แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1071

ตอนที่ 1071

“ความยุติธรรม?ถ้าเขาไม่ยุยงพี่สาวของฉัน พี่สาวของฉันจะตายเพื่อเขาได้อย่างไร?เธอเป็นคนที่ขี้ขลาดขนาดนั้น เป็นคนที่กลัวเจ็บขนาดนั้น คิดไม่ถึงว่าจะยกชีวิตให้บุริศร์ นี่มันชีวิตหนึ่งเลยนะ!ครอบครัวของฉันไม่มีพี่สาวของฉัน ทุกอย่างพังทลาย บุริศร์มีสิทธิ์อะไรถึงได้มีชีวิตใหม่?มีสิทธิ์อะไรถึงได้เป็นอิสระแบบนี้?นี่มันยุติธรรมเหรอ?”

ชัยณรงค์อารมณ์ฉุนเฉียว

นรมนมองเห็นความอคติจากสายตาของเขา เธอรู้ว่าตนเองพูดไปก็เปล่าประโยชน์

ชัยณรงค์ฉุนเฉียวอยากหาคนทะเลาะด้วย แต่นรมนไม่ต้องการ

หัวคิ้วของเขาขมวดเข้าหากันแน่น

“อะไรกัน?แกจะไม่พูดแก้ตัวให้บุริศร์เลยเหรอ?”

“พูดแล้วจะมีประโยชน์อะไร?สำหรับแก แกเชื่อว่าเขาฆ่าพี่สาวของแก ฉันพูดอะไรก็เปลืองน้ำลายเปล่า ๆ ”

นรมนนั่งลงข้างกิจจาทันที

นภดลได้รักษาบาดแผลให้กิจจาเสร็จแล้ว กิจจาเพียงแค่โดนกระสุนเฉียดผิวหนังไป ไม่ได้บาดเจ็บถึงกระดูก นับว่าในความโชคร้ายยังมีความโชคดี

ชัยณรงค์เห็นนรมนเอาแต่ให้ความสนใจกับกิจจาอย่างเดียว ทันใดนั้นก็รู้สึกว่าไอ้เด็กคนนี้ขัดหูขัดตาเล็กน้อย

“จับมันโยนเข้าไปในห้อง”

ชัยณรงค์พูดจบ ลูกน้องก็พาตัวของกิจจาเข้าไป นรมนส่งสัญญาณให้นภดลตามเข้าไปชัยณรงค์ก็ไม่ได้ห้าม

เมื่อภายในห้องโถงใหญ่เหลือเพียงนรมนกับชัยณรงค์ เขาก็โยนมือถือเครื่องหนึ่งให้นรมนทันที

“ต้องทำอย่างไรแกน่าจะรู้ ทางที่ดีอย่ามีลูกไม้อะไร ฉันจะไม่ทำอะไรแก แต่ถ้าแกคิดตุกติกล่ะก็ ถึงแม้ฉันจะชอบแก ฉันก็จะไม่ปล่อยแกเอาไว้”

ชัยณรงค์พูดว่าชอบ นรมนทำได้เพียงแค่ฟัง

ผู้ชายคนนี้ถูกความเกลียดชังครอบงำ เกรงว่าชอบก็จะมีจุดประสงค์บางอย่างตามมาด้วย บุริศร์ของพวกเขาน่าจะดีกว่า

นรมนรับมือถือมา กดเบอร์ของบุริศร์อย่างคุ้นเคย

คิดไม่ถึงว่าจะมีสัญญาณ!

ดูเหมือนว่าสัญญาณในนี้จะเป็นสายเฉพาะ

ตอนนี้นรมนสงบนิ่งอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

ทางฝั่งนั้นแทบจะรับสายทันทีหลังจากเสียงดังขึ้นสองครั้ง

“นั่นใคร?”

“บุริศร์ ฉันเอง”

นรมนเห็นว่าชัยณรงค์ต้องการให้ตนเองเปิดลำโพง

เธอก็ไม่พูดอะไร กดเปิดลำโพงทันที

เมื่อบุริศร์ได้ยินเสียงของนรมนก็แปลกใจเล็กน้อย

“มือถือของคุณล่ะ?”

นรมนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เซอร์ไพรส์”

“อย่าบอกนะว่าคุณอยู่ที่แอฟริกาใต้!”

หัวใจของบุริศร์เต้นแรงขึ้นมาทันที

“แทนแทนแท้น ยินดีด้วย คุณตอบถูก”

นรมนหัวเราะอย่างอารมณ์ขัน

มุมปากของบุริศร์ยกขึ้นมาทันที

“มาคนเดียวเหรอ?”

“จะเป็นไปได้อย่างไร?ฉันพานภดลมาด้วย เพียงแต่ดวงไม่ค่อยดี มาถึงก็ถูกชัยณรงค์ลักพาตัว เพียงแต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีฉันบังเอิญได้เจอกับกิจจา คุณสบายใจได้ ลูกสบายดี”

นรมนเล่าสถานการณ์ในตอนนี้ให้ฟังอย่างสั้น ๆ

หัวใจของบุริศร์เต้นแรงขึ้น

ชัยณรงค์เป็นใคร?

เขารู้ดีกว่าใคร

สำหรับชัยณรงค์การตายของรมัยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้

เดิมคิดว่าเขาสามารถหาโอกาสคุยกับชัยณรงค์ คิดไม่ถึงว่านรมนจะส่งตัวเองไปหาชัยณรงค์โดยตรงอย่างไม่คาดคิด

บุริศร์ไม่รู้ว่าควรจะพูดว่านรมนกล้าหาญ หรือจะพูดว่าเธอโง่กันแน่ แน่นอน โง่คำนี้ไม่สามารถพูดได้ ถึงแม้จะคิดแบบนี้ก็ตาม ก็ทำได้เพียงแค่พูดอยู่ในใจเท่านั้น

เขายังไม่ทันได้พูดอะไรกับนรมน ก็ได้ยินเธอพูดต่อว่า “คุณตาให้ปืนฉันกับนภดลมาคนละกระบอก น่าเสียดายที่ไม่ได้ใช้ความสามารถ ถูกคนยึดไปแล้ว ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ฉันน่าจะเอาปืนซ่อนเอาไว้แถว ๆ สนามบิน ถ้าเป็นแบบนั้น ไม่ว่าอย่างไรก็ตามยังมีสิ่งของเอาไว้ปกป้องตนเอง”

คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์อึ้งไปเล็กน้อย

ไม่รู้ว่ากานต์มาอยู่ข้าง ๆ บุริศร์ตั้งแต่เมื่อไหร่ คิ้วขมวดแน่น

“แถว ๆ สนามบิน?”

เขาขยับริมฝีปากถามบุริศร์

บุริศร์พยักหน้า

กานต์ออกคำสั่งให้คนกลุ่มหนึ่งไปแถว ๆ สนามบินทันที ส่วนเขาอยู่ที่นี่ เปิดคอมพิวเตอร์อย่างรวดเร็ว ค้นหาตำแหน่งมือถือที่นรมนใช้อย่างละเอียด

ชัยณรงค์ได้ยินนรมนพูดไร้สาระ จึงอดกระวนกระวายใจไม่ได้ แย่งมือถือมา

“อย่าพูดจาไร้สาระ บุริศร์ ทางที่ดีแกมาที่นี่คนเดียว ไม่อย่างงั้นฉันจะฆ่าเมียของแกซะ”

“ชัยณรงค์ คนที่แกต้องการมีแค่ฉันเพียงเท่านั้น ทำไมจะต้องเอาคนอื่นที่ไม่ได้ผิดอะไรมาเกี่ยวข้องด้วย ?แกปล่อยเมียของฉันไป ฉันจะปล่อยให้แกจัดการตามที่ต้องการ”

คำพูดของบุริศร์ทำให้ชัยณรงค์หัวเราะขึ้นมาทันที

“ปล่อยให้ฉันจัดการตามที่ต้องการ?แกเอาคนมากี่คนคิดว่าฉันไม่รู้เหรอ?กองทัพที่อยู่ข้างหลังแกมีกี่คนฉันก็รู้ บุริศร์ ฉันเฝ้าติดตามดูคนของแก ฉันเตือนแกนะ แกต้องมาคนเดียว ตอนนี้ เดี๋ยวนี้ มาหาฉันทันที คนของแก คนของกองทัพที่อยู่ข้างหลังแกห้ามทำอะไรทั้งนั้น ไม่อย่างนั้นฉันจะฆ่าผู้หญิงที่แกรักที่สุดตรงหน้าให้ตายไปกับพี่สาวของฉันด้วย”

ชัยณรงค์พูดจบก็วางสาย

กานต์กล่าวเบา ๆ “หาตำแหน่งโดยละเอียดได้แล้ว ผมส่งไปในมือถือของคุณแล้ว”

“ฉันจะไปหาชัยณรงค์ ทำตามที่เขาบอกนะ คนทางนี้ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น”

คำพูดของบุริศร์ทำให้กานต์หน้านิ่วคิ้วขมวด

“แต่ความปลอดภัยของคุณ……”

“ไม่ต้องสนเรื่องความปลอดภัยของฉัน หม่ามี้ของแกไม่มีทางพลาด เมื่อสักครู่เธอพูดชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ?แม่ของแกพาคนมาด้วย ถ้าฉันเดาไม่ผิด น่าจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ตามหลังแม่ของแกมา รอคำสั่งอยู่แถวสนามบิน”

บุริศร์ถอนหายใจและกล่าวว่า “ตอนนี้หม่ามี้ของแกเก่งแล้วยังกล้าหาญอีก บุกเข้าถ้ำเสือคนเดียว ล่อให้ศัตรูออกจากถ้ำ ปล่อยให้การช่วยเหลือและการจัดการด้านนอกเป็นของพวกเราสองคน ดังนั้นภารกิจในครั้งนี้จะมีความผิดพลาดแม้เพียงเล็กน้อยไม่ได้”

กานต์พยักหน้าและกล่าวว่า “มีคนไปแถวสนามบินแล้ว ผมให้พวกเขานำตราประทับของหม่ามี้ไปด้วย น่าจะสามารถระดมกำลังได้ และอีกอย่าง ผมเจอมิลินหมดสติอยู่แถวทะเล ผมได้ให้คนพาเธอไปข้างนอกแล้ว ส่วนกิจจาอยู่ข้างใน ก่อนผมมามิลินฟื้นขึ้น เธอบอกว่าเธอมีกลุ่มคนอยู่ในมือสามารถระดมกำลังได้ ถามว่าพวกเราต้องการใช้ไหม?”

บุริศร์แปลกใจเล็กน้อย

มิลินมีกำลังคนในมือ?

คนของใคร?

คนของขุนอินเหรอ?

แต่ขุนอินตายไปนานแล้ว คนเหล่านั้นในมือของเขาไม่ถูกยิงตายก็ถูกจับกุม แล้วมิลินไปเอากำลังคนมาจากไหน?

กานต์รู้ดีว่าบุริศร์กำลังคิดอะไรอยู่

เขาโบกข้อมือที่เจ็บปวดของตนเอง กล่าวเสียงเบาว่า “ผมจำได้ว่ามิลินมีตราสัญลักษณ์รูปดอกลิลลี่แมงมุมอยู่ในมือ”

“แกสืบเจออะไรบ้าง?”

“ตราสัญลักษณ์นี้มีความคล้ายคลึงกับสัญลักษณ์ประจำประเทศ F ถ้าไม่สังเกตดี ๆ ก็จะสามารถเอาของปลอมปนกับของจริงได้ ผมแฮกเข้าไปในระบบของรัฐบาลประเทศ F ตรวจเจอว่าตราสัญลักษณ์นี้ผู้หญิงที่มีชื่อว่านงลักษณ์ เป็นคนสร้าง และตราสัญลักษณ์นี้ก่อตั้งองค์กรลับ เรียกว่าองค์กร HG”

บุริศร์ขมวดคิ้วทันที

ประเทศ F?

ทำไมถึงเป็นประเทศ F อีกแล้ว?

หรือว่ามิลินเป็นคนประเทศ F ?

“HG หมายความว่าอะไร?”

“การถอยกลับ”

คำตอบของกานต์ทำให้บุริศร์ประหลาดใจเล็กน้อย

“การถอยกลับ?คำนี้ค่อนข้างน่าสนใจ”

“ยังมีสิ่งที่น่าสนใจกว่านี้อีกครับ ผู้หญิงที่ชื่อ นงลักษณ์ เป็นแม่ของราเชน ซึ่งจากโลกนี้ไปแล้ว เพียงแต่เธอกลับไม่ยกองค์กรนี้ให้แก่ราเชนลูกชายของเธอ แต่ยกให้ลูกน้องที่ตนเองไว้วางใจที่สุด จากการตายของนงลักษณ์ องค์กร HG ก็หายเข้ากลีบเมฆในประเทศ F ไปโดยสิ้นเชิง ทุกคนกลับคืนสู่ที่ของใครของมัน ไม่มีร่องรอยใด ๆ หลายปีผ่านไป องค์กรนี้ก็ค่อย ๆ หายไปจากสายตาของผู้คน ในปัจจุบันมีคนจำนวนไม่มากที่รู้ว่ามีองค์กรนี้อยู่ เดาว่าแม้แต่ราเชนก็ไม่รู้ว่ามีองค์กรนี้อยู่ด้วย ดังนั้นมิลินจึงมีตราสัญลักษณ์ประจำองค์กรนี้อยู่ในมือ ผมเดาว่ามีความเป็นไปได้สูงว่าเธอคือลูกน้องที่นงลักษณ์ไว้วางใจที่สุดในตอนนั้น ถ้าสิ่งที่คาดเดาเป็นความจริง พวกเราสามารถยืมคนของเธอมาได้ชั่วคราว”

กานต์พูดสิ่งที่ตนเองรู้ทั้งหมดออกมา

ถึงแม้เขาจะอยู่ในเขตทหาร แต่ยังมีวิธีที่จะรู้เรื่องเกี่ยวกับนรมน เมื่อทราบว่าราเชนกับนรมนอาจจะมีความเกี่ยวข้องกัน กานต์แทบจะตรวจสอบบรรพบุรุษแปดชั่วอายุคนของราเชน และแฮกเข้าไปในระบบของประเทศ F ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่มีใครกล้าขัดขวาง ส่วนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของประเทศ F จะร้องไห้หรือเปล่า นั่นไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในการพิจารณาของเขา

บุริศร์เงียบไปสักพักจึงกล่าวว่า “ได้ แกไปคุยกับมิลิน ส่วนฉันจะไปหาหม่ามี้ของแกก่อน ฉันคิดว่าในเมื่อหม่ามี้ของแกกล้าบุกเข้าไปคนเดียว แน่นอนว่าจะต้องมีทางหนีทีไล่ ดังนั้นตอนนี้แกไม่ต้องเป็นห่วง”

“ไม่ต้องมาปลอบโยนผมหรอก ผมไม่ได้เป็นเด็กเมื่อวานซืนที่ไม่รู้เรื่องอะไร การฝึกซ้อมในเขตทหารค่อนข้างโหด ผมควรจะเข้าใจทุกอย่างที่ควรเข้าใจ”

กานต์พูดจบก็ลุกขึ้นเดินไป ทำเอาบุริศร์รู้สึกพูดไม่ออก

นี่ถูกลูกชายแท้ ๆ ของตนเองเหยียดหยามเหรอเนี่ย?

เขารู้สึกผิดด้วยซ้ำที่ตนเองส่งกานต์ไปที่เขตทหาร

เจ้าเด็กคนนี้นับวันยิ่งไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา

เมื่อกานต์เดินมาถึงประตูก็นิ่งไปสักพัก เขากล่าวเบา ๆ โดยไม่ได้หันกลับไป “คุณบุริศร์”

“หือ?”

“กลับไปใช้ชีวิตกับหม่ามี้ของผมเถอะ ผมยังไม่อยากเป็นลูกของแม่เลี้ยงเดี่ยว”

หลังจากพูดจบกานต์ก็เดินจากไปไม่หยุดอยู่กับที่

“ไอ้เด็กคนนี้”

มุมปากของบุริศร์ยกขึ้นเบา ๆ แววตามีความพอใจและความภูมิใจต่อลูกชายคนนี้

เขารีบจัดการตนเองให้เรียบร้อย กระโดดขึ้นรถ ปฏิเสธการติดตามของทุกคน มาที่เมืองของชัยณรงค์เพียงคนเดียว

สายสืบของชัยณรงค์รายงานการติดตามบุริศร์ได้อย่างทันสถานการณ์มาก

“ลูกพี่ บุริศร์มาที่นี่คนเดียวจริง ๆ ครับ”

ชัยณรงค์มองนรมน กล่าวด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย “แหม่ ผู้ชายของแกยังถือว่ามีความกล้า เพียงแต่ฉันดูออกว่าแกคือจุดอ่อนของเขา แต่ฉันไม่รู้ว่า เพื่อแกเขาจะเต็มใจสละชีวิตตนเองหรือเปล่า”

“ผู้ชายของฉันแข็งแกร่ง สบายใจได้ ก่อนที่แกจะหลับตาก็จะเห็นเขายืนอยู่ตรงหน้าแกอย่างปลอดภัยหายห่วง”

นรมนพูดอย่างเหน็บแนม จากนั้นก็ไม่อยากจะสนใจเขา

สายตาของเธอจับจ้องอยู่ที่ภาพบนหน้าจอขนาดใหญ่ที่กล้องวงจรปิดส่งมา

วันเดียวที่ไม่ได้เจอเธอก็คิดถึงเขา

ผู้ชายคนนี้ดูชั่วร้าย เพียงแต่เหมือนจะยิ่งหล่อขึ้น

วันนี้เขาสวมชุดลายพรางอย่างเท่ ถึงแม้จะไม่มียศทหารติดบนไหล่ แต่ยังคงทำให้นรมนละสายตาไม่ได้

สมกับที่เป็นสามีของเธอ!

ใส่อะไรก็ดูดี

นรมนมองหน้าจอและยิ้มเหมือนคนโง่ ความรู้สึกในแววตานั้นเห็นแล้วขวางหูขวางตา

“ยิ้มไปเถอะ รอเขามาฉันจะให้เขาตายต่อหน้าแก ถึงตอนนั้นฉันอยากจะเห็นว่าแกยังจะยิ้มออกมาได้อีกไหม”

คำพูดของชัยณรงค์ทำอะไรนรมนไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

เธอกล่าวด้วยรอยยิ้ม “สามีของฉันหล่อจริง ๆ ฉันเชื่อว่าตอนเขาจับคนร้ายได้จะยิ่งหล่อ”

“หุบปาก!”

นัยน์ตาของชัยณรงค์มืดมนลงทันทีหลายเท่า มือวางเอาไว้บนปืนที่แนบข้างเอวอย่างไม่รู้ตัว

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท