ไม่คิดว่าจะเป็นที่อยู่ทำเนียบประธานาธิบดีของประเทศ F!
บุริศร์คิ้วขมวดแน่น
เขาป้อนข้อมูลเข้าสู่โปรแกรมม้าโทรจันทันที ในไม่ช้าอีกฝ่ายก็เริ่มสกัดกั้นการกอบกู้ แต่เพราะการวิธีการกอบกู้นี้ บุริศร์จึงจับหางของอีกฝ่ายได้
“ราเชน ให้คนแอบถ่ายรูปฉันกับนรมน สนุกมากไหม? อยากรู้ว่าพวกเราสบายดีหรือเปล่า ทำไมถึงไม่ถามพวกเราเอง”
บุริศร์เปิดโปรแกรมแชท คุยกับอีกฝ่าย
ราเชนอึ้งไป แต่ก็แอบแปลกใจ
เขาเคยสืบมา รู้ว่ากานต์เป็นเด็กอัจฉริยะทางคอมพิวเตอร์ เขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงกานต์ กลับถูกบุริศร์ตะครุบอย่างไม่คาดคิด
นี่ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นใช่ไหม?
มาถึงตรงนี้ ราเชนไม่จำเป็นต้องปิดบัง
“นายสุดยอดจริง ๆ ”
นี่คือประโยคชมเชยจากใจจริง
“ฉันสุดยอดมาตลอดแหละ”
บุริศร์พูดอย่างไม่ถ่อมตัว แต่ก็หาข้อบกพร่องไม่เจอ
ราเชนหัวเราะเหอ ๆ “ฉันรู้ว่าสักวันต้องถูกนายจับได้”
“ใช่ นายตั้งใจจะบอกฉันว่ากล้าณรงค์หน้าตาเป็นอย่างไรใช่ไหม?”
“ใช่”
พูดกับคนฉลาด ราเชนไม่จำเป็นต้องปิดบัง
“ทำไมไม่พูดมาตรง ๆ ?”
นี่คือสิ่งที่บุริศร์สงสัย ในเมื่อแต่ก่อนราเชนรีบแสดงความเป็นครอบครัวกับนรมน
ราเชนนิ่งไปสักพักและตอบว่า “ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่อยากให้พวกนายเข้าไปร่วม พวกนายจะเชื่อไหม?”
“ไม่เชื่อ ถ้านายไม่อยากให้พวกเราไปร่วมจากใจจริง นายก็ไม่ควรทำอะไร”
คำพูดของบุริศร์ทำให้ราเชนยิ้มขมขื่น
“เพราะฉะนั้น ฉันยังคงเห็นแก่ตัว ไม่ว่าจะทำอะไร ก็ทำเพื่อตัวฉันเอง ซินดี้พูดถูก คนอย่างฉันจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวไปจนแก่”
สำหรับความทอดถอนใจของราเชน บุริศร์ไม่พูดขัด
เขาจะเห็นแก่ตัวหรือเปล่า ดูเหมือนไม่สามารถตัดสินได้ เกิดในครอบครัวแบบนั้น ไม่มีทางเหมือนคนปกติได้แน่นอน
บุริศร์ครุ่นคิดสักพัก ถามว่า “นายคิดจะเล่นงานกล้าณรงค์เหรอ?”
“ใช่ เขาเป็นคนวางกลยุทธ์ของไอ้สาม คอยขัดขวางเรื่องต่าง ๆ มากมาย ฉันเป็นฝ่ายถูกกระทำ จึงอยากยืมมือพวกนายจำกัดเขา”
ราเชนไม่อ้อมค้อม
บุริศร์กลับเบาใจเล็กน้อย
ราเชนเป็นแบบนี้ค่อนข้างทำให้คนสบายใจ
“นรมนบอกว่า เธออยากฉลองปีใหม่อย่างมีความสุข”
“คาดว่าจะไม่ได้ ฉันได้ข่าวใหม่ล่าสุดมา กล้าณรงค์วางแผนเล่นงานนรมนในวันปีใหม่”
คำพูดของราเชนทำให้ดวงตาของบุริศร์เคร่งขรึม ลมหายใจข้างกายก็ลดลงมากเช่นกัน
“เขารนหาที่ตายเหรอ?”
“เป็นไปได้ แต่ไอ้สามให้ความช่วยเหลือเขา จึงไม่อาจประมาท ฉันอยู่ทางนี้โดนโจมตีรอบด้าน จึงไม่อาจส่งคนไปช่วยพวกนายได้จริง ๆ นายก็รู้ เดิมทีฉันไม่แตกต่างจากตำแหน่งนั้น ตอนนี้ถูกคาดหวังให้แย่งชิงตำแหน่งนั้นอีก พูดตามความจริง ฉันไม่ค่อยชอบเลย”
บุริศร์หัวเราะคำพูดของราเชน “ในเมื่อเลือกแล้วก็ลุยเถอะ จะบอกข่าวดีให้ฟัง นี่อาจจะเป็นแรงขับเคลื่อนให้นายก็ได้”
“ตอนนี้ยังจะมีข่าวดีบอกฉันอีกเหรอ?”
ราเชนยิ้มเจื่อน บุหรี่บนมือซ้ายเผามือ แต่เขานิ่งเฉยราวกับไม่รู้สึกอะไร
ยังจำได้ทุกครั้งที่ซินดี้คอยเตือนเขาว่าก้นบุหรี่จะไหม้หมดแล้ว ตอนนี้ซินดี้ไม่อยู่ ไม่มีคนเตือนเขาอีกต่อไป พระราชวังใหญ่โต เขากลับไม่มีคนรู้ใจสักคน
ชีวิตคนเดินมาถึงจุดนี้ช่างน่าเศร้าเกินไป น่าเสียดายที่เขาจำเป็นต้องมีชีวิตต่อไป
ส่วนจะมีชีวิตไปเพื่ออะไร ราเชนไม่รู้
รู้เพียงแค่ ตนเองจะไม่สู้ มีเพียงความตายที่รอเขาอยู่
บางครั้งเศร้าใจจริง ๆ ยอมเป็นคนทั่วไปดีกว่า ไม่ต้องเกิดมาในครอบครัวแบบนี้ เขาไม่สามารถเลือกชะตาชีวิตของตนเองได้เลย
ราเชนใจลอย บุริศร์กลับไม่สังเกตเห็น เขาคิดอยู่สักพัก ตัดสินใจทรยศนงลักษณ์
“ฉันจำที่นายเคยพูดได้ ว่าให้ฉันกับนรมนไปเจอแม่ของนายที่ประเทศ F”
ราเชนได้สติกลับมาทันที กล่าวด้วยรอยยิ้มเจื่อน ๆ “อย่ามาเลย ตอนนี้ประเทศ F วุ่นวาย ถ้าพวกนายมาจะมีอันตรายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกล้าณรงค์กับไอ้สามคอยจ้องพวกนายอยู่ ฉันกลัวจะไม่สามารถคุ้มครองความปลอดภัยของพวกนายได้ ถึงแม้พูดไปจะดูเหมือนเสแสร้ง แต่ฉันอยากบอกว่า ตอนนี้ฉันมีญาติพี่น้องไม่มาก ฉันไม่อยากให้น้องสาวเพียงคนเดียวของฉันตายในประเทศ F เหมือนกับฉัน”
จนถึงตอนนี้ ราเชนยังคิดว่านรมนคือน้องสาวแท้ ๆ ของตนเอง ดูเหมือนคำที่นงลักษณ์พูดก่อนตายกับราเชนจะมีผลกระทบมาก
บุริศร์เห็นใจราเชนทันที
เด็กคนนี้แบกรับมากเกินไป ไม่ควรมีชีวิตลำบากเช่นนี้
“รับปากกับฉันเรื่องหนึ่ง ฉันจะบอกความลับให้นายฟัง”
ราเชนแปลกใจคำพูดของบุริศร์
“นายจะพูดอะไร?ตอนนี้ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องเยอะ”
“ฟังให้จบก่อน ไม่ว่าฉันจะเล่าอะไรให้นายฟัง นายห้ามวู่วาม และห้ามให้นรมนรู้ว่าฉันบอกนาย รับปากไหม?ถ้ารับปากฉันจะเล่าให้ฟัง แต่ถ้าไม่ก็ช่างเถอะ อย่างไรเสียความลับนี้ไม่มีความหมายสำหรับฉันกับนรมนอยู่แล้ว”
บุริศร์รู้วิธีกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของคนจริง ๆ
ในใจของราเชนตายด้านมานานแล้ว แต่ตอนนี้กลับกระตือรือร้นอยากรู้ว่าความลับคืออะไร จนแม้แต่มีลางสังหรณ์ด้วยซ้ำว่า ความลับนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเขา
เสียงดังขึ้นเล็กน้อย ราเชนพูดเบา ๆ “ฉันรับปาก”
“ลูกผู้ชายพูดแล้วไม่คืนคำ ดังนั้นพูดแล้วไม่สามารถเปลี่ยนใจได้ ราเชน ฉันให้เวลานายคิดให้รอบคอบหนึ่งวินาที”
“เลิกเล่นได้แล้ว รีบพูดมา”
เสียงของราเชนร่าเริงไม่น้อย
ได้คุยกับบุริศร์ เขาถึงจะรู้สึกว่าตนเองยังมีชีวิตอยู่
พระราชวังที่หนาวเหน็บและอึดอัดเหมือนกับสัตว์ขนาดใหญ่ตัวหนึ่ง มันจับเขาเข้าปากแต่ไม่รีบกินเขาเข้าไป ปล่อยให้เขาจมอยู่กับความโดดเดี่ยวและความหวาดกลัวกับความตายที่ใกล้เข้ามาอย่างไม่มีสาเหตุ
บุริศร์ไม่เย้าแหย่เขา กล่าวเสียงเบา “นายกับนรมนไม่ได้เป็นพี่น้องกันแท้ ๆ พูดให้ถูกคือนายเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนรมน”
“นายพูดอะไรนะ?”
ราเชนแปลกใจ
บุริศร์เล่าเรื่องของนงลักษณ์กับคิมให้ราเชนฟัง
เขาเงียบไปนาน บุริศร์คิดว่าเขาสายหลุดไป
“ราเชน นายยังอยู่ไหม?”
“นี่เป็นเรื่องจริงเหรอ?แม่ของฉันกับนรมนเป็นฝาแฝดกัน?”
“ใช่ ดังนั้นนายยังมีคุณตาอยู่ คนแก่อย่างเขาเอาแต่คิดถึงแม่ของนายมาก ตอนนี้ถ้ารู้ว่ายังมีนายอยู่ คงจะดีใจมาก ๆ ”
ราเชนใจลอยไปกับคำพูดของบุริศร์ทันที
คุณตา……
คิดไม่ถึงว่าเขายังมีญาติอยู่บนโลกนี้
เยี่ยมไปเลย!
ราเชนน้ำตาคลอทันที
บุริศร์ไม่รู้ว่าราเชนมีความคิดอย่างไร แต่ยังคงถามออกไป
“อยากกลับไปเจอคุณตาไหม?”
“ไม่ล่ะ”
ราเชนปฏิเสธ
เขากล่าวว่า “ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ทุกสายตาจับจ้องฉัน ผู้คนมากมายอยากให้ฉันตาย ฉันไม่อยากเป็นตัวการทำลายชีวิตอันสงบสุขของคุณตา ได้รู้ว่ายังมีญาติอยู่บนโลกใบนี้ ฉันดีใจมาก ขอบคุณนายนะ บุริศร์ ขอบคุณที่บอกฉันเรื่องเหล่านี้”
“แค่นี้ก็ขอบคุณฉันแล้วเหรอ?ถ้าฉันบอกนายอีกว่า นงลักษณ์แม่ของนายยังไม่ตาย นายจะดีใจจนตกหลุมรักฉันเลยไหม?”
น้อยมากที่บุริศร์จะพูดเล่นกับราเชน
ราเชนค่อย ๆ ลุกขึ้นจากเก้าอี้ พูดด้วยความรำคาญ “บุริศร์ อย่าพูดเล่นกับฉัน ตอนนี้ฉันไม่มีอารมณ์พูดเล่นเรื่องนี้”
“ให้นายดูรูป”
บุริศร์นำรูปที่นงลักษณ์เจอกับนรมนออกมาจากมือถือ ถ้านรมนอยู่ด้วยจะต้องประหลาดใจมาก เนื่องจากบุริศร์ไม่ได้อยู่ด้วยตอนที่เธอเจอกับนงลักษณ์ แล้วเขามีรูปได้อย่างไร?
ราเชนเห็นรูปที่บุริศร์ส่งไปให้ ถึงกับอึ้งไปเลย
แม่!
ผู้หญิงคนนี้อยู่ในความทรงจำวัยเด็กของเขาเสมอ เขาจำได้เพียงแม่มักจะเศร้าสร้อย ทุกครั้งที่อยู่กับพ่อจะค่อนข้างต่อต้าน
พ่อไม่ได้อ่อนโยนกับแม่ แต่ยังถือว่ามีความรักความผูกพัน หลังจากแม่ตายไป เพื่อดูแลเขา พ่อจึงหาแม่นมกลับมาให้เขาเป็นพิเศษ ถ้าไม่ใช่เพราะคนอื่นมองเห็นความห่วงใยที่พ่อมีต่อเขา บางทีเขาอาจจะไม่ต้องออกจากประเทศ F เร็วขนาดนั้นเพื่อไปทำงานหนักข้างนอกคนเดียว
เขาคิดมาตลอดว่าแม่ตายไปแล้ว ไม่คิดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่
ในเมื่อมีชีวิตอยู่ ทำไมถึงไม่มาหาเขา?
ในเมื่อมีชีวิตอยู่ ทำไมถึงไม่บอกว่าเขาเธอยังอยู่?
ราเชนกำลังหมดอาลัยตายอยาก
แน่นอนว่าบุริศร์รู้ว่าราเชนรู้สึกอย่างไร เขากล่าวเสียงเบา “นายให้รูปกล้าณรงค์กับฉัน รูปภาพนี้คือการตอบแทนของฉัน ราเชน ฉันเป็นแค่เพียงคนสอดแนม ตราบใดที่นายไม่ทำร้ายนรมน ไม่หาผลประโยชน์จากเธอ นายจริงใจกับเธอ ฉันก็จะเห็นนายเป็นญาติ ฉันจะสนับสนุนนายในทุกสถานการณ์”
นี่เท่ากับบุริศร์ทำการสงบศึกกับราเชน
แน่นอนว่าราเชนฟังออก
เขายื่นมือออกไป ถึงจะรู้ว่าบุริศร์มองไม่เห็น แต่ยังคงทำท่าทางพูดสาบาน “ฉันราเชนขอสาบานว่า ถ้ามีวันใดที่ฉันหาประโยชน์หรือคิดร้ายกับนรมน ขอให้ฉันตายไม่ดี ครอบครัวพังพินาศ อยู่อย่างโดดเดี่ยวตลอดไป”
คำสาบานนี้นับว่าโหดเหี้ยม
บุริศร์เชื่อไปก่อน
“เอาล่ะ เอาไว้ค่อยคุยเรื่องของนงลักษณ์อีกครั้ง ส่วนตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน ฉันยังไม่ค่อยแน่ใจ นายอย่าใจร้อนตามหาพวกเขานะ ฉันคิดว่าถ้านายถูกขู่เอาชีวิต เธอจะต้องปรากฏตัวแน่นอน ตอนนี้ยังไม่ปรากฏตัวอาจเพราะยังไม่มีโอกาส นายก็อย่าเศร้าเกินไป นี่ก็ถือว่าเป็นข่าวดีใช่ไหม?”
ได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ ราเชนรู้สึกดีขึ้นมาก
“อืม ขอบคุณนะ”
ราเชนขอบคุณเขาจากใจจริง
บุริศร์ตัดการเชื่อมต่อด้วยรอยยิ้ม
ราเชนนั่งอยู่บนเก้าอี้คนเดียว ในสมองยุ่งเหยิง
วันนี้ได้รับข่าวสารเยอะเกินไป ทำให้เขารับไม่ไหว จำแนกไม่ไหว
แม่ยังมีชีวิตอยู่!
เธอยังมีชีวิตอยู่!
ข่าวนี้น่าประหลาดใจเกินไปต่อราเชน และเซอร์ไพรส์เกินไป
เขาอดนึกถึงเรื่องในพระราชวังนี้ตอนที่ยังเป็นเด็กไม่ได้
ตอนเป็นเด็ก เขาเกือบจมน้ำตาย กลับเหมือนมีผู้หญิงที่อ่อนโยนอุ้มเขาขึ้นมาจากใต้น้ำ หลังจากฟื้นขึ้นเขาถามพ่อว่าใครเป็นคนช่วย พ่อบอกว่าเป็นสาวใช้
จากนั้นแม่นมเริ่มบังคับให้เขาเรียนว่ายน้ำ แม้เขาจะร้องไห้อย่างหมดหนทาง แม่นมก็ไม่ขยับเขยื้อน
มีเรื่องแบบนั้นเยอะมาก แต่ก่อนไม่ได้คิดอะไร ตอนนี้กลับมาคิดดู มีความเป็นไปได้สูงว่าแม่คอยอยู่ข้างกายเขาเสมอ
มุมปากของราเชนยกขึ้นเล็กน้อย อารมณ์ดีขึ้นมาก ทันใดนั้นเขาก็พบว่าปีใหม่นี้ผ่านไปได้อย่างมีความสุข