“ปล่อยมือเถอะค่ะ”
นรมนไม่หันหน้ามา
เธอไม่กล้าหันกลับมา และหันกลับมาไม่ได้ กลัวว่าเมื่อตัวเองหันมาแล้วจะจากไปไม่ได้
รักคนคนหนึ่งบางทีต้องการเวลาแค่หนึ่งวินาที แต่ลืมคนคนหนึ่งอาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิต
เธอรักบุริศร์ แต่ไม่มีทางยอมรับผู้ชายที่เธอรักมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่น
รอยลิปสติกนั่นเหมือนเหล็กร้อน ประทับแน่นในใจของเธอ รอยแผลบอบช้ำ เลือดไหลหยด ในใจเจ็บปวดรวดร้าว ยากที่จะลบเลือนได้
แต่บุริศร์ไม่อธิบายอะไรทั้งนั้น
ถ้าหากไม่มีอะไร ทำไมไม่อธิบายอะไรสักคำ
เขาไม่เคยโกหกเธอ ไม่อธิบายแปลว่ายอมรับกลายๆ อย่างนั้นหรือ
นรมนอยากจะสลัดให้หลุด แต่ทำอย่างไรก็ไม่ได้
“บุริศร์ คุณอยากจะรั้งอะไรไว้อีก ตอนที่คุณทำเรื่องนั้น คุณคิดถึงความรู้สึกของฉันมั้ย”
“ผมไม่เคยทำอะไรที่ผิดต่อคุณ”
บุริศร์พูดแล้ว
นรมนฝืนยิ้ม น้ำตากลิ้งที่ขอบตา
“ทำไมคุณไม่อธิบายล่ะคะ รอยลิปสติกนั้นได้มาตอนนอนด้วยกันหรือไง คุณเป็นอะไรกับเธอ”
“ไม่ได้เป็นอะไรกัน ผมไม่ได้เป็นอะไรกับเธอทั้งนั้น”
รอยยิ้มที่มุมปากนรมนขมขื่น
“ที่แท้ก็ชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ได้แค่ช่วงท้องสามเดือนแรก ถึงกับทนไม่ได้หรือไง หรือคุณจะบอกว่าฉันเป็นคนที่ยอมรับให้คุณมีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นตอนฉันท้องหรือไง”
นรมนหันกลับมาแล้ว ดวงตาคู่นั้นมีคราบน้ำตา
“ฉันอยากจะไว้หน้าเราทั้งคู่ แต่ทำไมคุณต้องทำอย่างนี้ ในเมื่อทำแล้ว ก็อย่าคิดรั้งไว้อีก ฉันนรมนเป็นคนยังไงคุณไม่รู้หรือ ผิดพลาดบางอย่างให้อภัยได้ แต่เรื่องหลักการบางอย่าง ขอโทษด้วยฉันให้อภัยไม่ได้”
นรมนสะบัดมือบุริศร์ออก
ไม่ใช่เพราะเธอมีแรงมาก แต่เป็นเพราะบุริศร์ไม่อยากทำร้ายเธอ
“ถึงยังไงผมก็ไม่หย่า!”
บุริศร์สุดท้ายแล้วก็ทำได้แต่ยืนยันคำนี้
“ตามใจคุณเถอะ”
นรมนก็ไม่ขอร้องอีก เธอออกไปโดยมีคมทิพย์ประคอง
ข้างนอกมีฝนตกปรอยๆ ไม่หนักนัก แต่เมื่อโดนฝนก็รู้สึกหนาวได้
บุริศร์ส่งเสื้อคลุมให้นรมน พูดเสียงแผ่วเบา “ต่อให้คุณไม่ชอบของที่เป็นของผม แต่อย่าทรมานตัวเอง”
ครั้งนี้ นรมนไม่ปฏิเสธ
เธอกับคมทิพย์เรียกรถแท็กซี่คันหนึ่ง ออกจากโรงพยาบาล
มองจากกระจกมองหลังในรถก็มองเห็น บุริศร์ยืนท่ามกลางหมอกฝนสายตาส่งเธอจากไป
สายตาของเขาเคร่งขรึม มองไม่ออกว่ารู้สึกอย่างไร แต่ทำให้รู้สึกสงสาร
เขาต่างหากที่เป็นคนนอกใจ ทำไมเธอรู้สึกว่าตัวเองเสียใจและอาลัยอาวรณ์ล่ะ
นรมนรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เรื่อง
เธอบังคับให้ตัวเองหลับตา นั่งพิงพนักงีบหลับ
คมทิพย์เห็นเธอเป็นอย่างนี้ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้าเสียใจ
“บางทีเขาอาจจะมีความลำบากใจบางอย่างนะ”
“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว คมทิพย์ ฉันเหนื่อยเหลือเกิน”
นรมนไม่พูดอะไร
คมทิพย์ไม่รู้จะพูดอะไรดี พานรมนกลับไปบ้านเช่า
นรมนนอนลง หลับไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ทำให้คมทิพย์ตกใจ ถ้าไม่เป็นเพราะค่าต่างๆ ปกติ คมทิพย์คิดจะพาเธอไปโรงพยาบาลอีกรอบแล้ว
เห็นท่าทางคมทิพย์เป็นห่วง นรมนพูดแผ่วเบา “ฉันไม่เป็นอะไร แค่รู้สึกโหวงๆ ฉันจำได้เธอบอกว่ามีนักประพันธ์ติดต่อมา เป็นยังไงบ้าง”
เมื่อได้ยินนรมนถามถึงเรื่องของตัวเอง คมทิพย์ก็กลัดกลุ้มใจ “เวลาอะไรแล้ว เธอยังมัวแต่ถามเรื่องฉันอีก ตอนนี้สำคัญที่สุดคือดูแลตัวเองรู้มั้ย”
“ฉันถามเธอว่าไง”
นรมนยืนกรานที่จะรู้เรื่องของเธอ
คมทิพย์จึงเล่าให้ฟัง “นักประพันธ์คนนั้นก็คือสุดยอดนักประพันธ์ริชาร์ดที่พวกเราไปหา เขาได้ฟังเพลงของฉันแล้ว วางแผนจะฝึกฉันเข้มข้นหนึ่งเดือน หลังจากนั้นจะให้ฉันออกอัลบั้ม”
“ข่าวดีสุดๆ เธอรีบไปเก็บข้าวของเถอะ”
“งั้นเธอจะทำยังไง ร่างกายเธอยังไม่ค่อยหายดีนะ”
ไม่ว่าพูดอย่างไรคมทิพย์ก็ไม่เห็นด้วย
นรมนพูดเสียงเบา “เป้าหมายของพวกเราคืออะไร คมทิพย์ นึกถึงพ่อแม่ น้องชายของเธอ แล้วยังมีพฤกษ์อีก เงินเยอะขนาดนั้นรอเธออยู่นะ เธอชักช้าได้หรือ ฉันไม่ได้ป่วยหนักอะไร ก็แค่แท้งเท่านั้น พักฟื้นอีกหน่อยก็หายแล้ว เธออยู่กับฉันก็ไม่มีประโยชน์ ฉันยังพอมีเงิน เธอหาพยาบาลพิเศษมาดูแลฉันก็พอ เธอไปทำงานของเธอเถอะ ช่วงนี้ยังเปิดบริษัทผลิตภาพยนตร์ไม่ได้ เธอต้องพึ่ง ริชาร์ด แนะนำเธอเซ็นสัญญากับบริษัทผลิตภาพยนตร์ก้าวหน้าในอาชีพของเธอ”
“ฉันจะทิ้งเธอไปตอนนี้ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ฉันจะมีโอกาสอย่างนี้ได้ยังไง นรมน ต่อให้ฉันไป ก็ต้องรอให้เธอหายดีก่อน”
ไม่ว่าพูดอย่างไรคมทิพย์ก็ไม่ยอมทิ้งนรมนไว้คนเดียว
นรมนยิ้ม “ฉันไม่เป็นอะไรจริงๆ ถ้าเธอไม่วางใจจริงๆ ล่ะก็ งั้นเธอช่วยไปตามคนหนึ่งมาหน่อย”
“เธอหมายถึงใคร”
“ปาณี ตั้งหลายวันแล้ว อาการบาดเจ็บของเธอน่าจะหายแล้ว ตอนนี้ฉันคิดจะหย่ากับบุริศร์ รอบตัวฉันมีแต่คนของเขา มีแต่ปาณีกับนภดลที่เป็นคนของฉัน ตอนนี้คนที่ฉันไว้ใจก็มีแต่พวกเขา”
คำพูดของนรมนทำให้คมทิพย์นึกถึงปาณีพยาบาลพิเศษคนนั้น
“ได้ ถ้าเธอมาฉันจะไป ก่อนเธอมาจะไล่ฉันไปไม่ได้”
คมทิพย์ยืนยันหนักแน่น
นรมนก็ไม่เถียงกับเธออีก พยักหน้าแล้วนอนต่อ
คมทิพย์เห็นเธอเป็นอย่างนี้ ก็สงสารมาก แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร
เรื่องความรู้สึกนอกจากคนสองคนแล้ว คนอื่นไม่อาจทำอะไรได้
ครั้งนี้นรมนหลับสบาย
กระทั่งเธอตื่นอีกครั้ง ก็เห็นว่าปาณีมาอยู่ต่อหน้าเธอแล้ว
“เธอมาเร็วขนาดนี้เลยหรือ”
“ประธานบุริศร์ส่งคนไปรับพวกเรามาค่ะ”
“พวกคุณหรือ”
นรมนได้ยินปาณีพูดอย่างนี้ ก็อึ้งไปนิดหนึ่ง
ปาณีพยักหน้า
“ค่ะ ฉันกับนภดล และยังมีคนของนภดลด้วย ประธานบุริศร์บอกว่าไม่ว่าคุณตัดสินใจอย่างไร ฉันกับนภดลเป็นคนของคุณ ใช้งานได้ตลอด ไม่ต้องลำบากใจ”
นรมนไม่พูดอะไร
บุริศร์เข้าใจเธอดี และยังคงเอาใจเธอ แต่การเอาใจใส่เช่นนี้ในตอนนี้กลับทำให้เธอรู้สึกไม่ดี
“นภดลไปไหนแล้วล่ะ”
เธอรีบเปลี่ยนหัวข้อ กลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่ได้
ปาณีรีบตอบ “นภดลไปสืบเรื่องอุบัติเหตุค่ะ ได้ยินว่าอีกฝ่ายขับรถทะเบียนปลอม คนขับรถหนีไป กล้องวงจรปิดก็ไม่ชัด เขาบอกว่ามีวิธีการสืบได้ค่ะ”
นรมนพยักหน้า
ช่วงนี้นภดลจัดการเรื่องต่างๆ ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
เธอไม่ถามอีก และไม่คิดซักถามมากมาย แค่ได้ผลลัพธ์ก็พอ
“เธอหายดีแล้วยัง”
“หายแล้วค่ะ ขอบคุณคุณนายที่เป็นห่วง”
ปาณียิ้มหวาน ทำให้นรมนอารมณ์ดีขึ้นไม่น้อย
“ฉันหิวแล้ว ทำอะไรให้ฉันกินหน่อยได้มั้ย คมทิพย์ไปแล้วหรือ”
“ค่ะ นักประพันธ์โทรมาให้เธอไปหา เดี๋ยวฉันไปทำอะไรอร่อยๆ ให้คุณนายกิน คุณนายอยากกินอะไรคะ”
“อะไรก็ได้ ฉันกินอะไรไม่ลง ต้มข้าวต้มให้ฉันเถอะ”
นรมนไม่ได้อยากกินอะไรเป็นพิเศษ
ปาณียังทำอาหารอื่นๆ ให้เธอด้วย
นรมนกินไปไม่กี่คำก็อิ่ม
ปาณีไม่บังคับเธอกินต่อ ตอนที่นรมนตื่นก็คุยเล่นกับเธอ เรื่องซุบซิบบันเทิงและอื่นๆ จิตใจของนรมนผ่อนคลายไม่น้อย
ช่วงเวลานี้ บุริศร์ไม่มาหาเธอ และไม่โทรหาเธอ
แม้ว่านรมนจะรู้สึกยากลำบากที่ต้องทนความคิดถึง แต่รู้สึกว่าบุริศร์ทำอย่างนี้ก็ถือว่าถูกต้องแล้ว และฉลาดทีเดียว
ในเมื่อตัดสินใจแยกกันแล้ว เจ็บสั้นดีกว่าเจ็บยาว อย่างนี้ดีที่สุดแล้ว
นรมนพักฟื้นยี่สิบกว่าวันในที่สุดก็ลงจากเตียงแล้ว
กลางดึกเธอนอนไม่หลับ เดินมาที่ริมหน้าต่าง อยากจะเปิดม่านออก ก็เห็นรถคันหนึ่งจอดอยู่ข้างล่าง ชายหนุ่มยืนพิงรถ
กลางดึกอากาศหนาวเย็น ชายหนุ่มยืนพิงประตูรถ บุหรี่สว่างรางๆ
ใต้แสงไฟ ที่เท้าของชายหนุ่มมีกองขี้บุหรี่
นรมนรีบหลบหลังผ้าม่าน
บุริศร์!
เขายังไม่ไป!
นรมนบอกไม่ถูกตัวเองรู้สึกอย่างไร แต่รู้สึกเหมือนขอบตาถูกแทงจนรู้สึกเจ็บ
เธอหลบหลังผ้าม่านมองบุริศร์ที่อยู่ข้างล่าง เห็นบนไหล่เขามีละอองน้ำค้างบางๆ ขนตาเขาก็เปียกชื้น จุดบุหรี่สูบไม่หยุดแสงริบหรี่ กระทั่งท้องฟ้าสว่าง
ปาณีตื่นนอนแล้ว
เธอเดินออกไปนอกบ้าน พูดอะไรบางอย่างกับบุริศร์ จากนั้นบุริศร์ก็เข้าไปในรถ
ไม่นานนัก เขาก็เดินออกมา
ในกล่องที่ถือมามีผักผลไม้ทั้งวันของนรมน
ปาณีถือของนั้นเข้าไปในบ้าน
บุริศร์มองไปที่ตำแหน่งหน้าต่างห้องนรมนแวบหนึ่ง ขับรถออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์
นรมนหลับตา
เธอรอเสียงเครื่องยนต์เงียบหายไป ถึงได้กลับไปนั่งบนเตียง
ตอนที่ปาณีเข้ามา เห็นนรมนก็ตกใจ
“คุณนาย ตื่นเช้าจังค่ะ”
“ปาณี เธอเป็นคนของใคร”
นรมนจู่ๆ ถามแบบนี้ ทำให้ปาณีแปลกใจ
“ทำไมคุณนายถามอย่างนี้ล่ะคะ”
“ถ้าเธอเป็นคนของฉัน ต่อไปห้ามรับเงินบุริศร์อีกแม้แต่แดงเดียว ถ้าทำไม่ได้ เธอก็ไปซะ”
นรมนพูดเช่นนี้ ปาณีก็ตกตะลึง
“คุณนาย ทำไมล่ะคะ ประธานบุริศร์แค่เป็นห่วงคุณ กลัวคุณจะได้สารอาหารไม่พอ ถึงได้…”
“ถ้าฉันจำไม่ผิด เธอเป็นพยาบาลไม่ใช่หรือ ฉันควรกินอะไรที่มีสารอาหาร เธอไม่รู้หรือ หรือจะบอกว่าเงินของฉันไม่พอให้เธอซื้อของ”
นรมนสีหน้าเคร่งขรึม
ปาณีลนลานทันที
“คุณนาย อย่าโกรธเลยค่ะ ฉันแค่คิดว่าระหว่างคุณกับประธานบุริศร์ยังเป็นไปได้ ฉันดูออกในใจประธานบุริศร์มีแต่คุณ คุณก็ยังไม่ได้หมดรักประธานบุริศร์ พวกคุณทรมานกันไปมา ทำไมล่ะคะ”
“ฉันให้เธอเป็นคนตัดสินใจเมื่อไหร่”
นรมนหงุดหงิด
ปาณีรู้ดี นรมนโกรธแล้วจริงๆ
“ขอโทษค่ะ คุณนาย ฉันไม่กล้าทำอีก”
เธอรู้อารมณ์ของนรมน ตอนนี้เธอต้องเลือกอยู่กับนรมน เพียงแต่ในใจรู้สึกค่อนข้างเห็นใจบุริศร์
“อย่าให้ฉันเจอว่ามีครั้งหน้าอีกล่ะ”
นรมนทำมือให้เธอออกไป
เธอรู้สึกเหนื่อยล้าเหลือเกิน
ตอนนี้เอง นภดลกลับมา ไม่ใช่แค่กลับมา แต่ยังนำข่าวที่นรมนอยากรู้ตลอดมารายงานด้วย