แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1184

ตอนที่ 1184

ร่างกายของบุริศร์แข็งทื่อไปครู่หนึ่ง นรมนรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงนี้แล้ว

เธอรู้ว่าไม่ได้เป็นเพราะคำพูดประโยคที่ตัวเองถามถึงเรื่องราวของนงลักษณ์ แต่เป็นเพราะว่าบุริศร์นึกอะไรออกขึ้นมาแล้ว

นรมนไม่ใช่คนโง่เขลา แน่นอนว่าเรื่องที่บุริศร์สามารถนึกออกได้ นรมนก็สามารถนึกออกได้เช่นกัน

พอนึกออกแล้ว นรมนก็เงียบขรึมลงเหมือนกัน

เชษฐ์ทำเรื่องแบบนั้นออกมาก็เพื่ออชิระ

อชิระก็เป็นคนของประเทศF แล้วกล้าณรงค์ที่แพรวาคลอดออกมาก็เป็นลูกชายของผู้นำประเทศF เพราะฉะนั้นเธอจะสามารถเข้าใจว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเจตนาของท่านผู้นำประเทศFได้หรือเปล่า?

ถ้าหากใช่ละก็ แล้วผู้นำประเทศFคนนี้คือใครกันล่ะ?

ทำไมถึงได้มาลงมือกับตระกูลโตเล็ก ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาและตระกูลพรโสภณได้ล่ะ?

สามารถใช้สถานะพี่น้องฝาแฝดของนงลักษณ์กับคิมมาทำให้พี่น้องตระกูลทวีทรัพย์ธาดากลายเป็นศัตรูต่อกันได้ ดูท่าแล้วน่าจะรู้เรื่องเมื่อตอนนั้นที่ตระกูลพรโสภณได้สูญเสียลูกสาวคนหนึ่งไป

เพราะฉะนั้นผู้นำประเทศคนนี้น่าจะมีความเกี่ยวข้องกับคดีผู้ก่อการร้ายลักพาตัวในตอนนั้น

พอคิดมาถึงตรงนี้ นรมนก็อึ้งไปเลย

ในความโกรธแค้นของคนรุ่นก่อนนั้น ใครกันนะที่เป็นคนที่ทั้งตระกูลทวีทรัพย์ธาดาตระกูลพรโสภณและตระกูลโตเล็กจะต่อกรด้วย?

ในหัวสมองของนรมนค่อย ๆ ไล่เรียงไปเรื่อย ๆ แล้วอยู่ ๆ ก็มีความคิดและข้อคิดเห็นโผล่ออกมา

ป้าโอ!

หมู่บ้านดารายน!

เธออดไม่ได้ที่จะนึกถึงหมู่บ้านดารายนที่โดนทำลายไปแล้ว

จำได้ว่าป้าโอเคยพูดไว้ว่า ตอนนั้นที่หมูบ้านโดนทำลายล้างยังมีตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเข้าร่วมด้วย

พอคิดไปแบบนี้ นรมนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าเกิดความกลัวขึ้นมา

“หมู่บ้านดารายน……”

นรมนพูดเสียงต่ำขึ้น

ดวงตาของบุริศร์ขรึมลงไปหลายส่วน

เห็นได้ชัดว่า บุริศร์เองก็คิดถึงสิ่งนี้แล้ว

เขาจับมือของนรมนไว้แน่น แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “เรื่องนี้มันไม่ง่ายเลย โสธรทายาทของหมู่บ้านดารายน มิลินเองก็ใช่ นงลักษณ์บอกว่ามิลินได้รับบาดเจ็บแล้ว ตอนนี้พวกเราจะต้องตามหามิลินให้เจอ แล้วก็พาโสธรกลับมาด้วย ทั้งสองคนนี้จะให้ใครเกิดเรื่องไม่ได้เด็ดขาด”

ในใจของนรมนเองก็หนักหน่วงขึ้นมา

โสธรเป็นคนของเธอ เธอไม่อยากจะให้โสธรเกิดเรื่องขึ้นยิ่งกว่าใครทั้งนั้น ส่วนมิลินก็เป็นอาจารย์ของกิจจา รักและปกป้องกิจจาเป็นอย่างมาก เธอก็ยิ่งไม่อยากจะให้มิลินเกิดเรื่องอะไรขึ้น

แต่ว่ามิลินติดตามนงลักษณ์มาหลายปีขนาดนี้ จะโดนนงลักษณ์ล้างสมองไปแล้ว? หรือว่าโดนนงลักษณ์หลอกลวงกันแน่?

ในจุดนี้นรมนไม่รู้ แล้วก็ไม่เข้าใจ แต่กลับเป็นกังวลเล็กน้อย

ถ้าหากมิลินเป็นพวกเดียวกับนงลักษณ์ งั้นผลที่ตามมาเธอก็ไม่อยากจะคิดเลย

“ฉันจะให้นภดลไปสืบค้นว่าตอนนี้มิลินอยู่ที่ไหน”

นรมนพูดถึงชื่อของนภดลขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ พอพูดจบแล้วถึงรู้สึกว่าไม่ค่อยถูกต้อง

ตอนนี้นภดลโดนปลดออกแล้ว และยังดูแลปาณีอยู่ที่โรงพยาบาล

พอนึกถึงปาณี นรมนก็รู้สึกว่าตัวเองช่างดูเป็นคนไม่มีน้ำใจเลย

“ฉันลืมไปเลยว่า ปาณียังบาดเจ็บอยู่ หนำซ้ำฉันยังไม่เคยไปเยี่ยมเธออีก ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างแล้ว”

“ผมได้ยินมาว่าการผ่าตัดของป้องประสบความสำเร็จมาก กระสุนไม่ได้โดนจุดสำคัญ ตอนนี้นอนดูอาการอยู่ในห้องไอซียู ถ้าไม่มีอะไร พรุ่งนี้ก็น่าจะได้เปลี่ยนไปอยู่ห้องผู้ป่วยธรรมดาแล้ว”

บุริศร์นั้นได้ส่งคนไปติดตามอาการของปาณีอยู่ตลอด รู้ว่านรมนเป็นห่วงปาณี แต่ว่าช่วงนี้มีเรื่องราวมากมายไม่สามารถทำให้เธอผ่อนคลายลงมา เพราะฉะนั้นก็เลยช่วยจัดการอะไรนิดหน่อยแทนนรมน

นรมนกอดรอบเอวของบุริศร์ไว้อย่างรู้สึกซาบซึ้งแล้วพูดขึ้นว่า “ขอบคุณมากนะคะ บุริศร์ ถ้าไม่มีคุณฉันก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเป็นยังไงบ้าง”

“คนโง่ คุณเป็นภรรยาผมนะ”

บุริศร์ยิ้มอ่อน ๆ ขึ้น ระหว่างหัวคิ้วมีความรักใคร่ตามใจโผล่ออกมาเสี้ยวหนึ่ง

นรมนนอนยังไงก็นอนไม่หลับ

จ้องมองหิมะที่ปลิวว่อนเต็มท้องฟ้า นรมนก็รู้สึกว่าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดามีความกดดันอยู่บ้าง

“ฉันอยากจะไปเยี่ยมปาณีหน่อยได้ไหมคะ?”

คำพูดของนรมนทำให้บุริศร์อึ้งไปเล็กน้อย

“ตอนนี้เหรอ?”

“ค่ะ”

นรมนรู้ว่าตัวเองเอาแต่ใจแล้ว

กล้าณรงค์อยากจะฆ่าเขา แต่นงลักษณ์บอกว่าตอนนี้กล้าณรงค์โดนกักตัวไว้แล้ว ไม่มีทางที่จะลงมือได้ คำพูดนี้ไม่รู้ว่าจริงหรือปลอม แต่ว่าจะไม่ระแวงเลยก็ไม่ได้

ถ้าเธอออกไปตอนนี้ก็เท่ากับเป็นเป้าที่เคลื่อนไหวอยู่ แต่ว่าเธอก็ยังอยากจะไปเยี่ยมปาณีอยู่ดี

บุริศร์ไม่ได้พูดอะไรเลย แล้วก็ไปหาเสื้อผ้ามาให้นรมนใส่ให้เรียบร้อย

พอเห็นบุริศร์ตามใจและเข้าข้างตัวเองเช่นนี้ นรมนก็รู้สึกโศกเศร้าเล็กน้อยแล้วก็กอดบุริศร์ไว้แล้วพูดว่า “บุริศร์ พวกเราจะต้องรักกันดีใช่ไหม? จะไม่เหมือนพ่อกับแม่ที่เหลือความเสียดายไว้แบบนั้นใช่ไหมคะ”

“อืม จะไม่เป็น ชาตินี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมก็จะเอาแค่คุณคนเดียว”

น้ำเสียงของบุริศร์ไม่ได้ดังมาก แต่ก็เพียงพอให้นรมนได้ยินอย่างชัดเจน แล้วก็เป็นเพราะว่าเข้าใจดี นรมนก็เลยยิ่งซาบซึ้ง

เธอซบอยู่บนแผ่นหลังของบุริศร์ ขอบตาเปียกชื้นเล็กน้อย

“ฉันก็จะเอาแค่คุณเหมือนกันค่ะ”

“ยัยโง่”

บุริศร์ตบมือของเธอเบา ๆ แล้วก็รวบตัวเธอมาไว้ในอก จากนั้นก็จูบลงบนหน้าผากของเธอทีหนึ่งแล้วก็พูดขึ้นว่า “อย่าคิดมากขนาดนั้น คุณอยากจะทำอะไร ผมก็จะยืนข้างคุณทั้งนั้น ผู้หญิงของผมบุริศร์มีสิทธิ์ที่จะเอาแต่ใจตัวเองได้”

“คุณจะตามใจฉันจนเสียคนได้นะคะ”

นรมนแสร้งทำเป็นงอน

บุริศร์กลับพูดขึ้นอย่างดีใจว่า “นั่นจะดีมากเลย ตามใจจนคุณเสียคน คนอื่นก็ไม่กล้าเข้ามายุ่งแล้ว คุณก็จะได้อยู่ข้างกายผมไปตลอดชีวิตเลย”

“เจ้าเล่ห์”

ถึงแม้นรมนจะพูดไปแบบนี้ แต่ว่ามุมปากกลับมีรอยยิ้มคลี่ออกมาเสี้ยวหนึ่ง ดูแล้วสวยงามเป็นอย่างมาก

ทั้งสองคนออกมาจากห้องนอน แล้วมาถึงห้องรับแขก ก็เห็นธรณีเองก็อยู่ในห้องรับแขกด้วยเหมือนกัน

เห็นได้ชัดว่าที่เขาเข้าไปในห้องนอนเมื่อกี้มันก็แค่ข้ออ้างอันหนึ่ง ที่ไม่อยากเผชิญหน้ากับนรมนกับบุริศร์ถึงจะเป็นความจริงมากกว่า

พอมาตอนนี้เห็นบุริศร์และนรมนแต่งกายเรียบร้อยจะออกไป ธรณีก็รู้สึกร้อนใจขึ้นมาเลย

“พวกเธอจะออกไปไหน?”

“ออกไปเดินเล่นหน่อยค่ะ”

นรมนจ้องมองธรณี ถึงแม้จะรู้ว่ามีคำพูดบางอย่างที่เขาไม่ได้บอก แต่ว่าที่เป็นห่วงตัวเองนั้นมันก็เป็นความจริงอยู่

คนในครอบครัวที่เธอเป็นห่วงอยู่มีไม่เยอะ เธอไม่อยากจะมีความขัดแย้งและความรู้สึกไม่ดีกับคนในครอบครัวอีกแล้ว

ถึงแม้ธรณีจะไม่พูด แต่เรื่องบางอย่างยังไงเธอก็จะต้องรู้ ไม่จำเป็นที่จะต้องรู้จากปากธรณีให้ได้

ขอแค่รู้ว่าธรณีเป็นห่วงตัวเอง ไม่ได้มีใจที่อยากจะทำร้ายตัวเองก็พอแล้ว

พอคิดอย่างนี้ได้ รอยยิ้มของนรมนก็ดูจริงใจขึ้นเยอะมาก

เธอเดินเข้าไป แล้วนั่งลงตรงหน้าธรณี แล้วดึงผ้าห่มบาง ๆ ผืนหนึ่งมาห่มไว้บนขาของธรณี แล้วพูดเสียงต่ำขึ้นว่า “อาเล็ก ตอนนี้เป็นช่วงหน้าหนาวสิ้นปี อาการบาดเจ็บที่ขาของอาจำเป็นจะต้องได้รับความอบอุ่น ถ้าไม่มีอะไรก็รีบเข้านอนนะคะ เรื่องบางอย่างอาไม่มีทางเปลี่ยนแปลงได้หรอก คิดมากไปก็ไม่มีประโยชน์ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดายังต้องพึ่งอามาประคับประคองเอาไว้ ถ้าเกิดวันไหนหนูอยู่ในวงการธุรกิจต่อไปไม่ไหวแล้ว ไม่แน่หนูอาจจะมาให้อาเลี้ยงก็ได้นะคะ”

ธรณีจ้องมองท่าทางที่มีรอยยิ้มของนรมน ในใจก็อดไม่ได้ที่ขมขื่นและเป็นทุกข์ขึ้นมา

“ฉันรู้ว่าตอนนี้เธออยากจะรู้เรื่องทุกอย่างมาก แต่ว่านรมน เรื่องบางอย่างเธอรู้แล้วก็ใช่ว่ามันจะดี เชื่ออาเล็กนะ อาเล็กไม่มีทางทำร้ายเธอแน่”

“หนูรู้ค่ะ เพราะฉะนั้นหนูก็ไม่โทษอาเล็กหรอกค่ะ รีบไปนอนเถอะค่ะ หนูกับบุริศร์จะออกไปเดินเล่นสักหน่อย”

“ข้างนอกอากาศหนาวนะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ พวกเรามีความรักอยู่ดื่มน้ำเปล่ายังอิ่มเอมเลยค่ะ”

คำหวานชุดนี้ของนรมนทำให้ธรณีอึ้งไปเล็กน้อยเลย จากนั้นก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย

“เธอทำแบบนี้ไม่ดีนะ นรมน ทำร้ายคนโสดคนหนึ่งมันมีความสุขเหรอ?”

“ใช่ค่ะ ไม่งั้นอาก็อย่าอยู่เป็นคนโสดซิคะ หนูอยากจะได้อาสะใภ้เล็กสักคนนะคะ สู้ ๆ ค่ะ”

พูดจบ นรมนก็หัวเราะเล็กน้อยแล้วก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปกับบุริศร์เลย

ธรณีจ้องมองแผ่นหลังของพวกเขาแล้วก็ครุ่นคิดไป

พ่อบ้านเดินออกมาจากข้างใน จ้องมองแผ่นหลังของนรมนและบุริศร์ แล้วก็พูดเสียงต่ำขึ้นว่า “คุณชายสี่ครับ เรื่องบางอย่างคุณห้ามไม่ได้หรอกนะครับ”

“ห้ามไม่ได้ก็ต้องห้าม ฉันทนดูเลือดเนื้อเชื้อไขของพี่ใหญ่ไปตายที่ประเทศFไม่ได้หรอกนะ ติดต่อพี่รองได้หรือยัง?”

ดวงตาของธรณีมีแววระยิบระยับขึ้นมาเล็กน้อย

พ่อบ้านส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นว่า “คนของเราสืบค้นข่าวคราวของคุณชายรองไม่ได้เลยครับ เรื่องนี้ผ่านมายี่สิบกว่าปีแล้ว ตอนนั้นคุณชายรองออกไปจากบ้านไปประเทศFแล้วก็ไม่มีข่าวคราวอีกเลย เบาะแสทั้งหมดเหมือนกับว่าจะโดนคนจงใจลบทิ้งไปแล้ว”

ดวงตาของธรณีหรี่ลงมาทันที

“เริ่มลงมือจากตัวนงลักษณ์ก่อนเลย เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนพี่รองออกจากบ้านไปประเทศFก็เพื่อนงลักษณ์ ตอนนั้นพี่รองส่งจดหมายตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลทวีทรัพย์ธาดามาฉบับหนึ่งแล้วก็ไม่ได้ข่าวคราวอะไรอีกเลย ถ้าจะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับนงลักษณ์ ตีให้ตายฉันก็ไม่เชื่อ ความเจ้าเล่ห์ของผู้หญิงคนนี้ลึกมากเกินไป ลึกลับเกินไป เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนที่พี่ใหญ่กับพี่รองแตกคอกัน ฉันสงสัยว่าเธอต้องมีบทบาทสำคัญอยู่ในนั้นแน่ เมื่อก่อนไม่รู้ก็ช่างเถอะ แต่ตอนนี้รู้แล้ว ยังไงก็จะต้องตรวจสอบผู้หญิงคนนี้ให้ชัดเจน”

“ครับ”

พ่อบ้านพยักหน้าเล็กน้อย

ธรณีนวดขมับของตัวเองขึ้นเล็กน้อย ในใจก็รู้สึกผิดขึ้นมา

“เรื่องนี้บอกกับพี่สามไปหรือยัง?”

“ช่วงนี้คุณชายสามอยู่ในกรมทหาร มีงานยุ่งมาก คนของเรายังไงไม่ได้เจอกับคุณชายสามเลยครับ”

พอได้ยินพ่อบ้านพูดแบบนี้ หัวคิ้วของธรณีก็ขมวดกันขึ้นมา

ไม่ได้เจอพี่สามเลยเหรอ?

เป็นไปได้ยังไง?

พี่สามขึ้นรับตำแหน่งแทนคริชณะ ถึงแม้ว่าตำแหน่งใหม่งานจะยุ่งมาก แต่ว่าจะยุ่งถึงขนาดเทศกาลตรุษจีนก็ยังไม่ได้กลับบ้านเลยเหรอ? ยุ่งถึงขนาดแม้แต่หน้าคนที่บ้านก็ยังเจอไม่ได้เลยเหรอ?

ธรณีรู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นไปได้

ในใจของเขายังไงก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจอยู่บ้าง

พี่สามคงจะไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นนะ?

“ส่งคนไปนั่งเฝ้าหน้าประตูกรมทหารไว้ แค่พี่สามออกมาก็รีบบอกให้เขากลับบ้านมาสักครั้ง”

“ครับ”

พ่อบ้านถอยออกไปจัดการธุระแล้ว

ค่ำคืนที่พายุหิมะกระหน่ำนี้ ได้กำหนดไว้แล้วว่าจะต้องมีคนนอนไม่หลับแน่

หลังจากที่บุริศร์และนรมนออกมาจากตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแล้ว ลมที่หนาวเย็นก็พุ่งตรงเข้ามาในคอเสื้อ

นรมนตัวสั่นขึ้นมาทีหนึ่ง แล้วก็รีบเอามือซุกเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของบุริศร์ แล้วก็หามือใหญ่ของบุริศร์เจออย่างช่ำชองแล้วก็รีบกุมไว้แน่น

หัวของเธอพิงลงบนไหล่ของบุริศร์อย่างอัตโนมัติ

พอเห็นท่าทางภรรยาแบบนี้ บุริศร์ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มขึ้นมา

“กลัวหนาวแล้วยังจะออกมาในเวลาแบบนี้อีก”

“ฉันก็แค่อยู่ ๆ ก็อยากจะไปเยี่ยมปาณีแล้วเท่านั้น ที่จริงควรจะไปดูเธอตั้งแต่ที่เธอได้รับบาดเจ็บแล้ว แต่ว่าตอนนั้นเป็นงานแต่งของพี่เจตต์ เราจะออกจากงานไปก็ดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ แล้วต่อมาคุณก็พาฉันไปที่เกาะบุริศร์นรมน ตอนกลับมาก็เป็นคืนส่งท้ายปีเก่าพอดี ก็เลยทำให้เรื่องของปาณีลากยาวมาถึงตอนนี้ ถ้าหากฉันเป็นปาณีละก็ คงจะเริ่มน้อยใจแล้วล่ะ”

นรมนเบ้ปากขึ้น แล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองช่างไม่มีความจริงใจเลย

บุริศร์กลับแตะจมูกเล็ก ๆ ที่หนาวจนแดงของเธอทีหนึ่ง แล้วก็ยิ้มและพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ปาณีคงจะไม่โทษคุณว่าไม่จริงใจหรอก คาดว่าน่าจะรู้สึกขอบคุณที่คุณไม่ไปปรากฏตัวซะมากกว่า”

“คุณพูดอะไรกันคะ?”

“ที่ผมพูดเป็นความจริงนะ เจ้าดื้อด้านนภดลนั่นไม่ว่ายังไงก็จะใช้ชีวิตอย่างกับซากศพเดินได้เพื่อฉัตรยาที่ตายไป แล้วพอปาณีมาเกือบตายเพราะเขา คุณคิดว่านภดลจะไม่รู้สึกซาบซึ้งบ้างเลยเหรอ? ไม่แน่จังหวะที่ประจวบเหมาะนี้อาจจะทำให้ความรู้สึกที่เป็นน้ำนิ่งของนภดลเกิดคลื่นลมขึ้นมาอีกครั้งก็ได้ แล้วภายใต้สถานการณ์แบบนี้ ปาณีคงจะไม่อยากให้ใครไปรบกวนหรอก”

พอได้ยินบุริศร์พูดแบบนี้ นรมนก็หยุดฝีเท้าลงทันที

“งั้นจะทำยังไงดี? หรือว่าพวกเราไม่ไปกันแล้ว? แต่ว่าฉันก็ยังเป็นห่วงปาณีอยู่ ถ้าไม่ไปละก็ฉันก็ไม่ค่อยวางใจ”

พอเห็นภรรยาตัวเองมีท่าทางลังเลไม่หยุด บุริศร์ก็ยิ่งรู้สึกว่าภรรยาน่ารักมากเลย!

“ทำไมจะไม่ไปล่ะ? ออกก็ออกมาแล้ว อากาศหนาวซะขนาดนี้ ไม่ไปคุณก็นอนไม่หลับไม่ใช่เหรอ?”

บุริศร์พูดแบบนี้ขึ้นมา นรมนก็รู้สึกว่ามันแปลก ๆ นะ

“คำพูดอะไรเนี่ย? พูดอย่างกับว่าที่ฉันไปไม่ได้เพราะว่าเป็นห่วงปาณี แต่เป็นเพราะว่านอนไม่หลับถึงไปอย่างงั้นแหละ”

นรมนเบ้ปากขึ้นมา แววตาที่กล่าวโทษนั้นแฝงไปด้วยความระยิบระยับของน้ำตา แล้วใจของบุริศร์ก็เจ็บปวดขึ้นมาทันทีเลย

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท