“คุณนรมนใช่ไหมคะ? ขอเชิญคุณนรมนเข้าไปข้างในค่ะ”
คำพูดของหมอ ให้นรมนยิ้มเยาะเล็กน้อย
“ฉันเข้าไปได้เหรอคะ?”
“ในทางทฤษฎีมันเป็นไปไม่ได้ แต่อาการของคุณท่านธนาศักดิ์ธนไม่ค่อยดีนัก พวกเราพิจารณาเพื่อผู้ป่วย ดังนั้นสมาชิกในครอบครัวจึงได้รับเชิญให้เข้าเยี่ยมได้”
หมอพูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้าหรือท่าทาง
นรมนรู้สึกว่าหมอคนนี้ แน่นอนว่าต้องถูกใครบางคนติดสินบน อาจเป็นไปได้ว่าถูกซื้อตัวโดยงามพล
เธอไม่ได้ขยับตัว เพียงแต่พูดเสียงเบาว่า “ถ้าให้ฉันเซ็นยินยอมการผ่าตัดหรือ หรือเซ็นใบแจ้งอาการป่วยหนัก ฉันทำให้ได้ค่ะ แต่ถ้าให้ฉันไปดูเขาเป็นครั้งสุดท้าย ขออภัยที่ทำให้ไม่ได้ สิ่งนี้ควรให้ลูกสาวตัวจริงกับภรรยาของเขาทำมากกว่า ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันขอตัว”
หลังจากพูดจบ นรมนก็หันหลังเดินจากไป แต่กลับโดนหมอขวางเอาไว้
“คุณนรมน ทำอย่างนี้ไม่ได้นะคะ สถานการณ์ของคุณท่านธนาศักดิ์ธนไม่ค่อยดี นี่อาจเป็นความปรารถนาสุดท้ายของเขา”
“ขออภัยค่ะ ฉันไม่ได้สนิทกับเขาขนาดนั้น”
นรมนใช้ความฉลาดหลักแหลมในการสลัดหมอออกไป
เธอมองไปที่ตำรวจทั้งสองข้างทาง และพูดว่า “ฉันขอเตือน ป้องกันไว้ให้ดี ไม่อย่างนั้นจะทำให้คนหนีออกไปได้”
หลังจากพูดจบ เธอก็โทรหาโพนี่โดยตรง
“โพนี่ เธอรู้จักใครในโรงพยาบาลหัวเฉียวบ้างไหม?”
“มีนะ ทำไมเหรอ? ฉันรู้จักผู้อำนวยการที่นั่น”
โพนี่นิ่งไปนิดเมื่อเธอรับสายของนรมน
“ช่วยตามเขาให้หน่อยเถอะงามพลป่วยหนักอยู่ในห้องผ่าตัด หมอคนนี้ให้ฉันเข้าไปพบเขา เธอคิดว่านี่สอดคล้องกับกฎระเบียบของโรงพยาบาลไหม?”
เมื่อนรมนโทรหาโพนี่ สีหน้าของหมอก็ซีดลงทันตา ตอนนี้เขาได้ยินคำถามของนรมน จึงตกใจจนก้าวถอยหลังไป
นรมนไม่คิดจะปล่อยเอาไว้
ในเมื่อมีความกล้าที่จะรับเงินที่งามพลมอบให้ ก็ต้องมีความกล้าที่จะรับผลที่ตามมา ไม่ใช่เหรอ?
ยิ่งกว่านั้น เมื่อตะกี้เธอเพิ่งคิดจะใช้อำนาจกับตัวเอง
นรมนเหลือบมองไปยังบัตรพนักงาน ก่อนพูดเสียงเบา “ดูเหมือนจะชื่อญามินสินะคะ”
ญามินตกใจจนรีบพูดออกมาอย่างเร็ว
“คุณนรมน ฉันแค่ทำตามความประสงค์ของผู้ป่วย ถ้าคุณไม่ยินยอมก็ไม่เป็นไร”
“ตอนนี้เพิ่งพูดว่าไม่เป็นไร? สายไปแล้วค่ะ ผู้อำนวยการของคุณกำลังมา รออธิบายกับผู้อำนวยการเถอะค่ะ”
นรมนวางสายโทรศัพท์
ประสิทธิภาพการทำงานของโพนี่นั้นรวดเร็วอย่างแท้จริง
ไม่นานหลังจากที่นรมนวางสายไป ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลหัวเฉียวก็วิ่งหน้าตั้งมาตลอดทาง
ล้อเล่น
โพนี่เป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาลทหาร เอกสารที่ตีพิมพ์เป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรมมาช้านานแล้ว ถ้าหากถูกโพนี่ไม่พอใจ ขาจะยังคงเป็นผู้อำนวยการได้หรือไม่ นี่คือปัญหา เขาจะไม่สนใจได้เหรอ?
“คุณนรมน ขอโทษจริงๆครับ นี่เป็นความผิดของทางโรงพยาบาลเรา ที่ทำให้คุณตกใจ”
ผู้อำนวยการเช็ดเหงื่อไปพลางอยู่ข้างๆนรมนอย่างพินอบพิเทาไปพลาง
นรมนมองเขาอย่างเย็นชาและพูดว่า “หมอท่านนี้ยืนยันว่าจะให้ฉันเข้าไป ฉันไม่เข้าใจ นี่มันสอดคล้องกันกฎระเบียบหรือเปล่าคะ”
“เธอไม่รู้เรื่องครับ ผมจะจัดการอย่างจริงจังเอง ถ้าหากคุณนรมนไม่ว่าง สามารถล่วงหน้าออกไปจากที่นี่ก่อนได้เลย ผมจะไปขอโทษด้วยตัวเองถึงบ้านเลยครับ”
เมื่อผู้อำนวยการรู้ว่าเป็นภรรยาของบุริศร์ ในใจก็ด่าญามินอย่างดุเดือด
แม้ว่าบุริศร์จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีความในขณะนี้ และผลกระทบด้านลบนั้นยิ่งใหญ่ แต่ครอบครัวที่มีอายุหลายศตวรรษอย่างตระกูลโตเล็กจะล้มทรุดลงได้อย่างไร? นอกจากนี้บุริศร์ยังมีพี่น้องที่ดีอีกสามคน พวกเขาคอยช่วยเหลือกันและกันในเมืองชลธี แล้วใครจะกล้าทำให้คุณนายโตเล็กขุ่นเคือง?
มีเพียงแค่ญามินที่โง่เขลาเท่านั้น เพื่อกำไรแค่เพียงเล็กน้อยนึกไม่ถึงเลยว่าจะดูไม่ออกว่าใครถูกผิด
นรมนพอใจกับผลลัพธ์อย่างนี้มาก
เธอมองเข้าไปในห้องผ่าตัด แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นงามพลแต่เสียงจากภายนอกย่อมส่งถึงหูของเขาอย่างแน่นอน
หากเธอเดาถูก เป็นไปได้ว่างามพลจะฉวยโอกาสจากอาการป่วย อยากให้เธอเข้ามาที่นี่ ดังนั้นจึงบีบบังคับเธอต้องการออกจากคุกและไปจากที่นี่
นรมนจะให้เขาสมหวังได้อย่างไร
เธอยกริมฝีปากขึ้นยิ้มพร้อมพูด “ผู้อำนวยการ อาการป่วยของคุณท่านธนาศักดิ์ธนหนักมาก ทำไมคุณไม่ลงมือผ่าตัดด้วยตัวเองเสียละคะ? ฉันได้ยินมาว่ากล้ามเนื้อหัวใจตายสามารถฆ่าคนได้ ไม่ต้องกังวลหรอกคะ ถ้าคุณรักษาแล้วเสียชีวิตฉันจะไม่ให้คุณรับผิดชอบอะไรเลย”
เรื่องนี้ค่อนข้างโหดร้าย มันเหมือนกับบอกผู้อำนวยการโดยตรง ว่าคุณสามารถฆ่าคนๆ นั้นได้เลยโดยตรง
งามพลอดไม่ไหวอีกต่อไป โกรธจนเกือบจะเด้งตัวขึ้นมา
“นรมน นางเด็กเวร! ไม่ว่ายังไงฉันก็เลี้ยงแกมา20กว่าปี นี่แกอยากให้ฉันตายเหรอ?”
เสียงของ งามพลเต็มไปด้วยความมั่นใจ ท่าทางของคนที่กล้ามเนื้อหัวใจตายอยู่ที่ไหน?
ดูเหมือนว่าการคาดเดาของเธอจะถูกต้อง
นรมนหัวเราะหยันก่อนพูดว่า “ดูสิ ฉันเป็นดาวนำโชคของคุณท่านธนาศักดิ์ธน แค่มานี่ ก็ไม่ต้องให้หมอลงมือรักษาเลย ได้ยินเสียงที่แรงขนาดนี้แล้วก็คงไม่มีปัญหาอะไรแล้วละ? สหายตำรวจ พาเขากลับไปได้หรือยังคะ?”
หากตำรวจยังไม่เห็นว่างามพลแสร้งทำแล้วก็คงไร้ค่าไร้ราคาแล้ว
“คุณหมอ เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
ถึงขั้นนี้แล้ว ญามินก็ไม่กล้าซ่อนมันไว้อีกต่อไป
“คุณท่านธนาศักดิ์ธนทานยาเพื่อทำให้หัวใจเต้นช้าลงค่ะ”
“วุ่นวายจริงๆเลย”
ผู้อำนวยการถลึงตาใส่ญามินอย่างมาดร้าย
เพื่อความปลอดภัย ตำรวจจึงถามว่า “นำออกไปตอนนี้เลยได้ไหมครับ”
“ไม่มีปัญหาค่ะ คุณท่านธนาศักดิ์ธนร่างกายแข็งแรงดี”
ญามินเฉลยทุกอย่างออกมาหมด
ตำรวจจับกุมเขาออกไปอย่างขุ่นเคือง
มุมปากของนรมนมีรอยยิ้มหยัน แต่ในใจเธอกลับรู้สึกเศร้า
ตำรวจรีบพางามพลออกไปทันที
งามพลมองไปยังนรมนด้วยความโกรธ กระทั่งยกเท้าขึ้นเพื่อจะถีบเธอ
“ฉันป้อนอาหารให้สุนัขมาหลายปีแล้ว! ฉันเลี้ยงมาตัวหนึ่ง หลายปีผ่านไปก็ยังคงรัก เห็นฉันก็กระดิกหาง แกมันเทียบไม่ได้กับสัตว์เดรัจฉาน”
งามพลเคยอ่อนโยนและสง่างามมาก เขาไม่เคยพูดคำหยาบต่อหน้านรมนเลย ตอนนี้เขาเปิดเผยธาตุแท้ เต็มไปด้วยความอัปลักษณ์ เขาได้สูญเสียภาพลักษณ์ก่อนหน้านี้ไปอย่างสิ้นเชิง
นรมนรู้ว่าเขาสามารถให้ทุกสิ่งอย่างแก่ลูกสาวของตัวเองได้ แต่ไม่คาดคิดว่าหลังจากเขาเปลี่ยนไปเขาจะน่าเกลียดเช่นนี้
เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูงามพลถูกตำรวจจับกุมออกไปอย่างเย็นชา ราวกับคนแปลกหน้าคนหนึ่ง ด้วยดวงตาที่ไร้อารมณ์ความรู้สึก
เมื่อทุกคนพางามพลออกมาจากห้องผ่าตัด แม่นรมนก็ไม่รู้พุ่งตัวมาจากไหน
“นรมน ฉันจะฆ่าแก! แค่แกตาย ทุกคนก็จะดีขึ้น!”
กริชคมกริบแวววาวสะท้อนบาดตาอยู่ในมือของเธอ เธอตรงเข้ามาหานรมนราวกับหญิงเสียสติ
ตำรวจร้อนรนใจ แต่หากปล่อย งามพล พวกเขาก็กลัวงามพลจะหนีไป
เปรียบเทียบกันแล้ว นรมนดูสงบกว่ามาก
เธอมองดูแม่นรมนเดินเข้ามาหาตัวเอง ไม่หลบไปไหน จนกระทั่งแม่นรมนเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าตัวเอง และเมื่อกริชคมกริบกำลังจะแทงเข้ามาในตัวเธอ แววตาผิดหวังก็ฉายชัดอยู่ในดวงตาของนรมน
เธอยกเท้าขึ้นเตะไปยังข้อมือของแม่นรมนทันที
กริชตกลงไปกับพื้นด้วยเสียงอันดัง ราวกับเสียงหัวใจแหลกสลาย
แม่นรมนนิ่งไปนิด แต่ยังกลับไม่สนใจ เธอยังคงพุ่งเข้าหานรมนต่อ
“ฉันอยากให้แกมาตายด้วยกัน!”
เธอเอาหัวของตัวเองเป็นอาวุธมีคม และดูเหมือนว่าเธอต้องการตามราวีนรมนไม่หยุดหย่อน
นรมนถอนหายใจเล็กน้อย ร่างกายเล็กจ้อย แม่นรมนไม่หยุดฝีเท้า ยังคงพุ่งมาต่อหน้าเธอ
‘ปัง’ หัวของเธอกระแทกประตูห้องผ่าตัด ชนแรงจนดวงตาเห็นดาว มึนศีรษะไปหมด จากนั้นเธอก็นั่งลงบนพื้นและร้องไห้โฮ
“พระเจ้า ทำไมชีวิตฉันช่างขมขื่นเหลือเกิน? เด็กที่ทำงานหนักเพื่อเลี้ยงดูมาจนถึงตอนนี้ ต้องการชีวิตชายแก่ของฉัน ฉันยังจะมีชีวิตอยู่ต่อได้หรือ?”
นรมนตกตะลึงกับท่าทางที่ดูร้ายกาจของแม่นรมน
เธอเคยเป็นคุณนายธนาศักดิ์ธนผู้สูงศักดิ์ เมื่อไหร่กันที่มีท่าทางล้มลุกคลุกคลานอย่างนี้แล้ว?
นรมนส่ายหัว ไม่ได้มองว่าแม่ของนรมนกำลังทำอะไรอยู่ แต่กลับมองไปยังงามพล
ดวงตาของงามพลมองสบมาที่เธอ แต่จู่ๆเขาก็ไม่กล้าสบตานรมน
“พ่อ ตอนนี้คุณคิดว่าหนูสามารถเรียกคุณว่าพ่อได้ไหม?”
งามพลกัดปากไม่พูดอะไร
เห็นได้ชัดว่าแม่นรมนได้ซุ่มอยู่ที่นี่แล้ว นี่เป็นแผนรับมือหารือของสองสามีภรรยา น่าเสียดายที่มันไม่สำเร็จ
ถ้าหากในใจของนรมนยังคงจดจำบุญคุณของพวกเขาที่เลี้ยงดูเธอมาได้ แน่นอนว่าเธอจะสามารถเป็นฝ่ายที่แพ้ แต่น่าเสียดายที่พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนค่อยๆ กลืนกินความรู้สึกของนรมนที่มีต่อพวกเขา ตอนนี้นรมนรู้สึกราวกับแค่ดูโชว์ตลก
“ให้ฉันเดา จุดประสงค์ที่คุณวางแผนขมขู่ฉันให้แหกคุกก็ทำเพื่อเนตราลูกสาวแท้ๆของพวกคุณใช่ไหม? แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่าคุณได้ข่าวของเนตรามาจากไหน แต่คุณคิดว่าฉันจะให้โอกาสพวกคุณตอนนี้เหรอ? บนตัวฉันยังหลงเหลือร่องรอยที่เธอฝากเอาไว้ พวกคุณอยากดูไหม ว่าลูกสาวพวกคุณลงมืออย่างใจร้ายกับฉันไปมากเท่าไหร่? ผู้หญิงที่อยากฆ่าฉันตลอด คิดว่าฉันโง่แค่ไหนที่ให้โอกาสเธอหนี?”
นรมนชี้ให้เห็นถึงความคิดในใจของพวกเขา
งามพลชะงักไปนิด จากนั้นแววตาที่มองมายังนรมนก็เปลี่ยนไป
“นรมน เธอจะฆ่าเนตราให้ตายจริงไหม? เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของแม่เธอกับฉัน! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอตลอดหลายปีมานี้ เธอต้องทนทุกข์ทรมานมาตลอดหลายปีได้ยังไงกัน?”
“ทุกอย่างที่เธอทน มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉันเลย ตอนนั้นฉันยังเป็นเด็กแรกเกิด ทุกอย่างฉันตัดสินใจด้วยตัวเองไม่ได้ พวกคุณมีสิทธิ์อะไรที่จะเอาทุกความรับผิดชอบมาโยนใส่ฉันกัน? หรือพวกคุณรู้สึกว่าพูดอย่างนี้กับฉัน แล้วฉันจะใจอ่อน? ฉันจะฆ่าเธอให้ตาย? แล้วเนตราได้เหลือทางรอดให้ฉันบ้างไหม? ระหว่างเราไม่มีการรามือให้กันนานแล้ว ดังนั้นอย่ามายุ่งกับเรื่องนี้เลย อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยไปเพราะสำนึกในบุญคุณของพวกคุณ ฉันได้ตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงดูฉันของคุณไปนานแล้ว ดังนั้นฉันจะแจ้งตำรวจ ฟ้องร้องว่าแม่นรมนมีเจตนาฆ่าฉัน!”
นรมนพูดจบ แม่นรมนก็หยุดร้องไห้พลัน มองไปทางนรมนอย่างคนโง่งม
“อะไร? ไม่เข้าใจที่พูดเหรอ? ทุกมุมของที่นี่มีกล้องวงจรปิด คุณแม่ เมื่อกี้ที่คุณจะเข้ามาทำร้ายฉัน กล้องได้จับภาพไว้ได้หมดแล้ว แถมยังมีตำรวจอีกสองคนเป็นพยาน ฉันไม่ได้ใส่ความคุณ ฉันหวังว่าคุณคู่สามีภรรยาจะมีชีวิตที่ดีขึ้นหน่อยหลังจากเข้าไปนะคะ”
หลังจากที่นรมนพูดจบ เธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อที่จะโทรหาตำรวจ
แม่นรมนถึงเพิ่งจะค่อยตอบสนอง เธอลุกขึ้นมาจากพื้น ตรงไปแย่งโทรศัพท์ในมือของนรมน