“นรมน เธอมีเรื่องอะไรปิดบังตาใช่ไหม?”
คุณท่านตนุวรเห็นท่าทางลังเลของนรมน จิตใจก็เริ่มหนักอึ้งอย่างอดไม่ได้
“หรือว่านงลักษณ์หล่อน……”
“เปล่าค่ะ คุณป้าสบายดีมาก แต่ตอนนี้ไม่ค่อยสะดวกกลับมาเยี่ยมคุณ ต่อไปก็คงกลับมา เธอให้ฉันเอานาฬิกาพกเรือนนี้คืนให้คุณก่อน บอกว่าเธอคิดถึงคุณมาก”
สุดท้ายแล้วนรมนก็ทนเห็นคุณท่านตนุวรเสียใจไม่ได้
คุณท่านตนุวรตื่นเต้นจนควบคุมตัวเองไม่ได้
“หล่อนรู้ไหมว่าฉันเป็นพ่อหล่อน?”
“รู้ค่ะ คุณป้าเหมือนรู้ทุกอย่าง”
นี่คือปัญหาที่นรมนเพิ่งคิดออก
ครั้งหนึ่งราเชนบอกว่าก่อนแม่เขาเสียชีวิตให้เขาพยายามตามหาน้องสาว และทำให้ราเชนเข้าใจผิดคิดว่าตนเป็นน้องสาวแท้ๆ ของเขา นงลักษณ์ตั้งใจทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร?
ตอนนั้นราเชนเป็นเด็ก เธอก็เป็นเด็กเช่นกัน และไม่มีค่าใดๆ ให้ใช้ประโยชน์ ไม่มีใครรู้สถานะที่แท้จริงของนรมนอย่างเธอ แต่นงลักษณ์กลับบอกราเชนตั้งนานแล้ว จุดประสงค์คืออะไร?
เพราะกลัวพ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนทำไม่ดีกับตน กลัวว่าสักวันหนึ่งในอนาคตประวัติชีวิตตัวเองถูกเปิดเผยแล้ว พ่อแม่ตระกูลธนาศักดิ์ธนจะทำอะไรกับเธอ ดังนั้นเลยให้ราเชนต้องตามหาตนเพื่อมาปกป้องตนใช่ไหม?
นรมนรู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองคิดมันดีเกินไป แต่นอกจากความคิดนี้แล้ว เธอก็หาเหตุผลอื่นมาอธิบายไม่ได้ว่าทำไมนงลักษณ์ถึงให้ราเชนต้องตามหาตน
ตั้งแต่เริ่มติดต่อนงลักษณ์ นรมนก็รู้ว่า นงลักษณ์รู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอและรอบข้างเธอ หล่อนเหมือนคนนอก ดูความคืบหน้าของสถานการณ์ แต่นรมนไม่รู้ว่าหล่อนรู้ประวัติชีวิตของตนตั้งแต่เมื่อไร ตั้งแต่เกิด หรือเริ่มตั้งแต่ถูกคิมแทนที่?
หรือเมื่อไร?
หัวสมองนรมนค่อนข้างสับสนวุ่นวาย
ปัญหาพวกนี้ต้องรอให้เจอนงลักษณ์อีกครั้งถึงจะถามให้รู้เรื่องได้
ตอนนี้คุณท่านตนุวรดีใจเหลือเกินที่เจอลูกสาวคนโตที่หายตัวไป
นรมนก็ไม่อยากขัดความสุขของเขา พูดขึ้นเสียงทุ้ม “คุณตาคะ ฉันออกไปแป๊บหนึ่งนะ”
“ได้ๆๆ”
คุณท่านตนุวรหยิบนาฬิกาพกเรือนนั้น คิดถึงลูกสาวคนโตของตน คิดถึงภรรยาของตน อารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงในชั่วขณะหนึ่ง
นรมนหันตัวออกไปจากห้องทำงาน
เธอเพิ่งเปิดประตูห้องทำงานก็เห็นตุลยายืนแอบฟังที่ประตู
ตุลยาไม่ได้รู้สึกอับอายสักนิดที่ถูกจับได้ว่าแอบฟัง ถึงขั้นถามตรงไปตรงมาด้วยซ้ำ “คุณป้าเหรอ? ไม่คิดว่าแม่จะมีพี่สาวฝาแฝดอีกคน?”
“ตั้งแต่เด็กพ่อเธอสอนเธอยังไง? ไม่รู้จักสิ่งที่เรียกว่าผิดจริยาอย่าฟังเหรอ?”
คิ้วนรมนขมวดเข้าหากันแน่น
เพราะไม่อยากให้เธอรู้ถึงได้จงใจมาคุยกันที่ห้องทำงาน ไม่คิดว่าตุลยาจะหน้าหนาตามมาจริงๆ
แต่ตุลยากลับยิ้มเยาะพูดขึ้น “เธอวางแผนอะไรฉันลับหลังฉัน ฉันก็ต้องมาฟังสิ ไม่งั้นฉันตายยังไงก็ไม่รู้”
“ถ้าฉันอยากให้เธอตายจริงๆ เธอคิดว่าเธอยังมีชีวิตจนถึงตอนนี้เหรอ?”
นรมนเหลือบมองเธอเหมือนมองคนโง่ จากนั้นก็เดินผ่านเธอไป
ตุลยาถูกกระตุ้นทันที
“นรมน เธอหมายความว่าไง? เธอกับฉันก็เป็นลูกหลานตระกูลพรโสภณทั้งนั้น เป็นลูกสาวคิม ทำไมเธอคิดว่าตัวเองสูงส่งกว่า? ทำไมชอบไม่สนใจฉัน?”
เธอคว้าแขนนรมนเอาไว้ จ้องเธออย่างขุ่นเคือง
นรมนรู้สึกว่าตุลยาที่อับอายจนกลายเป็นโกรธนั้นน่าสนใจมาก
เธอมองหล่อนแล้วพูดขึ้น “ก็ไม่ทำไม เพราะนิสัยฉันดีกว่าเธอ ชะตากรรมฉันดีกว่าเธอ ทำไมเหรอ? ไม่พอใจหรือไง? ไม่พอใจก็ไม่มีทางเลือก ใครใช้ให้เธอนิสัยแย่ขนาดนั้นล่ะ แล้วพ่อแก่ๆ นั่นอีก”
“ห้ามพูดถึงพ่อฉันนะ!”
ทันใดนั้นตุลยายกแขนขึ้นมาด้วยความโกรธ ตบไปที่หน้านรมน
ดวงตานรมนมีความไม่แยแส ตบกลับ สะบัดถึงใบหน้าตุลยาก่อนเธอหนึ่งก้าว
“อ๊ะ!”
ตุลยาไม่ทันได้ตั้งตัว ทั้งร่างร่วงลงพื้น
“เธอกล้าตบฉันเหรอ?”
“ทำไมฉันจะไม่กล้าตบเธอ? ยังไงแล้วฉันก็เป็นพี่สาวเธอ เธอไม่เคารพฉัน แม่ไม่อยู่แล้ว พี่สาวคนโตก็เหมือนแม่เธอไม่รู้เหรอ? ฉันกำลังสั่งสอนหลักการดำเนินชีวิตให้เธออยู่นะ”
นรมนกล่าวอย่างชอบธรรม ตุลยากลับถุยน้ำลาย
“ถุย! เธอเป็นพี่สาวฉันเหรอ? นรมน เธอยังมีหน้าอีกนะ? เรื่องพวกนั้นที่เธอทำกับฉันมันเป็นสิ่งที่พี่สาวควรทำกับน้องสาวหรือไง?”
“นั่นก็แค่อยากดูว่าน้องสาวอย่างเธอจะประพฤติตัวดีหรือเปล่า ตุลยา ฉันรับเธอมาที่บ้านคุณตา เพราะยังนึกถึงความสัมพันธ์ในครอบครัวและสายเลือดระหว่างเรา ถ้าเธอสามารถกลับตัวกลับใจ เป็นคนใหม่ที่นี่ได้ ฉันก็ยอมรับเธอเป็นน้องสาว ยังไงแล้วเธอก็เป็นคนที่มีต้นกำเนิดเดียวกับฉันบนโลกนี้ แต่ถ้าเธอยังหลงงมงายในความผิดพลาดเหมือนผีหลงสติปัญญาต่อไป ก็อย่ามาโทษที่ฉันไม่เกรงใจเธอแล้วกัน ครั้งนี้ไม่มีไมค์มาอ้อนวอนเพื่อเธอ พิสูจน์ให้ว่าเธอว่าบริสุทธิ์อีกแล้ว”
นรมนพูดในสิ่งที่ควรพูดไปหมดแล้ว ส่วนตุลยาจะฟังเข้าไปไหมเธอก็ไม่รู้แล้ว
ตุลยาทำเสียงฮึดฮัดไม่พอใจ ไม่ได้ตอบกลับ แต่ความรู้สึกในดวงตาทำให้นรมนรู้ เธอย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว
เส้นทางคือสิ่งที่ตัวเองเลือก ในเมื่อตุลยาไม่อยากย้อนกลับไป นรมนก็ไม่มีอะไรให้เสียใจ อย่างไรแล้วทัศนคติไม่สอดคล้องกัน
นรมนไม่สนใจตุลยาอีก และไปหาโตษินทันที
“พี่โตษิน ปาณีล่ะ?”
“ปาณีเอายาไปให้ท่านหัวหน้า”
คำพูดโตษินทำให้นรมนชะงักทันที
“เอายา? คุณตาฉันเป็นอะไร?”
โตษินเห็นเธอกังวลใจ ก็รีบพูดขึ้น “ไม่มีอะไร ช่วงนี้ปาณีดูแลสุขภาพให้คุณท่าน สุขภาพร่างกายท่านหัวหน้าขาดแคลเซียม ช่วงนี้กระดูกไม่ค่อยดี ปวดหลังปวดขา ปาณีไปจ่ายยาที่โรงพยาบาลด้วยตัวเอง เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว”
ได้ยินโตษินพูดแบบนี้ นรมนก็ไม่ได้ผ่อนคลายสักนิด
ถ้าปาณีต้องจ่ายยาอะไร ก็ต้องโทรหานภดลทันที ให้นภดลไปจ่ายยาที่โรงพยาบาลก็พอแล้ว ทำไมต้องไปด้วยตัวเองด้วยล่ะ?
นรมนไม่อยากให้โตษินเห็นความเครียดของตน จึงยิ้มขณะพูดขึ้น “พี่โตษิน บุริศร์เรายังนอนอยู่ นี่ฉันแอบออกมา เดี๋ยวกลัวตื่นขึ้นมาหาฉันไม่เจอก็ไม่รู้ว่าจะเป็นห่วงหรือเปล่า งั้นฉันกลับไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่ช่วยบอกคุณตาฉันที”
“ไม่กินข้าวที่บ้านเหรอ?”
โตษินค่อนข้างประหลาดใจ
นรมนยิ้มขณะพูดขึ้น “ไม่กินแล้ว กลับไปกินข้าวเป็นเพื่อนคุณบุริศร์ เขากินข้าวคนเดียวน่าสงสาร”
“คู่หนุ่มสาวรักกันจริงๆ เลยนะ”
โตษินเห็นนรมนพูดแบบนี้ ก็ไม่ได้ยื้อให้อยู่ ทำได้แค่พยักหน้า ยิ้มขณะส่งนรมนเดินออกไป
เมื่อเดินมาถึงประตู นรมนก็เอ่ยปากขึ้นมาราวกับไม่ได้ตั้งใจ
“พี่โตษิน ตุลยาอยู่ที่บ้าน พี่ช่วยดูแลคุณตาฉันให้มากๆ นะ เขาแก่แล้ว น้องสาวฉันคนนี้น่ะ ไม่ค่อยน่าไว้ใจ อย่าทำให้คุณตาฉันโกรธแย่ล่ะ”
โตษินพอได้ยินแบบนี้ ก็พูดขึ้นทันที “ไม่ใช่มั้งครับ คุณหนูรองคนนี้ดื้อเกินไปจริงๆ ทำให้ท่านหัวหน้าโกรธแทบตายทุกครั้ง ถึงปากเธอจะหวานมาก แต่ท่านหัวหน้าก็เข้มงวดกับเธอเป็นพิเศษ หลังจากเธอประจบท่านหัวหน้าสามครั้ง ท่านหัวหน้าก็โกรธ ให้เธอพูดกับกระจกทั้งวันทั้งคืน และให้ผมคอยดูไม่ให้เธอหยุดด้วย ตั้งแต่นั้นมาคุณหนูรองก็ถือว่าทำตัวดีขึ้น”
นรมนได้ยินโตษินพูดแบบนี้ ในหัวสมองก็นึกถึงตุลยาพูดกับตัวเองในกระจกทั้งวันทั้งคืนอย่างอดไม่ได้
ทันใดนั้นเธอก็อยากหัวเราะ
คุณตาเก่งมากจริงๆ
นรมนเห็นคุณท่านตนุวรเป็นแบบนี้ก็วางใจ
ตอนนี้เธอกลัวคุณท่านตนุวรจะเหมือนคุณนายทวีทรัพย์ธาดาในตอนนั้น สับสนเพราะคำพูดไพเราะแต่ไม่จริงใจของตุลยา แต่คำพูดนี้ก็ไม่สามารถพูดได้อย่างแน่ชัด นรมนจึงเป็นห่วงมาตลอด ตอนนี้ได้ยินโตษินบอกว่าคุณท่านตนุวรไม่ตกหลุมพรางตุลยา นรมนก็ถือว่าวางใจในที่สุด
“งั้นฉันไปก่อนนะ พี่โตษิน”
“ครับ คุณหนูเดินทางปลอดภัยครับ”
นรมนขึ้นรถไป ขับออกจากลานใหญ่เขตทหารทันที
หลังจากออกไปจากลานใหญ่เขตทหารแล้ว นรมนก็จอดรถข้างทาง จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาปาณี
“ค่ะคุณนาย”
ปาณีเห็นเบอร์โทรศัพท์นรมน ก็ตอบกลับทันที
“เกิดอะไรขึ้น? ทำไมเธอไปโรงพยาบาลเอง?”
“คุณนายกลับตระกูลพรโสภณแล้วเหรอคะ?”
ปาณีไม่ได้ตอบ แต่ถามกลับหนึ่งประโยค จิตใจนรมนก็หนักอึ้งขึ้น
“อืม เพิ่งออกมา มีอะไรเหรอ?”
“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจค่ะ ก็เลยมาทำการทดสอบ”
คำพูดปาณีทำให้ดวงตานรมนมืดมนลง
“เอาที่อยู่มา ฉันจะไปเดี๋ยวนี้”
ตอนนี้สิ่งที่นรมนเป็นห่วงมากที่สุดก็คือสุขภาพร่างกายของคุณท่านตนุวร
ถ้าตัวเองเอาตุลยามาอยู่เคียงข้างคุณท่านตนุวรแล้วทำให้คุณท่านตนุวรเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา เธอจะไม่มีวันให้อภัยตัวเองเด็ดขาด
ปาณีส่งที่อยู่ให้นรมนแล้ว นรมนก็รีบขับไปทันที
เมื่อนรมนมาถึงโรงพยาบาล ปาณีก็ยืนรอที่ประตู
คิ้วเธอขมวดแน่น ดูท่าทางคิดมากสับสนอย่างยิ่ง
จิตใจนรมนก็ไม่สงบอย่างมาก
เธอถึงขนาดไม่ทันได้จอดรถที่บริเวณจอดรถชั้นใต้ดินด้วยซ้ำ แต่ทิ้งรถไว้ข้างทางทันที แล้วรีบวิ่งมา
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่? สุขภาพร่างกายของคุณตาฉันมีปัญหาเหรอ?”
ปาณีเห็นนรมนมาอย่างรวดเร็วขนาดนี้ ก็ตกตะลึงอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ฟื้นตัวกลับมาอย่างรวดเร็ว
เธอพูดขึ้น “คุณนายคะ ตอนนี้ฉันยังไม่กล้ายืนยัน ตอนนี้ทำได้แค่รอผลออกมาถึงจะพูดได้ค่ะ”
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
นรมนจิตใจร้อนรุ่มกระสับกระส่าย
ปาณีพูดเสียงทุ้ม “เมื่อวานตุลยาไปเอากระถางดอกไม้มาจากไหน วางไว้ในห้องนอนของคุณท่าน ตอนนั้นฉันกำลังตรวจสอบอาหารในครัวอยู่ เลยไม่เจอปัญหานี้ คุณท่านเหมือนจะชอบดอกไม้กระถางนั้นมาก ทั้งๆ ที่รู้ว่าตุลยาเป็นคนเอาเข้ามา ก็นึกว่าเธอทำแบบนี้เพื่อเอาใจตน ก็เลยไม่ได้สั่งคนมาย้ายออกไป วันนี้ตอนเช้าฉันเข้าไปทำความสะอาดห้องถึงได้เห็นดอกไม้กระถางนี้ค่ะ”
“ดอกไม้มีปัญหาเหรอ?”
คิ้วนรมนขมวดขึ้นมาทันที
ปาณีส่ายหน้าพูดขึ้น “ดอกไม้ไม่มีปัญหาค่ะ แต่พอฉันเข้าไปได้ไม่นานก็รู้สึกเวียนหัวนิดหน่อย ความแข็งแรงทางร่างกายของคุณท่านก็ไม่ได้ดีมาก ฉันก็เลยเดาว่าในห้องคุณท่านน่าจะมีของอะไรบางอย่างที่ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับดอกไม้กระถางนั้นแล้วผลิตก๊าซอะไรบางอย่าง และสามารถทำให้สุขภาพร่างกายแย่ลง แต่เรื่องแบบนี้ไม่มีหลักฐานฉันก็ไม่กล้าพูดซี้ซั้ว ฉันดูทุกที่แล้ว พบว่าไม้จันทน์ที่แขวนในห้องคุณท่านกับดอกไม้กระถางนั้นกลิ่นไม่ค่อยเข้ากัน ถึงฉันจะเป็นพยาบาล แต่ก็ไม่ใช่หมอผู้เชี่ยวชาญ วันนี้เช้าฉันก็เลยแอบเด็ดไม้จันทน์ของคุณท่านมาหนึ่งใบ แกล้งออกมาจ่ายยาให้คุณท่าน”
สีหน้านรมนค่อนข้างย่ำแย่
วิธีการปัจจุบันของตุลยาก็อัปเกรดแล้วเหรอ?
ไม่ใช่การวางยาพิษตรงไปตรงมาง่ายๆ แล้ว ตอนนี้เปลี่ยนเป็นลงมือด้วยหลักการใช้ยาข่มกันเหรอ?
ถึงตอนนั้นเกิดอะไรขึ้นมาจริงๆ ก็แค่เอาหนึ่งในดอกไม้หรือไม้จันทน์ออกไป ก็ไม่มีใครสังเกตเห็นแล้ว
ตุลยาอนาคตไกลจริงๆ เลยนะ
มุมปากนรมนยกขึ้นเล็กน้อย ยิ้มเยาะออกมา ดวงตาก็เกิดการควบแน่น