“พ่อมัน คุณเป็นอะไร”
แม่นรมนเห็นงามพลที่ใจแทบสลาย จึงอดไม่ได้กระตุกมุมเสื้อของเขาขึ้น
งามพลเพื่อเนตรายอมสละทุกอย่าง จุดนี้แม่นรมนรู้ดี แม้กระทั่งสละชื่อเสียงของเขาตัวเอง สละนรมน เพียงเพื่อทดแทนลูกสาวของตัวเอง แต่ว่าคำพูดของนางพยาบาลเมื่อสักครู่ราวกับสายฟ้าที่ฟาดตรงเข้าศีรษะของงามพล
ไม่ใช่ลูกแท้ๆ
จะไม่ใช่ลูกแท้ๆได้อย่างไร สมองของงามพลวกวนอยู่แต่คำถามนี้
“แม่มัน คุณยังจำเรื่องที่เจอใบตรวจผลดีเอ็นเอของเนตราได้ไหม”
ฉับพลันงามพลพลิกมือมาจับมือของแม่นรมนไว้ แรงจับนั้นทำให้แม่นรมนอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วขึ้น
“ใบตรวจผลดีเอ็นเอแผ่นนั้นคุณทำขึ้นมาใช่ไหม”
“อะไรคือผมเป็นคนทำเหรอ ตอนนั้นเนตราบอกว่าคุณเป็นนำไปตรวจ”
เมื่อคำพูดของงามพลเปล่งออกมา แม่นรมนก็ตะลึงนิ่งขึ้น
“ผมไม่เคยทำ ผมจะมีความสามารถนั้นได้อย่างไร”
จนวินาทีนี้พ่อแม่นรมนถึงรู้สึกตัวว่าถูกเนตราหลอกตั้งแต่แรก
“ไอ้หลอกลวง !ไอ้เลว! ฉันจะฆ่ามัน!”
งามพลตะโกนเบาๆพร้อมมุ่งเดินไปห้องผ่าตัด กลับถูกผู้คุมขังรั้งตัวไว้
“สงบหน่อย! ตอนนี้คุณไม่รู้ว่าเหรอว่าอยู่ในสถานะใด คิดจะทำอะไร”
คำพูดนี้ราวกับน้ำเย็นหนึ่งกะละมังที่ราดลงบนตัวของงามพล
ตอนนี้เขาคือนักโทษ!
เพื่อเนตราแล้ว เขาทุ่มเททำทุกอย่าง แม้แต่จะทำผิดต่อนรมนก็ตาม หรือแม้แต่เป็นการทำลายชื่อเสียงของตัวเองก็ยอม ตอนนี้แก่แล้วก็ยังยอมเข้าเรือนจำแทนเนตรา แต่ตอนนี้กลับมาบอกว่าเนตราไม่ใช่ลูกแท้ๆของเขา อย่างไรงามพลก็ไม่สามารถที่จะรับผลลัพธ์นี้ได้
“ผมจะไปหาเธอถามให้รู้เรื่อง! หรือว่าพวกเราทำการตรวจดีเอ็นเออีกครั้ง”
งามพลไม่สนสถานะนักโทษของตัวเองอีกต่อไป คิดแค่อยากจะได้คำตอบที่ถูกต้อง
ตำรวจจะทำตามใจเขาไม่ได้ จึงจับเขาคุมตัวไว้บนเก้าอี้
“สงบหน่อย! ถ้าคุณยังทำเช่นนี้อีก ผมจะพาคุณกลับ”
แม่นรมนรีบขอร้อง
“คุณตำรวจ คุณเบามือหน่อย เขาใกล้จะหกสิบแล้ว ทนความทรมานแบบนี้ไม่ไหว”
เธออ้อนวอนร้องไห้คร่ำครวญ ทันใดนั้นสายตาเหลือบไปเห็นนรมน จึงกระโจนเข้ามาหา
บุริศร์จึงกันตัวนรมนไว้ด้านหลัง
“คุณจะทำอะไร”
น้ำเสียงของเขาที่เย็นชา ไม่โกรธแต่ทรงพลัง
แม่นรมนตอนนี้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก
เธอทำไมถึงผลักใสไล่ส่งลูกสาวที่เลี้ยงมากว่ายี่สิบปีเพื่อคนที่ไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของตัวเอง
แม่นรมนคุกเข่าลงดังตุบให้กับนรมน
นรมน แม่ขอร้องหนูล่ะ ข้อร้องให้สงเคราะห์คำขอของพ่อของหนูด้วยเถอะ พวกเราไม่ขออะไรอย่างอื่น ขอแค่ทำการตรวจดีเอ็นเอเท่านั้น ทำที่นี่เลย แม่รู้ว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาลทหาร เป็นโรงพยาบาลที่มีอำนาจ อีกทั้งผู้อำนวยการของโรงพยาบาลนี้ มีความสำพันธ์ที่ดีกับพวกเธอสองสามีภรรยา ขอเพียงแค่พวกเธอเอ่ยปาก พวกเขาจะต้องตรวจตรงไปตรงมาอย่างแน่นอน”
นรมนน้ำตาซึม
ฉากนี้ช่างเป็นอะไรที่น่าขำมาก
ก่อนหน้านี้ไม่นานสองสามีภรรยาคู่นี้ยังต้องการให้เธอตายโดยที่ไม่สนใจดูดำดูดี ตอนนี้ตอนจบกลับกลายมาเป็นเช่นนี้
นรมนไม่ได้พูดอะไร ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรจริงๆ
ความสัมพันธ์ทางสายเลือดสำคัญขนาดนั้นหรือ
เธอค่อนข้างไม่เข้าใจ
บุริศร์พูดด้วยความเย็นชา “ตรงไปตรงมา?” สี่คำนี้พวกคุณมีสิทธิ์พูดด้วยเหรอ พวกคุณไม่กลัวผู้อำนวยการโรงพยาบาลเห็นแก่ความสัมพันธ์ที่ดีของพวกเราแล้วทำการเปลี่ยนผลของการตรวจเหรอ ใช่ไม่ใช่ลูกสาวของตัวเอง ตัวเองจะไม่รู้สักนิดเลยเหรอ หรือถ้าไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของตัวเอง พวกคุณก็จะไม่ช่วยเนตราอย่างนั้นใช่ไหม พวกคุณเลี้ยงดูนรมนมายี่สิบกว่าปี สุดท้ายก็ถูกผลักไสออกนอกบ้านเพียงเพราะใบผลตรวจดีเอ็นเอใบเดียว ตอนนี้กลับมานึกขึ้นได้ว่ายังมีลูกสาวคนนี้ ผมนั้นรู้สึกสมเพชพวกคุณจริงๆ หรือว่าความสัมพันธ์ทางครอบครัวในสายตาพวกคุณ เมื่อมีประโยชน์ถึงจะเป็นลูกสาว พอหมดประโยชน์คือศัตรูอย่างนั้นเหรอ”
แม่นรมนถูกคำพูดของบุริศร์เสียดสีแดกดันจนหน้าแดงก่ำ
“อย่าไปขอร้องเธอ”
งามพลกลับสู่ภาวะที่สงบ ค่อยๆเอ่ยปากพูดขึ้น
เขามองนรมนด้วยสายตาที่เย็นชา
“พวกเราเลี้ยงเธอมายี่สิบปีกว่า เธอทำอะไรเพื่อพวกเราบ้าง ต่อให้ไม่ใช่เพื่อเนตรา หลังจากที่เธอได้เป็นคุณนายบุริศร์แล้วเธอเคยให้อะไรพวกเราสองคนบ้าง อย่าโทษที่พวกเราตามหาลูกสาวแท้ๆ ลูกของคนอื่นอย่างไรก็ใช้ไม่ได้ ตอนนี้เธอสนิทกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่ใช่เหรอ พ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงอย่างพวกเราจะเทียบอะไรได้ ผมยังจำไม่ลืมว่าที่ต้องโทษอยู่ในเรือนจำนี้ใครเป็นผู้มอบให้”
“คุณนี่ช่างตลกจริงๆ หรือว่าการที่คุณดุด่าตบตีจะฆ่าเธอนั้น เธอยังต้องกล่าวขอบคุณระลึกบุญคุณพวกคุณอย่างนั้นเหรอ นรมนทำไมถึงส่งคุณเข้าไป ไม่รู้ตัวเองเลยเหรอ หึ ตอนนี้มาบอกว่านรมนไม่ดี หลังจากแต่งงานแล้วนรมนก็ไม่เคยให้อะไรพวกคุณ ตอนที่นรมนแต่งงานนั้นพวกคุณเคยให้อะไรกับนรมนบ้าง แม้แต่เงินค่าชุดแต่งงานสักบาทก็ไม่มี ใช่ การที่นรมนชอบผมนั้นเป็นเรื่องของเธอ แต่ว่านรมนในตอนนั้นยังเป็นลูกสาวของพวกคุณ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอนั้นไม่ใช่ลูกแท้ๆของพวกคุณ พวกคุณเองก็คงไม่รู้เช่นกัน อย่างนั้นตอนที่นรมนแต่งงานพวกคุณได้ให้อะไรกับเธอ ตอนนั้นคุณธรรมบารมีตระกูลธนาศักดิ์ธนสูงส่ง แต่ว่านรมนนอกจากพกแต่ตัวมาบ้านตระกูลโตเล็กแล้ว ก็ไม่ได้พกเงินตระกูลธนาศักดิ์ธนของพวกคุณมาแม้แต่บาทเดียว คุณมีหน้ามาขอให้นรมนให้ของแก่พวกคุณอีกเหรอ!”
บุริศร์เกิดอาการโมโห คำพูดที่เปล่งออกมาจึงไม่ค่อยมีความเกรงใจ
นรมนฟังคำพูดทั้งหมดของงามพลอยู่หลังบุริศร์ แม้แต่แรงโกรธก็ไม่มีแล้ว
เธอรู้สึกว่าความคิดของคนคนหนึ่งถ้าเกิดความเอนเอียงแล้ว ไม่ว่าคุณจะมีเหตุผลมากเพียงใด เขาก็ไม่มีทางที่จะรับฟังความเห็นต่างๆแล้ว
ตั้งแต่ที่เธอแต่งงานกับบุริศร์ พ่อแม่ก็เริ่มไม่พอใจในตัวเองแล้ว แต่ว่าในตอนนั้นตัวเองยังเป็นลูกของพวกเขา พวกเขาไม่รู้ว่านรมนนั้นไม่ใช่ลูกแท้ๆ ดังนั้นจึงได้แต่อดทนอดกลั้นเอาไว้ แต่ว่าในใจนั้นกลับมีคำดุด่าอยู่ไม่น้อย
ตอนที่เพิ่งแต่งเข้าบ้านตระกูลโตเล็กนั้น นรมนมีแต่ตัว เพราะด้วยความเต็มใจของตัวเอง ต่อให้บุริศร์นั้นจะไม่สนใจตัวเองก็ตาม เธอก็จะทำให้ดีที่สุด แม้นต้องปรนนิบัติคนแก่เด็กเล็กแดงของตระกูลโตเล็กก็ตาม ตอนนั้นพ่อแม่นรมนเคยถามสักคำบ้างไหม
บุริศร์พูดไม่มีผิด ตอนนั้นตระกูลธนาศักดิ์ธนคุณธรรมบารมีสูงส่ง ฐานะทางบ้านก็ถือว่าร่ำรวย แต่กลับไม่เคยออกค่าชุดแต่งงานให้กับเธอเลยสักบาท
นรมนไม่ได้ตำหนิ ไม่ได้กล่าวโทษ แต่ว่าพ่อแม่นรมนกลับมาคิดแบบนี้
เธออดไม่ได้ที่จะยิ้มเยาะอย่างดูแคลน
คนเรานะหากใครเห็นคุณไม่เข้าตาเมื่อไร แม้แต่การยิ้มให้ของคุณพวกเขายังคิดว่าเป็นการเสแสร้ง ดังนั้นพูดมากไปก็ไม่มีประโยชน์
นรมนรู้สึกว่าสองคนนี้ค่อนข้างขวางหูขวางตา
เธอจึงพูดเบาๆ“เนตราตอนนี้ต้องการเปลี่ยนถ่ายไตอย่างเร่งด่วน พวกคุณต้องการทำการตรวจชนิดเนื้อเยื่อไหม หากเนื้อเยื่อเข้ากันได้ก็จะ……”
“เธอยังไม่รู้เลยว่าเป็นลูกสาวของใคร ทำไมพวกเราต้องบริจาคไตให้กับเธอ พวกเราไม่ทำ! โกหกพวกเราตั้งนาน เธอตายไปได้ก็ดี! นี่เป็นการลงโทษจากสวรรค์!”
งามพลตะวาดออกมาเบาๆ
แม้ว่าแม่นรมนจะไม่พูดอะไร แต่มองจากแววตาของเธอก็บ่งบอกว่าไม่อยากไปทำการตรวจ
นรมนจึงหัวเราะขึ้นทันใด
นี่เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์
หรือว่าเป็นสัญชาตญาณของพ่อแม่นรมน
“พวกคุณทำให้ฉันหูตาสว่างขึ้นจริงๆ”
นรมนทิ้งประโยคนี้แล้วก็ไม่สนใจสองสามีภรรยาคู่นี้อีก
นางพยาบาลวิ่งออกมาอีกครั้ง
“นี่พวกคุณเป็นอะไรกัน คนที่นอนอยู่ด้านในนั้นยังใช่ลูกสาวพวกคุณอยู่หรือเปล่า รีบหาเลือดสิ”
“เธอจะเป็นตายร้ายดีพวกเราไม่สนใจ”
งามพลยืนกรานจุดยืนของตัวเอง
นางพยาบาลจึงโมโหโทสะขึ้น
“พวกคุณเป็นพ่อแม่ประสาอะไร ทำไมถึงพูดแบบนี้ ต่อให้เป็นลูกเลี้ยง หลายปีมานี้ก็น่าจะผูกพันกันบ้างหรือเปล่า ทำไมเห็นคนตายต่อหน้าแล้วยังไม่ช่วย”
“เธอหลอกลวงความรู้สึกของพวกเรา จะให้พวกเราสละทุกอย่างเพื่อช่วยเธออย่างนั้นเหรอ ทำไม ดาวมรณะดวงนี้ทำให้ตระกูลธนาศักดิ์ธนชื่อเสียงปนปี้ ยากจนข้นแค้นจนไม่เหลืออะไรแล้ว นี่ยังอยากจะได้ไตของพวกเราสองคนอีกเหรอ ใครจะอยากไว้หน้าเธอ”
เสียงที่ไม่เบาของงามพล ได้ลอดผ่านช่องประตูเข้าไป
เนตราที่อยู่ในสภาวะกึ่งมีสติ ตอนนี้ได้ยินงามพลพูดแบบนี้ ทันใดนั้นก็โกรธจนเกือบจะหายใจไม่ออก
เครื่องช่วยหายใจของเธอดังขึ้นอย่างรวดเร็ว
“คนไข้อารมณ์ไม่ดี รีบทำการช่วยเหลือด่วน”
คำพูดของคุณหมอลอดดังออกมา นางพยาบาลจึงรีบวิ่งเข้าไป งามพลสองสามีภรรยาไม่มีความเป็นห่วงเลยสักนิด แต่กลับกัดฟันด้วยความเคียดแค้น
ถ้าหากว่าไม่เห็นกับตา นรมนแทบไม่อยากจะเชื่อว่าสองสามวันก่อนสองสามีภรรยาคู่นี้ที่เพื่อเนตราแล้วไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
เนตราที่อยู่ด้านในจับมือของคุณหมอไว้แน่น พูดน้ำเสียงกระท่อนกระแท่น“เรียกกล้าณรงค์ ฉันมีเบอร์โทรของเขา”
คุณหมอกับนางพยาบาลจดเบอร์โทรศัพท์นั้นไว้
นางพยาบาลผลักประตูแล้วเดินออกมา
“ใครคือกล้าณรงค์คนไข้ต้องการความช่วยเหลือจากเขา นี่เป็นเบอร์โทรศัพท์”
แต่งามพลสองสามีภรรยาต่างก็ไม่อยากจะรับธุระนี้
นรมนจึงผลักบุริศร์
บุริศร์รับเบอร์โทรศัพท์มา แล้วโทรหาเบอร์โทรศัพท์ของกล้าณรงค์ต่อหน้าทุกคน อีกทั้งยังได้เปิดลำโพง
“ใครครับ”
เสียงกล้าณรงค์ดังลอยขึ้นที่แฝงด้วยอารมณ์ขี้เกียจเล็กน้อย เหมือนกับว่าเพิ่งตื่นอย่างไรอย่างนั้น
บุริศร์พูดเบาๆ“ผมเราโทรมาจากโรงพยาบาลทหารเมืองชลธี เนตราไตวายฉับพลัน ต้องการผ่าตัดเปลี่ยนไตอย่างเร่งด่วน เธอให้พวกเราติดต่อคุณ”
ทางฝั่งกล้าณรงค์มีเสียงเย้ายวนของหญิงสาวดังขึ้น
“พี่กล้าณรงค์ขา นังสารเลวนั่นยังไม่ตายอีกเหรอคะ หรือเธอไม่รู้ว่าที่เธอไตวายฉับพลันนั้นเป็นฝีมือของคุณ ผู้หญิงคนนี้ก็ช่างโง่จริงๆ อยู่กับคุณมาตั้งหลายปี อาหารที่ทานเข้าไปในแต่ละวันใส่อะไรเข้าไปบ้างก็ไม่เคยรู้”
คำพูดนี้ได้ลอยได้ไปในหูของเนตราทันใด
ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้นทันที
“ไม่ ไม่จริง”
เธอพยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้น แต่กลับได้ยินเสียงพูดเย็นชาของกล้าณรงค์“ผู้หญิงโง่คนนั้นตอนนี้ไม่มีประโยชน์แล้ว ทำไมผมต้องเสียเงินเพื่อรักษาเธอด้วย อีกอย่างมีพ่อแม่บังเกิดเกล้าแล้วไม่ใช่เหรอ โน่นไปหาคุณท่านคุณนายตระกูลธนาศักดิ์ธนโน่น แต่ว่าพวกเขาคงไม่สามารถช่วยเธอได้หรอก เพราะว่าพวกเขาก็ไม่ใช่พ่อแม้ที่แท้จริงๆ โอเค ไม่มีอะไรแล้วก็อย่ามารบกวนความสุขของผมอีก ต่อไปผู้หญิงคนนั้นจะเป็นตายร้ายดีก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผมแม้แต่น้อย ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าเธอยังมีประโยชน์อยู่เล็กน้อย ผมจะให้เธออยู่ข้างกายผมในฐานะแฟนเป็นเวลาหลายปีเหรอ เป็นแค่ลูกสาวของโจรก็อยากจะเป็นแฟนของกล้าณรงค์อย่างผมเหรอ ถุย!”
เมื่อพูดจบ กล้าณรงค์ก็วางโทรศัพท์ลงทันที
ความจริงได้ปรากฏอย่างชัดเจนแล้ว คุณท่านคุณนายตระกูลธนาศักดิ์ธนโกรธจนแทบอยากจะฉีกกล้าณรงค์ออกเป็นชิ้นๆ แต่ทว่าไร้ความสามารถ
เนตราได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้ว รับกับความแดกดันนี้ไม่ได้ จึงเป็นลมหมดสติไป
“เร็ว!รีบช่วยเหลือด่วน!”
มีเสียงชุลมุนวุ่นวายดังลอยมาจากด้านใน
นรมนเห็นภาพนี้แล้วจู่ๆก็รู้สึกว่าภาพนี้เหมือนกับเป็นกับภาพฉากตลก ตอนนี้ภาพฉากตลกได้จบลงไปแล้ว แต่เธอกลับไม่มีความสนุกหรือความโล่งใจแต่อย่างใดเลย กลับรู้สึกจี๊ดที่หัวใจที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่ารู้สึกอย่างไร