แค้นรักสามีตัวร้าย – ตอนที่ 1190

ตอนที่ 1190

ท่าทีของนรมนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อยทันที

ถ้าหากว่าในรถมีแต่เธอกับบุริศร์ยังพอว่า แต่ว่าในรถนี้ยังมีกมลอยู่อีกด้วย

แค่คิดว่าลูกสาวอาจจะโดนคนติดตามมา ท่าทีของนรมนก็ไม่ดีขึ้นมาแล้ว

“กมล มาหาหม่ามี้มา”

นรมนอยากจะเอากมลมากอดไว้ในอกตามสัญชาตญาณ ไม่งั้นละก็เธอรู้สึกไม่ไว้ใจจริง ๆ แต่ว่ากมลกลับเหมือนกับว่าไม่รู้ว่ามีอันตรายอยู่ยังไงอย่างงั้น แถมยังพูดอย่างง่วงเหงาหาวนอนขึ้นว่า “หม่ามี้ หนูง่วงจังเลยค่ะ ให้หนูนอนแป๊บหนึ่งนะคะ นั่งอยู่ข้างหลังก็ได้ค่ะ”

พูดจบเธอก็เอียงหัวลงไปอย่างกับว่านอนหลับไปแล้วจริง ๆ

นรมนรู้สึกดูไม่ค่อยออกกับการกระทำแบบนี้ของลูกสาว แล้วก็ส่งสายตาไปให้บุริศร์อัตโนมัติ พอเห็นว่าบุริศร์ไม่พูดอะไร และยังเหมือนกับว่าจะสงบนิ่งมาก ใจที่แกว่งอยู่ดวงนั้นของเธอก็ค่อย ๆ วางลงมา

หรือว่าเรื่องอาจจะไม่ได้ยุ่งยากขนาดที่เธอคิดก็ได้

นรมนปลอบใจตัวเองอย่างนี้ไป

รถที่อยู่ข้างหลังยังคงตามติดเป็นเงาอยู่ ระดับความเร็วรถของบุริศร์ก็ยังคงพุ่งอยู่เหมือนเดิม แต่ว่ากมลยังคงนอนได้อย่างหลับสนิทมาก หนำซ้ำยังมีเสียงหายใจแผ่วเบาดังลอยมาด้วย

นรมนเห็นว่าทั้งผู้ใหญ่ทั้งเด็กต่างก็ไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องอะไร ก็เลยไม่สนใจแล้ว แล้วก็พิงเบาะหลังไว้และหลับตาลงพักผ่อนไป

ตรุษจีนอย่างนี้ พูดตามตรงเธอก็ยังไม่ได้พักผ่อนดี ๆ เลย โดยเฉพาะเมื่อรู้เรื่องของอารองตระกูลทวีทรัพย์ธาดาและนงลักษณ์แล้ว

ตอนแรกบุริศร์นึกว่าทักษะการขับรถของตัวเองจะสามารถสลัดหางที่อยู่ข้างหลังทิ้งไปได้ แต่เห็นได้ชัดว่าเขามองทักษะในการขับรถและความพยายามของรถข้างหลังผิดไป

พอเห็นว่าทางนี้ค่อนข้างใกล้กับบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดา บุริศร์เองก็ขี้เกียจตัดสินใจอย่างอื่น ก็เลยขับรถมาถึงหน้าบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเลย

ตอนที่พ่อบ้านเห็นรถของบุริศร์ก็อึ้งไปเล็กน้อยครู่หนึ่ง แต่ว่าก็เปิดประตูใหญ่ให้อย่างรวดเร็ว

“ประธานบุริศร์!”

คำพูดของเขายังพูดไม่จบ บุริศร์ก็ขับรถพุ่งเข้ามาเลย แล้วทำให้พ่อบ้านตกใจจนกระโดดถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างไม่รู้ตัว แต่ว่าบุริศร์ก็พบว่ารถที่ตามอยู่ข้างหลังได้หักหัวเลี้ยวไปแล้วก็ไม่เห็นอีกเลย

อันตรายขจัดออกได้แล้ว

ตอนที่นรมนลืมตาขึ้นมานั้นก็พบว่ามาถึงบ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแล้ว สีหน้าก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไปเล็กน้อย

บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดาเป็นที่ที่เธอไม่อยากมาที่สุดในตอนนี้

แววตาที่มีแววสงสัยของเธอมองไปที่บุริศร์ทีหนึ่ง แล้วพบว่าบุริศร์จ้องมองไปที่กมลที่นอนหลับอยู่ข้างหลัง เหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่

“มีอะไรเหรอคะ?”

“ไม่มีอะไร เข้าไปพักผ่อนสักหน่อยก่อนเถอะ”

บุริศร์ไม่ได้ตอบนรมน แต่กลับจอดรถให้เรียบร้อย จากนั้นก็ลงจากรถไปอุ้มกมลขึ้นมา

วันนี้อากาศหนาวมาก เพราะกลัวว่าจะทำให้กมลหนาวได้ บุริศร์เลยถอดเสื้อนอกของตัวเองออก แล้วเอามาห่มตัวลูกสาวไว้แล้วอุ้มเข้าบ้านไป

ถึงแม้ว่านรมนจะตะขิดตะขวงใจเล็กน้อย แต่ว่าสถานการณ์อย่างในตอนนี้ก็พูดอะไรมากไม่ได้ จากนั้นก็ลงจากรถไป

ธรณีรู้สึกสงสัยเล็กน้อยในตอนที่พ่อบ้านบอกว่าพวกนรมนและบุริศร์กลับมาแล้ว

ตอนที่นรมนเดินเข้ามานั้นท่าทีดูไม่ดีเอามาก ๆ ที่จริงเขาคิดไม่ถึงเลยว่านรมนจะกลับมา เพราะฉะนั้นก็เลยเกิดความสงสัยขึ้นมาเล็กน้อย แต่ว่าก็ยังให้พ่อบ้านรีบไปชงชา และเตรียมของกินเล่น

บุริศร์อุ้มกมลเข้ามาในห้องรับแขก กมลยังไม่ตื่น ท่าทางเหมือนกับว่าเหนื่อยมาก

“อาเล็ก เดี๋ยวผมอุ้มกมลไปนอนในห้องสักพักนะครับ”

“ได้”

ธรณีเองก็ดูออกว่ากมลเหนื่อยมาก ถึงแม้จะไม่รู้ว่าทำไม แต่ว่าก็ให้คนรับใช้ไปเก็บกวาดห้องอย่างรวดเร็ว

นรมนเดินเข้ามาทีหลัง ตอนที่เห็นธรณีนั้นก็นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วก็ไม่พูดอะไร แต่ว่าก็ยังมานั่งลงบนโซฟา แล้วก็หยิบของว่างที่พ่อบ้านเตรียมมาแล้วก็กินไปคำหนึ่ง

และไม่รู้ว่าเป็นเพราะว่าหิวแล้วหรือเปล่า หรือว่ารสชาติของของว่างอันนี้มันถูกปาก นรมนกินไปชิ้นหนึ่ง แล้วก็หยิบขึ้นมาอีกชิ้นหนึ่ง

พอเห็นเธอชอบกิน ธรณีก็รีบออกคำสั่งให้พ่อบ้านไปเตรียมมาเยอะหน่อย แต่กลับได้ยินนรมนพูดขึ้นว่า “ไม่ต้องแล้วค่ะ ของที่อร่อยกินเยอะไปก็เลี่ยนค่ะ”

คำพูดนี้ก็ไม่รู้ว่ามีความหมายอื่นแอบแฝงไว้หรือเปล่า แต่ก็ทำให้ธรณีอึดอัดอยู่ไม่น้อย

“งั้นเธอก็ดื่มน้ำหน่อย”

เหมือนกับว่าธรณีจะกลับไปสู่สถานการณ์ที่น่าอึดอัดอย่างตอนแรกที่อยู่กับนรมน

ที่จริงเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลยจริง ๆ ล้วนเป็นเรื่องที่พี่รองก่อขึ้นมาทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ? แต่ว่าทำไมมักจะเกิดความรู้สึกผิดต่อนรมนล่ะ?

ทางด้านธรณีไม่รู้ว่าควรจะทำลายสถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี้ลงยังไง หลังจากที่นรมนกินไปสามชิ้นติด ๆ กันแล้ว ก็ยกน้ำอุ่นขึ้นมาดื่มไปคำหนึ่ง แล้วถึงรู้สึกว่าร่างกายมีเรี่ยวแรงขึ้นมาเล็กน้อย อารมณ์ที่ไม่ดีอยู่ก่อนหน้านั้นก็เปลี่ยนเป็นดีขึ้นเยอะเลย

เทศกาลตรุษจีนนี้ ช่างน่ากลุ้มใจจริง ๆ

นรมนพร่ำบ่นอยู่ในใจ แต่กลับมองเห็นสีหน้าที่ระมัดระวังของธรณีอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดจายังไงกับธรณีต่อดี จึงอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “อาเล็กกะว่าจะอยู่เป็นโสดตลอดชีวิตเลยเหรอคะ? ไม่สืบทอดตระกูลทวีทรัพย์ธาดาต่อไปแล้วเหรอคะ?”

“ฮ๊ะ?”

ธรณีโดนถามจนอ้ำอึ้ง ทำไมแค่ครู่เดียวก็พูดไปปัญหาเรื่องสืบทอดตระกูลทวีทรัพย์ธาดาแล้วล่ะ?

หรือว่านรมนไม่ได้กำลังโกรธเขาอยู่เหรอ?

แต่เมื่อเทียบกับความสงสัยของธรณีแล้ว นรมนกับอยู่ ๆ ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา

โอ้โห!

ถ้าที่ตัวเองเดาไว้ก่อนหน้านี้เป็นเรื่องจริง ถ้าอารองเป็นผู้นำประเทศของประเทศFจริง ๆ งั้นราเชนก็เป็นลูกพี่ลูกน้องในตระกูลเดียวกันแล้วละซิ?

การคาดเดานี้ทำให้นรมนรู้สึกตกใจและอึ้งทึ่งไปเล็กน้อย แต่กลับไม่ได้รู้สึกรังเกียจมากเท่าไหร่

ลูกพี่ลูกน้องนอกตระกูลก็ดี ในตระกูลก็ช่าง ยังไงชาตินี้ก็หลุดออกจากความเป็นญาติไม่ได้อยู่ดี แต่ว่านงลักษณ์คนนั้น……

หัวคิ้วของเธอขมวดขึ้นมาเล็กน้อย ในดวงตามีแววไม่ชอบใจเสี้ยวหนึ่งพาดผ่าน

ธรณีไม่รู้ว่านรมนกำลังคิดอะไรอยู่ พอเห็นนรมนมีท่าทางที่ขมวดคิ้วขึ้น เขาก็นึกว่าเธอจะโกรธ ก็เลยรีบพูดขึ้นว่า “ก็เธอให้ฉันไปดูตัวไม่ใช่เหรอ? ช่วงนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้ลองคิดเรื่องนี้ดู แต่ว่าก็แค่รู้สึกว่าไม่ต้องรีบร้อนมากก็เท่านั้น”

“ยังไม่รีบร้อนอีกเหรอคะ? อาเล็กอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว? ถ้ายังไม่รีบร้อนอีกก็จะกลายเป็นผู้ชายแก่แล้วนะคะ เด็กสาวที่แรกรุ่นที่เหมือนกับดอกไม้ที่ไหนยังจะชอบแต่งงานกับผู้ชายแก่คะ? และอีกอย่างถ้าอายุเยอะแล้วจะเอาลูกก็ค่อนข้างยากด้วยค่ะ ตระกูลทวีทรัพย์ธาดารุ่นก่อน ๆ มีลูกหลานมากมาย จะมาขาดตอนไปที่อาเล็กไม่ได้นะคะ”

คำพูดของนรมนนี้ทำให้มุมปากของธรณีกระตุกขึ้นเล็กน้อย

นี่เป็นหลานสาวคนโตของเขาจริง ๆ เหรอ?

ทำไมถึงรู้สึกว่าเป็นตัวก๊อบปี้ของมารดาเลย นี่จะมาบีบบังให้เขาแต่งงานแล้วเหรอ?

“แค่ก แค่ก!”

ธรณีไอขึ้นสองคำอย่างไม่เป็นธรรมชาติแล้วพูดขึ้นว่า “คือว่าถ้าจะนับจากอายุเยอะ ก็ควรจะนับจากอาสามของเธอให้แต่งก่อนมั้ง?”

“อืม มันก็ใช่อยู่ ว่าแต่ช่วงนี้อาสามยุ่งเรื่องอะไรอยู่คะ?”

ดูไปแล้วเหมือนนรมนจะถามขึ้นอย่างไม่ร้อนใจอะไร แต่ที่จริงแล้วในดวงตามีปฏิกิริยาเสี้ยวหนึ่งพาดผ่านไป

ธรรศรับหน้าที่การงานทั้งหมดแทนคริชณะไป ตอนนี้งามสุดาก็โดนเฝ้าสังเกตการณ์อยู่ และพวกเขาแค่ออกจากบ้านมาก็โดนสะกดรอยตาม นรมนไม่รู้ว่าเรื่องนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาสามหรือเปล่า จึงได้แต่ลองสืบหาดูจากอีกด้านหนึ่งไป

อยู่ ๆ ก็รู้สึกว่าการอยู่กับคนอื่นด้วยวิธีแบบนี้ช่างเหนื่อยจริง ๆ แถมยังไม่เป็นตัวของตัวเองอีก ในใจของนรมนมีความทุกข์ใจเสี้ยวหนึ่งพาดผ่านไป

ธรณีนึกไม่ถึงว่าคำพูดของนรมนจะเปลี่ยนได้เร็วขนาดนี้ แต่ว่าก็ยังรีบพูดขึ้นว่า “ช่วงนี้อาสามของเธอไปต่างประเทศแล้ว เห็นบอกว่าไปปฏิบัติหน้าที่อะไรสักอย่าง พออวยพรวันตรุษจีนให้คุณท่านตนุวรเสร็จก็ไปเลย”

“อาสามไปต่างประเทศแล้วเหรอคะ?”

ในจุดนี้ทำให้นรมนรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากเลย

“อืม เรื่องของกองทัพล้วนเป็นความลับทั้งนั้น ถ้าพูดตามหลักแล้วก็ไม่ควรบอกเธอนะ”

คำพูดที่แอบแฝงอยู่ในคำพูดของธรณีนั้นนรมนฟังออกได้

เรื่องนี้ไม่ควรบอกเธอจริง ๆ ยิ่งไม่ควรพูดกับใครทั้งนั้น ไม่งั้นการรักษาความปลอดภัยของธรรศก็จะมีอันตรายแล้ว แต่ว่าตอนนี้ธรณีบอกไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าอยากจะเอาใจเธอ เป็นเพราะเรื่องของนงลักษณ์เหรอ?

ในใจของนรมนรู้สึกสบายใจขึ้นมาบ้างแล้ว

นงลักษณ์คนนี้เป็นคนที่ซับซ้อนมาก จิตใจก็เจ้าเล่ห์มาก ถ้าหากเป็นไปได้ละก็ นรมนไม่อยากจะให้ธรณีไปมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเธอมาก ๆ เลย และยิ่งไม่อยากจะให้ตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไปเกี่ยวข้องกับเธอ ถึงแม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมีสายเลือดที่เหมือนกันกับเธออยู่ก็ตาม

ยังไงสีหน้าของนรมนมีความเคร่งขรึมขึ้นมาบ้าง

“อาสามไปที่ไหนเหรอคะ?”

“ไม่รู้ เขาไม่ได้บอก”

คำพูดของธรณีไม่ได้โกหก ในเมื่อตอนนี้เขาปลดประจำการแล้ว มีเรื่องมากมายถ้าเอาตามกฎของการปิดเป็นความลับนั้น เขาไม่ควรต้องรู้ เพราะฉะนั้นเขาเองก็ไม่ได้ถาม

แน่นอนว่านรมนเองก็รู้ แล้วจ้องมองธรณีทีหนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “หน้าที่การงานของอาสามค่อนข้างพิเศษ เรื่องแต่งงานเรื่องใหญ่แบบนี้ก็ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่าย ๆ ยังไงอาเล็กก็รีบจัดการปัญหาของตัวเองไปเถอะ บ้านตระกูลทวีทรัพย์ธาดานี้ยังไงก็ต้องมีนายหญิงและลูกหลานอยู่ด้วย ไม่งั้นก็จะเงียบเหงาจนเกินไป”

คำพูดนี้ฟังอยู่ในหูของธรณีก็คือหมายความว่า นรมนรังเกียจที่พอกลับบ้านมาก็ไม่มีใครพูดคุยเป็นเพื่อน เขาก็เป็นผู้ชายอกสามศอกไม่สามารถพูดคุยเรื่องที่เป็นส่วนตัวได้

ธรณีรีบถามขึ้นว่า “เธอชอบอาสะใภ้แบบไหนล่ะ?”

นรมนนิ่งอึ้งไปทันทีเลย

“อาเล็ก อาเป็นคนหาเมียจะมาถามหนูทำไมคะ? แค่อาชอบก็พอแล้ว”

“แบบนั้นจะไม่ได้ได้ยังไง ถ้าเธอไม่ชอบ ฉันจะแต่งเข้าบ้านมาทำไม?”

คำพูดนี้ทำให้ในใจของนรมนมีความรู้สึกหลากหลายมากมาย

ขอร้องล่ะ อย่าดีกับเธอมากขนาดนี้ได้ไหม?

และที่สำคัญก็เป็นเรื่องใหญ่ของชีวิต มีความเกี่ยวข้องกับเธอตรงไหน? ในเมื่อคนที่จะนอนบนเตียงเดียวกับธรณีไม่ใช่เธอสักหน่อย

แต่ว่าพอเห็นสายตาที่คาดหวังของธรณีแล้ว คำพูดพวกนี้ของนรมนก็รู้สึกจะพูดไม่ออกขึ้นมาแล้ว

“คือว่าอาดูเอาเองเถอะค่ะ ช่วงนี้หนูกับบุริศร์กะว่าจะพาพวกเด็ก ๆ ออกไปท่องเที่ยว”

ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะบอกธรณี ในเมื่อจากปัญหาเรื่องที่นงลักษณ์มาหาเขานั้น นรมนรู้สึกว่ายังไงธรณีก็ยังมีการปิดบังอยู่ แต่ว่าวินาทีนี้ยังไงเธอก็ยังทนเห็นธรณีทุกข์ใจไม่ได้

ในเมื่อญาติของเธอก็มีไม่มากจริง ๆ

พอได้ยินว่านรมนและบุริศร์จะออกไปท่องเที่ยว ธรณีก็อึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็เห็นด้วยเป็นอย่างมาก

“ออกไปเที่ยวเล่นสักหน่อยก็ดีเหมือนกัน เธอแต่งานกับบุริศร์มาตั้งหลายปีแล้ว ก็ยังไม่เคยออกไปเที่ยวเล่นกันดี ๆ สักครั้งเลย แล้วอีกย่างตอนนี้พวกเด็ก ๆ ก็อยู่บ้านกันทุกคน การออกไปท่องเที่ยวอะไรพวกนี้เป็นวิธีหนึ่งที่จะเพิ่มความสัมพันธ์ให้กันคนในบ้านได้ แล้วเงินพอใช้ไหม? ฉันกับอาสามของเธอได้ปรึกษากันหน่อยแล้ว ทรัพย์สินของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาตอนแรกพวกเรากะว่าจะเก็บไว้ให้เธอทั้งหมดเลย เธอดูซิว่าเมื่อไหร่จะ……”

“อย่าคะ หนูไม่ได้ขาดเงิน”

นรมนฟังความหมายของธรณีออกแล้ว จึงรีบปฏิเสธขึ้นมาทันที

เธอเป็นลูกหลานของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาจริง แต่ว่าเธอก็ไม่ได้เป็นลูกหลานเพียงหนึ่งเดียวของตระกูลทวีทรัพย์ธาดา

ทั้งอาสามและอาเล็กช้าเร็วยังไงก็ต้องแต่งงานมีลูก เธอจะมายึดครองทรัพย์สินของตระกูลทวีทรัพย์ธาดาไม่ได้ แล้วอีกอย่าง สามีเธอก็จน จนเหลือแต่เงินแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมาแย่งมรดกกับลูกพี่ลูกน้องในอนาคตหรอก?

แต่ว่าธรณีกลับยังยืนยันหนักแน่น

“ฉันรู้ว่าเธอไม่ขาดเงิน แต่ว่าสิ่งที่บ้านแม่ให้กับที่บ้านสามีให้มันต่างกัน ผู้หญิงที่แต่งออกไปแล้วยังไงก็จะต้องมีบ้านแม่ที่มีอำนาจไว้หนุนหลังถึงจะได้ไม่โดนคนอื่นรังแกเอา ถ้าบุริศร์เกิดไม่ดีกับเธอขึ้นมา เธอก็สามารถกลับมาได้อย่างมั่นใจ ฉันกับอาสามของเธอจะเป็นหลักให้เธอเอง”

คำพูดพวกนี้ของธรณีฟังดูจริงใจเป็นอย่างมาก ทำให้ใจของนรมนอบอุ่นขึ้นมาทันที ความไม่พอใจที่มีต่อเขาตั้งแต่แรกโดนขจัดออกไปแล้ว

ช่างเถอะ อาเล็กดีกับเธอซะขนาดนี้ คงจะไม่ทำร้ายเธอหรอกนะ ถึงแม้ว่านงลักษณ์พูดอะไรมาแล้วเขาจะไม่ได้บอกกับเธอทั้งหมด แต่เธอก็จะตัดสินใจให้อภัยเขาก็แล้วกัน

แต่ว่านรมนก็ยังต้องถามอีกประโยคหนึ่ง

“อาเล็กคะ อารองเป็นคนยังไงเหรอคะ?”

แค้นรักสามีตัวร้าย

แค้นรักสามีตัวร้าย

Status: Ongoing

ไฟเผาความรักทั้งหมดของนรมนที่มีต่อบุริศร์ หลังจากห้าปี เธอกลับไปอย่างงดงามและเพื่อทวงความยุติธรรมสำหรับตัว เธอเอง แต่คาดไม่ถึงว่าเด็กชายที่ถูกพากลับมาด้วยนั้นมีแผน มากกว่าเธอ เด็กน้อยยืนอยู่ข้างหน้าบุริศร์ กล่าวอย่างไร้เดียง สาว่า “คุณลุง สามารถช่วยผมได้ไหม? ผมขอร้อง” บุริศร์ รู้สึกว่าไม่สามารถต้านทานการวิงวอนของเด็กได้ คุกเข่าลง เพื่อช่วย แต่คาดไม่ถึงว่าจะถูกพ่นใส่หน้า อยู่มาวันหนึ่ง บุริศร์ พูดกับเด็กชายหน้าตาดีว่า “เด็กน้อย นี่คือห้องของฉัน!” “แต่ ว่าผมอยากนอนกับหม่าม พวกเรานอนด้วยกันมาห้าปีแล้ว” ชายหนุ่มร้องไห้… แค่ไปจีบภรรยากลับมาเท่านั้น ทำไมลูก ของฉันถึงเอาใจยากเหลือเกิน

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท