“คุณจำที่ผิดหรือเปล่า?”
นรมนมองเห็นสีหน้าของบุริศร์ไม่ดีมาก ๆ จึงรีบเอ่ยถาม
“คุณสงสัยในความทรงจำของสามีคุณเหรอ?”
“เปล่านะ ฉันแค่คิดว่าคุณอาจจะจำผิดก็ได้?ไม่อย่างนั้นพวกเราลองไปหาที่อื่นไหมล่ะ”
นรมนพูดแล้วก็ดึงแขนของบุริศร์ต้องการจะออกไปจากตรงนี้ แต่กลับสายไปเสียแล้ว เสียงฝีเท้าจอแจดังขึ้นโดยรอบโอบล้อมพวกเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว
แววตาของนภดลมืดมนลง กล่าวเสียงเบาว่า: “ คนของอาณาจักรรัตติกาล”
เมื่อได้ยินคำว่าอาณาจักรรัตติกาล นรมนรู้สึกทุกข์ใจ ถึงแม้เธอจะมีชื่อว่าเป็นนายหญิงของอาณาจักรรัตติกาล แต่ทั้งอาณาจักรรัตติกาลอยู่ในการควบคุมของเรณุกามาโดยตลอด สามารถมองออกตั้งแต่ที่กิมจิไม่ฟังคำสั่งของตนเอง
นัยน์ตาของบุริศร์เยือกเย็น
“อาณาจักรรัตติกาลเป็นกองกำลังเฉพาะของตระกูลโตเล็ก เพื่อรับใช้เบื้องบน ตอนนี้คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นกองกำลังส่วนตัว ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่สู้เลิกล้มไปดีกว่า”
นรมนได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ รู้ว่าเขาโมโหจริง ๆ
ก็จริง เรณุกาท้าทายความอดทนถึงขีดสุดของบุริศร์ครั้งแล้วครั้งเล่า เธอคิดว่าบุริศร์จะไม่ต่อต้านเธอจริง ๆ ใช่ไหม?หรือคิดว่าความรู้สึกแม่ลูกระหว่างตนเองกับบุริศร์ยังเหลืออยู่?
“ฉันก็เห็นด้วย ในเมื่อไม่ใช่อาณาจักรรัตติกาลของตระกูลโตเล็ก ปล่อยเอาไว้ไม่สู้เลิกล้มไปดีกว่า นภดล นายถอยไปด้านหลังก่อน หาที่ปลอดภัยพัก พวกเราจบเรื่องแล้วจะเรียกนาย”
นรมนถอดเสื้อโค้ตออกมา
เธอไม่ได้มีกิจกรรมที่เบิกบานเช่นนี้มานานแล้ว
บุริศร์กลับบีบมือของนรมนแน่นและกล่าวว่า: “คุณเองก็ไปหาที่พักเถอะ”
“หมายความว่าอะไร? คุณดูถูกฉันเหรอ?”
นรมนรู้สึกว่าถูกบุริศร์เหยียดหยาม
บุริศร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม: “เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ไม่ต้องรอคุณหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้คุณไม่ได้ตัวคนเดียวแล้ว ผมเป็นผู้ชายของคุณ ถ้าเรื่องแค่นี้จัดการไม่ได้ ผมยังจะคู่ควรที่จะเป็นสามีของคุณเหรอ?ถอยหลังไปเถอะ แค่ปกป้องนภดลก็พอ ตอนนี้ผมกลัวถ้าพวกเราเข้าไปสู้กันหมด จะมีคนฉวยโอกาสพานภดลไป อย่างไรเสียงตอนนี้นภดลก็คือจุดอ่อนของพวกเรา”
ประโยคนี้พูดออกมาอย่างไม่มีช่องโหว่ ทำให้นรมนไม่คาดคิดว่าจะโต้แย้งไม่ออก
“ก็ได้ คุณชนะ แต่คุณต้องระวังตัวนะ อย่าทำให้ตนเองบาดเจ็บ”
“วางใจเถอะ”
ท่าทางมั่นใจเต็มเปี่ยมของบุริศร์ทำให้นรมนมีความกล้าหาญมาก เขาคนเดียวอาจจะไหวจริง ๆ ใช่ไหม ?
นภดลมองเห็นพวกเขาแบบนี้ จึงกล่าวเสียงเบาว่า: “ผมจะพยายามเรียนรู้การป้องกันตัว รับรองว่าต่อจากนี้จะไม่ดึงให้พวกคุณถอยหลัง”
“ดีมาก พานรมนถอยไป”
บุริศร์ไม่ได้มองนภดล
หลังจากนภดลสูญเสียฉัตรยาไปอีกครั้งก็ยังเยือกเย็นเช่นนี้ สามารถอธิบายได้ว่าผู้ชายคนนี้มีความตั้งใจที่จะล้างแค้นสูงมาก บางทีเขาอาจจะกลายเป็นแขนขาให้นรมนได้จริง ๆ
สำหรับเรื่องที่นภดลชอบหรือไม่ชอบนรมนนั้น บุริศร์ยังมีความมั่นใจในตนเองอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเชื่อมั่นในความรู้สึกที่นรมนมีให้ต่อตนเอง
นภดลไม่ได้พูดอะไร มองนรมน ความหมายชัดเจน
ภายใต้การเร่งรัดของผู้ชายสองคน นรมนพานภดลถอยออกไปจากวงล้อมอย่างไม่เต็มใจ
เมื่อคนของอาณาจักรรัตติกาลมองเห็นว่าคนที่ตนเองต้องจัดการคือบุริศร์กับนรมน ก็อดตกใจไม่ได้
“ประธานบุริศร์ พวกเราเพียงแค่ทำตามคำสั่ง”
หนึ่งในนั้นมีคนพูดกับบุริศร์ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
บุริศร์กลับกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา: “ทำตามคำสั่ง?พวกนายทำตามคำสั่งใคร?หรือพวกนายไม่รู้ว่านายหญิงของตระกูลโตเล็กเปลี่ยนคนแล้ว?ตอนนี้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของพวกนายคือนายหญิงคนใหม่ แต่พวกนายกลับฟังคำสั่งของคนนอกมาปิดล้อมเธอ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตระกูลโตเล็กยังจะมีพวกนายอาณาจักรรัตติกาลเอาไว้ทำอะไร?”
คนที่พูดเพิ่งพูดมีความประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด
“นายหญิงเปลี่ยนคนแล้ว? ทำไมพวกเราถึงไม่รู้เรื่อง?”
ถึงแม้นรมนจะอยู่ห่างไปไกล แต่ก็ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา จึงรีบยืนขึ้น หยิบแหวนแสดงตัวตนของตนเองขึ้นมา
“พวกนายดูนี่ซะ นี่คือสิ่งยืนยัน!หรือว่าพวกนายไม่รู้จักสิ่งยืนยันนี้?”
ชายคนดังกล่าวมองสิ่งของในมือของนรมน กล่าวเสียงเบาว่า: “เบื้องบนบอกว่ามีคนขโมยสิ่งยืนยันของนายหญิงไป ให้พวกเราไม่ต้องอาศัยสิ่งยืนยันเป็นบรรทัดฐาน”
งั้นยังจะต้องพูดอะไรอีก ลงมือเถอะ ให้ฉันดูหน่อยว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาฝีมือของพวกนายพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ถ้าเอาชนะฉันได้ พวกนายอาณาจักรรัตติกาลจะยังคงอยู่ต่อไป แต่ไม่ได้เป็นของตระกูลโตเล็กอีก!ฉันจะพูดตรงนี้เพียงครั้งเดียว เรณุกาทรยศตระกูลโตเล็ก ไม่ได้เป็นคนของตระกูลโตเล็กอีกต่อไป ถ้าพวกนายต้องการถวายความจงรักภักดีแก่หล่อน ก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นอาณาจักรรัตติกาลของตระกูลโตเล็กอีก!ถ้าฉันโชคดีเอาชนะได้ พวกนายก็ต้องพึ่งพาตนเอง”
คำพูดของบุริศร์ชัดเจนอย่างยิ่ง
ผู้คนมากมายสองจิตสองใจ แต่ผู้ชายคนที่พูดก่อนหน้านี้มองบุริศร์ กล่าวเสียงเบาว่า: “ประธานบุริศร์ ขอโทษด้วย พวกเราเพียงแค่ทำตามคำสั่ง คุณเองก็รู้ เมื่ออาณาจักรรัตติกาลได้รับคำสั่งแล้ว จำเป็นต้องทำให้เสร็จ”
“มาเถอะ”
บุริศร์เองก็ขี้เกียจพูดมาก จัดท่าทางทันที
คนเหล่านั้นมองบุริศร์ ถึงแม้จะลังเล แต่ก็ยังลงมือ
นรมนมองเห็นฉากนี้ รู้สึกว่าการล้มเลิกอาณาจักรรัตติกาลคือความคิดที่ถูกต้อง
เมื่อบุริศร์ต่อสู้กับพวกเขา นรมนให้ความสนใจกับการเคลื่อนไหวโดยรอบ เอ่ยถามนภดลว่า: “นายว่าเรณุกาจะไม่อยู่แถวนี้อีกใช่ไหม?”
ไม่มีทาง หญิงชรานั้นกลัวตาย เธอทำได้เพียงหดหัวอยู่ในรังของตนเอง รอสงครามจบลงถึงจะออกมา อาจจะเหน็บแนม หรืออาจจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ”
นภดลมองเรณุกาทะลุปรุโปร่ง
นรมนเห็นเลือดของนภดลยังไหลอยู่ คิ้วขมวดอย่างห้ามไม่ได้
“มียาห้ามเลือดไหม? เลือดนายไหลแบบนี้อาจถึงตายได้จริง ๆ นะ!”
“ลืมพกมาด้วย”
นรมนได้ยินนภดลพูดเช่นนี้ ก็รู้ว่านภดลรู้สถานที่เก็บยาของตระกูลจันทรวงศ์ เพียงแต่ไม่ได้ใส่ใจ
นึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฉัตรยา อยู่ดี ๆ นรมนก็สะอึกสะอื้นขึ้นมา
ชีวิตของคนช่างเปราะบางเหลือเกิน คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าความสุขหรือสิ่งที่ไม่คาดฝันอันไหนจะมาก่อน ดังนั้นควรจะถือโอกาสมีชีวิตที่ปลอดภัยและมีความสุข ถือโอกาสใส่ใจในความสัมพันธ์ ทะนุถนอมช่วงเวลาที่ได้อยู่กับคนที่เรารัก
สายตาของนรมนมองไปที่บุริศร์อีกครั้ง
ถึงแม้บุริศร์จะถูกคนมากมายรุมล้อม ถึงแม้จะไม่สามารถเอาชนะได้อย่างรวดเร็ว แต่นรมนสังเกตเห็นได้อย่างว่องไวว่า ฝีมือของบุริศร์ดีขึ้น
ผู้ชายคนนี้ไปฝึกมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
เขายุ่งทุกวันเช่นนี้ ทั้งเรื่องของบริษัท เรื่องของตระกูลโตเล็ก และเรื่องของลูก ๆ เขาเป็นคนเดียวที่เป็นห่วง ทำไมถึงยังมีเวลาฝึกฝนร่างกาย?
สำหรับเรื่องนี้ นรมนอิจฉาไม่น้อย
นภดลเห็นสายตาของนรมนจ้องอยู่ที่บุริศร์ นึกถึงแต่ก่อนที่ฉัตรยายอมให้ตนเองเจ็บปวดดีกว่าเขาต้องนองเลือดออกมาเพื่อรักษาเธอ
ฉัตรยาในตอนนั้น ในสายตามีเพียงเขา ราวกับว่าเขาคือสวรรค์ของเธอ เป็นทุกอย่างของเธอ แสงสว่างในแววตาของเธอเหมือนกับดวงดาวที่สวยงามที่สุดบนท้องฟ้า ส่องแสงลงมาที่หัวใจของเขา และส่องแสงมาที่ชีวิตของเขา
เป็นฉัตรยาที่บอกเขาว่า นอกจากเขาจะเป็นคนทดลองยาของตระกูลจันทรวงศ์ เขายังมีโอกาสอื่น ๆ อีกมากมาย และเป็นฉัตรยาที่บอกเขาว่า บนโลกใบนี้อะไรคือความอบอุ่น แต่ทำไมหญิงสาวที่มีเมตตาและไร้เดียงสาเช่นนี้ คิดไม่ถึงว่าจะจากไปเร็วเช่นนี้?
นภดลมองไปที่ท้องฟ้า เขาได้ยินมาว่าคนที่มีเมตตาหลังจากตายแล้วจะได้ขึ้นไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์ เขาหวังว่าฉัตรยาจะได้เป็นนางฟ้าจริง ๆ จากนั้นมีชีวิตอย่างไร้กังวล ไม่ต้องทนกับความชั่วร้ายของโลกมนุษย์เช่นนี้และครอบครัวที่เอาแต่ทำร้าย
ส่วนชีวิตของเขาที่อยู่บนโลกมนุษย์จะเป็นมือสังหาร เพื่อเธอ เขาสามารถเลือกเส้นทางที่จะไม่มีทางที่จะฟื้นคืนได้ตลอดไป เพียงแต่หวังว่าหลังจากนี้เขาจะมีความสามารถปกป้องคนที่ตนเองต้องการปกป้อง ไม่ไร้ความสามารถและไร้อำนาจแบบนี้อีก
แน่นอนว่านรมนไม่รู้ว่าตอนนี้นภดลคิดอะไรอยู่ เธอเพียงแค่มองท่าทางหล่อเหลาและทรงพลังของบุริศร์ในนั้น รู้สึกว่าหล่อโคตร ๆ เท่โคตร ๆ สายตาของเธอมีดาวดวงเล็ก ๆ สีชมพูอยู่เต็มไปหมด
การต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาของบุริศร์มีความยากลำเค็ญ ถึงแม้ฝีมือของตนเองจะเลื่อนชั้นขึ้น แต่เผชิญหน้ากับคนมากมายที่เข้ามารุมเช่นนี้ เขาก็รู้สึกเหนื่อยล้า เพียงแต่ข้างหลังเขายังมีนรมนกับนภดล ถ้าเขาล้มลงไป พวกเขาจะทำอย่างไร?
ความยึดมั่นนี้ทำให้เขามีความกล้ายิ่งขึ้น และทำให้คนอื่นได้รู้จักศักยภาพที่มีอยู่จริงของบุริศร์
หลายคนก่อนหน้านี้ที่ไม่ยอมแพ้ ตอนนี้ต่างรับมือไม่ไหว
ต่อสู้มาถึงตอนสุดท้าย ทุกคนต่างรู้ว่า ไม่เจ็บตัวทั้งคู่ ก็แพ้บุริศร์ ตอนนี้ดูแล้วมีความเป็นไปได้สูงที่จะแพ้บุริศร์
นรมนมองเห็นฉากนี้ อดร้องดีใจขึ้นมาไม่ได้ เหมือนกับเป็นเด็ก
“บุริศร์สู้ ๆ !”
บุริศร์มองเห็นเธอกระโดดขึ้นมา ก็ตกใจกลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้น
“คุณย่ารองของผม อย่ากระโดด!ตอนนี้คุณท้องอยู่นะ”
บุริศร์ไม่ระมัดระวังเช่นนี้ จึงถูกคนต่อยเข้าให้ทันที
นรมนรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างยิ่ง
“แม่งเอ๊ย พวกนายรังแกคนมากเกินไปแล้วนะ คิดว่าพวกเราไม่มีใครแล้วใช่ไหม?”
ในขณะที่พูดนรมนรูดแขนเสื้อขึ้นต้องการจากเดินเข้าไป กลับถูกนภดลห้ามเอาไว้
“นายทำอะไร?”
“บุริศร์บอกว่าคุณออกไปไม่ได้ คุณต้องปกป้องผม”
นภดลพูดอย่างมีเหตุผลเพียงพอ ทำให้นรมนหดหู่ใจขึ้นมาทันที
“ขอร้องล่ะ นายเป็นผู้ชายทั้งคน เพียงแค่หลบก็พอแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้ฉันปกป้องหรอก”
“ไม่ได้ ถ้ามีคนซุ่มโจมตีล่ะ คุณต้องอยู่ที่นี่ปกป้องผม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุริศร์ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากคุณ คุณอย่าก่อปัญหาเพิ่มก็พอ”
ประโยคนี้ของนภดลทำให้นรมนหดหู่ทันที
“ฉันก่อปัญหาเพิ่มตรงไหน?”
“ถ้าคุณไม่ตะโกนออกไป บุริศร์ก็คงไม่โดนต่อย คุณมองไม่ออกเหรอ?อีกไม่ถึงห้านาที คนพวกนั้นก็ร่วงหมดแล้ว”
ได้ยินนภดลพูดเช่นนี้ นรมนมองไปทางบุริศร์ทันที ยังไม่ต้องพูดอะไร เห็นได้ชัดเจนว่าบุริศร์อยู่ในสถานะเหนือกว่าพวกเขา
ไม่ถึงสามนาที คนตรงนี้ร่วงลงไปหมด ส่วนบุริศร์ยังคงยืนอย่างแข็งแกร่งอยู่ตรงนั้น นอกจากหอบเล็กน้อย ก็ไม่มีอาการอย่างอื่นอีก
นรมนศรัทธาในตัวบุริศร์อย่างยิ่ง
เธอเห็นว่าการต่อสู้จบลงแล้ว จึงรีบดึงนภดลเข้าไป
“บุริศร์ คุณสุดยอดมาก!”
คำชมเชยของนรมนทำให้บุริศร์รู้สึกดีมาก
เขายิ้มบาง ๆ ดึงมือของนรมนมาจับเอาไว้
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พวกนายไม่ได้อยู่ในอาณาจักรรัตติกาลของตระกูลโตเล็กอีก ฉันขอประกาศ ล้มเลิกกองกำลังของอาณาจักรรัตติกาล ฉันจะขอคำสั่งจากเบื้องบนในภายหลัง ส่วนหลังจากนี้พวกนายจะติดตามใคร ไม่เกี่ยวกับพวกเราตระกูลโตเล็ก แต่ถ้าพวกนายยังคิดจะทำร้ายภรรยาของฉัน ถึงแม้ว่าตระกูลโตเล็กจะต้องเคลื่อนไหวทั้งตระกูล ก็จะทำให้พวกนายต้องชดใช้อย่างสาสม!”
บุริศร์พูดจบ ก็ดึงนรมนกับนภดลต้องการจะออกไปจากตรงนี้ แต่ในขณะนั้นเอง เสียงที่คุ้นเคยหยุดฝีเท้าของพวกเขาลงทันที