แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 918

ตอนที่ 918

ลูกน้องยังไม่ทันได้พูดจบประโยค ก็ถูกเชษฐ์ถีบเข้าทันที

“รีบเร่งมือ พวกเราจะออกไปจากที่นี่ ! พวกไร้ประโยชน์ !”

นิสัยของเขาก้าวร้าวมาก

มองดูนรมนที่สลบไสลทีหนึ่ง แล้วจู่ๆเชษฐ์ก็แสยะยิ้มออกมา

เขาเดินไปที่ระเบียง แล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรไปหาหมายเลขหนึ่ง

เบอร์นั้นถูกโทรติดอย่างรวดเร็ว อีกฝ่ายมีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา

“ใครคะ ?”

“คิม นรมนอยู่ในมือฉัน”

เพิ่งจะสิ้นเสียงของเชษฐ์ คิมก็เริ่มตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

“เชษฐ์ ?”

“บังเอิญจังนะ พวกเราได้ติดต่อกันอีกแล้ว”

ประโยคนี้ของเชษฐ์ทำให้คิมหรี่ตาลงอีกครั้งทันที

“นายอยากจะทำอะไร ?”

“คิม เธอไม่รู้เหรอว่าฉันจะทำอะไร ? อ๋อ นั่นสิ เมื่อกี้ฉันพูดเรื่องบางอย่างกับลูกสาวเธอ ฉันคิดว่าเธอเองก็น่าจะรู้สึกสนใจเหมือนกัน นั่นก็คือร่างศพของชินทร เธออยากเห็นไหมล่ะ ?”

เพิ่งจะสิ้นเสียงของเชษฐ์ คิมก็เริ่มแตกตื่นขึ้นมาทันที

“ไอ้คนเลวทราม ! นายอยากจะพูดอะไรกันแน่ ? ยี่สิบกว่าปีก่อนฉันก็รู้แล้ว ว่านั่นไม่ใช่ศพของชินทร แต่ว่าตอนนั้นเครื่องมือในการทดสอบยังไม่พร้อม การสุ่มตัวDNAเลยมีความคลุมเครืออยู่เล็กน้อย แต่ผลทดสอบทางพันธุกรรมกลับตรงกับชินทรถึง80% หลายปีที่ผ่านมาฉันอยู่ที่ทูตชายแดนมาตลอด ก็เพื่อตามหาข่าวของชินทร เชษฐ์ นายเป็นคนเอาตัวเขาไปจริงๆด้วย”

คิมโกรธจนเจ็บหน้าอก ถึงแม้จะผ่านไปนานหลายปีมากแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถปล่อยวางได้

เชษฐ์พูดอย่างเย็นชาว่า “ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะเธอคอยไล่ตามอย่างไม่ลดละ ฉันก็คงไม่เร่งรีบหนีออกไปจากที่นี่หรอก แต่ก็โชคดีที่ได้การไล่ตามจากเธอในตอนนั้น เลยทำให้ฉันได้พัฒนาความสามารถของตัวเองในต่างแดน ศพของชินทร เธอจะเอาหรือไม่เอาล่ะ ?”

“เอา !”

“งั้นก็เอาของที่ฉันอยากได้มาแลกไปสิ จำไว้นะ ห้ามแจ้งตำรวจ ห้ามบอกบุริศร์ ยิ่งห้ามพาคนมาด้วย ไม่อย่างนั้นฉันไม่รู้ด้วยนะว่าจะทำอะไรกับลูกสาวของเธอบ้าง เธอต้องรู้ว่า ตอนนี้เธอกำลังตั้งท้องอยู่ เป็นคนที่เหมาะสมแก่การเป็นตัวทดลองที่สุด”

“นายกล้าเหรอ ! ถ้านายกล้าแตะต้องนรมน ฉันรับประกันได้เลยว่านายจะไม่มีทางได้อะไรไปทั้งนั้น”

เสียงของคิมขยับสูงขึ้นมาทันที

แต่เชษฐ์กลับหัวเราะแล้วพูดว่า “คิม อย่าพูดเหมือนตัวเองสูงส่งยิ่งใหญ่ขนาดนั้น ถ้าเธอสูงส่งยิ่งใหญ่จริงๆ ของที่ฉันอยากได้ตอนนี้คงอยู่ที่ฝ่ายทหารแล้วสินะ ? หลายปีที่ผ่านมาเธอก็ยังไม่เคยมอบออกไปเลย เห็นได้ชัดเลยว่าเธอมีเจตนาแอบแฝงใช่ไหม ? ในเมื่อเป็นแบบนั้น พวกเรามาร่วมมือกันไม่ดีกว่าเหรอ ?”

“ฉันไม่มีทางร่วมมือกับนายหรอก อีกอย่างที่ฉันไม่ได้มอบออกไป ไม่ใช่เพราะว่าฉันมีเจตนาแอบแฝงจะทำอะไร แต่เพราะว่านั่นเป็นสิ่งที่ชินทรเหลือไว้ให้ฉันดูต่างหน้า ฉันก็แค่เก็บไว้เพื่อเป็นที่ระลึกก็เท่านั้น เชษฐ์ นายอย่ามาบีบบังคับฉัน”

“ใครบีบบังคับใครกันแน่ ? คิม ฉันจะส่งที่อยู่ไปให้เธอ เธอจะมาหรือไม่ก็ช่าง แต่ว่าฉันมีเวลาให้เธอแค่ชั่วโมงเดียว ถ้าเลยเวลาแล้วฉันอาจจะทำอะไรกับนรมนขึ้นมาจริงๆก็ได้ “

เชษฐ์พูดจบก็วางสายไปทันที

แววตาของคิมหมองหม่นลงทันที

สีหน้าของเธอย่ำแย่จนน่ากลัว

กมลเดินผ่านห้องนอนของเธอเข้าพอดี พอเห็นว่าเธอท่าทางไม่ค่อยสบายใจ ก็เลยถามขึ้นทันทีว่า “คุณยาย เป็นอะไรไปคะ ? ยายเห็นหม่ามี้ของหนูไหม ?”

คิดได้สติขึ้นมาทันที เลยยิ้มบางๆแล้วพูดว่า “เดี๋ยวยายจะไปรับตัวหม่ามี้ของเธอกลับมานะ”

“อ๋อ ได้ค่ะ สีหน้าของคุณยายไม่ค่อยดีเลย ไม่สบายเหรอคะ ?”

“ไม่เป็นไร วันนี้ยายรู้สึกไม่ค่อยสบาย กมลไปเล่นคนเดียวก่อนได้ไหมคะ ?”

“ก็ได้ค่ะ”

กมลลุกขึ้นแล้วไปหากิจจา

คิมปิดประตูห้องทันที

เขาดึงกล่องใบหนึ่งออกมาจากใต้เตียง พอเปิดออกแล้ว ในนั้นก็มีสมุดบันทึกเล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นของชินทร

คิมกอดบันทึกเล่มนั้นเอาไว้แน่น แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ชินทร หลายปีที่ผ่านมานี้ฉันเห็นแก่ตัวมากเลยใช่ไหม ? ฉันคิดว่าถ้าฉันไม่มอบออกไป เก็บไว้เป็นที่ระลึกก็คงไม่เป็นไร แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเชษฐ์จะยังไม่ยอมตายใจ ฉันน่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว เขาแบกรับความเสี่ยงอันใหญ่หลวงกลับมาขนาดนั้น จะต้องไม่ใช่เพื่อข้อมูลทางพันธุกรรมของตระกูลโตเล็กแค่นั้นแน่ เพียงแต่ฉันยังเอาแต่เพ้อฝันมาตลอด เพ้อฝันว่าหลังจากที่เขามีเรื่องกับบุริศร์จะถูกบุริศร์จับตัวส่งเข้าห้องขัง ถ้าอย่างนั้นของชิ้นนี้ที่คุณเหลือเอาไว้ให้ฉันก็จะกลายเป็นของฉันแต่เพียงผู้เดียว ฉันคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานแล้ว เดิมทีฉันคิดว่าจะเอาหนังสือเล่มนี้เข้าไปในกองเพลิงกับฉันด้วย พอถึงตอนที่ได้ลงไปที่เบื้องล่างแล้ว ฉันกับคุณก็จะได้พูดคุยเรื่องนี้กันต่อ น่าเสียดายที่ดูท่าว่าคงรอถึงวันที่ฉันจะสิ้นลมไม่ได้แล้ว”

เธอปัดฝุ่นที่อยู่บนหน้าปกออก จากนั้นก็กอดไว้ในอกอย่างระมัดระวัง

คิมเดินไปที่ห้องนอนของนรมน

หลายปีที่ผ่านมานี้ เธอไม่เคยได้ทำหน้าที่แม่ให้กับนรมนเลยแม้แต่น้อย ตอนนั้นหากไม่ใช่เพราะหนังสือเล่มนี้ เธอก็คงไม่ทิ้งนรมนเอาไว้ แต่ว่าตอนนี้กลับเป็นเพราะหนังสือเล่มนี้ ที่ลากนรมนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทำให้เธอได้รับอันตราย คิมรู้สึกว่าทั้งชีวิตนี้เธอได้ติดค้างลูกสาวคนนี้อยู่ตลอด

เธอเก็บบันทึกเอาไว้อย่างดี พอเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ดูดีชุดหนึ่งแล้วก้เดินลงไปชั้นล่าง

พอคุณท่านตระกูลพรโสภณเห็นคิมทำท่าเหมือนจะออกไปข้างนอก ก็ขมวดคิ้วขึ้นมาทันที

“เธอจะไปไหนเหรอ ?”

“ไปหานรมน”

“เหลวไหล เธอรู้เหรอว่าเขาอยู่ที่ไหน ? ทางบุริศร์ส่งข้อความมาแล้ว พวกเขากำลังตามหาอยู่ เธออย่าไปสร้างปัญหาเพิ่มดีกว่า ตอนนี้ร่างกายเธอไม่ค่อยแข็งแรงนัก อย่าได้……”

“ฉันรู้ว่าเชษฐ์อยู่ที่ไหน คุณพ่อคะ อย่ายุ่งกับฉันเลย ฉันเป็นแม่คนหนึ่ง ไม่มีทางทนดูลูกสาวเกิดเรื่องแล้วยังนิ่งเฉยได้หรอกค่ะ”

คำพูดของคิมทำให้คุณท่านตระกูลพรโสภณรู้สึกเสียใจเล็กน้อย

“ไม่ได้บอกว่าเธอนิ่งเฉยสักหน่อย เพียงแต่ตอนนี้เธอจะไปทำอะไรได้ ? ตอนนี้ร่างกายของเธอก็อ่อนแอจะแย่อยู่แล้ว บุริศร์กำลังไล่ตามอยู่ เชษฐ์ไม่มีทางต่อกรกับเขาได้หรอก ถึงแม้นรมนจะอยู่ในมือเขา แต่ด้วยฝีมือของบุริศร์ จะต้องช่วยนรมนออกมาได้แน่ เธอเชื่อฟังฉันแล้วคอยฟังข่าวอยู่ที่บ้านก็พอแล้ว”

“เชษฐ์นัดฉันไปเจอค่ะ”

จู่ๆคิมก็พูดขึ้นมา

คุณท่านตระกูลพรโสภณนิ่งอึ้งไปทันที

“เธอว่าอะไรนะ ?”

“คุณพ่อคะ มีเรื่องบางอย่างที่ฉันไม่ได้บอกคุณพ่อมาตลอด และตอนนี้ก็ไม่มีเวลาพูดแล้ว แต่หลังจากนี้อีกไม่นานคุณพ่อก็คงได้รู้เอง ไม่ว่าฉันจะเลือกทางไหน ฉันก็หวังว่าคุณพ่อจะสามารถมีชีวิตต่อไปให้ดีๆ ถ้าหากฉันไม่อยู่แล้ว ก็ขอให้คุณพ่อช่วยดูแลนรมนกับพวกเด็กๆด้วยนะคะ”

คุณท่านตระกูลพรโสภณหรี่ตาลงทันที

“เธอจะทำอะไร ?”

คิมยิ้มขึ้นมาทันที

หลายปีที่ผ่านมานี้ น้อยครั้งมากที่คุณท่านตระกูลพรโสภณจะได้เห็นคิมยิ้มอย่างโล่งใจขนาดนี้

เธอพูดว่า “ฉันอยากไปหาชินทรแล้วค่ะ หลายปีมาแล้ว ฉันอาจจะได้ไปยังโลกเบื้องล่างกับเขาได้แล้วจริงๆก็ได้”

“เธอกำลังพูดจาไร้สาระอะไร ? ชินทรตายไปตั้งนานแล้ว เถ้ากระดูกของเขาก็ถูกฝังอยู่ที่สุสานวีรบุรุษผู้สละชีพเพื่อชาติ นี่เธอป่วยจนเพี้ยนไปแล้วหรือไง ?”

“คุณพ่อ ฉันไม่พูดกับคุณพ่อแล้วค่ะ พ่อว่าวันนี้ฉันดูดีไหมคะ ?”

คิมหมุนตัวรอบหนึ่ง

วันนี้เธอสวมชุดที่ชินทรซื้อให้เธอในตอนนั้น คุยกันไว้แล้วว่าจะไปรับใบทะเบียนกันที่สำนักกิจการพลเรือน ใครจะรู้ว่าจู่ๆชินทรจะถูกคุณนายทวีทรัพย์ธาดาเรียกตัวกลับไปที่ตระกูลทวีทรัพย์ธาดา เลยทำให้ต้องแยกทางกันตั้งแต่นั้นมา

เขาไม่ได้แต่งงานชั่วชีวิต และไม่ได้เหลืออะไรไว้ให้ตัวเอง สิ่งเดียวที่เหลือไว้ให้ก็คือกระโปรงชุดนี้กับบันทึกที่อยู่ในอ้อมกอด

คุณท่านตระกูลพรโสภณเริ่มลนลานขึ้นมาทันที

“คิม เธออย่า……”

“คุณพ่อ อย่าส่งคนตามฉันไปนะคะ และไม่ต้องบอกบุริศร์ด้วย ฉันมั่นใจว่าจะสามารถพาตัวนรมนกลับมาได้ แต่ว่าเรื่องบางเรื่อง ฉันไม่อยากให้บุริศร์รู้ และไม่อยากให้คุณพ่อรู้ ให้ฉันได้เป็นลูกสาวที่น่าภาคภูมิใจสำหรับคุณพ่อต่อไปก็พอแล้วค่ะ สำหรับเรื่องอื่นๆ ให้ฉันฝังมันไว้ให้ลึกที่สุดเถอะค่ะ”

“คิม !”

“คุณพ่อคะ เดิมทีฉันก็เหลือเวลาอีกไม่นานอยู่แล้ว ถ้าได้เจอกับชินทรก่อนตาย ฉันก็รู้สึกว่าชีวิตนี้ไม่เสียเปล่าแล้วค่ะ”

คุณท่านตระกูลพรโสภณรู้สึกว่าวันนี้คิมแปลกประหลาดมาก

แต่คิมกลับไม่อธิบายอะไร

เธอห้ามไม่ให้คุณท่านตระกูลพรโสภณตามตัวเองมา แล้วขับรถออกจากบ้านด้วยตัวคนเดียว

คุณท่านตระกูลพรโสภณรู้สึกไม่ค่อยวางใจ เลยใช้ให้โตษินตามไป แต่โตษินที่ตามไปจู่ๆก็ละสายตาไปเสียอย่างนั้น

เขาส่งข่าวไปให้บุริศร์แล้ว พอบุริศร์รู้ว่าเชษฐ์นัดคิมไปเจอ ก็ไม่รู้จะพูดอะไรขึ้นมาทันที แต่เขาก็ยังสั่งระดมคนเพื่อค้นหาที่อยู่ของพวกเขา

ไม่รอให้ถึงตอนที่บุริศร์จะได้ข่าว คิมก็ขึ้นเรือไปเสียแล้ว ส่วนเรือของเชษฐ์ก็ออกจากท่าไปแล้ว

“ตามไป !”

บุริศร์หงุดหงิดเป็นที่สุด

“ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าพวกเขาจะเอาเรือออกจากท่าภายใต้สายตาฉันได้ยังไง ? สั่งให้ปิดล้อมทางออกทั้งหมดไว้แล้วไม่ใช่เหรอ ?”

บุริศร์เกรี้ยวกราดราวกับสายฟ้า

ชัยยศพูดเสียงต่ำว่า “คนของพวกเราเป็นคนขับเรือให้คิมเอง เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าคิมจะอยู่ด้วยกันกับเชษฐ์”

สีหน้าของบุริศร์ค่อนข้างย่ำแย่

คิมเป็นแม่บุญธรรมของเขา แต่ว่าวินาทีนี้เขาอยากจะต่อยคนจริงๆ

“คุณนายอยู่บนเรือหรือเปล่า ?”

“น่าจะอยู่ครับ”

สีหน้าของบุริศร์มืดมนเหมือนก้นกระทะที่ดำสนิท

“ถ้าฉันเดาไม่ผิด พอเชษฐ์ออกจากท่าแล้วน่าจะตรงไปที่ทะเลหลวง รีบสั่งให้คนของพวกเราตามไป ไม่ว่ายังไงก็ต้องจับกุมเขาให้ได้ก่อนที่จะไปถึงทะเลหลวง”

“ครับ”

ชัยยศรีบพาคนไล่ตามไปทันที

สายตาของนภดลเย็นยะเยือกเล็กน้อย

“แต่ฉันไม่รู้สึกว่าเขาจะไปที่ทะเลหลวง”

“พูดความคิดเห็นของนายมาสิ”

บุริศร์มองดูนภดล พยายามอดกลั้นเพลิงโกรธของตัวเองเอาไว้เต็มที่

นภดลพูดเสียงต่ำว่า “ตัวฉันเองก็เป็นผู้ทดลอง สถานที่อยู่ของพ่อแม่ฉันเองก็คล้ายๆกันกับฐานการวิจัยของเชษฐ์ ดังนั้นฉันเลยรู้ดีกว่าใครๆ ว่าบ้างานวิจัยต้องการอะไรเป็นที่สุด”

“นายอยากจะพูดอะไรกันแน่ ?”

“ที่ฉันอยากจะพูดก็คือ คุณนายกำลังตั้งท้องอยู่ ก็เหมือนคุณแม่ในตอนนั้น การทดลองจำนวนมากสำหรับผู้ใหญ่อาจไม่ได้ผลตามที่ต้องการ แต่ถ้าฉีดของเหลวทดลองในขณะที่ตัวอ่อนยังอยู่ในท้องแม่ อาจมีผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง อย่างเช่นฉันเอง”

คำพูดของนภดลทำให้สีหน้าของบุริศร์เปลี่ยนไปทันที

“นายจะบอกว่าเชษฐ์คิดจะใช้นรมนเป็นตัวอย่างที่มีชีวิต และใช้ลูกในท้องของเธอเพื่อทดลองงั้นเหรอ ?”

“ฉันเดาว่าอย่างนั้นนะ แต่ก็หวังว่าเขาจะไม่ทำอย่างนั้น แต่ถ้าหากเขาคิดจะทำแบบนั้นจริงๆ ถ้างั้นเขาก็ไม่มีทางไปที่ทะเลหลวงเด็ดขาด แต่จะกลับไปยังฐานที่มั่นของตัวเอง เพราะยังไงก็เป็นสถานที่ที่ตัวเองคุ้นเคย เขาถึงจะทำสิ่งที่ตัวเองอยากทำได้ ดังนั้นฉันคิดว่า เป็นไปได้อย่างมากว่าเขาจะจอดเทียบท่าตรงท่าเรือบริเวณใกล้ๆ แล้วออกจากประเทศเราด้วยเฮลิคอปเตอร์ กลับไปที่ต่างแดน ว่ากันว่ากระต่ายเจ้าเล่ห์ย่อมมีถ้ำสามแห่ง ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะมีฐานวิจัยอยู่เพียงแห่งเดียว”

พอฟังนภดลพูดแบบนี้แล้ว ใจของบุริศร์ก็เริ่มไม่สงบขึ้นมาทันที

ถ้าหากสิ่งที่เขาคาดเดามันถูกต้องทั้งหมด แล้วตัวเองจะไปช่วยพวกนรมนได้ทันไหม ?

บุริศร์เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมา

ไม่ !

เขาไม่มีทางยอมให้ใครมาทำร้ายนรมนทั้งสองแม่ลูกได้ แม้ว่าจะเป็นเชษฐ์ก็ไม่มีทางยอม

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท