เมื่อนรมนมาถึงห้องควบคุมกล้องวงจรปิด เธอลังเลนิดหน่อย เธอเชื่อระหว่างบุริศร์และคมทิพย์ แต่ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรกันแน่
“คุณนายโตเล็ก? มีอะไรหรือครับ?”
คนที่ห้องควบคุมกล้องวงจรปิดรู้จักเธอ
จุดนี้ทำให้นรมนค่อนข้างแปลกใจ
“อืม ฉันต้องการตรวจกล้องวงจรปิดหน่อยค่ะ”
“นี่… …”
ผู้ดูแลค่อนข้างลำบากใจ
“ผมต้องถามเบื้องบนก่อนนะครับ”
“โอเคค่ะ”
นรมนยืนพิงกำแพง เงานัยน์ตาทำให้คนรู้สึกถึงแรงกดดัน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบต่อสายทันที
ไม่รู้ว่าเพราะฐานะของนรมน อีกฝ่ายถึงรีบลงมา
“คุณนายโตเล็ก ผมเป็นผู้จัดการของคลับที่นี่ครับ ไม่ทราบว่าคุณนายต้องการดูอะไรหรือครับ”
“ภาพของห้อง 1308 และทางเดินค่ะ”
เสียงของนรมนต่ำ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยรีบหาให้ทันที
วิดีโอที่ถูกลบไปก่อนหน้านี้ได้รับการกู้คืนในระบบแล้ว ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ด้านหน้าระบบตกตะลึงและก้มศีรษะลงอย่างรวดเร็ว
ที่จริงนรมนไม่ได้สนใจในกล้องวงจรปิด และเมื่อพูดถึงกล้องวงจรปิด เธอก็สำรวจท่าทางเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างละเอียด แม้จะเป็นความตระหนกชั่วคราวแต่ก็ถูกนรมนจับได้
ตอนนี้ผู้จัดการตะลึงไปนิดหน่อย
ใจของนรมนหนักมาก
“อย่างไรคะ? ผู้จัดการดูประหม่านะคะ”
นรมนยิ้มอ่อน เธอยิ้มไปไม่ถึงดวงตา
ตอนนี้เธอได้เรียนรู้อะไรมากมายจากบุริศร์ อย่างพิเศษเลยก็คือ ออร่า ที่มีความคล้ายกันห้าถึงหกส่วน ทำให้ผู้จัดการมีเหงื่อซึม
“คุณนายล้อเล่นแล้ว ผมแค่ตกใจที่เป็นประธานบุริศร์ครับ”
ผู้จัดการก้มหัว
“หรือคะ? คลับนี้เป็นของตระกูลเจริญไชยนี่? และก็คือเกี่ยวข้องกับตระกูลเจริญไชย?”
นรมนมองดูท่าทางของเขา และมองวิดีโออีกที รู้ว่าเป็นบุริศร์ที่กู้คืนมา ที่เหลือ ไม่มีคำอธิบายใด
ผู้จัดการขมวดคิ้ว ก่อนพูดเสียงต่ำ “คุณนายอย่าพูดตลกสิครับ คลับพวกเรากับตระกูลเจริญไชยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกัน”
“เหอะๆ”
นรมนหัวเราะเย็นชาสองคำ เมื่อดูวิดีโอจบก็หมุนกายจากไป
ผู้จัดการถอนหายใจ จากนั่นจึงพูด “รีบลบ”
“ครับ”
ท่าทางของฝั่งตรงข้ามรีบร้อน
หลังจากนรมนจากไปแล้ว ผู้จัดการก็รีบต่อสาย
“คุณหนูใหญ่ ผมแน่ใจแล้วนะครับว่าวิดีโอถูกลบไปแล้ว ไม่รู้ทำไม ตอนคุณนายโตเล็กมาดู จู่ๆก็ปรากฏขึ้นมา นอกเสียจากเรื่องแปลก ขอโทษนะครับคุณหนูใหญ่ ผมไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้”
คมทิพย์ลูบหน้าผากของเธอ พูดอย่างเหนื่อยล้า “ช่างเถอะ ฉันลืมไปเลย ว่าบุริศร์เก่งเรื่องไอที”
“อ่า? ตอนนี้ให้ทำอย่างไรครับ?”
ดวงตาของคมทิพย์ชื้นเล็กน้อย
“ไม่ต้องห่วง หลังจากนี้อย่าโทรมาเบอร์นี้อีก มีอะไรฉันจะติดต่อนายไป”
พูดจบ คมทิพย์ก็วางสายไป ก่อนจะถอดซิมการ์ดโทรศัพท์ออกมา และโยนทิ้งลงชักโครกไป
เธอรวบผม ก่อนเดินออกมาจากห้องน้ำ
เมื่อผู้จัดการได้ยินคมทิพย์พูดเช่นนี้ เขาก็ถอนหายใจ แต่เมื่อเขาหันหลังไป ก็เจอนรมนอยู่ตรงหน้าประตู เขาตกใจมาก
“คุณนาย ทำไมครับ… …”
“ทำไมถึงมาแอบฟัง?”
นรมนยิ้มเย็น ก่อนจะเดินช้าๆไปทางผู้จัดการ
“เบอร์”
“เบอร์อะไรครับ?”
ผู้จัดการแกล้งโง่
นรมนพูดด้วยเสียงเย็นเฉียบ “จะพูดอีกรอบ เบอร์ อย่าให้ฉันพูดเป็นรอบที่สอง ฉันความอดทนไม่ดี แถมยังท้องอยู่ด้วย คิดดูนะถ้าฉันแท้งที่นี่ หรือเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ตระกูลโตเล็กจะตามราวีนายไหม?”
ประโยคนี้ทำเอาขาของผู้จัดการอ่อนลงทันที
“ไม่ได้นะครับ คุณนาย”
“อย่างนั่นก็เอาเบอร์มา”
คำพูดของนรมนทำให้ผู้จัดการชะงัก แต่เมื่อนึกถึงคำพูดของคมทิพย์ จึงมอบเบอร์โทรศัพท์ให้กับนรมนไป
ถึงแม้นรมนจะเตรียมใจมาดีแล้ว รู้ว่าคมทิพย์อาจจะเปลี่ยนเบอร์ แต่เมื่อเธอเห็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคยเธอก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตะลึ
เธอเปลี่ยนเบอร์โดยไม่บอกเธอ!
นรมนสัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดในหัวใจ มีบางอย่างแตกหัก แต่กลับฟื้นคืนทีละน้อย
เธอตรวจสอบหมายเลขและโทรออก แต่อีกฝ่ายปิดเครื่องแล้ว
นรมนโทรอย่างไม่ลดละอีกรอบ แต่ก็เหมือนเดิม
เธอรู้ว่า คมทิพย์จะไม่รับโทรศัพท์อีกเลย
ในเมื่อสามารถนำเรื่องมาถึงขั้นนี่แล้ว คาดว่าคงจะวางแผนไม่เจอกันเลยตลอดชีวิต
หญิงโง่เอ๋ย!
ทำสิ่งนี้ได้อย่างไร?
ไม่ว่ายังไง เธอก็ทิ้งเธอไว้คนเดียวไม่ได้!
นรมนโทรไปหลายสายติดต่อกันอย่างเร่งรีบ แต่ไม่รับ เธอเลยต่อสายตรงหาพฤกษ์
“อยู่ไหน?”
“นอกคลับครับ”
พฤกษ์มาถึงแล้ว
แม้ว่าจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคมทิพย์ เขาไม่สนไม่ได้
นรมนวางสายและเดินไปที่ล็อบบี้โดยตรง ขณะเดินก็คิดไปด้วย ว่าจะบอกพฤกษ์อย่างไรดีเรื่องคมทิพย์ แต่เมื่อเดินไปจนเจอพฤกษ์ นรมนยังคงไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
ร่องรอยที่คอของพฤกษ์ก็ชัดเจนอยู่แล้ว
นรมนจำสิ่งที่ พฤกษ์ พูดได้
คมทิพย์เป็นผู้หญิงที่ชัดเจนรักแรงเกลียดแรง แต่ครั้งแรกก็คงไม่เร่าร้อนเช่นนี้ เมื่อเห็นสภาพพฤกษ์ คาดว่าพฤกษ์ก็คงหาเธอไม่เจอ?
“นายรู้หนทางที่คมทิพย์ออกจากเมืองชลธีไหม?”
เมื่อนรมนถาม ทันใดพฤกษ์ก็เย็นชาลง
“คมทิพย์เป็นอะไรครับ? ทำไมต้องออกไปจากเมืองชลธี? คุณนาย บอกผมได้ไหม เธอเป็นอะไรกันแน่?”
พฤกษ์ร้อนรนขึ้นมาทันที
นรมนเกิดอาการพูดไม่ออก
“ขึ้นไปก่อนเถอะ บุริศร์คงอาบน้ำเสร็จแล้ว”
นรมนหันหลังเดินจาก
ถึงแม้พฤกษ์จะร้อนใจ แต่ก็เดินตามนรมนขึ้นไปข้างบน
บุริศร์อาบน้ำเสร็จแล้ว ก็เปลี่ยนเป็นชุดที่โตษินนำมาให้ ตอนนี้เขานั่งอยู่บนเตียง ในมือมีโน้ตบุ๊ค ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
นรมนกับพฤกษ์นิ่งไปนิดเมื่อมาถึง
“คอมพิวเตอร์ที่ไหน?”
นรมนแปลกใจตรงจุดนี้
โตษินรีบพูด “ประธานบุริศร์ให้ผมไปซื้อครับ ไม่รู้จะเหมาะไหม ประธานบุริศร์แค่บอกว่าต้องการที่สเป็คดี ผมแค่ถามพนักงานขาย จากนั่นก็ซื้อกลับมา”
เมื่อได้ยินโตษินพูด นรมนก็เข้าใจ
แต่เธอรู้สึกประหม่าเล็กน้อย คาดว่าเขาคงดูออกหมดแล้วเรื่องคมทิพย์ผ่านทางกล้องวงจรปิด
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร คมทิพย์ก็คือเพื่อนสนิทของเธอ ตอนนี้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น แม้ว่าจะเพื่อตัวเองและตระกูลโตเล็ก แต่นรมนรู้ เกรงว่าใจบุริศร์จะโกรธ แต่ตอนนี้เขาไม่กล้าพูด กลัวพฤกษ์คิดมาก
เห็นได้ชัด ว่าความคิดของบุริศร์และนรมนไปด้วยกันตลอด
“ประธานครับ เกิดอะไรขึ้นกับคมทิพย์?”
“ที่บ้านเธอเกิดเรื่องนิดหน่อย ฉันกำลังเจาะระบบของพันธมิตรแฮ็กเกอร์ ดูว่าจะมีเบาะแสอะไรหรือเปล่า ไม่ต้องกังวล ลองพูดกับฉันก่อน คมทิพย์สามารถไปที่ไหนได้ ตอนนี้คนที่บ้านเธอกับน้องชายเธออยู่ด้านนอก เพื่อความปลอดภัย เราต้องรีบหาให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้น ฉันกลัวจะเกิดอันตรายกับพวกเขาได้”
เมื่อได้ยินบุริศร์พูดเช่นนี้ ใจที่ยังกังวลเกี่ยวกับคมทิพย์ ก็สงบลงไปมาก
พฤกษ์ได้ยินว่าเกิดเรื่องที่บ้านคมทิพย์ จึงรีบโทรศัพท์หาเธอ แต่ผลก็เหมือนเดิม เธอปิดมือถือไปแล้ว
ดูเหมือนเขาจะคิดอะไรได้บางอย่าง ตะลึงจนตัวแข็งทื่อ
“เป็นอะไรไป? นิ่งไปทำไม? หาต่อไปสิ!”
บุริศร์เห็นท่าทางของพฤกษ์ก็อดไม่ได้ที่จะเคืองเล็กน้อย แต่เขาก็สังเกตเห็นรอยจูบที่ร้อนแรงบนคอเสื้อของพฤกษ์
ดวงตาของเขาหรี่ลงในทันใด
“นายรังแกคมทิพย์?”
เสียงของบุริศร์เย็นชา
พฤกษ์ส่ายหัวอย่างรวดเร็ว
“เปล่าครับ คมทิพย์เป็นคนเริ่ม ผมอดใจไม่ไหว”
พฤกษ์ยังคงรู้สึกเขินอายเล็กน้อยที่จะพูดต่อหน้าบุริศร์และนรมน แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ต้องมาเขินอาย เขาเพิ่งพูดจบ ไม่ว่าเขา นรมนหรือบุริศร์ ต่างก็รู้ดี
บางทีนี่อาจเป็นคำสารภาพและคำจากลาของคมทิพย์และพฤกษ์
คาดว่าเธอคงไม่ปล่อยให้พฤกษ์หาเธอเจอ
“ช่างมันเถอะ ฉันหาเอง”
บุริศร์ก้มหน้าลง
นรมนเฝ้าดูความตั้งใจของพวกเขา ตัวเองไม่สามารถทำอะไรได้ จึงโทรหาธรณีทันที
“อาเล็ก ช่วยหนูหาคนหนึ่งหน่อยค่ะ”
“ใครหรือ?”
ธรณีไม่ได้ข่าวคราวนรมนมาเป็นเวลานาน และเมื่อเขาได้ยินเธอพูดแบบนี้ จึงเอ่ยปากถามอย่างรวดเร็ว
“คมทิพย์ค่ะ แล้วก็ตระกูลเจริญไชยเกิดเรื่องอะไรบางอย่าง”
“โอเค”
หลังจากที่ธรณีวางสาย ก็เริ่มค้นหา
บุริศร์ไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง แต่พูดว่า “หาที่นั่งนั่งลง ตอนนี้ร่างกายของคุณไม่เหมาะกับยืนเป็นเวลานาน จะทำให้บวมน้ำได้”
ตอนแรกนรมนไม่ได้ตระหนักคิดว่าบุริศร์กำลังพูดถึงตัวเอง ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ยุ่งอยู่กับเรื่องของคมทิพย์ จู่ๆก็ถามอย่างนี้ เธอคิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องของคมทิพย์ แต่หลังจากเมื่อตอบสนอง เธอจึงนิ่งไปนิด
เธอมองไปที่ใบหน้าที่จริงจังของบุริศร์ เป็นครั้งแรกที่ไม่รู้ว่าควรใช้อารมณ์อย่างไรมองไปทางเขา
พฤกษ์ร้อนรนใจ
“ประธานบุริศร์ คุณนายครับ ผมทำอะไรได้บ้าง? ผมไม่อาจอยู่รอคอยที่นี่ได้อีก?”
“ไปท่ารถ สนามบิน ทางน้ำเพื่อลองหาเบาะแสของคมทิพย์”
สิ้นเสียงของบุริศร์ นรมนก็เปิดปากพูด
“ฉันให้คนไปหาแล้ว กระทั่งตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราว”
บุริศร์และพฤกษ์นิ่งไป
บุริศร์มองไปยังนรมน สายตานี่คืออะไร นรมนไม่เข้าใจ แต่เธอพูดเสียงต่ำ “ตอนแรกฉันก็ปิดล้อมเมืองชลธีเลย แต่ก็ไม่มีข่าวใดเล็ดลอดเข้ามาได้ ฉันสงสัยว่าเธอยังอยู่ในเมืองชลธี”
“ผมจะไปหา แม้ว่าจะต้องพลิกเมืองเมืองนี้ ผมก็จะต้องหาเธอให้เจอ”
ดวงตาของพฤกษ์แดงก่ำ
น้อยมากที่เขาจะรักหรือสนใจใคร ถึงแม้เวลาระหว่างพวกเขาที่ได้คบหาจะไม่นานนัก แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองไม่ได้วัดกันที่เวลา ยิ่งไปกว่านั้น ไม่นานมานี้ คมทิพย์เพิ่งกลายเป็นผู้หญิงของเขา เขาทำให้ผู้หญิงของตัวเองหายไปได้อย่างไร
พฤกษ์รีบจากไปอย่างเร็ว ตอนนี้เมื่อภายในห้องเหลือแค่บุริศร์และนรมน ความเงียบที่กะทันหันทำให้นรมนรู้สึกไม่คุ้นชิน รู้สึกอึดอัดใจเล็กน้อย