เมื่อจอชได้ยินบุริศร์ถามถึงนรมน ก็ขมวดคิ้วทันที
“แกเป็นอะไรกับเธอ?”
สิ้นสุดคำพูดจอช มือบุริศร์ก็เหวี่ยงออกไปทันที
ตบนี้ทำให้จอชรู้สึกมึนงงเล็กน้อย
ระหว่างที่บุริศร์ถามเกี่ยวกับนรมน ก็มีคนคนหนึ่งมายังสถานที่กักขังของนรมนอย่างเงียบๆ
เป็นเวลานานขนาดนี้แล้ว ในที่สุดนรมนก็ได้ยินเสียงมีคนเข้ามา
“พวกแกจะทำอะไรกันแน่? ต้องการฆ่าต้องการตัดเนื้อเพื่อเอาสนุกใช่ไหม?”
นรมนทั้งหิวทั้งกระหายน้ำ ในขณะนี้เสียงที่พูดออกมาก็แหบพร่าเล็กน้อย
คนที่มาถึงก็ไม่พูด หวดแส้บนร่างกายนรมนทันที
เมื่อแส้นี้หวดลงมา นรมนก็เปล่งเสียงครวญครางทันที
แม่งโคตรเจ็บ!
เสื้อผ้าบินขึ้นบินลง คราบเลือดกระเซ็นออกมา ในอากาศคลุ้งไปด้วยกลิ่นเลือด
นรมนกระตุกทั้งร่าง
เพราะเธอถูกปิดตา มองไม่เห็นว่าคนตรงหน้าคือใคร แต่อีกฝ่ายไม่พูดจา คงมีความเกลียดชังกับตนสินะ?
แต่คนที่เป็นศัตรูกับเธอจะเป็นใครได้?
“แกเป็นใคร?”
นรมนเกร็งร่างกายถามขึ้นหนึ่งประโยค สิ่งที่ทักทายเธอคือแส้ครั้งที่สอง
แส้ครั้งนี้รุนแรงกว่าครั้งแรกมาก
นรมนรู้สึกว่าตัวเองกำลังจะร้องไห้ แต่เธอทำไม่ได้
สิ่งที่อีกฝ่ายอยากเห็นคือสภาพเธอร้องไห้อย่างเศร้าโศกใช่ไหม?
เธอก็จะไม่ทำให้พวกมันสมความปรารถนา
จมูกนรมนได้กลิ่นน้ำหอมนิดหน่อยอย่างว่องไว
กลิ่นน้ำหอมนี้ดูคุ้นเคย
หัวใจนรมนเต้นตึกตัก
“เนตรา?”
เมื่อเธอตะโกนชื่อนี้ออกมา แส้ที่สามก็ฟาดใส่ร่างนรมน
ครั้งนี้นรมนแทบเป็นลม
แส้นี้มันมีหนาม เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเกลียดเธอเข้ากระดูก
ครั้งนี้นรมนแทบหายใจไม่ออก เลือดจำนวนมากติดอยู่ในลำคอ เจ็บแสบปวดร้อน
“เนตรา! แกคือเนตรา!”
นรมนคุ้นเคยกับกลิ่นน้ำหอมเนตรา ผู้ที่เกลียดตนได้มากขนาดนี้ อยากฆ่าตนให้ตายก็มีแค่เนตราเท่านั้น
เนตราเห็นนรมนเรียกชื่อตัวเองออกมา ขณะที่จะยกแส้เตรียมฟาดนรมนอีกครั้ง ด้านนอกจู่ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังเข้ามาระยะหนึ่ง
“คุณครับ มีคนมา เรารีบไปกันเถอะ”
เนตรามองนรมนตรงหน้าด้วยความขุ่นเคือง แล้วพูดอย่างเย็นชา “ฉันอยากฆ่ามัน!”
“คนที่มาคือบุริศร์! คุณครับ ถ้าเราไม่หนีก็จะหนีไม่ได้แล้ว!”
อีกฝ่ายแทบจะกึ่งลากกึ่งดึงเนตราออกไป
ทั้งร่างนรมนเจ็บปวดแสบปวดร้อน ร่างกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้
เนตราคนนี้ แส้สามทีในวันนี้เธอจะต้องได้รับมันคืนไม่ช้าก็เร็ว
ในที่สุดด้านนอกก็มีเสียงฝีเท้าวุ่นวายดังขึ้น
“คุณนายน่าจะอยู่ที่นี่”
เมื่อได้ยินเสียงชัยยศ สุดท้ายนรมนก็เป็นลมอย่างทนไม่ไหว
บุริศร์เตะประตูเปิดออก
เมื่อเห็นนรมนเลือดท่วมร่าง ทั้งร่างเขาก็แทบบ้า
“นรมน!”
เขาก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าวแก้มือและเข้าให้นรมน
นรมนตกลงมาในอ้อมแขนเขาทันทีเหมือนตุ๊กตาผ้าขี้ริ้ว
กลิ่นเลือดรุนแรงทำให้บุริศร์โกรธจนเลือดพลุ่งพล่าน
เขาอุ้มนรมนขึ้นมาอย่างเร่งรีบแต่ระมัดระวัง ยกเท้าวิ่งออกไปข้างนอก
“รีบขับรถไปโรงพยาบาล!”
ชัยยศก็ตกตะลึงกับภาพตรงหน้าเช่นกัน
ราเชนที่ได้รับข่าวก็รีบมาเมื่อเห็นนรมนอยู่ในสภาพนี้ หัวใจก็เจ็บปวดอย่างรุนแรง
“นรมนเธอ……”
“ไสหัวออกไป!”
บุริศร์ตาสองข้างแดงก่ำ เหมือนสัตว์ป่าตัวหนึ่งที่โกรธแค้น
ซินดี้รู้สึกเสียใจเล็กน้อยแทนราเชน อยากพูดอะไรบางอย่าง แต่ราเชนห้ามเอาไว้
รถบุริศร์อยู่ด้านหน้า รถราเชนตามอยู่ด้านหลัง คนกลุ่มหนึ่งไปโรงพยาบาลอย่างเอิกเกริก
เมื่อนรมนถูกเข็นเข้าไปในห้องฉุกเฉิน บุริศร์อยากเข้าไป แพทย์ขัดขืนเขาไม่ได้ จึงให้ชุดปลอดเชื้อเขาสวมใส่
หลังจากบุริศร์เข้าไปแล้ว แพทย์กำลังตัดเสื้อผ้านรมน แต่เลือดมันติดอยู่กับเสื้อผ้า พอแตะลงไปนรมนก็กระตุกด้วยความเจ็บ ถึงจะหมดสติไปแล้ว ประสาทสัมผัสของร่างกายก็ยังว่องไวมาก
เห็นสิ่งเหล่านี้ บุริศร์ก็มีจิตใจอยากฆ่าคน
“เบาหน่อย!”
ท่าทางทรงเกียรติน่ากลัวของบุริศร์ แพทย์และพยาบาลรู้สึกว่าบรรยากาศรอบๆ ถึงจุดเยือกแข็ง แต่ละคนเหงื่อแตกพลั่ก แต่ไม่มีใครกล้าเริ่มลงมือ
รมิดาได้ยินว่านรมนจะผ่าตัด ก็รีบมาทันที เมื่อเห็นบุริศร์อยู่ในห้องผ่าตัดก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ก็ยังเปลี่ยนตัวแพทย์
“ฉันเอง”
มีฝีมือผ่าตัดของรมิดา ท่าทีของบุริศร์ก็ผ่อนคลายลง แต่ก็ยังไม่ละสายตาไปจากนรมนตลอดเลย
สามแส้นี้เฆี่ยนตีจนเนื้อตัวแตกยับ แส้สุดท้ายเห็นถึงกระดูกเลย
บุริศร์กัดฟันดังกึกๆ
เขาจะต้องสับคนคนนี้ให้เป็นชิ้นๆ!
ดวงตารมิดาก็หรี่ลง ใช้เครื่องมือเปิดเสื้อผ้านรมนเบาๆ เริ่มฆ่าเชื้อและเย็บแผล
พยาบาลที่อยู่รอบๆ รีบหยิบทิชชูออกมาเช็ดเหงื่อให้รมิดา
การผ่าตัดดำเนินไปสามชั่วโมงกว่า เส้นใยด้านในถูกรมิดาเอาออกมาทีละนิด
บุริศร์รู้สึกด้านหลังของตัวเองเปียกชื้น
ถึงไม่ใช่การผ่าตัดของตัวเอง แต่หลังจากการผ่าตัดทั้งหมด หัวใจเขาก็เจ็บจนจะแตกสลาย
นรมนถูกเข็นเข้าไปในห้องไอซียู
“คืนนี้เฝ้าดู อย่าให้เธอเป็นไข้”
รมิดารู้ว่าตอนนี้พูดอะไรไปก็ไม่เป็นประโยชน์ ทำได้แค่กำชับบุริศร์เสร็จแล้วก็จากไป
บุริศร์มองนรมนที่สีหน้าซีดราวกับกระดาษ ด่าตัวเองว่าไม่ระวังเกินไป
เขาพูดกับชัยยศด้านนอก “รวบรวมหลักฐานของจอช เอามันเข้าไป แล้วหาคนสองสามคนเข้าไป อย่าให้จอชมันตายทันที ฉันอยากให้มันชดใช้ทุกอย่างที่นรมนแบกรับ”
“ครับ!”
ชัยยศรู้ความรักของบุริศร์และนรมน เมื่อเห็นนรมนอยู่ในสภาพนี้ พูดตามตรงเขาก็ทนไม่ค่อยได้เช่นกัน
จอชไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรลงไป และไม่รู้ว่าสามีของนรมนคือบุริศร์ แค่ภักดีอยากแก้แค้นเพื่อกันยกา ไม่คิดว่าจะโดนตัวเองไปด้วย
ราเชนอยากไปดูนรมนสักหน่อย แต่ห้องไอซียูจำกัดการเยี่ยม บุริศร์ยังไม่ออกมาเลย เขาก็เข้าไปไม่ได้
ที่นี่มีคนเดินไปเดินมา เขาก็ไม่สามารถอยู่ที่นี่ได้เช่นกัน ทำได้แค่ตามซินดี้กลับไปก่อน
คมทิพย์ได้ยินนรมนเกิดเรื่อง ก็รีบไปมาทันที เมื่อเห็นนรมนนอนบนเตียงผู้ป่วยเหมือนตุ๊กตาผ้าขี้ริ้ว เธอก็โทษตัวเองไม่มีสิ้นสุด
“ขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดฉัน ฉันไม่ควรพาเธอไปที่ซอยเล็ก”
“มันไม่เกี่ยวกับเธอ อีกฝ่ายเล็งเป้าไปที่นรมน ถึงพวกเธอไม่ไปที่ซอยเล็ก ก็มีโอกาสอื่นจัดการนรมน ถ้าพูดถึงเรื่องขอโทษ ก็คือฉันเองที่ปกป้องหล่อนได้ไม่ดี”
เสียงบุริศร์แหบแห้งหมดแล้ว
คมทิพย์มองความรักลึกซึ้งจากดวงตาบุริศร์ออก เธอลังเลสักพักก่อนถามขึ้น “อีกฝ่ายคือใคร?”
“ผู้ชายของกันยกา”
“กันยกาเป็นใคร?”
“ผู้หญิงที่แต่ก่อนทำให้นรมนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นชู้กับฉัน”
ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ คมทิพย์ก็เงียบไปไม่กี่วินาที จากนั้นก็ถามเสียงทุ้ม “เกิดอะไรขึ้นกับกันยกาคนนั้น? ตอนแรกนรมนนึกว่าเป็นชู้กับคุณ แต่ต่อมาเธอบอกว่าไม่เชื่อว่าคุณนอกใจ แต่ระหว่างผู้หญิงคนนี้กับคุณต้องมีความลับแน่ๆ และความลับนี้ต้องเกี่ยวข้องกับนรมน บุริศร์ ฉันไม่รู้ว่าทำไมคุณต้องปิดบังนรมน บางทีคุณอาจจะหวังดีกับเธอ แต่ปิดบังเธอมันหวังดีกับเธอจริงๆ ไหม? ถ้าตอนแรกคุณบอกความจริงกับนรมน นรมนจะหวาดระแวงไหม แล้วจะเกิดเรื่องแบบนี้ไหม? แน่นอนว่าฉันพูดว่าถ้า”
บุริศร์เงียบ
หากสิ่งที่คมทิพย์พูดทั้งหมดเหมือนมีดสั้นแหลมคมด้ามหนึ่ง มันแทงลึกเข้าไปในอกของเขาแล้ว
เขาผิดจริงๆ เหรอที่ปิดบังนรมน?
เห็นบุริศร์ครุ่นคิด คมทิพย์ก็ไม่พูดอะไร บางคำพูดก็หยุดไว้ดีกว่า อีกทั้งเป็นคนที่มีสถานะอย่างบุริศร์ด้วย
“ฉันกลับกองถ่ายไปบอกคนเรียบเรียงก่อน สภาพนี้ของนรมนต้องไม่มีทางเล่นกู่เจิงได้แล้ว ไม่ว่ายังไง ฉันต้องไปบอกสักหน่อย”
“ฉันส่งคนไปเชิญอาจารย์กู่เจิงมืออาชีพคนหนึ่งให้พวกเธอแล้ว อัลบั้มเธอจะไม่ถ่ายทำล่าช้า กองถ่ายพวกเธอก็จะไม่หยุดงาน เธอคือมือใหม่ที่นรมนอยากสรรเสริญ และเซ็นสัญญากับริชาร์ดไปแล้ว แน่นอนว่าต้องดำเนินการต่อไป”
คำพูดของบุริศร์ทำให้คมทิพย์ตกตะลึงเล็กน้อย
ทุกการกระทำของนรมนบุริศร์รู้ทั้งหมด เห็นได้ชัดว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อเธอมันไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย
ดังนั้นข้อมูลภายในแบบไหนกันนะที่บอกนรมนไม่ได้?
คมทิพย์สงสัยมากจริงๆ แต่ก็รู้ว่าความอยากรู้จะทำให้เกิดภัยพิบัติ เธอพยักหน้าแล้วออกจากห้องผู้ป่วยไป
รมิดาเดินออกมาจากโรงพยาบาล มีแต่สภาพนรมนได้รับบาดเจ็บก้องอยู่ในหัวสมองตลอดเวลา
ไม่ว่าอีกฝ่ายคือใคร ก็โหดร้ายเกินไปแล้ว
และนรมนเป็นเพื่อนสนิทของเธอ ไม่ว่าอย่างไรก็ปล่อยให้เพื่อนสนิทตัวเองถูกคนอื่นข่มเหงจนเป็นเช่นนี้ไม่ได้ไม่ใช่เหรอ?
รมิดาคิดสักพัก ก็โทรหาอรรณพ
“ช่วยฉันหน่อยเรื่องหนึ่ง”
นี่เป็นครั้งแรกที่อรรณพได้ยินว่ารมิดาขอความช่วยเหลือตน จึงอดตกตะลึงไม่ได้
“หืม?”
“กลับบ้านมาคุยเถอะ อีกครึ่งชั่วโมงฉันกลับบ้าน”
“ได้”
รมิดาวางสายไป ถอนหายใจก่อนจะขับรถกลับไป
หลังจากทุกคนไปแล้ว บุริศร์ก็จับมือนรมนแน่น
ชัยยศเคาะประตูห้อง พูดขึ้นเสียงทุ้ม “ประธานบุริศร์ มีสถานการณ์ใหม่ครับ”
บุริศร์เหลือบมองนรมน แล้วลุกขึ้นเดินออกไป
“ว่ามา”
“คนที่ทำร้ายคุณนายไม่ใช่คนของจอชครับ”
“นายว่าไงนะ?”
ดวงตาบุริศร์หรี่ขึ้นมาทันที
ชัยยศรีบพูดขึ้น “จอชหาคนมาจับคุณนายจริงๆ แต่วิธีคิดของพวกมันคือให้คุณนายอดอาหารสามวัน รอให้คุณนายไม่มีแรง แล้วจะเปลื้องผ้าคุณนายถ่ายรูป หลังจากทำลายชื่อเสียงคุณนายแล้วค่อยลงมือกับคุณนาย”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ พลังสังหารของบุริศร์ก็กระจายออกมาอย่างมุทะลุ
เป็นแผนการที่ร้ายกาจมาก!
ดวงตาบุริศร์เย็นยะเยือกราวกับน้ำแข็ง พูดขึ้นทีละคำ “งั้นให้มันได้รับความรู้สึกแบบนี้สักหน่อยแล้วกัน”
“ครับ!”
แน่นอนว่าชัยยศรู้ว่าบุริศร์จะไม่ปล่อยจอชไป แต่เขาก็พูดต่อไปว่า “กล้องวงจรปิดรอบๆ ถูกคนทำลายไปแล้ว แต่ผมหาคนมาซ่อมมันแล้ว คนที่ทำร้ายคุณนายคือเนตราครับ!”
“ใครนะ?”
ทั้งร่างบุริศร์ตกตะลึง
ชัยยศพูดอย่างเคารพ “เนตราครับ! ผู้หญิงของกล้าณรงค์ ครั้งนี้เธอออกมาจากคุกได้ก็เกี่ยวข้องกับกล้าณรงค์ อีกอย่างคือเป็นของขวัญที่พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนมอบให้เบื้องบน”
ดวงตาบุริศร์หรี่ลง
พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธน?
พ่อแม่ที่ครั้งหนึ่งเคยดีกับนรมนมาก ไม่คิดเลยว่าจู่ๆ จะทำกับลูกสาวบุญธรรมแบบนี้เพื่อลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง?
เนตรามันก็กล้าหาญมาก!
คิดจริงๆ เหรอว่ามีการสนับสนุนจากกล้าณรงค์แล้วไม่กังวลเลยสักนิดก็ได้?