แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1076

ตอนที่ 1076

“เฮ้ย!”

โรคประสาทหลอนกรีดร้องออกมาทันที

“คอมพิวเตอร์ฉัน!”

ใครจะไปคิดว่าโรคประสาทหลอนคือเด็กผู้หญิงผิวขาวกระจ่างใสคนหนึ่ง

เพียงแค่ตอนนี้เธอโกรธจนหน้าเขียว

เธอเพิ่งจะเก็บค่าขนมซื้อคอมพิวเตอร์ ยังใช้ได้ไม่ถึงวัน เธอเพียงแค่ลองดูว่าคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ใช้งานสะดวกหรือเปล่า และอีกอย่างก็เห็นว่าระบบป้องกันของคอมพิวเตอร์แถวนี้ที่เพิ่งจะปรากฏขึ้นมานั้นโคตรเจ๋งแค่นั้นเอง ทำไมถึงได้ถูกคนต่อต้าน?

ใคร?

ไอ้สารเลวที่ลอบกัดเธอ?

คิดไม่ถึงว่าจะมีฝีมือเก่งกว่าเธอมาก

เธอโมโหแทบแย่ ก็ได้ยินเสียงไถ่ถามอย่างอ่อนโยนจากด้านนอก

“ชมพู เกิดอะไรขึ้น?อะไรระเบิดเหรอ?”

ชมพูรีบกระโดดลงจากเก้าอี้ ขาสั้น ๆ วิ่งออกมา

“หม่ามี้ ไม่มีอะไรค่ะ หนูปวดหัวนิดหน่อย อาจจะเป็นหวัด หม่ามี้ หม่ามี้ซื้อยาให้หนูหน่อยได้ไหม”

“ปวดหัว?มาให้แม่ดูเร็วเข้า”

หญิงสาวก้มลงไปอุ้มชมพู และออกไปข้างนอกอย่างรวดเร็ว

ชมพูถึงจะถอนหายใจโล่งอก

ทางฝั่งของกานต์ขมวดคิ้วเล็กน้อย

จบแล้วเหรอ?

โรคประสาทหลอนอะไรนี้ก็กากเกินไปหรือเปล่า?

คิดไม่ถึงว่าจะไม่มีอะไรตามหลังมา

เขาลุกขึ้นอย่างหดหู่ใจ ขมวดคิ้วกล่าวว่า “ต่อจากนี้แฮกเกอร์ที่กาก ๆ แบบนี้ไม่ต้องเรียกฉันนะ”

มุมปากของนะโมที่เมื่อสักครู่เรียกกานต์ว่าหัวหน้าทีมลูกรักกระตุกอย่างห้ามไม่ได้

“ลูกรัก……”

เขาเพิ่งจะพูดออกมาสองคำ ก็สังเกตเห็นสายตาที่เหมือนมีดของกานต์ยิงตรงมา เขาจึงรีบแก้คำพูด

“หัวหน้าทีม เมื่อสักครู่คุณยังพูดอยู่เลยว่าแฮกเกอร์คนนี้เก่งมาก”

“ฉันเคยพูดเหรอ?ใครได้ยินบ้าง?นายมีเสียงบันทึกเป็นหลักฐานไหม?”

กานต์กลอกตาอย่างเฉยเมย ผู้คนโดยรอบแยกย้ายกันออกไปทันที

พูดเป็นเล่น ในเวลานี้ใครจะกล้าแตะความโชคร้ายของกานต์?

นะโมทำลายระดับความไร้ยางอายของกานต์อีกครั้ง

“ครั้งต่อไปผมจะไม่ลืมเอามือถือบันทึกเสียงไว้”

เขากัดฟันพูด

“อืม ครั้งต่อไปอย่าลืมนะ”

กานต์พูดจบอย่างจริงจัง ถึงจะเดินไปหากิจจา

จริง ๆ เลย ทุกวันมีแต่เรื่อง

กานต์รู้สึกกังขาในใจ เมื่อมาถึงห้องของกิจจา เขากำลังอ่านหนังสืออยู่

“จัดการธุระเสร็จแล้วเหรอ?”

กิจจาปิดหนังสือ

กานต์มองกิจจา จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ากิจจาเปลี่ยนไปมากจริง ๆ ในเวลาเกือบจะหนึ่งปีที่ผ่านมา

ตอนเพิ่งจะกลับมาในประเทศ เขาเป็นเพียงแค่เด็กเมื่อวานซืนที่สามารถร้องไห้ได้คนหนึ่งเท่านั้นเอง ตอนนี้ดูใจเย็นมาก

“นายอ่านหนังสือการแพทย์ที่น่าเบื่อเหล่านี้ทั้งวันไม่เหนื่อยแย่เหรอ?”

กานต์เดินเข้าไปหาทันที

กิจจาเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มบาง ๆ “แล้วนายอ่านหนังสือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ทั้งวันไม่เหนื่อยบ้างเหรอ?”

“ฉันชอบโปรแกรมคอมพิวเตอร์”

“ฉันก็เหมือนกัน”

คำพูดของกิจจาทำให้กานต์ชะงักไป

“นายไม่ได้ถูกบังคับเหรอ?”

“แต่ก่อนก็ใช่ แต่ตอนนี้ฉันชอบเรียนแพทย์จริง ๆ และมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นคุณหมอคนหนึ่ง กานต์ นายเลือกที่จะสมัครเป็นทหาร หน้าที่ของนายก็คือปกป้องบ้านเมืองและปกป้องประเทศ แต่ก่อนฉันไม่รู้ว่าตนเองอยากทำอะไร เห็นว่านายสมัครทหาร ฉันจึงดูแลบริษัทของตระกูลโตเล็กแทนนาย ไม่ว่าอย่างไรก็ตามจะไม่ทำให้แด๊ดดี้กับหม่ามี้เหนื่อยเกินไป แต่หลังจากมาที่แอฟริกาฉันจึงรู้ว่า ฉันต้องการมีชีวิตแบบไหน คนที่นี่ต้องการหมอมาก”

นัยน์ตาของกิจจาเศร้าโศก

“นายอย่าบอกฉันนะว่าจะอยู่เป็นหมอที่แอฟริกา?”

กานต์ขมวดคิ้วแน่น

ถ้ากิจจาจะอยู่ที่แอฟริกาจริง ๆ จะเป็นไปได้เหรอ?

กลายเป็นคนผิวดำ?

เขาจินตนาการฉากนั้น อดตัวสั่นไม่ได้

กิจจากลับส่ายหน้าและกล่าวว่า “เป็นหมอไม่จำเป็นต้องอยู่ที่นี่ ฉันเชื่อว่าบนโลกใบนี้ยังมีสถานที่อีกมากมายที่ต้องการหมอ แต่ก่อนไม่ได้คิดว่าการช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บเป็นเรื่องที่ดีอะไร แต่หลังจากติดตามคุณครูในช่วงเวลาสั้น ๆ ฉันได้เรียนรู้หลายสิ่งจริง ๆ”

“มิลินล้างสมองนายสำเร็จแล้ว ไม่พูดเรื่องพวกนี้ดีกว่า เล่นเกมกันไหม?”

กานต์หยิบมือถือออกมา

กิจจากล่าวอย่างกลัดกลุ้ม “ไม่เอาเกมที่นายสร้างเอง ฉันเล่นไม่ชนะนาย”

“ช่วงนี้ไม่ได้อยู่ในอารมณ์นั้น เล่นROVเถอะ”

คำพูดของกานต์ทำให้กิจจาถอนหายใจอย่างโล่งอก

เขารู้ว่ากานต์อารมณ์ไม่ค่อยดี ตอนนี้การปลอบโยนเขาคือทางเลือกที่ดีที่สุด

เด็กสองคนหยิบมือถือออกมาเปิดเกม

เมื่อนรมนเข้ามาก็มองเห็นพวกเขากำลังเล่นอย่างมีความสุข จึงไม่ได้รบกวน เธอรู้สึกว่าท่าทางของกานต์ในตอนนี้ถึงจะเหมือนเด็กคนหนึ่ง

เธอค่อย ๆ ถอยหลังออกไป

ลูกน้องบอกว่าชัยณรงค์ฟื้นแล้ว

นรมนจึงเดินไปหา

ชัยณรงค์กากจริง ๆ ถึงอย่างไรเธอก็ไม่มีอะไรทำ จึงไปดูสักหน่อยดีกว่า

เมื่อชัยณรงค์เห็นนรมนมา ก็แทบจะกระโดดขึ้นด้วยความโมโห

“ผู้หญิงอย่างแกมันหน้าเนื้อใจเสือเกินไป แกกล้าปล่อยฉันสิ พวกเรามาสู้ตัวต่อตัว”

นรมนเหลือบมองเขาอย่างเหยียดหยามและกล่าวว่า “นั่นก็หมายความว่าแกไม่ใช่ผู้ชาย ถึงแม้ฉันจะไม่เต็มใจ แต่แกฟังฉันอธิบายให้แกฟังนะ อันดับแรก ฉันเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่งจะมีความกล้าได้อย่างไร?ถ้าฉันมีความกล้าแล้วจะทำอะไรกับผู้ชายอย่างพวกแก?อันดับที่สอง ผู้ชายไม่ทำร้ายร่างกายผู้หญิง คนที่ทำร้ายร่างกายผู้หญิงเป็นตุ๊ด แกเป็นหรือเปล่า?”

ชัยณรงค์รู้สึกว่าอะดรีนาลีนของตนเองพุ่งสูงขึ้น

เธอดีกว่าพี่สาวของตนเองตรงไหน

ชัยณรงค์กล่าวอย่างโมโห “บุริศร์ตาบอดจริง ๆ คนดี ๆ อย่างพี่สาวของฉันเขาไม่ชอบ กลับมาชอบผู้หญิงหยาบคายอย่างแก”

“ต่างคนต่างมีสเปคที่ชอบ พูดได้เพียงพี่สาวของแกไม่ใช่สเปคของบุริศร์ ดังนั้นสำหรับความรักที่ไม่สมหวังของพี่สาวแก แกมีสิทธิ์อะไรมาเรียกร้องให้บุริศร์รับผิดชอบ?ชัยณรงค์ แกตื่นเถอะ แกแค่เพียงแค้นเคืองที่ไม่สามารถช่วยพี่สาวกลับมาจากสนามรบได้ แต่คนอย่างแก ไม่มีทางโทษทุกอย่างนี้กับตัวเองหรอก เลยทำได้เพียงระบายลงที่บุริศร์ หรือจะพูดว่า แกแค่เพียงหาข้ออ้างให้ตัวเองทำเรื่องชั่ว ๆ แค่นั้นเอง”

เห็นได้ชัดเจนว่าคำพูดของนรมนแทงลงตรงจุดที่เจ็บปวดของชัยณรงค์

แววตาของเขาเย็นชาลงในชั่วพริบตา

“แกพูดจาไร้สาระ”

“ฉันพูดจาไร้สาระ?แกต้องการแก้แค้นบุริศร์ แกจะมาเผชิญหน้าหรือจะนัดบุริศร์มาดวลกันก็ไม่มีใครขัดขวางแก แต่แกทำหรือเปล่าล่ะ?ฉันแต่งงานกับบุริศร์มาแปดปี พี่สาวของแกตายไปมากกว่าแปดปีแล้วไม่ใช่เหรอ?แกไม่ได้แก้แค้นบุริศร์ในช่วงแปดปีที่ผ่านมา แต่กลับเป็นผู้ก่อการร้าย เผา ฆ่า ปล้น คร่าชีวิตผู้คน เรื่องเหล่านี้เกี่ยวข้องกับบุริศร์หรือเปล่า?แกเป็นคนกระหายเลือดและโหดร้าย กลับต้องการแก้แค้นให้พี่สาวของตนเอง แกมันหน้าซื่อใจคดหรือเปล่า?จะว่าไปความวุ่นวายในแอฟริกาครั้งนี้ บุริศร์อยู่ในแอฟริกา แกจะมาแก้แค้นก็เป็นเรื่องปกติ แต่บุริศร์ถูกแกดึงดูดความสนใจให้มาใช่ไหม?กิจจาลูกชายของฉันก็ถูกแกจงใจจับตัวมาใช่ไหม?งั้นฉันขอถามแกได้ไหม พี่สาวของแกตายไปนานแล้วตั้งแปดปี แกไม่แก้แค้น ทำไมตอนนี้อยู่ดี ๆ จึงลากบุริศร์มาที่นี่?”

นัยน์ตาของนรมนเปลี่ยนเป็นเฉียบคมอย่างรวดเร็ว

หัวคิ้วของชัยณรงค์ขมวดเล็กน้อย

“ฉันไม่รู้ว่าแกกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่ แปดปีที่ผ่านมาฉันต้องสะสมกำลังคนและทรัพยากรถึงจะสามารถมีทุนในการแก้แค้นบุริศร์ได้ไม่ใช่เหรอ?อำนาจของเขาแข็งแกร่งขนาดนั้น……”

“ตอแหล ถ้าแกมีความเป็นลูกผู้ชายจริง ๆ แกจะมาหาบุริศร์ตัวต่อตัว ไม่จำเป็นต้องสามปี บุริศร์มีความละอายใจต่อพี่สาวของแก เขาไม่มีทางทำร้ายแกแน่นอน ดังนั้นแท้จริงแล้วแกคิดอะไรอยู่แกรู้ดีที่สุด ชัยณรงค์ อย่าเอาเรื่องส่วนตัวกับความโลภของตนเองมาพูดให้ดูสูงส่งเลย แกทำให้พี่สาวของแกขายหน้า และขายหน้าบุริศร์ด้วย”

นรมนพูดอย่างไม่มีความเกรงใจสุด ๆ

ครั้งนี้ชัยณรงค์ไม่ได้โต้แย้ง

“ชนะเป็นเจ้า แพ้เป็นโจร แกจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะ ฉันเพียงแค่รู้สึกรับไม่ได้เล็กน้อยเพราะคิดไม่ถึงว่าจะพ่ายแพ้อยู่ในมือผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างแก แต่ก็ไม่เป็นไร ถึงแม้ฉันจะถูกส่งตัวกลับประเทศ ถูกตัดสินลงโทษแล้วจะเป็นยังไง?ฉันแค่ไม่เชื่อว่าในใจของแกจะไม่ได้รู้สึกรังเกียจพี่สาวของฉัน”

นรมนหัวเราะขึ้นมาทันที

“ขอโทษนะ ฉันไม่ได้มีความรู้สึกนั้นจริง ๆ ตอนนี้ฉันคือภรรยาของบุริศร์ ได้รับการยอมรับทางกฎหมาย ประเทศยอมรับในฐานะคุณนายบุริศร์ ทำไมฉันจะต้องไปทะเลาะกับคนที่ตายไปแล้วด้วย?โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉันรู้สึกขอบคุณรมัย ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ ตอนนี้บุริศร์ก็คงไม่สามารถยืนอยู่ตรงหน้าฉันแบบนี้ได้ ดังนั้นเพื่อตอบแทนไมตรีจิตของพี่สาวแก ฉันขอแนะนำแกว่า ยอมจำนนซะเถอะ อย่าให้พี่สาวของแกตายตาไม่หลับเลย”

นรมนพูดจบก็หันตัวเดินไป

สิ่งที่เธอควรจะพูด เธอได้พูดทุกอย่างที่สามารถพูดได้ไปหมดแล้ว ส่วนชัยณรงค์จะทำอย่างไร เธอกำหนดไม่ได้ และไม่ได้สนใจ

“รอก่อน”

ชัยณรงค์เรียกนรมนเอาไว้ในตอนที่เธอกำลังจะจากไป

“ยังมีธุระอะไรอีก?”

ชัยณรงค์มองเห็นท่าทางไม่แยแสของนรมน จึงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาฉับพลัน

“แกจัดเตรียมกำลังคนและเตรียมการเหล่านี้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่แกจะมาแอฟริกาใต้เหรอ?”

“ถ้าไม่อย่างนั้นล่ะ?ฉันจะส่งตัวเองมาคนเดียวเพื่อช่วยแกจัดการกับผู้ชายของฉันอย่างโง่ ๆ เหรอ?แกเห็นฉันปัญญาอ่อนหรือไง?”

นรมนรู้สึกว่าชัยณรงค์มีปัญหาทางสติปัญญา เธอกลุ้มใจมาก คนแบบนี้ทำไมถึงได้กลายเป็นลูกพี่ของผู้ก่อการร้าย

ชัยณรงค์หัวเราะอย่างดูถูกและกล่าวว่า “ฉันมันโง่เอง คิดไม่ถึงว่าฉันจะมองว่าแกเป็นผู้หญิงทั่วไป แต่เมียของบุริศร์จะเป็นผู้หญิงทั่วไปได้อย่างไร?”

“ประโยคนี้ฉันจะถือว่าแกชมเชยฉันแล้วกัน ขอบใจ ขอให้ไปสู่สุคติ”

นรมนโบกมือให้ชัยณรงค์

มุมปากของชัยณรงค์กระตุกอีกครั้ง

ขอให้ไปสู่สุคติ?

ผู้หญิงคนนี้ช่างกล้าพูดจริง ๆ

แต่เดาว่าหลังจากถูกส่งตัวกลับประเทศไป ตนเองคงจะได้ลงไปเจอกับพี่สาวข้างล่างจริง ๆ ?

หวนคิดถึงการกระทำและการเคลื่อนไหวของตนเองในหลายปีที่ผ่านมา จู่ ๆ ชัยณรงค์พบว่าบทสรุปของนรมนตรงประเด็นเป็นพิเศษ

เขาเพียงแค่ใช้การตายของรมัยมาเป็นข้ออ้างปล่อยให้ตนเองเดินบนเส้นทางที่ไม่มีวันหวนกลับ

ช่วงเวลาสั้น ๆ ยี่สิบกว่าปี เขากำลังจะถึงจุดสิ้นสุด กลับพบว่าเขาไม่หลงเหลืออะไรในชีวิตเลย

แม้แต่ความรักเขาก็ไม่เคยมีด้วยซ้ำ

ในสมองของชัยณรงค์อดคิดถึงนรมนไม่ได้

เธอเป็นคนสบาย ๆ สง่างาม และรักบุริศร์มาก

ถ้าชีวิตนี้มีผู้หญิงแบบนี้รักตนเอง เขาก็จะเลือกความสุขสบายใช่ไหม?

ชัยณรงค์ไม่รู้ และไม่มีโอกาสได้รับรู้

ทำเรื่องที่ผิดพลาดก็ต้องชดใช้ นี่คือกฎของผู้ใหญ่ เขาแพ้แล้ว แพ้อย่างราบคาบ แต่ว่าจู่ ๆ เขาก็ไม่มีความโกรธเคืองใด ๆ จนแม้แต่เกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้กับนรมน

ชัยณรงค์อดหัวเราะอย่างขมขื่นไม่ได้

“บอกนรมน ให้เธอระวังคนใกล้ตัว”

สิ่งที่ชัยณรงค์ทำได้มีเพียงแค่นี้

ขอเพียงแค่ชาติหน้าจะสามารถเกิดเป็นคนดี เจอผู้หญิงธรรมดาสักคน ตกอยู่ในห้วงแห่งความรักที่เรียบง่าย จากนั้นแต่งงานมีลูก มีความสุขไปจนแก่เฒ่า

เขาหลับตาลงอย่างช้า ๆ

นรมนไม่ได้เดินออกไปไกล เธอได้ยินคำพูดของชัยณรงค์ชัดเจน

ระวังคนใกล้ตัว?

ใคร?

เธอยังต้องระวังคนใกล้ตัวคนไหนอีก?

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท