แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1047

ตอนที่ 1047

“ไปก็ไปสิครับ ใครกลัวคุณกัน!”

ป้องพูดแล้วถอดเสื้อคลุมออก

โพนี่พูดเบาๆ ว่า

“อย่าลืมว่าพี่รองเขาเป็นโรคประสาทนะคะ เบาๆ มือหน่อย”

ร่างกายของป้องหยุดชะงักทันที

“โพนี่ ผมเป็นสามีคุณนะ พูดช่วยพี่รองอย่างนี้มันเหมาะสมแล้วเหรอ?”

ป้องพูดด้วยอารมณ์หึง

โพนี่ยิ้มและพูดว่า “ฉันเตือนคุณเพราะคุณเป็นสามีของฉัน ลองคิดดูนะคะ นรมนให้ฉันรักษาเธอแล้ว ถ้าคุณทำให้โรคประสาทของพี่รองกำเริบขึ้นมา พอถึงตอนนั้นเราสองคนก็ต้องดูเราพวกเขาสองคน คุณก็ต้องชดใช้หนักกว่าเดิมไม่ใช่เหรอ?”

นรมนและงามสุดาหัวเราะทันที

ป้องพูดอย่างไม่เต็มใจ “ชั่งเถอะ ผมไม่สนใจ ถือว่าวันนี้ผมโชคร้ายล่ะกัน”

เขาจ้องไปที่บุริศร์อย่างเย็นชา และนั่งลงอีกครั้ง

ณพมองดูเวลา และขมวดคิ้วแน่น

“ทำไมรมิดายังไม่ถึงอีก? ผมจะออกไปดูหน่อยดีกว่า พวกคุณตามสบาย”

คุณชายทั้งสี่เมื่อขาดอรรณพไปก็ไม่ครบสี่ขาไพ่นกกระจอก ชายร่างใหญ่สามคนพูดคุยเกี่ยวกับการทหารและเศรษฐกิจ

“พี่รองจะไม่กลับไปจริงๆ เหรอ?”

คำพูดของป้องทำให้ดวงตาของบุริศร์มองไปที่นรมน

เขาพูดเสียงเบาว่า “ผมไม่กลับไปแล้ว นับจากนี้เป็นต้นไป สถานที่ที่นรมนอยู่คือสนามรบของผม ภารกิจเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตของผมคือการทำให้เธอมีความสุขและปลอดภัย อยู่กับผมไปจนแก่เถ้า”

“ให้ตายเถอะ ขนลุกมาก”

ป้องสะบัดร่างของเขา

คริชณะตบไหล่เขาแล้วพูดว่า “ถึงแม้ทางการทหารจะสูญเสียถ้าคุณไม่กลับมา แต่ทุกคนมีทางเลือกของตัวเอง ผมเคารพในการตัดสินใจของคุณ ถ้าคุณคิดดีแล้วก็โอเค”

“ขอบคุณครับเฮีย”

บุริศร์ยิ้มและพยักหน้า

ในเวลานั้นรมิดาเข้ามาพร้อมกับเด็กๆ

“ขอโทษที่มาช้านะคะ”

ในตอนที่รมิดาเข้ามาพร้อมกับฝาแฝดคู่หนึ่ง งามสุดาและโพนี่ก็ตกใจ

“ฝาแฝดชายหญิง? ฉันคิดมาตลอดว่าพวกคุณมีลูกสาวคนเดียว”

“ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน”

ไอราและโอลี่ถามข้อสงสัยกับรมิดา

ผู้ใหญ่หลายคนให้อั่งเปาตามลำดับ

บุริศร์พูดอย่างแผ่วเบา “พวกคุณจะลำเอียงแบบนี้ไม่ได้ระ ทำไมกมลของผมถึงไม่เห็นได้อั่งเปาจากพวกคุณเลย? หรือว่าลูกสาวของณพโด่งดังกว่า?”

กลิ่นความอิจฉาแผ่ไปห้องเต็ม

คริชณะยิ้มและส่ายหัว

งามสุดารีบพูดขึ้นว่า “ฉันเตรียมมาแล้วค่ะ เตรียมไว้ให้หมด ดนัยออกไปเล่นกับกมลไม่ใช่เหรอคะ? อีกเดี๋ยวเราจะให้แน่นอน”

“ค่อยว่าไปอย่าง”

เมื่อนรมนเห็นบุริศร์ดูเหมือนคนหน้าเงิน ก็รู้สึกกลุ้มใจทันที

ผู้ชายคนนี้เงินขาดหรือยังไง?

เงินขายเหรอ?

“อะแฮ่ม!”

นรมนกระแอมเพื่อเตือนบุริศร์ไม่ให้เล่นเป็นเด็กๆ แต่บุริศร์เข้าใจผิด และเตะป้องอย่างรวดเร็ว

“ได้ยินไหม? ภรรยาของผมเร่งแล้ว ทำไมผู้จัดการของคุณแลกเงินช้าจัง? ผมสงสัยว่าAnonaของคุณเปิดมาหลายปีได้อย่างไร”

ป้องอยากจะต่อยกับบุริศร์สักหมัดจริงๆ

“เดี๋ยวนะ พี่รอง นั่นมันตั้งกี่แสน คุณให้คนของผมไปที่ธนาคารเพื่อแลกเงินก็ควรนัดล่วงหน้าไม่ใช่เหรอ”

“ผมไม่สนใจ”

บุริศร์ทำท่าทางไม่สนใจ

หลังจากที่อรรณพจอดรถและกำลังเข้ามา ก็เห็นนวดกำมือ ก็ถามขึ้นอย่างรวดเร็วว่า “เกิดอะไรขึ้นครับ? อยากจะทดสอบกำลังเหรอ?”

“เฮ้อ ต่อยกับเขากลัวจะหาว่ารังแกคนป่วย”

ป้องวางมือลงทันที

พวกเขานั่งคุยกันเกี่ยวกับเรื่องผู้ชายๆ ด้วยกันอีกครั้ง รมิดาตบไหล่ไอราและพูดว่า “พาไอราออกไปเล่นเถอะค่ะ อย่าหลงนะ มีอะไรก็โทรหาฉัน”

“โอเคครับ”

ไอราจำวันเกิดของเธอไม่ได้จริงๆ และพากับโอลี่ออกไป

การเข้าร่วมของรมิดาทำให้นรมนมีความสุขมาก

“ทำไมมาช้าจังคะ?”

“โถ่ อย่าพูดถึงมันเลยค่ะ ไอราของเราตีกับเพื่อนร่วมชั้นอีกแล้ว ฉันก็เป็นห่วง นี่เปลี่ยนไปเป็นโรงเรียนอนุบาลมาห้าที่แล้ว ถ้าเปลี่ยนอีก ลูกสาวของฉันคงโด่งดังในเมืองชลธีแล้วค่ะ? พอถึงตอนนั้นถ้าขายไม่ออกจะทำยังไงคะ?”

เมื่อรมิดาพูดถึงลูกสาวคนโตของเธอก็ปวดหัวขึ้นมา

งามสุดายิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ขายไม่ออกไม่ดีเหรอคะ? พอถึงตอนนั้นคุณเลือกลูกเขยเองก็ได้นี่คะ”

นรมนผงะไปครู่หนึ่ง

“กานต์ของฉัน? หรือว่ากิจจา?”

“ได้หมดเลยค่ะ ฉันชอบกิจจามาก คุณรู้ไหมคะว่ามิลินพากิจจาไปสัมมนาทางการแพทย์เมื่อไม่นานมานี้ เด็กอายุ 4 ขวบอย่างกิจจาทำให้นักวิชาการบางคนถึงกับทึ่ง อย่าว่าแต่จำคำศัพท์ทางวิชาชีพเหล่านั้นเลยค่ะ เขาใช้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทุกคนล้วนพูดว่าเขาน่าจะเป็นดาวรุ่งรุ่นใหม่ในวงการแพทย์”

รมิดาเป็นนักศึกษาแพทย์ และเธอก็เป็นระดับนานาชาติด้วย ก็ต้องความเข้าใจดีเกี่ยวกับโลกการแพทย์นานาชาติเป็นธรรมดา

“อืม ฉันได้ยินมาเหมือนกันค่ะ”

งามสุดาพูดขึ้น

โพนี่ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ

“ใช่แล้ว ครูของกิจจาเป็นลุงของฉัน ฉายาว่ายมราช จะไม่เก่งได้ยังไงคะ?”

ในบรรดาสี่คนมีเพียงนรมนเท่านั้นที่อยู่ในความงุนงง

เธอไม่รู้จริงๆ ว่ากิจจาประสบความสำเร็จเช่นนี้!

เด็กคนนั้นไม่ได้พูดถึงเธอสักคำในวิดีโอ

“เดี๋ยวนะคะ? เห็นท่าทางคุณแล้วคุณไม่รู้เหรอคะ?”

รมิดาถามอย่างรวดเร็วเมื่อการแสดงออกของนรมนไม่ค่อยดีนัก

นรมนยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ฉันนี่เป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ?”

“ไม่ค่ะๆ ควรจะพูดว่าคุณโชคดี และมีความสุขมาก ลูกชายสองคนของคุณไม่ทำให้คุณต้องหนักใจเลย ถ้าไอราหรือพริมาของเราเก่งอย่างกิจจา ฉันคงดีใจมาก”

รมิดาชอบกิจจามาก

นรมนมีดีใจมาก เดี๋ยวเธอต้องไปคุยกับบุริศร์ ให้ความช่วยเหลือมิลินมากขึ้น

โพนี่ยิ้มและพูดว่า “เห็นลูกๆ พวกคุณโตกันหมดแล้ว ฉันยังไม่ได้คลอดลูกเลย ไม่รู้ว่าเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”

“ยังไม่ได้ไปตรวจเหรอคะ?”

งามสุดาถาม

โพนี่ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ป้องบอกว่าไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิงก็เป็นลูกของเรา พวกคุณรู้ไหม หลังจากที่ฉันแต่งงาน รู้ว่าไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ ก็เลยถอดใจแล้ว แต่ปวีราได้นำโชคมาให้พวกเรา ดังนั้นปวีราจึงเป็นความภาคภูมิใจของครอบครัวเรา”

“อ่อ ปวีราก็ก็ตั้งใจเรียนเช่นกัน แต่เธอแก่กว่านิดหน่อย เพราะตั้งแต่ยังเด็กเธอไม่ได้รับการฝึกอบรมใดๆ อาจเพราะถูกทิ้งให้อยู่ข้างหลังอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่เป็นไร เธอต้องตามทันแน่นอน แต่ปวีราพูดไม่ได้แล้วจริงๆ เหรอคะ?”

เมื่อพูดถึงปวีรา ผู้หญิงหลายคนก็รู้สึกปวดใจไม่น้อย

ใบหน้าของโพนี่ดูเจ็บปวดที่สุด

“ป้องและฉันได้สอบถามหมอแล้ว ดูเหมือนว่าไม่มีทางที่จะทำให้ลิ้นของคนๆ นั้นโตขึ้นได้อีก คนพวกนั้นโหดร้ายเกินไป แม้ว่าปวีราจะไม่ฝันร้ายในตอนกลางคืนอีกต่อไปแล้ว แต่พออยู่กับเพื่อนๆ เธอเงียบมาก และไม่กล้าแม้แต่จะใช้ภาษาใบ้ในที่สาธารณะ ฉันเกรงว่าเธอจะมีปัญหาในใจถ้าเธอยังเป็นแบบนี้ต่อไป”

“นี่เป็นเรื่องยากจริงๆ คุณควรหาเวลาไปพบจิตแพทย์ แต่ถ้าจะให้หายก็ต้องพึ่งพาตัวเอง คุณและป้องปฏิบัติต่อเธออย่างดี เหมือนกับลูกแท้ๆ ของตัวเอง ฉันคิดว่าเธอจะต้องดีขึ้น”

นรมนปลอบโยนโพนี่

ไม่มีใครรู้ความเจ็บปวดของปวีราดีไปกว่าเธอ

หลายคนกำลังพูดคุยกัน ทันใดนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนจากข้างนอก

“หม่ามี้ มีคนทะเลาะกันค่ะ”

เวธนีวิ่งกลับมาตลอดทาง เหงื่อออกเต็มศีรษะของเธอ

กมลวิ่งเข้าไปจับมือนรมนและพูดว่า “หม่ามี้ พี่ชายกับไอราทะเลาะกันค่ะ”

“อะไรนะ?”

นรมนยืนขึ้นทันที

“พี่ชายคนไหน?”

“พี่กานต์ค่ะ”

นรมนขมวดคิ้วเล็กน้อย

ทำไมลูกถึงมาอยู่ที่นี่?

แต่เขาไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อน เหตุใดเขาถึงทะเลาะกับลูกสาวคนโตของคุณชายอรรณพล่ะ?

“รีบไปดูเถอะ”

งามสุดาก็กังวลไม่น้อย

ผู้หญิงหลายคนเดินตามมา ผู้ชายพามองหน้ากันโดยไม่ได้พูดอะไร ท้ายที่สุดอรรณพมั่นใจในความเป็นสุภาพสตรีของลูกสาวของเขามาก ส่วนบุริศร์คิดว่าลูกชายของเขาเป็นสุภาพบุรุษเหมือนกัน จะทำอะไรไอราจริงๆ เหรอ

คริชณะและป้องรู้สึกว่า พ่อของผู้ที่เกี่ยวข้องไม่รีบร้อน พวกเขาต่างใจร้อนเกินกว่าจะออกไป

ดังนั้นให้นรมนและคนอื่นๆ วิ่งออกไป กานต์และไอราต่อสู้อย่างหนักหน่วงยากที่จะแยกออก

ความแข็งแกร่งของคนสองคนนั้นไม่ธรรมดาเลย

กานต์ทำไม่ถูกที่เริ่มใช้กำลังกับผู้หญิง แต่ไอราก็รังแกคนอื่นเกินไป เอาเค้กทั้งชิ้นมาโปะบนหัวของเขา

ตัวเขาเองมีนิสัยรักความสะอาด จากที่โกรธอยู่แล้วและถูกไอราเยาะเย้ยด้วย จู่ๆ กานต์ก็ไม่สามารถอดทนได้ เป็นครั้งแรกเขาใช้กำลังกับผู้หญิงเลย

ใครจะไปคิดว่าผู้หญิงคนนี้ดุร้ายยิ่งกว่าเสือโคร่ง ความแข็งแกร่งของเธอก็พอๆ กับเขา เขาจึงตีด้วยความสนุกอย่างอดไม่ได้

ไอราไม่ค่อยถูกชะตากับกานต์

เพียงเด็กตัวเล็กๆ ที่อายุราวๆ เดียวกับเธอ มาที่นี่ยังต้องสวมเครื่องแบบทหาร ทำให้เธอมองแล้วไม่สบอารมณ์

เป็นทหารแล้ววิเศษวิโสมากเหรอ?

สิ่งที่เกลียดที่สุดคือตอนที่เธอคุยกับกานต์ เด็กชายไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำ และเดินผ่านหน้าเธอไป

จนทนไม่ไหว

ไอราเอาเค้กโปะใส่หัวของกานต์ทันที ใครจะรู้ว่าเด็กคนนี้ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลย ถึงได้ใช้กำลังกับเธอ

ใช้กำลังก็ใช้กำลังสิ

ใครกลัวกัน?

ไอรามีความมั่นใจมากพอที่จะเอากานต์ทุ่มลงกับพื้นได้ใน 3 ทา ใครจะคิดว่า 30 ทาแล้วไม่เพียงแต่ทุ่มกานต์ลงไปที่พื้นไม่ได้ แต่เธอแทบจะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน

เมื่อเห็นว่าตัวเองกำลังจะแพ้ ไอราก็ถอยกลับมา และนั่งลงบนพื้นและเริ่มร้องไห้

“รังแกคนอื่น! ฮือๆ……”

เสียงร้องนี้ทำให้กานต์ตกตะลึงทันที

เขายังคงมีครีมเค้กอยู่บนผมของเขา ตกลงใครรังแกใครกันแน่?

กานต์มองไปที่หญิงสาวไร้ยางอายที่อยู่ข้างหน้าด้วยความโกรธ เมื่อไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร นรมนและคนอื่นๆ ก็ปรากฏตัวขึ้น

“กานต์ เกิดอะไรขึ้น?”

นรมนเดินไปอย่างรวดเร็ว และตกใจเมื่อเห็นท่าทางโหดร้ายของลูกชายของเธอ

เมื่อเห็นว่านรมนมาแล้ว ไอราก็หยุดร้องไห้ทันที จากนั้นดูนรมนที่เดินไปหากานต์ด้วยความประหลาดใจ ท่าทางสนิทสนมกัน

เธอตกตะลึง

คงไม่ใช่ลูกชายของคุณลุงตระกูลโตเล็กหรอกใช่ไหม?

ในตอนที่กำลังใช้ความคิด เธอได้ยินเสียงเย็นชาเล็กน้อยของรมิดามาจากด้านหลัง

“ไอรา เล่นไม่เข้าเรื่องอีกแล้วใช่ไหม?”

จบเห่แล้ว!

ไอรากระโดดขึ้นและวิ่งไปข้างหลังกานต์ทันที นิ้วเปื้อนครีมของเธอคว้าเสื้อของกานต์ และพูดอย่างน่าสงสารว่า “พี่ชายสุดหล่อ ช่วยด้วย!

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท