แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1073

ตอนที่ 1073

แขนของบุริศร์กระชับขึ้นทันที

ห่ากระสุนรอบตัวก็ดี การเตะต่อยก็เถอะ สำหรับพวกเขาแล้วไม่มีความสำคัญ อวัยวะสัมผัสทั้งหมดและเซลล์ทั้งหมดของเขาร้องตะโกน กระโดด และตื่นเต้นเพื่อผู้หญิงที่ชื่อนรมนคนนี้

นรมนรู้สึกว่ากระดูกของตนเองถูกบุริศร์บดขยี้

ดูเหมือนผู้ชายคนนี้จะน่ากลัวจริง ๆ

เธอจะมาที่นี่โดยไม่เตรียมตัวได้อย่างไร?

ครั้งแรกบุกไปคนเดียวเพราะไร้เดียงสา ถ้าครั้งที่สามครั้งที่สี่ยังเป็นแบบเดิมก็คงจะโง่จริง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่นี่วุ่นวายแบบนี้ ถึงแม้เธอจะไม่เอาคนของอาณาจักรรัตติกาลมา ก็เอาคนของคุณท่านตนุวรกับตระกูลทวีทรัพย์ธาดามา

แต่บุริศร์ห่วงใยเธอแบบนี้ นรมนรู้สึกดีใจมาก

จนเมื่ออากาศในทรวงอกใกล้จะถูกสูบจนหมดไป นรมนจึงพยายามดิ้นและผลักบุริศร์ออก

เธอหอบเฮือกใหญ่ หน้าแดงเหมือนผลเชอร์รี่สุก มีความงดงามอย่างบอกไม่ถูก จนแม้แต่หน้าตาหลังจากความซาบซึ้งใจยังมีความเลือนรางและเสน่ห์ชวนให้หลงใหล

บุริศร์อยากจะเอาเธอไปซ่อนเสียจริง ไม่ให้คนอื่นได้เห็นความงดงามของเธอ

“ไปเถอะ พวกเราไปหากานต์กัน!”

บุริศร์เพิ่งจะพูดจบ เขาช้อนตัวอุ้มนรมนขึ้นมาแล้วเดินออกไปข้างนอก

ในขณะนั้นเอง “ปัง” เสียงปืนดังขึ้น เฉียดด้านหลังศีรษะของบุริศร์ไปทันที

เสียง “พู” ดังขึ้น ของเหลวอุ่น ๆ กระเด็นออกมาในชั่วพริบตา สาดใส่ใบหน้าของนรมน

เลือด!

อุ่น ๆ เลย!

ร่างกายของนรมนแข็งทื่อ เธอมองไปทางด้านหลังของบุริศร์ ผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งอยู่ห่างกับบุริศร์เพียงไม่ก็เซนติเมตร ในตอนนี้ค่อย ๆ ล้มลงไปบนพื้น

เลือดทะลักออกมาจากขมับของเขา นองบนพื้นอยู่รวดเร็ว

เป็นครั้งแรกที่นรมนเผชิญหน้ากับความตายในระยะประชิดเช่นนี้ เธอตกใจกลัวอย่างห้ามไม่ได้

บุริศร์กอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนแน่น เหลือบมองไปยังทิศทางที่ปืนยิงออกมา ร่างของกานต์ปรากฏสู่สายตาของเขาทันที

คิดไม่ถึงว่าคนที่ยิงปืนไรเฟิลจะเป็นกานต์?!

ลูกตาดำของบุริศร์เบิกกว้างทันที

กานต์กลับลุกขึ้นอย่างไร้ความกดดันใด ๆ และก้าวเดินมาทางนี้

เห็นได้ชัดว่านรมนก็มองเห็นสิ่งนี้เช่นนี้

ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย

เมื่อสักครู่กานต์ฆ่าคน?

ถึงแม้จะพูดว่าทำไปเพื่อปกป้องบุริศร์ แต่เขายังเป็นเด็กอยู่นะ!

เขายังเป็นเด็กคนหนึ่งหรือว่าไม่จริง?

นรมนดิ้นออกมาจากอ้อมแขนของบุริศร์ทันที วิ่งตรงไปหากานต์

“เป็นอย่างไรบ้าง? กานต์ ลูกไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

นรมนสั่นไปทั้งตัว

เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะตนเองหวาดกลัว หรือเป็นเพราะกังวลที่กานต์เป็นเช่นนี้

กานต์ตอบอย่างใจเย็น “ผมไม่เป็นอะไรครับ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณบุริศร์ปลอดภัยก็พอ”

“ลูกเป็นเด็กนะ ทำไมลูก……”

นรมนพูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกบุริศร์ดึงเอาไว้

ในตอนนี้บุริศร์มองเห็นแววตาของกานต์แล้วรู้สึกกังวลใจ

“เข้าไปหากิจจาเถอะ เขาได้รับบาดเจ็บ อยู่ข้างใน”

“มิลินเข้าไปแล้ว”

กานต์พูดอย่างเรียบเฉย

บุริศร์สังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่ามือของกานต์กำลังสั่น

แรงถีบของปืนไรเฟิลแรงมาก ไม่ใช่สิ่งที่เด็กอายุเท่ากานต์จะสามารถทำได้ เมื่อสักครู่เป็นวินาทีเส้นยาแดงผ่าแปด กานต์ก็ไม่มีทางเลือกเช่นกัน

ราวกับว่าจะสังเกตเห็นสายตาของบุริศร์ กานต์เก็บมือขวาไปข้างหลัง และกล่าวอย่างเรียบเฉย “ผมขอไปดูกิจจาก่อนนะ”

พูดจบเขาก็เดินไป ไม่เห็นแววตาที่เป็นกังวลของบุริศร์และนรมนสักนิดเดียว

เมื่อกานต์เข้าไปในห้องของกิจจา ก็มองเห็นมิลินกำลังตรวจดูบาดแผลของเขา ส่วนนภดลก็ออกไปแล้ว

“กานต์”

กิจจาเอียงคอส่งยิ้มให้กานต์

กานต์พยักหน้า ยกมุมปากขึ้น แต่กลับไม่ได้ยิ้มออกมา

มิลินจัดการบาดแผลของกิจจาเสร็จเรียบร้อย เธอมองไปที่กานต์ รู้สึกได้ว่าสองพี่น้องมีเรื่องจะคุยกัน จึงพยักหน้าให้กิจจาและถอยออกไป

เมื่อภายในห้องเหลือแค่เพียงกิจจากับกานต์ กิจจาจึงพบว่าสีหน้าของกานต์ขาวซีดจนน่ากลัว

“กานต์ นายเป็นอะไรไป?”

“เปล่าไม่ได้เป็นอะไร”

กานต์นั่งลงข้างกิจจา สายตาเหม่อลอย

“นาย……”

กิจจาเอื้อมมือไปจับมือของกานต์ เขาขมวดคิ้วถามทันที “ทำไมมือของนายถึงได้เย็บเฉียบแบบนี้?ฝ่ามือยังมีเหงื่อออกมากอีกด้วย?”

“ฉันเพิ่งจะยิงคนตายมา”

กานต์พูดอย่างนิ่งเฉยสุด ๆ แต่กิจจามองเห็นความสับสนวุ่นวายจากน้ำเสียงและแววตาของเขา

ฆ่าคน?

สองคำนี้ค่อนข้างห่างไกลกับความรู้สึกนึกคิดและภาพจำของเด็ก ๆ แต่กานต์เพิ่งจะผ่านประสบการณ์ทั้งหมดนี้มาอย่างไม่คาดคิด จึงไม่แปลกใจที่เป็นเช่นนี้

“ฉันสามารถให้คำปรึกษาทางด้านจิตวิทยากับนายได้นะ”

กานต์ส่ายหน้าและกล่าวว่า “ไม่เป็นไร หลังจากกลับไปจะมีจิตแพทย์ประจำเขตทหาร ฉันก็แค่ยังไม่ค่อยชิน”

“ใครก็ไม่ชินทั้งนั้นแหละ คืนนี้นอนกับฉันไหม”

“อืม”

กานต์ไม่ปฏิเสธคำขอของกิจจา

นรมนมองบุริศร์และเอ่ยถามว่า “กานต์จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”

“คุณเห็นเหมือนเขาไม่เป็นอะไรหรือไง?ลูกคนนี้ถึงแม้จะเปลือกนอกจะดูไม่สะทกสะท้าน ไม่รู้ว่าในใจจะพังแค่ไหน ถึงอย่างไรก็เป็นคน ยิงครั้งแรกก็จะเป็นภาพจำฝังใจ เดี๋ยวผมจะคุยกับเฮีย บอกให้เขาหาจิตแพทย์ให้กานต์ อย่าปล่อยให้มีอะไรฝังใจ”

บุริศร์หรี่ตาลง

เขาเตะศพตรงหน้าไปด้านข้าง แววตาเต็มไปด้วยความโกรธ

ถ้ากานต์มีภาพจำฝังใจจริง ๆ เขาจะไม่ปล่อยชัยณรงค์ไปแน่!

นรมนกับบุริศร์ออกไปจากตรงนี้ด้วยความรู้สึกกดดัน

ส่วนเรื่องต่อจากนี้แน่นอนว่าจะมีคนของกองทหารเข้ามาจัดการ

นรมนมองเห็นคนของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาและตระกูลพรโสภณยังอยู่ จึงกล่าวกับพวกเขาว่า “พวกคุณกลับไปก่อนได้เลย ฝากบอกอาธรณีกับคุณตาว่า พวกฉันปลอดภัย ฉันกับบุริศร์จะอยู่ข้างนอกอีกสักวันสองวันแล้วค่อยกลับไป”

“ครับ”

นรมนมองกองทัพที่มิลินบัญชาการ เธอถามบุริศร์ว่า “กองทัพของมิลินนี่มันอะไรกัน?”

“เคยได้ยินชื่อองค์กร HG ไหม?”

“มันคืออะไรเหรอ?”

นรมนรู้สึกปวดหัว

บุริศร์เล่าเรื่องที่กานต์สืบเจอให้นรมนฟัง

นรมนนิ่งไปสักพัก และถามว่า “งั้นนงลักษณ์คือคุณป้าของฉันเหรอ?”

“อาจจะเป็นไปได้และก็อาจจะเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ สรุปแล้วสถานการณ์ของประเทศ F ค่อนข้างซับซ้อน ช่วงนี้พวกเราอย่าเพิ่งเข้าไปแทรกแซงก่อน และปีนั้นที่คุณป้าของคุณหายสาบสูญไปมีความเป็นไปได้สูงว่ามีเรื่องอย่างอื่นแอบแฝงอยู่ด้วย จนแม้แต่ยังไม่ความเป็นไปได้ว่ามีคนอยู่เบื้องหลัง ตอนนี้สิ่งที่ผมกลัวคือ ไม่รู้ว่าเจตนาและเป้าหมายของมือมืดที่อยู่เบื้องหลังคืออะไร”

บุริศร์ทอดถอนใจเบา ๆ

นรมนกลับกล่าวอย่างไม่สนใจ “ไม่ว่าเขาจะมีเจตนาและเป้าหมายอะไร ทุกปัญหามีทางออก ตอนนี้กังวลไปจะมีประโยชน์อะไร? เดี๋ยวค่อยว่ากันดีกว่า”

ทั้งสองคนเดินจูงมือขึ้นรถ

ตอนพริมาโทรเข้ามา นรมนเพิ่งจะขึ้นมาบนรถ

เธอนิ่งไปสักพัก และเอ่ยถามด้วยความสงสัย “สัญญาณที่นี่ไม่ได้ถูกตัดขาดเหรอ?ทำไมถึงยังมีสายโทรเข้ามาได้?”

“ก่อนที่พวกเราจะมาได้หาคนซ่อมแซมแล้ว คุณควรจะเชื่อใจลูกชายของคุณ”

“กานต์ทำเหรอ?”

นรมนภูมิใจสุด ๆ

มุมปากของบุริศร์ยกขึ้นเล็กน้อย สามารถมองเห็นได้ว่า เขาก็รู้สึกเป็นเกียรติต่อกานต์เช่นกัน

นรมนกดปุ่มรับสายอย่างรวดเร็ว

“ประธานนรมนคะ จัดการเรื่องของณัจยาแล้ว หลังจากชาวีตาย พ่อแม่ของเขาก็เริ่มขอณัจยาสิบล้าน ณัจยาไม่ให้ พ่อแม่ของเขาจึงทำร้ายณัจยาที่ทางเข้าบริษัททันที ทีมกฎหมายของบริษัทพวกเราได้ฟ้องร้องพ่อแม่ของเขาแล้ว ณัจยาไม่ยอมความ ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนไกล่เกลี่ย เพียงแต่คนที่มีอำนาจดำเนินการคือทางฝั่งพวกเรา”

ได้ยินพริมาพูดแบบนี้ นรมนจึงวางใจทันที

นับว่าเป็นเรื่องดีกับทั้งสองฝ่ายจริง ๆ

ทางฝั่งของบุริศร์ก็ไม่มีอะไรแล้ว เรื่องทางฝั่งของณัจยาก็จัดการเรียบร้อยแล้ว ค่อนข้างดี

“เข้าใจแล้ว คุณจัดการได้เลย ช่วงนี้ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องในบริษัท ถ้าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรก็ไม่ต้องรายงานฉัน คุณสามารถจัดการเองได้เลย”

นรมนพูดจบก็วางสาย

เนื่องจากกลัวว่าคนอื่นจะรบกวน นรมนจึงปิดเครื่องทันที

บุริศร์มองเธอด้วยความแปลกใจ

“นี่คุณทำอะไร?”

“ใช้เวลาอยู่คุณสองต่อสองไง ไม่ชอบให้คนอื่นมารบกวน”

คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์ยิ้มเจื่อนๆ

“เกรงว่าช่วงนี้จะไม่ได้”

“ทำไมล่ะ?”

“ทางฝั่งของวินเซนต์เกิดเรื่องขึ้น ผมต้องยืนยันให้แน่ชัดว่าเขาปลอดภัย”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนนิ่งไป

สุดท้ายแล้วเรื่องการหายตัวไปของวินเซนต์ก็มาถึงหูของบุริศร์จนได้

“คุณมีความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างไร?”

“การหายตัวไปของวินเซนต์มีความเกี่ยวข้องกับทรรศยา ผมเดาว่าทรรศยาเป็นตัวปลอม”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนอึ้งไปอีกครั้ง

“ตัวปลอม?คุณมีหลักฐานเหรอ?”

“ไม่มี แต่ผมอยู่ข้าง ๆ ตอนที่ทรรศยาตาย ผมเห็นกับตาว่าทรรศยาถูกยิงตาย พวกเราไม่ได้ช่วยทรรศยา แต่นำร่างของเธอกลับไป ไม่มีใครสามารถฟื้นจากความตายได้ และหลังจากนั้นหลายปี”

บุริศร์พูดเสียงเบา อารมณ์เศร้าหมอง

นรมนเชื่อบุริศร์ ตราบใดที่เขาบอกว่าทรรศยาเป็นตัวปลอม นั่นจะต้องไม่ผิดแน่ นี่คือการเชื่ออย่างสนิทใจ

“แล้วผู้หญิงที่หน้าตาเหมือนทรรศยาคือใคร?พี่น้องฝาแฝดของทรรศยาเหรอ?”

“ทรรศยาเป็นลูกคนเดียว มีเพียงลูกพี่ลูกน้อง ไม่มีพี่น้อง ดังนั้นสิ่งที่ผมกังวลตอนนี้คือวินเซนต์ถูกจับตัวไปเพราะค้นหาความจริง”

คำพูดของบุริศร์ทำให้นรมนเข้าใจทันที

“ดังนั้นนี่ถือว่าเป็นแผนซ้อนแผนของวินเซนต์หรือเปล่า?ฉันกับพฤกษ์ต่างรู้สึกว่า ด้วยฝีมือของวินเซนต์ไม่น่าจะถูกลักพาตัว นอกเสียจากเขายินยอมเอง คิดไม่ถึงว่าจะมีความเกี่ยวข้องกันแบบนี้”

บุริศร์มองหน้าเธอและกล่าวว่า “เรื่องนี้ไม่สามารถคลี่คลายได้ในเวลาอันสั้น ตอนนี้ผมแค่อยากยืนยันความปลอดภัยของวินเซนต์”

“จะยืนยันอย่างไร?”

“แน่นอนว่าผมมีวิธีของผม”

บุริศร์พูดจบก็นั่งลงทันที เปิดโน๊ตบุ๊ค หลังจากใส่รหัสแล้ว บนหน้าจอก็เป็นสีดำอยู่ตลอด ไม่มีการตอบสนองใด ๆ

นรมนไม่เข้าใจคอมพิวเตอร์เหล่านี้ จึงรู้สึกน่าเบื่อโดยไม่รู้ตัว

เธอนั่งพิงเบาะ จู่ ๆ ก็รู้สึกเจ็บที่หลัง ถึงจะนึกขึ้นได้ว่าบาดแผลของตนเองฉีก

โอ๊ย!

เธอควรจะบอกเรื่องนี้กับบุริศร์ดีไหม?

นรมนสองจิตสองใจ

เธอเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของบุริศร์

ผู้ชายคนนี้ผิวคล้ำขึ้นหลังจากมาที่นี่ และยังผอมลง ใต้ตาที่ดำคล้ำทำให้นรมนรู้สึกสงสาร

เดาว่าหลังจากมาที่แอฟริกาใต้คงไม่ได้พักผ่อนเต็มที่

คิดถึงตรงนี้ นรมนสูดลมหายใจเข้าลึก ทิ้งเรื่องแผลฉีกไป

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท