แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1092

ตอนที่ 1092

บทที่ 1092 คนที่เธอรักที่สุดคือตัวเธอเอง
ตอนนั้น เธอโดนจับไปขายที่ต่างประเทศ ทั้งคนทั้งสถานที่ล้วนแปลกหน้า แถมยังโดนจับตัวไว้ และกิมจิเป็นคนมาช่วยเธอไว้ และยังให้ความห่วงใยและความอบอุ่นกับเธอมากด้วย
เขาเป็นเพื่อนที่มากกว่าเพื่อนของเธอ
ถ้าหากไม่มีการหักหลังในตอนหลังของกิมจิ บางทีถึงตอนนี้ทั้งสองคนก็อาจจะยังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดต่อกันอยู่ แต่น่าเสียดายโชคชะตาไม่ได้อยู่ในกำมือเรา จะโทษเขาก็ไม่ได้หรอก
เรณุกาเก็บเขามาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก และอบรมสั่งสอนเขา สำหรับเขาแล้ว เรณุกาเป็นทั้งครูและเป็นทั้งแม่
เขาไม่มีทางเลือก
แต่สุดท้ายกิมจิต้องกลายมาเป็นสภาพอย่างตอนนี้ก็เพราะเธอ เธอยังจะมีอะไรติดค้างอีกล่ะ? ยังจะโกรธเคืองอะไรอีก?
ระยะเวลาเพียงไม่กี่ก้าวที่เดินเข้ามานี้ หัวสมองของนรมนคิดอะไรได้มากมาย
กิมจิเห็นนรมนเดินเข้ามา ก็อดไม่ได้ที่จะซาบซึ้งขึ้นมา
“นายหญิง ผม……”
“ขาดีขึ้นบ้างหรือยัง?”
น้ำเสียงของนรมนแฝงไว้ด้วยความเป็นห่วงเป็นใยเสี้ยวหนึ่ง ทำให้น้ำตาร้อน ๆ ของกิมจิเอ่ยขึ้นมาเต็มดวงตา
ถึงแม้ว่าคราวที่แล้วที่ล้อมปราบปรามเรณุกา นรมนจะเคยพูดแล้วว่าเธอได้ให้อภัยตัวเองแล้ว แต่ว่ากิมจิก็มักจะรู้สึกว่ามันไม่จริงทั้งหมด พอมาวันนี้ที่ตามมาด้วยยังกลัวว่านรมนจะเฉยชาต่อตัวเอง แต่คิดไม่ถึงเธอกลับเปิดปากพูดกับตัวเองแล้ว
“ดีขึ้นเยอะแล้วครับ ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่แล้ว”
คำพูดของกิมจิทำให้หัวคิ้วของนรมนขมวดขึ้นเล็กน้อย
“ไม่เจ็บไม่ใช่เรื่องดี เดี๋ยวกลับไปฉันจะให้คนถามอาการของนายดู ดูซิว่ายังจะสามารถรักษาให้หายได้หรือเปล่า”
นรมนพูดขึ้นเสียงต่ำ
กิมจิกัดริมฝีปากล่างเอาไว้และเกือบจะร้องไห้ออกมาแล้ว
“ไม่เป็นไรครับ เป็นแบบนี้ก็ดีแล้ว”
“ดีอะไรดีล่ะ? ยังไม่แต่งงานเลย เป็นแบบนี้จะไปหาแฟนได้ยังไงกัน? ฉันจำได้ว่าตอนที่นายอยู่อเมริกาหล่อเหลาและเป็นอิสรเสรีแค่ไหน ไม่ว่าจะยังไง ก็ต้องจัดการตัวเองให้เรียบร้อยซะก่อน”
พอได้ยินนรมนพูดขึ้นอย่างนี้ กิมจิก็สะอื้นขึ้นมาทันที
“ครับ”
“นายหาที่สักแห่งนั่งไปก่อน ไว้ฉันจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้ว ค่อยมาคุยกันต่อ”
นรมนตบบ่าของกิมจิเล็กน้อย จากนั้นก็ถามพฤกษ์ขึ้นว่า “ธิดาอยู่ห้องไหน?”
“406ครับ”
หัวคิ้วของนรมนค่อย ๆ ขมวดเข้าหากัน
ทั้งสองคนขึ้นลิฟต์ไปที่ชั้นสี่โดยตรง
หน้าประตูห้อง406ไม่มีอะไรผิดแผกไป บางทีอาจจะเพราะกลัวคนอื่นให้ความสนใจมากเกินไป ประตูห้องของธิดาวีร์จึงเป็นเหมือนห้องธรรมดาทั่วไป
โรงแรมนี้ก็ไม่ใช่โรงแรมระดับห้าดาว พูดให้ตายก็แค่สามารถถึงมาตรฐานของโรงแรมได้เท่านั้น
ชลิตา
นี่เธอยังกล้าตั้งนามแฝงให้ตัวเองจริง ๆ ด้วยนะ
นัยน์ตาของนรมนเยือกเย็นลงหลายองศา จากนั้นก็เดินไปเคาะประตู
“ใครคะ?”
ข้างในมีน้ำเสียงที่คุ้นเคยของธิดาลอยมา
ถ้าเกิดว่าเมื่อกี้นรมนยังสงสัยอยู่ว่าคนคนนี้จะใช่ธิดาหรือเปล่า งั้นวินาทีนี้ก็มั่นใจแล้วจริง ๆ
นัยน์ตาของเธอมีแววเยือกเย็นพาดผ่านเสี้ยวหนึ่ง แต่กลับพูดเสียงแหลมขึ้นว่า “พนักงานโรงแรมเองค่ะ มาส่งอาหารให้คุณค่ะ”
ตอนนี้ธิดาวีร์ยังเป็นคนท้องอยู่ และเหมือนกับว่าท้องจะพังไปแล้ว แน่นอนว่าต้องรู้สึกหิวอยู่แล้ว พอได้ยินนรมนพูดแบบนี้ ก็ไม่ได้เป็นกังวลมากเท่าไหร่ แล้วก็เดินไปเปิดประตูห้องให้เลย
ตอนที่เธอเห็นคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือนรมนนั้น ธิดาวีร์ก็จะปิดประตูลงอย่างอัตโนมัติ แต่กลับโดนนรมนแตะประตูทีหนึ่งเปิดออกเลย
“เป็นอะไรเหรอ? เห็นฉันแล้วแปลกใจขนาดนั้นเลยเหรอ?”
นรมนยิ้มอ่อน ๆ ขึ้น แต่ว่ารอยยิ้มกลับไม่ได้มาจากใจจริง
ใจของธิดาวีร์เต้นโครมครามขึ้นมา
ไม่ว่ายังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าจะมาเจอกับนรมนเข้าแบบนี้
นรมนมาอยู่ที่นี่ได้ยัง?
นรมนรู้เรื่องนี้ได้ยังไง?
หัวสมองของธิดาวีร์หมุนอย่างรวดเร็ว แต่ว่ากลับยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้ คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
“ใช่ซิ ฉันก็อยากจะถามเธอเหมือนกัน เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยัง? ไหนว่านาวินอยู่เป็นเพื่อนเธอบำรุงครรภ์อยู่ที่สถานพักฟื้นไม่ใช่เหรอ? แล้วตัวนาวินล่ะ?”
นรมนพูดไปแล้วก็จะเดินเข้าไปไปค้นหา แต่กลับโดนธิดาวีร์ยื่นแขนออกมาขวางเอาไว้ทันที
“พี่สะใภ้ คุณทำแบบนี้คงจะไม่ดีมั้ง? ยังไงฉันก็ต้องมีความเป็นส่วนตัวบ้างใช่ไหม?”
“ความเป็นส่วนตัว!”
นรมนเน้นย้ำคำนี้เป็นพิเศษ แล้วก็หัวเราะอย่างเยือกเย็นขึ้นเล็กน้อย
“ความเป็นส่วนตัวของเธอคืออะไร? แอบติดต่อกับโสธรคนของฉันอย่างลับ ๆ งั้นเหรอ? กะว่าจะทำอะไรกันล่ะ? หรือว่าฉันเปลี่ยนวิธีถามอีกแบบหนึ่งละกัน ลูกพี่ลูกน้องกล้าณรงค์ของเธอติดต่อเธอมาแล้วใช่ไหม? เขาให้เธอกับโสธรร่วมมือกันทำอะไร? แล้วเธอก็คิดจะแก้แค้นให้แม่เธอ ด้วยการทำอะไรกับพี่ชายแท้ ๆ ของเธอล่ะ”
นรมนถามออกไปประโยคหนึ่ง แล้วก็เดินหน้าไปอีกก้าวหนึ่ง บีบคั้นจนธิดาวีร์อดไม่ได้ที่จะต้องถอยไปข้างหลัง
หัวใจของเธอบีบเป็นเกลียวอย่างแรงขึ้นมา
นรมนรู้ได้ยังไงกัน?
“คุณส่งคนมาสะกดรอยตามฉันเหรอ? หรือจะบอกว่าคุณคอยจับตาดูฉันอยู่ตลอด? นรมน ฉันเป็นน้องสาวของบุริศร์นะ คุณกล้าเฝ้าจับตาดูฉันเลยเหรอ!”
ธิดาวีร์ร้องตะโกนขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
แต่นรมนกลับยิ้มแล้วจ้องมองเธอและพูดขึ้นว่า “เฝ้าจับตาดูเธองั้นเหรอ? ถ้าเธอมีการกระทำที่ซื่อตรง ใครจะไปเฝ้าจับตาดูเธอ? ธิดาวีร์ เธอไม่รู้สึกว่าตัวเธอน่าขำมากเลยเหรอ?”
“ฉันนี่นะน่าขำ? ฉันจะไปน่าขำได้ยังไง? ทั้ง ๆ ที่เขาก็รู้ว่าชีวิตนี้ฉันต้องการอะไรมากที่สุด? แต่เพราะอะไรทำไมยังต้องทำกับแม่ฉันแบบนี้ด้วย? ทำไม? คุณรู้ไหมว่าแม่ฉันตายยังไง? เธอโดนคนเชือดเฉือนทีละครั้งทีละครั้งจนตาย! คุณรู้หรือเปล่า?”
อยู่ ๆ ธิดาวีร์ก็ควบคุมตัวไม่อยู่ขึ้นมา
การปรากฏตัวมาของนรมนเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมายมาก และก็ยังดูบีบบังคับคนมากขนาดนี้
หลายวันมานี้ธิดาวีร์ลังเลอยู่ตลอด พอมาวันนี้เห็นนรมนที่มีท่าทางเหมือนสงสัยในตัวเอง เธอก็ระเบิดออกมาทันที
“ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่อยากคิดว่าพวกคุณเป็นพี่ชายกับพี่สะใภ้ แต่ว่าพวกคุณทำอะไรกับแม่ฉันบ้างล่ะ? ห๋า?”
“ในขณะที่เธอถามฉันนั้น ทำไมถึงไม่ถามแม่ของเธอบ้างล่ะว่าทำอะไรไปบ้าง?”
นรมนจ้องมองธิดาวีร์ ดวงตาเยือกเย็นขึ้นเล็กน้อย
“เธอเอาแต่โทษพี่ของของเธอและฉันมาตลอด แต่กลับหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงการกระทำของแม่เธอ ยังไงล่ะ? แม่ของเธอมีคุณธรรมสูงส่งมากงั้นเหรอ? เป็นผู้บริสุทธิ์งั้นเหรอ? แล้วแม่คิมของฉันโดนจุดไฟที่เดียวเผาไม่เหลือซากตอนที่อยู่บนเกาะ เรื่องนี้แม่ของเธอก็เป็นคนทำ แต่ฉันเคยถามไถ่บ้างไหม? ฉันเคยแก้แค้นบ้างไหม? ก็เพราะว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของบุริศร์ไง เพราะว่าเธอต้องการความรักของแม่มาตั้งแต่เด็กไง ฉันก็เลยต้องข่มความคิดถึงที่มีต่อแม่ของฉันเอาไว้ ต้องข่มความโกรธเกลียดทั้งหมดที่มีต่อแม่เธอเอาไว้ แล้วให้โอกาสเธอได้อยู่กับแม่ครั้งหนึ่ง เพราะว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ ๆ ของบุริศร์! ถ้าเธอไม่มีความสุข บุริศร์ก็จะไม่มีความสุข พ่อแม่ของฉันต่างก็ตายไปหมดแล้ว ตอนแรกฉันคิดว่าครอบครัวสงบสุขก็เป็นเรื่องที่สุขที่สุดแล้ว ฉันก็เลยไม่เอะอะโวยวายเอาแต่จะแก้แค้น หนำซ้ำฉันยังคิดกับเธอว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันจริง ๆ แต่ว่าแม่ของเธอทำอะไรลงไปบ้างล่ะ?”
น้ำเสียงที่ตะคอกต่ำ ๆ ของนรมนทำให้ธิดาวีร์อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นขึ้นทีหนึ่ง
เธอกัดริมฝีปากล่างเอาไว้และไม่พูดอะไร แต่นรมนกลับอดกลั้นไว้ในใจไม่อยู่
“ฉันเคยให้โอกาสกับแม่ของเธอแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าแม่ของเธอจะยังไม่พอใจ สิ่งที่แม่ของเธอต้องการไม่ใช่ได้อยู่กับเธอ แต่เป็นตระกูลโตเล็กทั้งตระกูล และยังมีชีวิตของฉันกับบุริศร์ด้วย จะต้องให้ฉันกับบุริศร์เอาชีวิตไปมอบไว้ในมือแม่ของเธออย่างงั้นใช่ไหม สำหรับเธอพวกเราถึงจะเป็นพี่ชายและพี่สะใภ้ที่ดี? ต้องให้พวกเราตายไป แล้วให้แม่ของเธอทำสำเร็จ ให้กล้าณรงค์มายึดตระกูลโตเล็กไป และทุกอย่างเปลี่ยนไปนับตั้งแต่นี้ พวกเราถึงจะถือเป็นพี่ชายและพี่สะใภ้ที่ได้มาตรฐานใช่ไหม?”
นรมนตะคอกเสียงต่ำออกไป นัยน์ตามีแววโกรธเกลียดโชกโชนขึ้น
ธิดาวีร์นั่งลงบนเตียงทันที แล้วพูดอย่างเจ็บปวดอยู่บ้างว่า “ไม่ใช่นะ ไม่ใช่แบบนั้นนะ! แม่ฉันเธอดีกับฉันมาก แล้วก็ดีกับพี่มากด้วย เธอไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูดนะ!”
“นี่เธอกำลังหลอกฉันอยู่หรือว่าหลอกตัวเอง? ธิดาวีร์ แม้แต่หลอกตัวเองเธอก็คงจะหลอกผ่านหรอกมั้ง เรื่องที่แพรวาวางยาพิษให้นาวิน เธออย่างบอกฉันนะว่าเธอไม่รู้เรื่อง! แม้แต่คนที่เธอรักมากที่สุดแม่ของเธอก็ยังไม่สนใจ เธอรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่แม่คนหนึ่งควรกระทำเหรอ?”
ธิดาวีร์ได้ยินนรมนพูดแบบนี้ ก็อดไม่ได้ที่จะกัดริมฝีปากไว้แน่น
“ไม่ว่าจะพูดยังไง พวกคุณก็ไม่ควรที่จะทำกับเธอแบบนั้น!”
“โง่เขลายิ่งนัก”
นรมนขี้เกียจที่จะต่อความยาวสาวความยืดกับเธอแล้ว
ตอนนี้สิ่งที่ธิดาวีร์ให้ความสำคัญที่สุดก็คือรู้สึกว่าการตายของแพรวานั้นเป็นเพราะเธอกับบุริศร์ทำให้เกิดขึ้น พูดอะไรมากไปก็ไม่มีประโยชน์
พอคิดมาถึงตรงนี้ แววตาที่นรมนใช้มองธิดาวีร์ก็เยือกเย็นลงมาเล็กน้อย
“ธิดา เธอขาดความอบอุ่นจากครอบครัวมาตั้งแต่เด็กทั้งฉันและพี่ชายของเธอต่างก็เข้าใจ และเพื่อให้เธอได้สมปรารถนา ฉันกับพี่ชายของเธอต้องเสียสละมากแค่ไหนก็ไม่เป็นไร แต่ว่าก่อนอื่นเธอก็ต้องคุ้มค่าพอที่จะให้พวกเราเสียสละด้วย แต่เธอกลับไม่ใช่แค่หักหลังพี่ชายครั้งเดียวแล้วละมั้ง? ก่อนหน้าครั้งนี้ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งไม่ใช่เหรอ? แต่พี่ชายเธอก็ยังให้อภัยเธอ และยังคิดกับเธอว่าเป็นคนในครอบครัวเดียวกันจากใจจริงด้วย แต่ว่าเธอได้ทำอะไรลงไป? เพื่อแม่ที่คิดวางแผนจัดการพี่ชายเธอทุกวิถีทางคนหนึ่งแล้ว แต่เธอกลับกล้าท้าทายมาเป็นศัตรูซึ่ง ๆ หน้ากับพี่ชายเธอ แล้วนี่เธอคิดจะร่วมมือกับกล้าณรงค์มาฆ่าพี่ชายเธอเพื่อแก้แค้นให้แม่เธองั้นเหรอ? หรือจะบอกว่ารวมทั้งฉัน ทั้งลูก ๆ ของฉัน ซึ่งเป็นหลานชายของเธอก็จะต้องโดนฆ่าทิ้งให้หมดด้วยงั้นเหรอ?”
“ไม่! ฉันไม่ได้คิดแบบนี้! ฉันไม่ได้คิด!”
“เธอคิด”
สีหน้าของนรมนเยือกเย็นลงมา
“ตั้งแต่วินาทีที่เธอยอมรับข้อเสนอของกล้าณรงค์ และร่วมมือกับเขา แล้วก็ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพี่ชายของเธอ เธอก็ได้คิดแบบนี้แล้ว อย่ามาปฏิเสธเลย ธิดาวีร์ ที่จริงเธอเป็นคนที่เห็นกว่าตัวมากกว่าใคร เธอคิดถึงแต่เพียงความรู้สึกของตัวเอง ความน้อยเนื้อต่ำใจของตัวเอง และรู้สึกว่าคนทั้งโลกต่างก็ควรจะคิดถึงความรู้สึกของเธอ ควรจะล้อมหน้าล้อมหลังเธอไว้ ฉันอดไม่ได้ที่อยากจะถามเธอสักประโยคจริง ๆ ว่า เธอเป็นเงินตราเหรอ? มีสิทธิ์อะไรให้ผู้คนมาห้อมล้อมเธอไว้? แล้วเธอเคยทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้างล่ะ? เธอพูดว่าเธอรักนาวิน แล้วตอนที่แพรวาวางยาพิษใส่นาวิน เธอเคยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนาวินบ้างไหม? หรือจะบอกว่าเธอรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว?”
“ฉันไม่รู้! ฉันเปล่า!”
ธิดาร้องตะโกนเสียงแหลมขึ้นมาทันที
“นาวินเป็นคนรักของฉัน เพื่อเขาแล้วฉันสามารถเสียสละได้ทุกอย่าง!”
“แต่ว่าเธอกลับไม่ได้ปล่อยวางความดื้อดึงเกี่ยวกับการตายของแม่เธอเพื่อนาวิน! เธอต้องการที่จะแก้แค้นให้แม่ของเธอ และยังทิ้งนาวินไปอย่างไร้เยื่อใย แล้วตอนนี้จะมาพูดอะไรว่าคนที่เธอรักที่สุดคือเขา? ธิดาวีร์ ยอมรับมาซะเถอะ ว่าคนที่เธอรักที่สุดคือตัวเธอเอง ตอนนั้นที่เธอหักหลังบุริศร์เพื่อนาวิน ไม่ใช่เพราะความรัก แต่เป็นเพราะว่าตั้งแต่เล็กจนโตคนที่เธอพึ่งพาก็คือนาวิน ถ้านาวินตายไป เธอก็ไม่รู้ว่าจะตัวเองจะไปพึ่งพาใครได้ ต่อมาพอนาวินกลับมาแล้ว และได้รับการให้อภัยจากบุริศร์ แล้วเธอก็รู้สถานะที่แท้จริงของนาวินอีก เพราะว่าบุริศร์ติดค้างตระกูลนาคชำนานอยู่ เพราะฉะนั้นเธอก็เลยยอมแต่งงานกับนาวินอย่างไม่เกี่ยงงอน เพราะแบบนี้ เธอจะสามารถได้รับมากผลประโยชน์ยิ่งขึ้น และยังสามารถได้รับการปกป้องจากบุริศร์อีกด้วย”
นรมนสูดหายใจเข้าลึก ๆ ทีหนึ่งแล้วก็พูดต่อว่า “แล้วพอต่อมาเธอได้รู้ความจริงว่าตัวเองเป็นลูกสาวของเชษฐ์ เธอก็ยิ่งดีใจ ในเมื่อสามารถที่จะเป็นพี่น้องกับบุริศร์ได้ เพราะสำหรับเธอแล้วมันสามารถเป็นร่มที่คอยปกป้องเธอได้ตลอดชีวิต ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการปรากฏตัวมาของแพรวา ตอนนั้นเธอจะต้องคิดว่าตัวเองเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกแน่ ๆ และดีใจที่ตัวเองเลือกนาวินมาตลอด แต่ว่าตอนที่แม่เธอกับนาวินเกิดความขัดแย้งกันขึ้นนั้น เธอกลับทอดทิ้งนาวินไปเพื่อที่จะแก้แค้นให้แม่ที่โหดเหี้ยมที่ตายไปแล้วของเธอ ถ้าพูดชัดเลย เธอก็แค่อยากจะร่วมมือกับกล้าณรงค์ เพื่อแย่งทุกอย่างของตระกูลโตเล็กกลับไปจากมือของบุริศร์เท่านั้น และยังอยากจะเหยียบบุริศร์ไว้ใต้ฝ่าเท้าด้วยอีกละมั้ง ในเมื่อระหว่างการมีคนหนุนหลังกับการกลายเป็นคนที่ยิ่งใหญ่เองสองตัวเลือกนี้ เธอยอมที่จะเลือกอย่างหลัง เพราะว่าเธอมีกล้าณรงค์เป็นเกราะกำบังให้เธออยู่! เพราะว่าแพรวาได้ปูทางให้เธอไว้เรียบร้อยแล้ว?!”
“ไม่! ไม่ใช่นะ!”
ธิดาวีร์อยากจะโต้เถียง แต่น่าเสียดายกลับเถียงไม่ออกสักคำ
นรมนเป็นเหมือนกับกระจกบานหนึ่ง ได้ส่องด้านสกปรกที่อยู่ก้นบึ้งหัวใจของเธอออกมา ที่ดูชั่วร้ายดูไม่ได้ขนาดนั้น และแผ่ซ่านความเน่าเหม็นออกมา ที่แม้แต่ตัวเธอเองก็ยังรู้สึกสะอิดสะเอียน

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท