“ผม”
เมื่อราเชนพูดคำนี้ นรมนมีท่าทางมึนงง จนแม้แต่ไม่กล้าเชื่อหูของตนเอง
“ใครนะ?”
“ผม อยู่ในมือของผม หรือจะพูดให้ถูกต้อง เรื่องนี้ซินดี้จัดการแทนผม เขาจึงตาย”
มุมปากของราเชนเผยรอยยิ้มเจื่อน ๆ
นรมนรู้สึกว่าสมองของตนเองหมุนตามไม่ทัน
“คุณมีความแค้นกับเนตราเหรอ?”
“นับว่าใช่นะ ”
ราเชนตอบคำถามอย่างคลุมเครือ มองนรมน และชี้ไปที่นาฬิกาข้อมือของตนเอง “คุณเหลือเวลาขึ้นเครื่องไม่มากแล้ว ดังนั้นคุณต้องการทำอย่างไร?จะไปหรือไม่ไป?”
หัวคิ้วของนรมนขมวดเข้าหากันแน่น
คาดไม่ถึงว่าซินดี้จะจับตัวเนตราเอาไว้ แถมยังอยู่ใน ประเทศF จุดนี้ทำให้นรมนแปลกใจมาก และตอนนี้ราเชนยิ่งทำให้นรมนแปลกใจ แท้จริงแล้วผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่กันแน่?
“ระหว่างคุณกับบุริศร์มีข้อตกลงอะไรกันหรือเปล่า?”
“มี”
ราเชนก็ไม่ได้ปิดบังนรมน เขากล่าวเสียงเบาว่า “บุริศร์รับปากผม ตราบใดที่ผมช่วยเขาทำเรื่องบัตรผ่าน ทำให้คนของเขารับตัวเนตราไปได้ ก็จะพาคุณไปหาแม่ของผม”
“แม่ของคุณ?”
นรมนรู้สึกว่านี่มันเป็นข้อตกลงแบบไหนกัน?
ราเชนกลับพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม แววตาเผยอารมณ์ที่นรมนไม่เข้าใจออกมา
“เรื่องนี้ฉันสามารถรับปากคุณได้ แต่ฉันต้องการไปรับตัวเนตราแทนบุริศร์ ได้ไหม?”
“ได้แน่นอน”
สำหรับเรื่องนี้ราเชนไม่มีความคิดเห็นใด ๆ
เดิมทีจับตัวเนตรามาเพื่อเธอ ตอนนี้เธอต้องการรับตัวไปเองจึงไม่มีปัญหาโดยปริยาย
“แต่ตอนนี้คุณไม่อยากไปเมืองชลธีแล้วเหรอ?”
นรมนรู้สึกว่านี่เป็นปัญหาที่ยุ่งเหยิงจริง ๆ
“ใช่ แต่ว่า……”
“คุณกลับไปเมืองชลธีก่อนเถอะ ส่วนเนตราผมจะให้คนของบุริศร์พากลับไปเมืองชลธี ส่งให้คุณจัดการ ส่วนเงื่อนไขการแลกเปลี่ยน รอคุณเสร็จธุระค่อยว่ากัน”
ราเชนพูดจบก็โบกมือ เห็นได้ชัดว่าเป็นการไล่แขก
นรมนมองไม่ออกว่าแท้จริงราเชนต้องการอะไร และเป็นคนอย่างไร
ซินดี้ตายแล้ว เขาโศกเศร้าหัวใจแหลกสลาย แถมบุริศร์ยังเป็นผู้ต้องสงสัยอีก ถ้าเธอเป็นราเชนคงไม่มีทางพูดดีแบบนี้แน่นอน และยิ่งไม่มีทางช่วยส่งเนตราให้แก่ตนเอง
ดูเหมือนราเชนจะดีกับเธอมากเกินไป
“ทำไมคุณถึงดีกับฉันแบบนี้?”
นรมนไม่อยากถาม แต่ก็อดไม่ได้ หลังจากถามออกมาจึงรู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่
เห็นได้ชัดว่าราเชนชะงักงันไปเล็กน้อย
อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ลึกลับตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เคยเจอคนตรงไปตรงมาแบบนี้ซะที่ไหน?
เขาอดเหลือบมองนรมนไม่ได้ จากนั้นจึงกล่าวว่า “บางทีผมอาจจะถูกชะตากับคุณก็ได้”
นี่มันเหตุผลอะไรเนี่ย?
นรมนไม่รู้ แต่ก็ไม่กล้าถามต่อ
ราเชนคนนี้ ตั้งแต่ปรากฏตัวขึ้นมาก็มีความลึกลับ ทำให้เธอมองไม่ออก เธอรู้สึกว่าออกห่างจากคนแบบนี้สักหน่อยก็ดี
“งั้น ไปก่อนนะ”
นรมนพูดจบก็หันตัวจากไป
ราเชนมองดูเธอจากไป แววตามีความเงียบเหงา
ภายในห้องว่างเปล่า นอกจากนี้นรมนเปิดหน้าต่างเอาไว้ ลมด้านนอกจึงพัดเข้ามา ยิ่งทำให้คนรู้สึกเย็นเยือกอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
เขาปิดหน้าต่างลง กลับพบว่าในคอนโดมิเนียมมีคนเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
“ฝ่าบาท ท่านควรจะกลับไป”
สีหน้าของราเชนน่าเกลียด แต่กลับไม่พูดอะไร
ก็จริง ควรจะกลับไป
ออกมาซ่อนตัวสามสี่ปี กลับเอาชีวิตของซินดี้มาเกี่ยวข้อง เขาใช้เวลาทั้งชีวิตก็ไม่สามารถชดใช้ได้
“เรื่องของซินดี้ตรวจสอบชัดเจนหรือยัง ?เป็นฝีมือของใคร?”
คนชุดดำก้มหน้าลง ตอบอย่างเคารพนบนอบ “คนขององค์ชายสามเป็นคนทำครับ”
“คิดไม่ถึงว่าไอ้สามจะสมคบคิดกับกล้าณรงค์? เหอ ๆ ดี ดีมาก!”
นัยน์ตาของราเชนเผยความดุดันขึ้นมาทันที
บนจอทีวี เขาสุภาพอ่อนโยนเสมอ มีสไตล์ขงจื๊อ ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลายมาก เหมือนกับเป็นพี่ใหญ่ข้างบ้าน แต่เมื่อเขาคิดจะกลับคืนสู่ตัวตนที่แท้จริง ดาราคนหนึ่งจะสามารถแสดงออกได้ที่ไหนกัน?
“ส่งคนไปนำตัวเนตราส่งให้บุริศร์ พยายามคุ้มครองพวกเขานำคนส่งให้นรมนที่เมืองชลธี นอกจากนี้เก็บกวาดให้เรียบร้อย พวกเรากลับ ประเทศF ไม่ได้เจอหน้ากันหลายปี บรรดาพี่น้องของฉันคงเกือบจะลืมหน้าฉันไปแล้ว ไม่ว่าจะพูดอย่างไรฉันก็ต้องกลับไปเจอหน้าเจอตาสักหน่อย?”
ราเชนยิ้มเย็นชา
คนชุดดำปฏิบัติตามทันที
ราเชนนิ่งไปสักพัก จึงกล่าวว่า “ติดต่อคนที่สถานีตำรวจ ให้นรมนไปเยี่ยมบุริศร์สักหน่อย ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร ฉันไม่หวังให้เธอต้องไปอย่างกังวลใจ”
“ครับ”
หลังจากสั่งงานเหล่านี้เสร็จ ราเชนกลับไปในห้อง
นรมนนั่งรถของราเชนกลับมา ตอนนี้ราเชนไม่ไป เธอเดินกลับไปคนเดียวเดาว่าคงจะขึ้นเครื่องบินไม่ทัน
เธอคิดจะหยิบมือถือออกมาคิดจะเปิดแอปเรียกรถ น่าโชคร้ายที่พบว่ามือถือของตนเองตกอยู่ในรถของรมิดา
จะมีอะไรซวยไปกว่าเธออีกไหม?
ในขณะที่นรมนไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร คนชุดดำจากในคอนโดมิเนียมของราเชนก็เดินออกมา ตรงมาที่ข้างกายนรมน
“คุณนรมน คุณราเชนให้ผมไปส่งคุณ”
“ค่ะ”
นรมนพยักหน้า
นับว่าราเชนยังคงมีคุณธรรมอยู่บ้าง
เธอขึ้นไปบนรถของราเชน คนชุดดำขับรถออกไป
ส่วนเขาจะชื่ออะไร นรมนไม่อยากรู้ จึงหลับตาพักผ่อนทันที
เธอรู้สึกเจ็บแผ่นหลัง แสบบาดแผล
ไอ้บ้าเอ๊ย ความแค้นนี้เธอจะต้องเอาคืนอย่างสาสม
ไม่ว่ากล้าณรงค์หรือว่าใครอยู่เบื้องหลัง เธอจะทำให้พวกเขาต้องชดใช้อย่างสาสม!
นรมนนั่งเบา ๆ และหายใจเข้าลึก มีเพียงแค่แบบนี้ถึงจะทำให้ตนเองรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
รถขับอย่างรวดเร็ว
นรมนรู้ระยะเวลาและตำแหน่งของคอนโดมิเนียมราเชนไปถึงจุดที่เธอจอดรถเอาไว้ ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าเลยเวลามาเล็กน้อย
เธอลืมตาขึ้นทันที จึงพบว่าไม่ใช่ทางไปสนามบิน จึงอดตื่นตัวไม่ได้
“คุณจะพาฉันไปไหน?”
“คุณราเชนบอกเอาไว้ว่า ให้พาคุณไปเจอประธานบุริศร์ที่สถานีตำรวจ”
ได้ยินคนชุดดำพูดแบบนี้ นรมนอดแปลกใจเล็กน้อยไม่ได้
“คุณพูดว่าจะไปเจอบุริศร์?”
“ใช่ครับ”
นรมนรู้สึกตกตะลึงไม่น้อย
ด้วยความสามารถของชัยยศก็ไม่สามารถทำให้ตนเองเข้าไปเยี่ยมบุริศร์ได้ คิดไม่ถึงว่าราเชนคนนี้จะมีฝีมือมากขนาดนี้
และคนที่ตายยังเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเขา
แท้จริงแล้วทำไมราเชนคนนี้ถึงต้องการช่วยเธอ? หรือจะพูดว่าเพราะอะไรจึงต้องการช่วยบุริศร์?
นรมนคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก
คนชุดดำไม่ได้พูดอะไร นรมนก็ไม่ถามอะไรต่อ คำถามมากมายวนเวียนอยู่ในสมอง กลับหาคำอธิบายไม่เจอ
บางทีหลังจากได้เจอบุริศร์อาจจะมีคำตอบ?
นรมนไม่แน่ใจ
ตอนนี้มองดูแล้ว คงจะขึ้นเครื่องบินไม่ทัน
“ขอยืมมือถือของคุณหน่อยได้ไหมคะ?”
คนชุดดำรีบนำมือถือของตนเองส่งให้นรมน
หลังจากนรมนรับมา จึงโทรหารมิดา
“รมิดา คุณกับคมทิพย์ไปกันก่อนเลย ฉันมีเรื่องนิดหน่อย เดี๋ยวจะนั่งไฟลท์บินถัดไปกลับ”
“คุณปลอดภัยใช่ไหม?”
รมิดาเป็นห่วง
“ฉันปลอดภัยดี แค่ต้องทำธุระส่วนตัวเล็กน้อย สบายใจได้”
“อืม” หลังจากวางสาย นรมนก็รู้สึกร้อนรนอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ใกล้จะได้เจอบุริศร์แล้ว
มาอย่างรีบร้อน จึงไม่ได้เอาของอะไรมาให้เขา และไม่รู้ว่าเขาอยากได้หรือเปล่า ไปซื้อตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะทันไหม
นรมนคิดอย่างยุ่งเหยิง รถมาจอดที่ประตูสถานีตำรวจเรียบร้อย
“คุณนรมน เชิญครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
นรมนพยักหน้าและลงจากรถ
เธอเพิ่งจะเข้ามาในสถานีตำรวจ ก็มีคนก้าวเข้ามาพาเธอไปสถานที่คุมตัวบุริศร์
นรมนมองเห็นห้องเล็ก ๆ อดรู้สึกอยากร้องไห้ไม่ได้
“คุณมาได้ไง?”
เมื่อบุริศร์มองเห็นนรมน เขาก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นมา
“นี่ไม่ได้ก่อเรื่องอะไรใช่ไหม? นี่เป็นสถานที่แบบไหน? ร่างกายยังบาดเจ็บ คุณจะมาที่นี่ทำไม ถ้าเกิดติดเชื้อขึ้นมา…… โอ๊ะ……”
บุริศร์ยังพูดไม่ทันจบ นรมนก็พุ่งเข้าไปหาทันที เขย่งปลายเท้า ใช้ริมฝีปากตนเองปิดการบ่นพึมพำไม่หยุดของบุริศร์
กลิ่นหอมอบอุ่นในอ้อมแขน บุริศร์ยังจะพูดอะไรได้อีก?
เขาโอบกอดเอวบางแน่น จูบเธออย่างดุเดือด แทบอยากจะกลืนกินเธอเข้าไปทั้งตัว เก็บเอาไว้ในร่างกายของตนเอง
นรมนแทบจะหยุดหายใจ
เธออิงแอบในอ้อมแขนของบุริศร์ พูดสะอึกสะอื้น “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
บุริศร์รู้ นรมนต้องตกใจแน่นอน
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก แค่ถูกคนวางแผนแค่นั้นเอง วางใจเถอะ ผมไม่เป็นไร”
“ยังจะพูดว่าไม่เป็นไรอีก มาอยู่ในนี้แล้ว คุณจะให้ฉันตกใจตายแล้วหาเมียน้อยใช่ไหม?”
นรมนคว้าคอเสื้อของบุริศร์เอาไว้แน่น เหมือนกับเสือตัวน้อยที่ซักถาม
บุริศร์ยิ้มออกมาทันที
ตอนนี้นรมนยังเป็นแบบนี้ได้ แปลว่าเธอยังสามารถแบกรับมันได้ แบบนี้ก็ดี
บุริศร์นวดศีรษะของเธอ กลับได้กลิ่นคาวเลือด
“แผลของคุณฉีกหรือเปล่า?”
นรมนแลบลิ้น กล่าวอย่างไม่สบายใจ “ แย่จัง ถูกคุณรู้เข้าแล้ว”
“นรมน คุณไม่รู้ว่าตนเองเป็นคนป่วยเหรอ?”
“รู้สิ!”
เผชิญหน้ากับบุริศร์ที่โกรธอย่างสุดขีด นรมนกลับตอบกลับมาอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อน
บุริศร์เห็นแล้วจนปัญญาจริง ๆ
“ผมไม่เป็นอะไรจริง ๆ ”
“งั้นออกไปจากที่นี่กัน คุณออกไปกับฉันได้ไหม?”
การย้อนถามของนรมนทำให้บุริศร์ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรทันที
“ต้องใช้เวลาอีกสักหน่อย”
“งั้นคุณก็ไม่ต้องสนใจฉัน”
นรมนมองสำรวจบุริศร์ไปทั่วทั้งตัว ถึงจะวางใจ
“ฉันตัดสินใจกลับไปเมืองชลธีช่วยคุณดูแลบริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัด ไม่สิ บริษัทฮัวยูกรุ๊ปจำกัดของฉัน คุณยกบริษัทให้ฉันแล้ว”
“กลับไปก็ดี ทางนั้นจะได้มีคนของพวกเรามากขึ้น ผมก็สามารถวางใจได้หน่อย แต่บาดแผลของคุณจะทำอย่างไร?”
นี่ถึงจะเป็นสิ่งที่บุริศร์กังวลใจ
นรมนโบกมืออย่างไม่เป็นไรและกล่าวว่า “วางใจเถอะ รมิดาตามฉันไปด้วย”
“งั้นก็ดี”
บุริศร์มองนรมน สายตาอ่อนโยนมากอย่างห้ามไม่ได้
“เข้ามา ผมจะกอดคุณ”
“ที่นี่คือห้องดำของที่คุมขัง กอดได้ด้วยเหรอ?”
ถึงแม้นรมนจะพูดแบบนี้ แต่ก็ยังเดินเข้าไป นั่งลงบนตักของบุริศร์โดยตรง สองแขนโอบคอเขาเอาไว้
“จูบก็จูบแล้ว ยังจะกอดไม่ได้เหรอ?”
บุริศร์รู้สึกว่าได้สูดดมกลิ่นกายของนรมน จิตใจของเขาสงบลงมาก
“ตอนนี้ผมยังออกไปไม่ได้ คุณสามารถทำนู่นทำนี้ได้ตามสบาย แต่อันดับแรกต้องคิดถึงความปลอดภัยของตนเองเข้าใจไหม?ถ้าผมต้องหลุดพ้นจากการเป็นผู้ต้องสงสัยโดยแลกกับความปลอดภัยของคุณ ผมไม่ยอมเด็ดขาด”
“เข้าใจแล้ว ตอนนี้คุณขี้บ่นมากขึ้นนะ”
นรมนดูเหมือนจะค่อนข้างรำคาญ แต่แววตาของเธอเอาแต่มองบุริศร์ สลักท่าทางบุริศร์ทีละเล็กละน้อยเอาไว้ในสมองของตนเอง
ถ้าคุณมองผมแบบนี้อีก ผมจะไม่ทนแล้วนะ
บุริศร์รู้สึกว่ากำลังวังชาในร่างกายไหลพล่าน
ภรรยาคนนี้ ตั้งแต่ได้รับบาดเจ็บมา ก็มักจะชอบยั่วเย้าเขา
อยู่ดี ๆ นรมนกลับถามอย่างจริงจัง “เกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับราเชนกันแน่?