เป็นบุริศร์!
นรมนราวกับว่าเดาอะไรได้ ก็คาดไม่ถึงว่าจะได้เห็นฉากที่บุริศร์พาผู้หญิงคนอื่นเข้าบาร์มาด้วยตาตัวเองเร็วขนาดนี้
ในใจเธอเจ็บปวดราวกับน้ำตาแตก
นรมนถอยออกไปจากเวทีเงียบๆ ไปที่ห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว
เธอตบหน้าตัวเองด้วยน้ำเย็น เย็นเยือก เหมือนกับความรู้สึกของเธอในตอนนี้
มองเงาตัวเองในกระจก นรมนยิ้มหึหึขึ้นมา แต่ขอบตามีน้ำตาเอ่อออกมา
ความรักและการแต่งงานที่คิดไปเองว่าแข็งแกร่งไม่พังทลาย แต่กลับบอบบางเหลือทนในระหว่างที่ตั้งครรภ์
นรมนราวกับล้มลงในชั่วข้ามคืน แล้วยังเติบโตในชั่วข้ามคืน
เธอไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ในห้องน้ำมานานแค่ไหนแล้ว จนกระทั่งคมทิพย์โทรศัพท์เข้ามา เธอถึงตื่นจากความฝัน
เหมือนกับตกอยู่ในความฝันที่ลวงตา ตอนนี้ตื่นจากฝันแล้ว ตัวเองก็ควรจะเผชิญหน้าความเป็นจริงแล้ว
นรมนสูดหายใจลึก ตบหน้านิดหน่อย จากนั้นก็กดรับสายของคมทิพย์
“มีอะไรหรอ?”
“เธอไปไหนแล้ว? ทำไมบนเวทีมีฉันคนเดียว? เธอไม่รู้เลยว่าเมื่อกี้ตอนฉันลงมาประหม่าแค่ไหน นรมน อย่าเป็นแบบนี้สิ”
คมทิพย์พูดบ่นอย่างเอาแต่ใจ แต่ฟังออกว่าอารมณ์ของเธอไม่เลวเลย
น่าจะได้รับมูลเหตุมาเต็มบ้าน
ในใจนรมนดำดิ่ง แต่ก็ไม่หวังให้อารมณ์ของตัวเองมีผลกระทบต่อคมทิพย์ ยิ้มขึ้นอย่างเข้มแข็งทันที “เมื่อกี้ฉันไม่ค่อยสบายนิดหน่อย มาถึงห้องน้ำแล้ว เธอมาพยุงฉันไปโรงพยาบาลหน่อย”
เธอรู้ว่าเมื่อกี้คมทิพย์ลงทุนกับการร้องเพลงมาก ดูไม่น่าจะสังเกตเห็นบุริศร์ แต่ถ้ายังปล่อยให้เธออยู่ต่อ เก็บไว้ไม่ได้ก็จะเจอกัน
ด้วยอารมณ์ที่ระเบิดของคมทิพย์ นรมนไม่รู้ว่าเธอจะทำเรื่องอะไรออกมา ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจพาคมทิพย์ออกมา
เธอไม่เด็กแล้ว
เรื่องบางเรื่องก็จัดการได้ด้วยตัวเอง
คมทิพย์ได้ยินว่านรมนไม่สบาย ก็มีความสุขอย่างเมื่อกี้ไม่ได้ รีบวิ่งไปที่ห้องน้ำทันที
“นรมน เธอไม่เป็นไรใช่ไหม? เพราะฉันมีก๊าซในครรภ์หรือเปล่า? เธอดูฉันสิ ประมาทเกินไปแล้ว มักจะทำให้เธอเป็นห่วงฉันตลอด”
ใบหน้าคมทิพย์รู้สึกผิด
ใจที่เยือกเย็นของนรมนอบอุ่นขึ้นไม่น้อย
“ไม่เกี่ยวกับเธอ อย่าตกอกตกใจไปสิ”
นรมนตบบ่าของคมทิพย์ พูดอย่างเหนื่อยล้า “ฉันอยากกลับโรงแรมแล้ว คมทิพย์ วันนี้พอแค่นี้ก่อน ได้ไหม?”
“ได้ได้ได้ เธอเป็นแบบนี้แล้ว ฉันกล้ากดดันเธอซะที่ไหนล่ะ? นี่ถ้าถูกบุริศร์รู้เข้า จะไม่ฉีกฉันหรอ?”
คมทิพย์พูดพึมพำ นี่ก็ทำให้นรมนเข้าใจ เธอยังไม่เห็นบุริศร์กับผู้หญิงคนนั้นเข้ามา
แบบนี้ดีที่สุด
นรมนคิด ปล่อยให้คมทิพย์พาตนออกไปจากบาร์
ตอนที่บุริศร์เข้ามาไม่ได้สังเกตคมทิพย์บนเวที จนกระทั่งเพลงหนึ่งร้องจบ ในตอนที่ทุกคนต่างไชโย เขาถึงเหลือบมองไปบนเวทีโดยไม่รู้ตัว ในตอนที่มองเห็นคมทิพย์ก็ชะงักเล็กน้อย
ทำไมเธอมาอยู่ที่นี่?
แทบจะไม่รู้ตัว บุริศร์มองหาซ้ายขวา แต่ก็มองไม่เห็นเงาของนรมน ถึงตรงนี้เขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างเฝ้ามองการเคลื่อนไหวของเขา ยิ้มอย่างมีเสน่ห์แล้วพูดขึ้น “ทำไม? เจอภรรยาของคุณหรอ?”
ระหว่างที่พูด มือของเธอก็ไปแตะที่บ่าของเขาเบาๆ ลมหายใจอุ่นๆเป่าผ่านหูของบุริศร์
ผู้ชายทั่วไปไม่มีทางต้านทานการหยอกล้อแบบนี้ของเธอได้เด็ดขาด!
หญิงสาวมีความมั่นใจมาก แต่ในวินาทีต่อมานิ้วมือของเธอก็แทบจะถูกหักทิ้ง
“โอ้ย ประธานบุริศร์ เจ็บ!”
แม้ว่าหญิงสาวจะไม่ได้กรีดร้อง แต่ก็หน้าซีดไปหมดแล้ว
บุริศร์มองเธอแล้วพูดอย่างเย็นชา “อย่าได้คืบจะเอาศอก โซฟี เรื่องเมื่อคืนฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับเธอนะ”
“คิดบัญชีอะไร? คนเขาไม่รู้เรื่อง”
โซฟีแม้ว่าจะเจ็บแทบตาย แต่ก็ยังดัดเสียงหยอกล้อต่อ
เธอไม่เชื่อหรอก ว่าในโลกนี้จะมีผู้ชายที่เธอโซฟีพิชิตไม่ได้
บุริศร์ดวงตาเย็นชาเล็กน้อย แรงในมือก็หนักขึ้น
“อ้ะ!”
โซฟีเหงื่อเย็นๆไหลทันที
นิ้วมือเล็กๆของเธอ หักแล้ว!
โซฟีสั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้อีกแล้ว กระทั่งรุนแรงเล็กน้อย
“บุริศร์ นายกล้าทำร้ายฉัน? แบบนี้เรื่องที่นายอยากรู้เกรงว่าชาตินี้คงไม่ได้รู้แล้ว”
“งั้นก็ไม่ต้องรู้แล้ว”
เสียงของบุริศร์เย็นราวกับน้ำแข็ง
โซฟีในที่สุดก็ตระหนักได้ว่าตนเจอกับใครเข้า อดไม่ได้ที่จะถาม “หมายความว่าไง? นายไม่อยากรู้แล้ว?”
“ตอนนี้คนที่รู้เรื่องนั้นมีเธอแค่คนเดียว ในเมื่อฉันไม่รู้ งั้นก็ไม่ให้คนอื่นรู้ วิธีเดียวที่จะทำให้ทุกคนไม่รู้ ก็คือการให้เธอหุบปาก เธอคิดว่าใครจะเก็บความลับได้?”
บุริศร์ยิ้มเย็นชา แต่ราวกับรอยยิ้มของซาตาน ทำให้โซฟีกลัวจนหันตัววิ่ง
แต่เธอยังไม่ทันวิ่งออกจากบาร์ ก็ถูกผู้ชายสองคนยืนบังทางเดินไว้
“พวกนายถอยไป!”
โซฟีอยากที่จะดิ้นรนออกไป กลับถูกผู้ชายสองคนปิดปากพาออกไป
บุริศร์ออกมาจากบาร์ มาถึงหลังร้าน
โซฟีมองไปที่บุริศร์ด้วยความหวาดกลัวส่งเสียงร้องอู้อี้
บุริศร์โบกมือ
ผู้ชายปล่อยปากของโซฟี
โซฟีรีบถามขึ้น “เพราะอะไร? เมื่อวานนายไม่ได้มีท่าทีแบบนี้ นายกระทั่งมีความรู้สึกอย่างแรงกล้าที่จะรู้เรื่องทั้งหมด”
“ใช่ เมื่อวานฉันอยากรู้มากจริงๆ แต่ว่าเธอทำความผิดพลาดครั้งใหญ่”
ใบหน้าของบุริศร์เย็นราวน้ำแข็ง แม้แต่อากาศรอบด้านยังลดลง ทำให้โซฟีตัวสั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ความผิดพลาดอะไร?”
“เธอไม่ควรเหลือสัญลักษณ์ไว้บนตัวฉัน และๆไม่ควรพยายามรั้งฉันไว้ โซฟีเธอทำให้ภรรยาฉันเข้าใจฉันผิด หล่อนโกรธมาก”
คำพูดของบุริศร์ทำให้โซฟีชะงักโดยตรง
“แค่นี้? แค่เพราะเรื่องนี้นายก็จะเอาชีวิตฉัน? บุริศร์ ผู้ชายอย่างพวกนายไม่ใช่ว่าชอบเก็บเมียไว้ที่บ้าน แล้วออกไปหาชู้ข้างนอกหรอ?”
“ฉันต้องการแค่ภรรยาฉันคนเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่ใครก็ตามที่ทำร้านหล่อน ฉันทนไม่ได้ เมื่อวานฉันอยากรู้เรื่องนั้นมากจริงๆ แต่ตอนนี้ดูท่า ไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าความสุขของภรรยาฉันแล้ว ดังนั้นเมื่อเรื่องที่เธอรู้ทำให้หล่อนทุกข์ใจ งั้นก็ฝังเธอไปกับเรื่องนั้นเลยดีกว่า”
บุริศร์พูดจบก็หันตัวเดินจากไปทันที
ด้านหลังมีเสียงอ้อนวอนของโซฟีดังสวนมา แต่สำหรับเขาแล้วไม่เกิดเป็นคลื่นใดๆ
ไม่นานนัก เสียงนั้นก็อ่อนลง จนกระทั่งไม่มีเสียงลมหายใจ
“เอาไปทิ้งในทะเล”
บุริศร์พูดอย่างเย็นชา ไร้ซึ่งความไม่เหมาะสมใดๆ
แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่ใช่คนดี
หลังจากนรมนกลับมาถึงโรงแรมแล้ว ด้วยความที่ร่างกายไม่สบาย ก็กลับไปที่ห้องด้วยความรวดเร็ว โยนตัวเองลงไปบนเตียงใหญ่ทันที
เตียงเรียบร้อยมาก และเย็นมาก
สมองของนรมนเอาแต่ฉายภาพที่เห็นเมื่อไม่นานมานี้
ผู้หญิงคนนั้นมีเสน่ห์แบบนั้น สวยงามขนาดนั้น มีเสน่ห์แบบที่เธอไม่มี
บุริศร์ชอบผู้หญิงประเภทนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?
นรมนไม่รู้ แต่รู้สึกใบหน้ามีอะไรบางอย่างไหลลงมา
ยกมือขึ้นลูบ คือน้ำตา
หึหึ!
ท้ายที่สุดเธอก็เปราะบาง ร้องไห้ซะแล้วล่ะ
นรมนฝังตัวเองลงไปในหมอน ร้องไห้อย่างไม่มีเสียง
ร้องไห้จนเหนื่อยแล้ว เหนื่อยแล้ว เธอดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเองไว้โดยตรง หดตัวเป็นนกกระจอกเทศแล้วหลับไป
ไม่รู้หลับไปนานเท่าไหร่ สัมผัสได้ว่ามีคนดึงผ่าห่มของเธอออก ลูบหน้าผากของเธอ ไม่รู้พูดว่าอะไร ดูเหมือนมีความกระวนกระวาย
นรมนเอาแต่รู้สึกง่วงมากเหนื่อยมาก ไม่อยากตื่นขึ้นมา พลิกตัวไปนอนต่อทันที
บุริศร์ตกใจแทบแย่แล้ว
นรมนเป็นไข้
ไข้รุนแรงมาก
“นรมน เธอตื่นก่อน ฉันพาเธอไปโรงพยาบาล”
“โรงพยาบาล” คำคำนี้กระตุ้นสติของนรมน
ลูก!
ในตอนที่เธอเห็นบุริศร์กับโซฟีอยู่ด้วยกัน เธอยังไม่ได้พิจารณาถึงลูก ตอนนี้เพราะคำว่าโรงพยาบาลนึกถึงลูกที่ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง เธออดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา
“ฉันไม่ไป! ฉันไม่ไปโรงพยาบาล! ฉันไม่ไป!”
แม้ว่าร่างกายที่เป็นไข้จะไร้เรี่ยวแรง แต่ในนาทีนี้ นรมนเหมือนถูกชาจพลัง ดิ้นรนต่อสู้ด้วยแรงทั้งหมด ในตอนที่ดิ้นไม่หลุดก็เอื้อมนิ้วออกไปข่วนอีกฝ่าย
“แคว่ก—“
บุริศร์ไม่ได้ป้องกัน ถูกนรมนข่วนเป็นทาง
ทันใดนั้นเลือดที่เผยออกมาบนใบหน้าที่หล่อเหลา
บุริศร์ไม่คาดคิดเลยว่า นรมนที่สง่างามอยู่เสมอจะมีศักยภาพในการเป็นผู้หญิงไร้เหตุผล
เขาหลบเลี่ยงมือทั้งสองข้างของนรมน พูดกับเธอด้วยเสียงอ่อนโยน “โอเค ไม่ไปโรงพยาบาล พวกเราไม่ไป ฉันพาเธอไปอาบน้ำ”
ได้ยินคำว่าไม่ไปโรงพยาบาล นรมนก็หยุดการโจมตีลง แต่กลับพูดอย่างน้อยใจราวกับเด็กน้อย “ฉันไม่อาบน้ำ”
“งั้นเราไปกินข้าวกัน?”
“ไม่กิน!”
“ดื่มน้ำ?”
“ไม่ดื่ม”
เธอเหมือนกับเด็กขี้งอน บุริศร์ไม่ว่าพูดอะไรก็คัดค้าน
บุริศร์รู้สึกทำอะไรไม่ได้แต่ก็มองไปที่นรมนอยากปวดใจ ถามขึ้นกะทันหัน “เธอเห็นฉันอยู่กับผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม?”
นรมนไม่ใช่ผู้หญิงที่จะโวยวายโดยไร้เหตุผล จู่ๆเป็นแบบนี้ขึ้นมาจะต้องมีเหตุผลแน่ บุริศร์นึกถึงเรื่อยรอยลิปสติกบนเสื้อเชิ้ตเมื่อวานขึ้นมาได้ รวมเข้ากับพฤติกรรมของเธอเมื่อคืน ก็ล่วงรู้ว่านรมนเหมือนจะเข้าใจอะไรแล้ว
ได้ยินคำถามของบุริศร์ เส้นในสมองของนรมนก็ส่งเสียงแตก “เปรี๊ยะ”
“บุริศร์ นายไสหัวออกไป! ไป! ฉันนรมนจะไม่แบ่งผู้ชายหนึ่งคนกับผู้หญิงคนอื่น มันทำให้ฉันขยะแขยงนายรู้ไหม? ทำไมนายเป็นแบบนี้? ถ้ามีอะไรที่ฉันทำไม่ดี หรือว่านายไม่รักฉันแล้ว ฉันขอให้นายบอกฉัน ฉันจะจากไปอย่างรู้ตัวเอง นายไม่ควรทำให้ฉันลำบากแบบนี้ แล้วนายก็ไม่ควรดูถูกความรักระหว่างเราแบบนี้ นายรู้ไหม? ความรักนั้นสวยงามมาก ต่อให้วันหนึ่งความรักไม่อยู่แล้ว ฉันก็หวังว่าพวกเราจะสามารถจากกันได้ด้วยดี แต่ไม่ใช่ถูกนายหลอกล้อเล่นเป็นคนโง่แบบนี้”
“ฉันเปล่า ฉันรักเดียวใจเดียวกับเธอมาตลอด ไม่เคยคิดที่จะหักหลังความรักระหว่างเราเลย”
บุริศร์พูดด้วยความจริงจังมาก ในดวงตามีแต่ความลึกซึ้ง น่าเสียดายที่นรมนที่มีไฟแผดเผามองไม่เห็นเลย
“ฉันไม่ฟัง! นายกำลังหลอกฉันอีกแล้ว นอกใจครั้งนึงก็จะมีอีกเป็นร้อยครั้ง บุริศร์ ระหว่างเรามันจบแล้ว! ฉันจะหย่ากับนาย!หย่า!”
ในตอนที่นรมนพูดคำว่าหย่าออกมา หัวใจเจ็บปวดทรมาน แล้วสีหน้าของบุริศร์ก็ซีดขาวลง
“เธออย่าแม้แต่จะคิด”
เขาพูดอย่างดุร้าย จากนั้นก็อุ้มนรมนที่โจมตีทั้งคว้าทั้งข่วนขึ้นมา เปิดประตูห้องเดินไปด้านนอกทันที