ตอนที่กมลเห็นนรมนก็ตกใจ จากนั้นก็รีบวิ่งไปหานรมน
“หม่ามี้!”
“หยุดเดี๋ยวนี้!”
ครูอิงฟ้า เห็นกมลเดินออกจากที่เดิม ก็รั้งตัวกมลไว้ เพราะออกแรงมากเกินไป เด็กจึงล้มลงก้นกระแทกพื้น ทันใดนั้นเธอก็ร้องไห้โฮ
“หม่ามี้”
นรมนใจเต้นรัว
ของล้ำค่าที่เธอทะนุถนอมประคองในมือ จะปล่อยให้คนอื่นทำอย่างนี้ได้ยังไง
สายตาของนรมน สมจิต ตรงเข้าไป เพียงลูกเตะเดียวทำให้ครูอิงฟ้า ลงไปกองกับพื้น
“ผู้ปกครองเด็กมาแล้ว คุณยังจะลงโทษอะไรอีก”
สมจิตเตะไม่เบา ทำให้ครูอิงฟ้าทรุดกับพื้นลุกไม่ขึ้น
“โอ๊ย ก้นฉัน!”
ร้องโอดโอย สายตาดุร้าย “พวกคุณกล้าทำร้ายครูหรือ มีผู้ปกครองแบบนี้ มิน่าถึงสอนให้กมลเป็นเด็กผู้หญิงห้าวหาญแบบนี้”
สายตาของนรมนเย็นเยียบ “ลูกสาวฉันเป็นยังไงแน่นอนว่าฉันเป็นคนสอน แต่คุณให้ยืนทำโทษนี่คือวิธีสอนแบบไหน”
“เธอทำผิด ก็ต้องลงโทษ ไม่งั้นก็ไม่จำ”
ครูอิงฟ้ามองนรมนโต้แย้ง ไม่มีท่าทางเกรงกลัวแม้แต่น้อย
นรมนโกรธจนถึงขีดสุด
“ทำผิดก็ต้องลงโทษหรือ งั้นขอถามหน่อย ลูกสาวฉันทำผิดอะไร”
“เธอตีหัวของเพื่อนนักเรียนสกายแตก แล้วยังไม่เรียกว่าทำผิดอีกหรือ”
นรมนดึงกมลขึ้นจากพื้น ถามสมจิตที่อยู่ข้างๆ “ถ่ายคลิปแล้วใช่มั้ย”
“ถ่ายแล้วค่ะ”
“ถ่ายรูปอีกหน่อย โดยเฉพาะกางเกงกับเสื้อเปียกของลูกสาวฉัน แล้วก็ภาพถ่ายชัดแล้วใช่มั้ย”
“ชัดแล้วค่ะ”
นรมนค่อยพูดเสียงเบา “เอาชุดใหม่มาให้กมล ไม่ว่าลูกสาวฉันทำผิดร้ายแรงแค่ไหน คนเป็นครู ก็ไม่มีเหตุผลให้เด็กสี่ขวบถูกทำโทษยืนใส่เสื้อผ้าเปียก”
ครูอิงฟ้ามองกมลแวบหนึ่ง พูดอย่างไม่ใส่ใจ “ก็แค่ยืนครึ่งชั่วโมง ไม่ถึงกับเป็นไข้หรอก”
ขณะที่พูดนั้น จู่ๆ กมลก็ดึงมือนรมน “หม่ามี้ หนูไม่สบายค่ะ”
นรมนรีบแตะหน้าผากกมล ร้อนจี๋จนน่าตกใจ
เธอใจเต้นเร็ว สีหน้าเย็นชาขึ้นมาก
“ปกติเด็กจะเป็นไข้หรือไม่ฉันไม่รู้ แต่ลูกสาวฉันเป็น! เธอเคยผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ ภูมิคุ้มกันต่ำ อิงฟ้าใช่มั้ย ลูกสาวฉันไม่เป็นไรยังพอว่า ถ้าเป็นอะไรล่ะก็ คอยดูฉันละกัน”
นรมนอุ้มกมลขึ้นมา ไม่อาจรอให้สมจิตเอาเสื้อผ้าสะอาดมาเปลี่ยน รีบอุ้มเด็กเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
“คุณหมอ เร็ว! ลูกสาวฉันเป็นไข้ เธอเคยผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเมื่อครึ่งปีก่อน”
นรมนร้องเรียกร้อนใจ แต่ไม่มีหมอสักคนออกมา มีแต่พยาบาลมองอย่างขี้เกียจ “หมอกำลังผ่าตัด รอก่อน”
“เป็นไข้รอได้หรือไง”
นรมนโกรธจนแทบระเบิด
นี่มันโรงพยาบาลอะไรกัน
พยาบาลพูดเรียบๆ “ช่วยไม่ได้ ที่นี่หมอไม่พอ ยังมีหมออีกสองคนลาหยุด ฉันเป็นแค่พยาบาล ตรวจเธอไม่ได้ คุณช่วยเธอลดไข้ละกัน แค่เป็นไข้ ไม่เป็นไรหรอก เด็กก็มักเป็นไข้อยู่แล้ว”
“ลูกสาวฉันเคยผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ คุณไม่เข้าใจหรือไง ตอนนี้เป็นไข้อาจตายได้!”
เสียงนรมนดังขึ้น
สีหน้ากมลแดงจนคล้ำแล้ว
เธอดึงแขนนรมน กระซิบ “หม่ามี้ หนูไม่เป็นอะไรค่ะ ไม่ต้องห่วง”
นรมนจะไม่ร้อนใจได้ยังไง
เธอโกรธจนอยากจะโทรหาบุริศร์ ถึงได้รู้สึกตัวบุริศร์ติดต่อไม่ได้ เขายังถูกขังอยู่
นรมนลูบหน้าผากที่ร้อนจัดเหมือนอังไฟของลูกสาว โทรไปหาธรณี
“อาเล็ก ส่งเครื่องบินมารับฉันกับกมลได้มั้ยคะ กมลเป็นไข้ ที่นี่หมอกับพยาบาลไม่ต้อนรับ ฉันกลัวเหลือเกิน”
เสียงของนรมนสั่นเครือ
ธรณีรีบพูด “ส่งที่อยู่มา จะให้นักบินไปรับเดี๋ยวนี้ อีกประมาณสิบนาที เตรียมรอได้เลย”
“ค่ะ”
นรมนได้ยินธรณีพูดอย่างนี้ค่อยวางใจ
สมจิต เอาเสื้อผ้ามาแล้ว แต่นรมนอุ้มกมลออกไปข้างนอก
“เธออยู่ที่นี่ ครูคนนั้นที่ชื่ออิงฟ้า และยังมีผู้อำนวยการโรงพยาบาลนี้ ควบคุมไว้ให้หมด เด็กสกายทำไมถูกกมลทำร้ายฉันไม่รู้ เรื่องที่ต้องรับผิดชอบฉันจะรับ แต่ครูกับหมอที่จัดการเรื่องนี้ ฉันจะต้องทวงความยุติธรรมให้กมล”
“ค่ะ แต่คุณอุ้มเด็กไปอย่างนั้นดีหรือคะ คุณเองก็เปียกแล้ว”
สมจิตเห็นท่าทางนรมนเหนื่อยล้า ก็อดเตือนเธอไม่ได้
ที่นี่ไปถึงในเขตเมืองยังอีกชั่วโมงกว่า
นรมนพูดเสียงเบา “ฉันติดต่อให้อาเล็กส่งเครื่องบินส่วนตัวมารับแล้ว กมลเป็นไข้ รอไม่ได้”
พูดจบก็เดินออกไป
กมลตัวร้อนผ่าว เธอกอดนรมนแน่น ถามเสียงแผ่วเบา “หม่ามี้ หนูต้องเข้าผ่าตัดอีกแล้วมั้ยคะ”
เป็นเวลายาวนาน กมลต่อสู้เพื่อมีชีวิตรอดในโรงพยาบาล จนถึงตอนนี้ยังเป็นเงามืดในใจ
“หม่ามี้ หนูไม่ไปโรงพยาบาลได้มั้ยคะ”
ในพริบตานั้นนรมนน้ำตาคลอเบ้า
“หม่ามี้จะโทรไปหาคุณน้าโพนี่ หรือรมิดา ถามพวกเขาไม่ต้องพาหนูไปโรงพยาบาลได้มั้ย”
เมื่อได้ยินนรมนพูดอย่างนี้ กมลก็ยิ้มแล้ว
“ค่ะ”
เปลือกตาของเธอรู้สึกหนัก ซบหน้ากับอกของนรมน กระซิบ “หม่ามี้ หนูหนาวจัง”
“หม่ามี้กอดหนู”
นรมนกอดกมลแน่น
กมลพูดน้อยใจ “หม่ามี้ หนูไม่ได้ตั้งใจ สกายด่าหนูเป็นเด็กจรจัด บอกว่าหนูไม่มีพ่อแม่ หนูบอกว่าหนูมีแด๊ดดี้กับหม่ามี้ เขาบอกว่าหนูโกหก บอกว่าถ้าหนูมีแด๊ดดี้กับหม่ามี้จริง ทำไมไม่เคยเห็นมารับหนูตอนเลิกเรียน มีแต่พี่เลี้ยงกับพ่อบ้านมารับ หนูโกรธก็เลยผลักเขา เขาตกลงในน้ำหัวกระแทกหินเอง หัวถึงเลือดออก ไม่ใช่หนูตีเขาค่ะ”
นรมนใจแทบสลาย
เธอกับบุริศร์ยุ่งตลอด หลังกลับมาตระกูลโตเล็ก แทบไม่ได้ไปรับลูกตอนเลิกเรียนเลย นึกไม่ถึงจะทำให้เด็กต้องไม่ได้รับความเป็นธรรมมากขนาดนี้
“ขอโทษจ้ะ กมล ขอโทษ เป็นความผิดของหม่ามี้เอง ต่อไปหม่ามี้จะไปรับหนูบ่อยๆ”
“ไม่ต้องค่ะ หนูรู้หม่ามี้กับแด๊ดดี้ยุ่งมาก หนูโตแล้ว ดูแลตัวเองได้ หนูแค่ไม่ชอบให้ใครมาว่าหนูเป็นเด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่”
เสียงกมลเบาลงเรื่อยๆ
นรมนมองดู ถึงเห็นว่ากมลหลับไปแล้ว
เรื่องนี้อาจทำให้เธอตกใจ ในเมื่อเด็กถูกครูรังแก คิดอย่างไรก็สงสาร
นรมนอุ้มกมลมาที่ดาดฟ้าโรงพยาบาล เครื่องบินส่วนตัวของธรณีมาถึงแล้ว
“คุณนายบุริศร์ ประธานธรณีให้พวกเรามารับคุณ”
กัปตันตะโกนจากข้างบน และหย่อนบันไดลงมา
นรมนมือหนึ่งอุ้มกมล อีกมือจับบันไดปีนขึ้นไป
ตอนที่เธอขึ้นไปหอบนิดหนึ่ง แต่ไม่สนใจตัวเอง
กัปตันรีบพูด “ประธานธรณีเตรียมเสื้อให้ชุดหนึ่ง ไม่แน่ใจคุณหนูกมลใส่ได้มั้ย คุณลองดู อีกอย่าง ประธานธรณีติดต่อโรงพยาบาลทหารแล้ว และติดต่อหมอไว้แล้วครับ”
“กมลไม่ชอบกลิ่นโรงพยาบาล กลับไปบ้านเก่าตระกูลโตเล็กเถอะ ฉันจำได้บุริศร์เตรียมห้องหนึ่ง ในนั้นมีเครื่องมือแพทย์”
“ได้ครับ”
กัปตันกำหนดเส้นทางการบินแล้วขับออกไป
นรมนรีบโทรหารมิดา
“เธอมีเวลามั้ย อยู่ที่เมืองชลธีหรือเปล่า ลูกสาวฉันเป็นไข้สูงไม่ลด เธอมาบ้านฉันดูให้หน่อยได้มั้ย”
“ไข้สูงก็เรียกฉันหรือ นรมน เธอเห็นฉันเป็นหมอธรรมดาหรือ ฉันเป็นหมอผ่าตัดอันดับหนึ่ง รับเฉพาะเคสผ่าตัดที่ท้าทาย”
รมิดา เพิ่งพูดจบ นรมนก็ร้องไห้แล้ว
“รมิดาอย่าเพิ่งล้อเล่น ลูกสาวฉันเคยผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะเมื่อครึ่งปีก่อน”
“แย่แล้ว ไม่รีบบอกล่ะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
วางสายแล้ว นรมนมองกมลในอ้อมกอด ในใจเป็นทุกข์เหลือเกิน
นาทีนี้เธอหวังว่าบุริศร์จะอยู่กับเธอ ต่อให้เขาจะไม่พูดอะไร แค่อยู่ข้างๆ เธอก็ยังดี
เธอคิดถึงบุริศร์เหลือเกิน
น้ำตาเกือบล้นออกมา แต่นรมนกลั้นน้ำตาไว้
ลูกเป็นอย่างนี้ เธอก็มีส่วนต้องรับผิดชอบ จะร้องไห้ไม่ได้
เครื่องบินลงจอดอย่างรวดเร็ว นรมนอุ้มกมลกลับมาบ้านเก่าตระกูลโตเล็ก รมิดาก็มาถึงแล้ว
“เธอออกไปก่อน ฉันจะตรวจก่อน วางใจเถอะ ฉันรับรองจะคืนเด็กร่าเริงให้เธอแน่”
รมิดาไล่นรมนออกไปก่อน
นรมนขดตัวนั่งบนโซฟา กัดริมฝีปากแน่น
สมจิตโทรเข้ามา บอกว่าพ่อแม่สกายมาถึงแล้ว ได้ยินว่าเด็กอยู่ระหว่างผ่าตัดก็โวยวาย ครูอิงฟ้านั่นก็ราดน้ำมันลงกองเพลิงพูดจาฉอดๆ ว่ากมลเป็นเด็กไม่ดี กระทั่งพูดว่ากมลตั้งใจ
ตอนนี้พ่อแม่ของสกายควบคุมตัวเองไม่ได้ เริ่มลงไม้ลงมือแล้ว
สมจิตไม่ได้รับคำสั่ง ได้แต่ป้องกันตัว แต่ไม่กล้าลงมือหนักไป เพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์ที่แก้ไขไม่ได้
นรมนได้ยินเสียงฝ่ายนั้นเอะอะโวยวาย ขมวดคิ้วแน่น
“เด็กออกจากห้องผ่าตัดหรือยัง”
“ตอนนี้ยังค่ะ ผู้ปกครองถึงได้ร้อนใจ คุณนายคะ พวกเราให้เงินไปสักก้อนหนึ่งดีมั้ยคะ อย่างนี้พวกเขาจะได้เงียบหน่อย”
สมจิต กระซิบถาม
นรมนกลับพูดเสียงเย็น “อะไรที่ต้องให้เราจะให้ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ ฉันจะหาหมอดีที่สุดไปดูหน่อย ฉันไม่แน่ใจคุณภาพหมอที่นั่น”
“โอเคค่ะ”
หลังจากวางสาย นรมนก็รีบโทรไปหาโพนี่ เล่าเรื่องให้ฟังคร่าวๆ จากนั้นหวังว่าโพนี่จะช่วยส่งคนไปดูให้หน่อย
แน่นอนว่าโพนี่ไม่ชักช้า สั่งหมอที่ดีที่สุดในโรงพยาบาลรีบไปที่นั่น
รมิดายังตรวจไม่เสร็จ นรมนรอคอยกระวนกระวาย หัวหมุนไม่หยุด
คราวก่อนที่โรงเรียนอนุบาลเกิดเรื่อง บุริศร์ก็ย้ายกมลกับกิจจามาที่โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้
นรมนเคยไปดูที่นี่ โรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ถือว่าเป็นของพวกคนรวย เด็กที่นี่ไม่เป็นลูกเศรษฐีก็ลูกคนมีเชื้อสาย ในด้านคุณภาพครูเข้มงวดมาก แต่อิงฟ้าคนนี้ทำไมถึงได้เข้ามาทำงานที่นี่ได้
ถ้าอิงฟ้ารู้สถานะของกมล จะกล้าทำอย่างนี้กับกมลได้อย่างไร
คำถามพวกนี้วนเวียนในหัวนรมน แต่หาคำอธิบายที่เหมาะสมไม่ได้