“มีอะไรที่พูดไม่ได้กัน?”
น้ำเสียงของนรมนไม่ค่อยดีเท่าไร
ชัยยศส่ายหน้าพัลวัน พลางเอ่ยว่า “พูดได้ครับ แต่กลัวว่าพูดไปแล้วคุณผู้หญิงจะมีโทสะ”
“คุณไม่พูด ฉันจะยิ่งมีโทสะนะคะ”
นรมนถูกความใสซื่อของชัยยศทำให้หัวเราะ
ชัยยศเกาศีรษะด้วยความเขินอาย เอ่ยขึ้นว่า “เรื่องห้องของตระกูลธนาศักดิ์ธนน่ะครับ ไม่ใช่สิ เป็นห้องที่คุณผู้หญิงพักตอนอยู่ในตระกูลธนาศักดิ์ธนถูกเนตราขายไปแล้วครับ”
“ขายไปแล้ว?”
นรมนตะลึงค้างไปเล็กน้อย
เนตรามีความกล้าหาญมากจริงๆ
เธอพูดแล้วว่านั่นเป็นห้องของเธอ ให้เธอยกเลิกการขาย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะลงมือได้รวดเร็วเช่นนี้
“คนซื้อเป็นใครกัน”
คำถามของนรมนทำให้ชัยยศชะงักไปอีกครั้ง
“ทำไมหรือ ฉันล่วงเกินไม่ได้หรือ”
“ไม่ใช่ครับคุณผู้หญิง เป็นคุณผู้หญิงของคุณชายอรรณพในสี่คุณชายแห่งเมืองชลธีของพวกเราซื้อไปครับ”
คำพูดของชัยยศทำให้นรมนตะลึงไปเล็กน้อย
สี่คุณชายแห่งเมืองชลธี เธอรู้จักแค่สามคนมาโดยตลอด คนหนึ่งคือบุริศร์ของพวกเขา คนหนึ่งคือคริชณะ หัวหน้าคริชณะแห่งกองทัพทหาร คนหนึ่งคือป้อง คุณหมอป้อง ส่วนอีกคนหนึ่งนั้นได้ยินคนอื่นเอ่ยถึงน้อยมาก ว่ากันว่ามีกิจการในเมืองชลธี แต่เป็นเพราะเหตุผลพิเศษบางอย่าง คุณชายคนที่สี่ไม่ได้อยู่ในเมืองชลธี คนในครอบครัวของเขายิ่งลึกลับเสียกว่า
ในตอนนี้ห้องกลับถูกภรรยาของคุณชายสี่ผู้นี้ซื้อไปหรือ
“ติดต่อได้หรือไม่”
“ติดต่อค่อนข้างยากครับ ว่ากันว่าฝ่ายตรงข้ามคือศัลยแพทย์มือหนึ่งของโลก รมิดา คนทั่วโลกที่เข้าแถวรอให้เธอทำการผ่าตัดให้นั้นมีมากเสียยิ่งกว่ามาก ไม่มีใครทราบเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของเธอ เบอร์ที่เปิดเผยต่อสาธารณชนคาดว่าโทรเข้าไปก็คงไม่มีคนรับ รับแล้วต่อคิวก็ต้องต่อไปถึงปีหน้านู่น อีกทั้งผมได้ยินมาว่า ฝ่ายตรงข้ามดำเนินการเสร็จแล้ว เนตราก็รับเงินไปแล้วเช่นกันครับ”
คำพูดของชัยยศทำให้นรมนกลุ้มใจเล็กน้อย
ลงมือเร็วขนาดนี้ และฝ่ายตรงข้ามก็หาตัวได้ยาก จะทำอย่างไรดี?
เดี๋ยวก่อนนะ!
ฝ่ายตรงข้ามคือศัลยแพทย์มือหนึ่งของโลก รมิดา?
นรมนตื่นเต้นขึ้นมาทันที
“ช่วยตรวจสอบคุณนายอรรณพคนนี้ที ไม่สิ เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของคุณหมอรมิดาที ฉันต้องการพบเธอ”
ชัยยศเห็นนรมนมีท่าทางตื่นเต้นแล้ว ก็อดที่จะเอ่ยขึ้นไม่ได้ว่า “คุณผู้หญิง เรื่องนี้ผมไม่มีหนทางจริงๆครับ แต่ว่าคุณผู้หญิงสามารถให้ประธานบุริศร์สอบถามคุณชายอรรณพได้นะครับ บางทีคุณชายอรรณพอาจจะรู้เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของภรรยาตัวเอง”
เมื่อได้ยินชัยยศพูดเช่นนี้แล้ว นรมนก็พยักหน้า แต่ว่าบุริศร์เพิ่งจะหลับไปได้ครู่เดียว ตัวเองไปปลุกเขาให้ตื่นก็ดูจะไม่ค่อยดีเท่าไร
“ฉันรู้แล้ว เรื่องนี้ฉันจะคุยกับบุริศร์อีกที คุณไปทำงานของคุณเถอะ ใช่แล้ว คุณช่วยไปจดทะเบียนบริษัทภาพยนตร์ให้ฉันบริษัทหนึ่ง ด้านเงินทุนให้เริ่มเตรียมจากเงินทุนที่ต่ำที่สุด”
คำพูดของนรมนทำให้ชัยยศชะงักไปเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าและรีบไปจัดการทันที
เมื่อเห็นชัยยศจากไปแล้ว ก็นึกถึงขาคู่นั้นของปัญญ์ขึ้นมา ในใจนรมนก็มีความหวังขึ้นมาอีกครั้ง
พูดกันว่าฝีมือการผ่าตัดของรมิดาศัลยแพทย์มือหนึ่งของโลกนั้นประณีตเหนือธรรมชาติ ถึงแม้ว่ากระดูกแตกหักเป็นชิ้นเล็กๆก็ยังสามารถต่อกระดูกให้ได้ ก่อนหน้านี้เธอตามหาคนคนนี้มาตลอด คิดไม่ถึงเลยว่าคราวนี้จะมีความเกี่ยวข้องกันเพราะความผิดพลาดบางอย่าง
ถ้าหากว่ารมิดาสามารถทำการผ่าตัดให้กับปัญญ์ได้ ก็มอบห้องห้องนั้นให้เธอเป็นไง?
เมื่อคิดเช่นนี้แล้ว นรมนก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เพียงแต่ว่าเธอไม่ได้ไปรบกวนการพักผ่อนของบุริศร์
บุริศร์เฝ้าเธอมาทั้งคืน ตอนนี้น่าจะเป็นตอนที่ทรมานที่สุด เธอต้องรอให้บุริศร์นอนให้เต็มอิ่มก่อนแล้วค่อยคุย
ช่วงเวลาแห่งการรอคอย นรมนเปิดคอมพิวเตอร์ จัดการภาพการออกแบบที่ตัวเองเข้าร่วมการแข่งขันรวมกันเป็นไฟล์หนึ่ง และส่งอีเมลล์ไปให้กับฝ่ายจัดงาน อธิบายให้ชัดเจนว่าตัวเองเป็นฝ่ายถอนตัวออกจากการแข่งขันในครั้งนี้
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้ว ความจริงแล้วในใจนรมนก็รู้สึกอาลัยอาวรณ์และเสียใจ ถึงอย่างไรเส้นทางอาชีพการออกแบบรถยนต์ก็เป็นเส้นทางที่เธอชอบจริงๆ แต่เมื่อนึกถึงสองพี่น้องคมทิพย์ที่ต้องแบกรับทุกสิ่งเพราะเธอและตระกูลโตเล็กในตอนนี้ คิดถึงคมทิพย์ เด็กสาวอ่อนแอคนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของคนในบ้านด้วยความยากลำบาก คิดถึงบ่อน้ำในวงการบันเทิงว่าลึกมากแค่ไหน นรมนก็ปิดภาพการออกแบบอย่างแน่วแน่
คมทิพย์ต้องการเธอ
ไม่มีการออกแบบ เธอก็ยังมีตระกูลโตเล็ก มีตระกูลทวีทรัพย์ธาดาและตระกูลพรโสภณ แต่คมทิพย์เหลือเพียงแค่เธอแล้ว
ถ้าหากว่ากระทั่งเธอก็ยังไม่สามารถปกป้องคมทิพย์ได้ ยังจะมีใครที่สามารถมอบความหวังให้กับเธอได้อีก?
นรมนคิดได้แบบนี้แล้ว ก็ไม่ได้เสียใจและอาลัยอาวรณ์อีก
ในชีวิตของคนเรามักจะต้องเผชิญหน้ากับเส้นทางการเลือกมากมาย ขอเพียงแค่ตัวเองรู้สึกว่าคุ้มค่าก็พอแล้ว
นรมนเก็บโน้ตบุ๊คและวางไว้ในตู้ที่ห้องหนังสือ
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จแล้ว บุริศร์ก็ตื่นพอดี
“คุณตื่นแล้วหรือคะ?”
นรมนยิ้มให้อย่างเอาใจ
บุริศร์คลึงตาด้วยความสะลึมสะลือ เหลือบมองเธอเล็กน้อย ถามขึ้นว่า “มีเรื่องอะไรจะขอร้องผมหรือ”
“คุณรู้ได้อย่างไรคะ”
“บนใบหน้าคุณเขียนเอาไว้แล้ว”
บุริศร์ล้างหน้าไปพลาง เอ่ยพูดไปพลาง
นรมนรู้สึกว่าต่อหน้าบุริศร์นั้นไม่มีความลับเลยแม้แต่น้อย
“คุณนี่น่าเบื่อเกินไปแล้วจริงๆ คุณจะแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ได้หรือคะ หยอกฉันเล่นก็ได้นินา!”
จู่ๆบุริศร์ก็หัวเราะออกมา
“คุณเป็นสุนัขหรือ ถึงต้องให้ผมหยอกเล่น?”
“บุริศร์ คุณอยากโดนทุบหรือคะ”
นรมนหดหู่ใจเล็กน้อย
ผู้ชายคนนี้ บางครั้งก็รักและทะนุถนอมคุณเอาเป็นเอาตาย บางครั้งปากก็น่าจับมาจัดการจริงๆ
บุริศร์เห็นนรมนมีท่าทางแบบนี้ ก็หัวเราะมากกว่าเดิม
“คุณลงมือกับผมตอนนี้ ผมก็ไม่กล้าลงมือกับคุณหรอก ว่ามาเถอะ มีเรื่องอะไรที่ต้องการให้สามีของคุณช่วยกัน”
นรมนได้ยินคำว่าสามีจากบุริศร์แล้ว ใบหูก็เห่อร้อนขึ้นมาแปลกๆ
“แค่กๆ อยากสอบถามเรื่องคนคนหนึ่งจากคุณค่ะ”
นรมนกระแอมไออย่างเขินอายเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมา
“ใครหรือ”
“อรรณพ”
คำพูดนี้ของนรมนทำให้บุริศร์หรี่ตาลงทันที
“คุณสนใจเขาหรือ”
“พูดอะไรน่ะ? ฉันจะไปสนใจเขาได้อย่างไรกัน ฉันต้องการเบอร์โทรศัพท์ของภรรยาเขา รมิดา เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวน่ะค่ะ คุณสามารถจัดการได้ไหมคะ”
นรมนมองบุริศร์ด้วยสีหน้ารอคอย
บุริศร์ส่ายหน้า
“ไม่ได้!”
“ทำไมถึงไม่ได้คะ? พวกคุณสี่คุณชายแห่งเมืองชลธีไม่ใช่ว่ามีความสัมพันธ์ดีมากหรือคะ ว่ากันว่าสามารถสวมกางเกงตัวเดียวกันได้ ฉันก็ไม่ได้จะทำอะไร แต่ว่าภรรยาเขาซื้อห้องของฉันไป ฉันอยากจะพูดคุยกับเธอเท่านั้นเอง”
นรมนพูดเร็วปรื๋อ
บุริศร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ไม่ใช่ว่าผมไม่ช่วยคุณ แต่โลกภายนอกล้วนไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างอรรณพกับภรรยาของเขา ผมจะเล่าให้คุณฟัง คุณฟังอย่างเดียวก็พอ อย่าเอาไปพูดข้างนอกล่ะ”
“ทำไมหรือคะ”
ความอยากรู้เรื่องซุบซิบในใจของนรมนถูกปลุกขึ้นมา
บุริศร์ถอนหายใจ เอ่ยว่า “อรรณพถูกภรรยาของเขาบีบบังคับให้แต่งงานกับเธอ งานแต่งงานของทั้งสองคนไม่เหมือนกับที่คนอื่นเห็นแบบนั้น ความจริงแล้ว พวกเขาสองคนต่างใช้ชีวิตของตัวเอง ใครก็ไม่เข้าไปก้าวก่ายเรื่องของใคร ในสถานการณ์ปกติ ล้วนเป็นรมิดาที่เป็นฝ่ายติดต่ออรรณพก่อน อรรณพก็จำเบอร์โทรศัพท์เธอไม่ได้ ดังนั้นคุณให้ผมไปถาม ผมก็ทำได้เพียงแค่ส่งต่อคำพูดของคุณ สำหรับเรื่องที่จะสามารถถามเบอร์โทรศัพท์มาได้หรือไม่นั้น ผมก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะสำเร็จ”
เมื่อได้ยินบุริศร์เอ่ยเช่นนี้ นรมนก็ร้องออกมาทันที
“ทำไมถึงได้มีคู่สามีภรรยาแบบนี้ด้วยกัน หรือว่าระหว่างพวกเขาไม่มีความรู้สึกใดๆเลย?”
“ก็ไม่ใช่เสมอไป ผมเห็นว่าช่วงนี้อรรณพมักจะกลับบ้านบ่อยๆ ถ้าพูดว่าไม่มีความรู้สึกเลยจริงๆก็ไม่อาจเป็นเช่นนั้นเสมอไป แต่ว่ามีบางเรื่องต้องให้พวกเขาสองสามีภรรยาเป็นผู้จัดการแก้ไขด้วยตัวเอง พวกเราคนนอกสอดมือเข้าไปยุ่งไม่ได้”
เอ่ยจบแล้ว บุริศร์ก็ล้างหน้าเสร็จพอดี จึงเดินตรงเข้าไปในห้องนอน และถอดเสื้อตัวบนต่อหน้านรมน
ร่างกายส่วนบนที่บึกบึนแข็งแรงทำให้ใบหน้านรมนแดงเล็กน้อย
“คุณทำอะไรน่ะ”
“เปลี่ยนเสื้อผ้าไง!”
บุริศร์เอ่ยอย่างบริสุทธิ์ใจ เพียงแต่ว่ามุมปากกลับมีความเจ้าเล่ห์พาดผ่าน
นรมนหน้าแดงไปถึงลำคอทันที
“เปลี่ยนเสื้อผ้าก็ไม่บอกกันสักคำ ฉันออกไปก่อนนะคะ”
“ออกไปทำไมกัน? คุณเป็นภรรยาผม ผมไม่กลัวว่าคุณจะดู แล้วคุณกลัวอะไร?”
บุริศร์หมุนตัวกลับมาขังนรมนเอาไว้ในกำแพง ก้นบึ้งนัยน์ตามีคลื่นบางอย่างกระเพื่อมขึ้นมา
“สามเดือนนี้ทรมานเกินไปแล้ว”
ลมหายใจของบุริศร์ไม่มั่นคง
นรมนนั้นใบหน้าแดงก่ำ กระทั่งลมหายใจของบุริศร์ก็ร้อนระอุ การไหลเวียนของเลือดทั้งร่างของเธอและหัวใจเต้นระรัว
“ทรมานก็ต้องอดทนไว้ ไม่เช่นนั้นลูกจะทำอย่างไรคะ”
นรมนพูดอย่างไร้เรี่ยวแรง จนถึงขั้นลมหายใจสับสนวุ่นวาย ถ้าหากว่าบุริศร์ยืนหยัดอีกนิด เธอก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะสามารถอดทนต่อแรงดึงดูดนี้ได้หรือไม่
พูดความจริงเลยว่า เธอก็มีความปรารถนาในใจที่ยากจะควบคุมได้ โดยเฉพาะหลังจากที่ได้เห็นเรือนร่างสมบูรณ์แบบของบุริศร์ด้วยแล้วก็ยิ่งควบคุมไม่อยู่ยิ่งกว่าเดิม
บุริศร์เห็นสีหน้าเย้ายวนใจของนรมนแล้ว ก็จิตใจเตลิดเปิดเปิงอยู่บ้าง
เขาก้มศีรษะลงช้าๆ ลมหายใจที่พัดผ่านใบหน้าของนรมน เจือไปด้วยความอบอุ่น
นรมนอดกลืนน้ำลายไม่ได้ ทั้งยังหลับตาลง ตัวเองก็สามารถได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นระรัวราวกับกลองได้
มุมปากบุริศร์โค้งขึ้นเล็กน้อย
เขาจูบหน้าผากนรมนแผ่วเบาราวกับแมลงปอแตะผิวน้ำ หลังจากนั้นก็เอ่ยเสียงเบาว่า “เก็บเอาไว้ก่อน รอผ่านสามเดือนนี้ไปแล้ว ผมจะมาเก็บดอกเบี้ย”
เอ่ยจบแล้วก็ปล่อยนรมน
ความรู้สึกรุ่มร้อนรอบกายจางหายไป นรมนถึงได้ค่อยๆสูดลมหายใจลึก
“คนบ้า!”
เอ่ยจบแล้วเธอก็หมุนตัววิ่งออกไป
น่าขายหน้าจริงๆเลย!
เมื่อครู่เธอนึกว่าบุริศร์จะ…
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเหมือนผู้หญิงที่หมกมุ่น
ใบหน้าของนรมนร้อนฉ่าขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเห็นนรมนวิ่งออกไปอย่างหมดสภาพ บุริศร์ก็หัวเราะออกมาทันที
ภรรยาตัวน้อยของเขาคนนี้ ยังคงใสซื่อและน่ารัก ทำให้ผู้คนรักและทะนุถนอม
บุริศร์ส่ายศีรษะ นึกถึงคำพูดเมื่อครู่นี้ของนรมน ก็สวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย หลังจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาต่อสายไปหาอรรณพ
“ระยะนี้ยุ่งเรื่องอะไร”
“ยุ่งวุ่นวายไปเรื่อย”
เสียงของอรรณพที่ลอยออกมาจากทางด้านนั้นทุ้มต่ำ
“ฟังดูแล้วเหนื่อยมากนะ?”
ยากนักที่บุริศร์จะหยอกล้ออรรณพ
“มีอะไรก็รีบพูด จะผายลมก็ให้รีบผาย หงุดหงิดอยู่”
เห็นได้ชัดว่าอรรณพอารมณ์ไม่ดี
“ขอเบอร์โทรศัพท์ส่วนตัวของภรรยานายหน่อย”
“นายจะทำอะไร”
อรรณพระแวดระวังขึ้นมาทันที น้ำเสียงนั้นคล้ายกับว่าบุริศร์พูดว่าเกิดความสนใจในตัวรมิดา เขาจึงมีท่าทางเหมือนพกมีดมาด้วย
“อย่าเข้าใจผิด ฉันไม่ได้คิดจินตนาการอะไรกับภรรยานายทั้งนั้น ภรรยานายได้ซื้อห้องชุดไป และช่างไม่บังเอิญเอาเสียเลย ห้องชุดนั้นเป็นห้องของภรรยาฉัน แต่ถูกลูกสาวของพ่อแม่ที่เลี้ยงดูเธอมาแอบเอาไปขาย ภรรยาฉันอยากจะคุยเรื่องนี้กับภรรยานายสักหน่อย”
บุริศร์รีบเอ่ยจุดประสงค์ออกมาอย่างชัดเจน
อรรณพถึงได้โล่งใจ
“ฉันจะไปถามดู แล้วจะกลับมาตอบนาย”
เอ่ยจบแล้วก็มีเสียงวางโทรศัพท์ดังปึก คล้ายกับว่าถ้าพูดมากขึ้นอีกประโยคหนึ่ง บุริศร์จะสามารถทำอะไรกับภรรยาเขาได้อย่างนั้นแหละ
ถ้าอย่างนี้ไม่เรียกว่าความรัก บุริศร์ก็ไม่รู้แล้วว่าอะไรคือความรัก เพียงแต่อรรณพที่หัวรั้นกลับไม่ยอมรับว่าตัวเองรักภรรยาของตัวเองมาโดยตลอด
หลังจากนรมนวิ่งออกไปจากห้องนอนแล้วก็รู้สึกได้ว่าความร้อนบนใบหน้าลดลงไปบ้างแล้ว
ในตอนที่เธอกำลังผ่อนคลายอารมณ์อยู่นั้น จู่ๆชัยยศก็วิ่งเข้ามาจากด้านนอก
“คุณผู้หญิง บริษัทภาพยนตร์ดูเหมือนว่าจะจดทะเบียนไม่ได้ครับ