาชนะทุกสิ่งได้ น่าเสียดาย……เธอถูกคนฆ่าตาย!”

“ฉันเข้าใจ ดังนั้นรอออกไปแล้วค่อยคุยกันนะ”

นรมนไม่สนใจนภดลอีก และมองไปที่กิมจิ พูดอย่างไม่แยแส: “เริ่มเถอะ”

“ขอโทษด้วย”

กิมจิรู้สึกละอายใจมาก แต่กลับโจมตีใส่นรมนทันที

นรมนรีบหลบ แต่บอดี้การ์ดคนอื่นกลับฉวยโอกาสดันเธอกลับไป

นี่มันไม่ยุติธรรมเลยสักนิด!

แต่นรมนก็รู้ว่า ความยุติธรรมสำหรับเรณุกาคือเรื่องที่ไปไม่ได้

เธอมองทุกสิ่งตรงหน้าอย่างเคร่งขรึม ต่อสู้กับกิมจิด้วยความระมัดระวังมาก

การโจมตีของกิมจิยิ่งเร็วขึ้นเรื่อย ๆ เร็วขึ้นเรื่อย ๆ จนนรมนรู้สึกเหนื่อย

เมื่อนรมนรู้สึกว่าตนเองกำลังจะพ่ายแพ้ให้แก่กิมจิ ทันใดนั้นเองกิมจิก็ฉวยโอกาสยัดกุญแจดอกหนึ่งให้กับนรมน กระซิบว่า: “นี่คือกุญแจเปิดฉนวนใยแก้วของนภดล เดี๋ยวหลังจากที่คุณช่วยเขาแล้วให้ไปทางขวา จะมีประตูลับบานหนึ่ง มันสามารถทะลุออกไปซอยด้านหลังตระกูลจันทรวงศ์ได้ สิ่งที่ผมช่วยคุณได้มีเพียงเท่านี้ ส่วนบอดี้การ์ดทางนี้ส่งมาให้ผม รีบไปซะ บุริศร์เป็นกำลังหนุนของคุณอยู่ด้านนอก”

นรมนอึ้งไปเล็กน้อย

“นาย……”

“ไม่ต้องพูดแล้ว รีบไปซะ!”

กิมจิถือโอกาสออกแรงส่งที่มือ ผลักนรมนไปตรงหน้าฉนวนใยแก้วของนภดลทันที

“ฉันเชื่อใจนายได้ใช่ไหม?”

กิมจิรู้สึกเจ็บปวดอย่างยิ่งกับคำถามของนรมน

เขามองนรมน ตอบเบา ๆ : “ผมขอสาบานด้วยชีวิตของผม ผมไม่มีทางหลอกคุณ”

“กิมจิ ดูแลตัวเองด้วย”

นรมนเข้าใจความรู้สึกในแววตาของกิมจิ

ทันใดนั้นเองเธอคิดอยากจะหนีไป

กิมจิชอบเธอ?

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่?

ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลย?

กิมจิได้ยินนรมนพูดเช่นนี้ จึงยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

“หัวหน้ากิมจิ นี่คุณ……”

คนอื่นเห็นความผิดปกติ จึงไถ่ถามอย่างสงสัย

กิมจิหันตัวไป ยิ้มให้พวกเขาและกล่าวว่า: “ ปล่อยพวกเขาไป”

“หัวหน้ากิมจิ คุณพูดอะไร?”

“ฉันพูดว่า ปล่อยพวกเขาไป!”

ในขณะที่พูดกิมจิก็ลงมือกับพวกเขา

เห็นกิมจิพัวพันอยู่กับพวกเขา นรมนรีบไปตัดไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นเปิดฉนวนใยแก้ว พยุงนภดลออกมา

“ยังเดินไหวไหม?”

“ไหว!”

“งั้นไปเถอะ!”

นรมนพยุงนภดล มองเห็นกิมจิกำลังสู้อยู่ เธอรู้ว่าครั้งนี้เรณุกาอาจจะไม่ปล่อยกิมจิไป

ทันใดนั้นเองนรมนรู้สึกไม่สบายใจ

เธอไม่อยากติดค้างกิมจิ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับนภดล นภดลจำเป็นต้องออกไปรับการรักษา

นรมนกัดริมฝีปาก พานภดลออกไปตามคำชี้แนะของกิมจิ

“กิมจิ คิดไม่ถึงว่าแกจะกล้าทรยศฉันแกจะกล้าดียังไง!”

เธอตบโต๊ะอย่างโมโหทันที จากนั้นเพิ่มกำลังคนเพื่อไปควบคุมตัวกิมจิ และให้คนไปสกัดกั้นนรมน

นรมนพานภดลไปเปิดประตูลับ แต่นภดลกลับห้ามเธอไว้

“ตอนนี้ด้านนอกต้องมีคนมากมายรอพวกเราติดกับดักอยู่แน่ ๆ พวกเราออกไปก็ไม่มีทางรอดหรอก”

“บุริศร์รอเป็นกองหนุนของพวกเราอยู่ด้านนอก”

บุริศร์คือความหวังเดียวของนรมน

นภดลกลับกล่าวอย่างเย็นชา: “ผมไม่ปฏิเสธความสามารถของประธานบุริศร์ แต่เขาเข้ามาในตระกูลจันทรวงศ์ไม่ได้ ถึงแม้เขาส่งคนเข้ามาสอดแนมและประสานอยู่ภายใน แค่ก็ยังคงเข้ามาไม่ได้เหมือนเดิม นี่ไม่เกี่ยวอะไรกับอำนาจ แต่เป็นเพราะซอยด้านหลังตระกูลจันทรวงศ์ติดตั้งระบบป้องกันตนเอง ด้านในมีพิษร้ายอยู่ คนทั่วไปถ้าขืนเข้ามา ก็จะถูกพิษ พวกเขาไม่มีความสามารถเข้ามาช่วยผู้คน ในที่นี้ ตระกูลจันทรวงศ์มีอำนาจอยู่ฝ่ายเดียว และระบบป้องกันตนเองก็ทำได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง ดังนั้นตราบใดที่พวกเราไม่ออกไป เรณุกาอาจจะไม่เปิดระบบป้องกันตนเอง แต่ในกรณีที่พวกเราออกไป เธอจะทำให้พวกเราพ่ายแพ้ยับเยิน”

นรมนฟังถึงตรงนี้ ก็อดตกใจจนเหงื่อแตกไม่ได้ และยิ่งเป็นห่วงบุริศร์ขึ้นมาด้วย

“ทำอย่างไรดี?ถ้าบุริศร์ไม่รู้ ถ้าบุกเข้ามา แล้ว……”

“ พวกเราต้องหาโทรศัพท์โทรหาเขา”

“พูดเป็นเล่นไป ตอนนี้มือถือของฉันถูกบล็อกสัญญาณ จะโทรออกไปได้ที่ไหน?”

นรมนรู้สึกว่าพระเจ้าเล่นตลกกับตนเอง

นภดลกลับขมวดคิ้วและกล่าวว่า: “มีโทรศัพท์อยู่ในห้องของฉัตรยา เป็นโทรศัพท์ตั้งโต๊ะของตระกูลจันทรวงศ์ สามารถโทรออกได้”

นรมนอึ้งไปเล็กน้อย

“นายอยากไปห้องของฉัตรยาเหรอ?”

“ใช่ ถึงแม้จะต้องออกไป ผมอยากพาเธอไปด้วยกัน ที่นี่คือสุสานฝังศพของเธอ ผมไม่ต้องการให้เธออยู่ที่นี่ต่อ ออกไปจากที่นี่ ไปสู่โลกกว้างคือความปรารถนาสุดท้ายของเธอ”

เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ สีหน้าของนภดลโศกเศร้าและทุกข์ใจยิ่งนัก จนแม้แต่เจ็บปวดตรงส่วนลึกของหัวใจ

นรมนรู้เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขา บางทีหลายปีที่ผ่านมามิตรภาพตั้งแต่วัยเด็กของทั้งสองหยั่งรากลึกยิ่งกว่าใคร

“ได้ พวกเราไปห้องของฉัตรยากัน”

นรมนกับนภดลทำการตัดสินใจทันที ไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย

ทั้งสองคนเปลี่ยนเส้นทาง หลังจากออกมาจากภูเขาจำลองก็มองเห็นดร.ฐานทัตกำลังเฝ้าอยู่ด้านนอก

ร่างกายของนภดลหดตัวอย่างไม่ตั้งใจ สามารถเห็นได้ว่า หลายปีที่ผ่านมานภดลอยู่ข้างกายดร.ฐานทัตได้รับความทรมานไม่น้อย

ดร.ฐานทัตมองนภดลด้วยแววตาไม่ดี

“ดร.ฐานทัต คุณคิดว่าจะเอาชนะฉันได้เหรอ?”

นรมนดึงนภดลไปด้านหลังเพื่อปกป้องเป็นอย่างแรก

ดร.ฐานทัตมองนรมน มองใบหน้าที่เหมือนกับลูกสาวอย่างยิ่ง ทันใดนั้นจึงพูดขึ้นมาว่า: “ฉันสามารถส่งพวกเธอออกไปได้ แต่พวกเธอต้องพาลูกสาวของฉันไปด้วย”

“อะไรนะ?”

นรมนคิดว่าตนเองฟังผิด

ดร.ฐานทัตกล่าวด้วยความพยายามอย่างเจ็บปวดว่า: “ฉันรู้ว่าฉัตรยาอยู่ที่นี่ไม่มีความสุข ตอนนี้เธอจากไปแล้ว ฉันไม่อยากขังร่างของเธอเอาไว้ที่นี่ ถึงแม้ฉันจะไม่ชอบนภดล แต่ฉันรู้ว่านภดลดีกับฉัตรยา เพียงแค่พวกเธอรับปากฉัน ว่าจะเอาร่างของฉัตรยาออกไปทำพิธีฝัง ฉันจะพาพวกเธอออกไปจากที่นี่”

นรมนเข้าใจทันที

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เขาก็คือพ่อของฉัตรยา

บางทีเขาก็อาจจะรักฉัตรยา เพียงแค่ประเพณีของครอบครัวที่ปฏิบัติต่อเนื่องมายาวนานทำให้เขาไม่กล้าขัดคำสั่งของเรณุกา และอาจเพราะเรณุกาข่มขู่ ทำให้เขาหวาดกลัว แต่สิ่งเหล่านี้หลังจากที่ลูกสาวตายไปยังคงได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ จนในที่สุดดร.ฐานทัตก็ทนไม่ไหว

นรมนมองหน้าเขา กล่าวออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ: “ฉันสามารถรับปากคุณได้ พาฉัตรยาออกไปทำพิธีฝังศพ เพียงแต่ตอนนี้ฉันต้องการมือถือ”

มือถือใช้ไม่ได้ สัญญาณที่นี่ถูกบล็อกเอาไว้ นอกจากโทรศัพท์ตั้งโต๊ะ พวกเธอสามารถไปใช้โทรศัพท์ในห้องของฉัตรยา เพียงแต่ต้องเร็วหน่อย พวกเธอสามารถคิดวิธีนี้ได้ คุณย่ารองก็ต้องคิดได้เหมือนกัน”

ได้ยินดร.ฐานทัตพูดเช่นนี้ นรมนกับนภดลก็ตึงเครียดขึ้นมา พวกเขาสามคนรีบตรงไปที่ห้องของฉัตรยา กลับเจอคนคนหนึ่งขวางอยู่ที่ประตูห้องของฉัตรยา

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท